📒บันทึกการเดินทางกรุงเทพถึง..ตาก." Day 1" 🏕🛵
📌บันทึกการเดินทาง...ทริปนี้เราเดินทาง ไปยังจังหวัดหนึ่ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งทริปนี้เราวางแผนกันมาเป็นเวลานาน หาโอกาสรวมตัวกันยากมาก ถึงแม้จะมีกันไม่กี่คน เอาวะ!! การเดินทางของเราครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่ระยะไกลที่สุดตั้งแต่เราออกทริปกันมา จากจุดแรก ไปยังจุดที่เราจะแคมป์ในคืนแรก ระยะทางห่างกันประมาณ 400 กิโลเมตร ทริปนี้ พวกเราจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด "4คืน5 วัน" ตามแพลนที่วางกันไว ก็คงจะนอนทั้งหมด 2 จังหวัด ( เน้นอุทยาน ) หลักๆคงเป็นจังหวัดตาก...
ทริปนี้ เราเริ่มเดินทาง กันช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน' จุดนัดพบของเราวันนี้ เริ่มต้นกันแถ่วๆ ปั้มบางจากดอนเมือง ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจ เพราะทริปนี้เราตั้งใจ จะลุยให้สุด ไปที่..ที่ไม่เคยไป จอดตรงไหนได้..จอด เก็บทุกอุทยานที่ผ่าน ...เกริ่นมานานเริ่มเดินทางกันเหอะ 🤣
"วันนี้...เราเดินทางในช่วงเวลา "6โมงกว่าๆ" จริงๆนัดกัน "5โมง" 😂 การเดินทางของเราวันนี้ ที่คิดกันไว้ พวกเราตั้งใจจะขับกันไปให้ถึงตัวเมืองจังหวัดตาก" หรือถ้าระหว่างมันไม่ไหวกันจริงๆ ก็จะพยายามไปให้ใกล้ที่สุด "เพราะว่าวันพรุ่งนี้ เราจะได้ออกเดินทางกันแต่เช้าๆ เพราะสถานที่ที่เราจะไป แต่ละที่มันอยู่ไกลกันมากๆ
"ออกเดินทางมากันได้ 1 ชม. เราก็เข้าเขต "จังหวัดอยุธยา-อ่างทอง" ก็แวะเติมน้ำมัน ล้างหน้า ล้างตา พักรถ พักกัน 15 นาที ก็เดินทางกันต่อ... สถานที่ต่อไปที่ ที่เราพักรถกันคือ...ตัวเมืองนครสวรรค์ พอถึง..เราก็หาอะไรกินกันตรงนี้เลย เพราะตอนที่เรามาถึงตรงนี้ ก็เวลา "5ทุ่มแล้ว" เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้กันเกือบ 1ชม. ก็เดินทางกันต่อ เราใช้เส้นถนนหมายเลข1 มุ่งหน้าเข้าสู่ "จังหวัดกำแพงเพชร" ซึ่งจุดมุ่งหมายของเราตอนนี้ ยังอีกไกล เหลืออีกตั้ง 180 กิโลเมตร สถาที่ที่เราปักหมุดกันไว้ ก็คือ "PT maxcamp จังหวัดตาก" ปล.สรุปเราไปไม่ถึง เลยแวะค้างคืนกันที่ แขวงทางหลวงกำแพงเพชร ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ตอนรับเราและให้เราเข้าพักในคืนนี้ด้วยครับ 😊
📒 บันทึกการเดินทางกรุงเทพถึงตาก "Day 2"
"สวัสดีตี 5 วันที่ 2 ของการเดินทาง" วันนี้เราเก็บเต็นท์กันตั้งแต่ฟ้าเริ่มสว่าง เพราะว่าวันนี้เราจะเดินทางกันอีกหลายร้อยกิโล "
" โอ๊ะ! ลืมบอกไป เมื่อคืนมีเพื่อนมาร่วมเดินทางกับเรา อีก 2 คน มานอนรออยู่ที่แขวงทางหลวงกำแพงเพชร ตอนนี้เราก็มี ผู้ร่วมเดินทางกันทั้งหมด "6 คน" โอเค! แนะนำตัวกันเสร็จก็มุ่งหน้าเดินทางกันต่อ ออกจากแขวงทางหลวงมาประมาณ 1 ชม. ก็เจอแยกเลี้ยวซ้ายไป "แม่สอด" เลี้ยวซ้ายมาประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีปั้ม ปตท.ใหญ่ แนะนำให้เติมน้ำมัน กันให้เรียบร้อย 😊 พอเติมน้ำมันเสร็จ เราใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด เป็นถนน 4 เลน ตลอดระยะทาง 86 กม. ระหว่างทางก็แวะเช็คอินกันไปเรื่อยๆ ขับมาได้สัก 20 นาที เราก็เจอ อุทยานแห่งชาติลานสาง ถนนสายนี้เราจะผ่านอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 2 อุทยาน แน่นอนเป้าหมายของเรา ก็ต้องแวะประทับตราอุทยานลงสมุดที่เตรียมติดตัวกันมา จุดนี้เราใช้เวลาสำรวจสถานที่กันเพียง 15 นาที ก็เดินทางกันต่อ ขับมาอีกไม่ไกล ก็จะเจออีกหนึ่งอุทยาน นั้นคือ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อยู่เลยมาอีกสัก 16 กม. ที่นี่ไฮไลท์เด็ดก็คือ "ต้นกระบากใหญ่" มีขนาดโตวัดได้โดยรอบ 16 เมตร และสูงประมาณ 50 เมตร เป็นต้นกระบากที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย "แต่น่าเสียดายเป็นช่วงปิดพักฟื้นผืนป่า" ที่นี้ร่มรื่นน่ากางเต็นท์พักแรมจริงๆ 😂
ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ได้ไม่นานก็ได้เวลา เดินทางกันต่อ ขอข้ามมาแม่สอด เลยแล้วกันนะฮ่ะ! ณ. ตอนนี้เวลา 10 โมงกว่าๆ เราอยู่ในตัวอำเภอแม่สอดแล้วครับ ครั้งนี้ เป็นการมาแม่สอดเป็นครั้งแรก เรารู้รู้สึกตื่นเต้นกันอยู่ไม่น้อย ใช้เวลาอยู่ตรงแม่สอดได้ไม่นาน ขับรถออกมาประมาณ 10 กิโลเมต ถนนสายแม่สอด-พบพระ จะมีทางเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน"โกนเกน" จุดสังเกตทางเข้าหมู่บ้าน จะเยื้องๆ ปั้ม ปตท. จุดนี้เป็น 1 ในแพลนของพวกเราที่ต้องมา คือ ถนนโค้งหมายเลข 33 บ้านโกนเกน ถนนเส้นนี้มีความสวยงาม ที่มองเห็นเป็นโค้งตัวเลข 33 และเลียบชายแดนไทย-พม่า จุดนี้มีแม่น้ำเมย กั้นกลางแค่นั้น ทางเข้าจะมี พี่ๆทหารคอยตรวจ แต่ก็ไม่มีอะไร..สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ .
ถ้ามีโอกาสได้มา และถ้าอยากแบ่งปัน ก็ซื้อขนมมากฝากเด็กๆกันได้นะครับ 😊 เราใช้เวลาอยู่จุดนี้ประมาณ1ชม. ก็เดินทางกันต่อ จุดแคมป์ของเราวันนี้ จะอยู่แถ่วๆ อำเภอพบพระ "อยู่ห่างจากจุดที่เราอยู่ประมาณ 180 กิโลเมตร ขับรถออกจากแม่สอดมาประมาณ 1 ชม. เราก็เข้าเขต อำเภอแม่ระมาด ถนนเส้นนี้ขับง่ายแต่โค้งค่อนข้างเยอะ ระหว่างทางก็มีนาขั้นบันได สลับวิวแม่น้ำเมย จุดไฮไลท์ของเส้นนี้ ผมยกให้ "ศูนย์พักพิงบ้านแม่หละ" เป็น 1 จุดที่ควรแวะจอดถ่ายรูปมากๆ พอจอดแวะเสร็จ ผมขับมาเรื่อยๆ ก็เจอวิวแม่น้ำเมย สวยงามแปลกตา ขับมาไม่นานก็เจอทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติแม่เมย จากทางแยก เข้าจุดทำการอุทยาน เราต้องขับขึ้นเขาอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ทางค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ระหว่างทางจะมี วัว และ ควาย ใครมาแนะนำขับช้านิดนึ่งนะครับ 😂 พอถึงที่ทำการ ก็ลงทะเบียน ขับขึ้นไปต่อีก 5-6 กิโลเมตร เราก็ถึงจุดกางเต็นท์ คืนที่ 2 นี้ เราเลือกกางเต็นท์ ตรงจุด "ม่อนพูนสุดา" วิวไม่สวยเท่า "ม่อนครูบาใส" แต่ไม่มีใครเลย นอกจากพวกเรากลุ่มเดียว เวลาที่เรามาถึง "ม่อนพูนสุดา" ก็เวลาเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ก็ตั้งเต็นท์ หุงข้าว แยกกันไปอาบน้ ( วันนี้เราอาบที่น้ำตกแม่ระเมิง ) จะให้ลงไปอีก 6 กิโลคงไม่ไหว "ฮ่าาาาา" โชคดีวันนี้เราไม่เจอฝน พอตกดึกช่วงสัก 3 ทุ่ม ดาวเต็มท้องฟ้า มองเห็นทางช้างเผือกด้วยตาเปล่า อากาศน่าจะอยู่สัก 25° พอ 5 ทุ่มเราก็แยกย้ายกันเข้าเต็นท์ เช้ามา! พวกเราเจอดีอะไรเดี๋ยวจะมาเขียนบันทึกบอกต่อกันอีกทีนะฮะ 😊