พี่เจอทุกครั้ง ทุกบูธ มาเป็นสิบๆปี ไม่เคยโดนหลอก ลองทำแบบนี้นะคะ - ให้เดินไปเลยค่ะ ทำเป็นไม่ได้ยิน เขาจะด่าตามหลังก็ไม่ต้องสนใจ ห้ามหยุดยืนเด็ดขาด - ถ้าเจอถามคำถาม "คุณพี่ ดูแลหน้ายังไงคะ?" "คุณพี่ช่วยน้องหน่อย?" "คุณพี่ช่วยเซ็นต์ชื่อให้หน่อย?" - หลายคนจะอดตอบไม่ได้ เพราะเป็นประโยคคำถาม ให้พูดไปว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ"(แบบไม่ต้องหยุดเดินนะ) - หลายคนเจอแจกของฟรี "วันนี้เราแจกสเปรย์แอลกอลฮอล์ค่ะ" "วันนี้เราแจกส่วนลดค่ะ คุณพี่รับคูปองxxxะ" - ไม่ต้องไปรับนะคะ ก็ให้พูดว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ"(แบบไม่ต้องหยุดเดิน) - ถ้ามาแตะตัวเรา - บอกไปเลยเช่น "รบกวนน้อง/คุณไม่โดนตัวนะคะ" แล้วเดินต่อ อย่าเกรงใจค่ะ เงินอยู่ในมือเรา ไม่มีใครเอาไปได้ หวังว่าจะไม่มีใครโดนหลอกกับอะไรแบบนี้อีก

อย่าไปทำตัวเป็นมิตร อย่าไปยิ้มให้ ถ้าโดนเดินมาขวางไว้ หรือพยายามจะมาถูกตัวเรา ก็ให้พูดดังๆไปเลยว่า หลบไปค่ะ แค่นี้น่าจะรอดละค่ะ เราแข็งไว้อ่ะ อย่าใจอ่อน

คิดเหมือนเราเลยค่ะ สิ่งที่เราข้องใจมากที่สุดคือ ทำไมห้างถึงอนุญาตให้บูธเหล่านี้เข้ามาทำกิจการได้ เพราะไม่ใช่แค่เป็นผลเสียต่อลูกค้าที่เข้าไปเดิน มันเป็นผลเสียต่อห้างด้วย คนที่ไม่เคย หรือไม่ได้ใส่ใจก็อาจจะไม่คิดอะไร แต่คนท้องที่ ไปหลายครั้ง บอกเลยว่าโดนจนรู้ และพยายามเลี่ยงที่จะเดินโซนนั้น เราก็เคยมีประสบการณ์ ดึงมือป้ายครีม ลากเข้าไปนวดไปล้างแบบไม่ถามไถ่อะไรก่อนเลย ตามมาด้วยการวิเคราะห์หนังหน้าของเราแบบ เอิ่ม....ดิฉันไม่ได้ถาม ด้วยความที่เราไม่สนใจ และก็ไม่อายที่จะพูดไปตรงๆว่าไม่มีเงิน ทำขนาดนี้กว่าจะได้ออกมายังไม่รู้กี่สิบนาที กว่าจะได้กลับบ้าน กลายเป็นโซนที่เรารู้สึกอึดอัดที่จะเดินผ่านมากๆ เราจำได้เลยว่าตรงไหน อยู่ใกล้อะไร เราจะเลี่ยงที่ไม่แม้แต่จะผ่านโซนนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแค่โซนเดียว เพราะบางทีมาตั้งบูธนอกโซนความงามก็มี มาอยู่ชั้นล่าง คนเดินเยอะๆ เลี่ยงลำบากๆ ถ้าห้างไม่เปิดทางให้คงทำแบบนี้ไม่ได้ ควรยกระดับเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและบรรยากาศของห้างบ้าง เพราะไม่ต่างจากสนับสนุนมิจฉาชีพเลยค่ะ

เคยหนีบุคคลกลุ่มนี้ ไปหลบที่ ร้าน Lyn around พนักงานในร้านใจดีมาก ช่วยเหลือเราเต็มที่ เราไม่รู้จะทำไงเพราะพวกมันตื๊อมากจริงๆ เอาคงเอาครีมมายัดใส่มือคือกะจะเอาเงินจากเราให้ได้ไอ้เราก็แบบปฏิเสธไม่เอาๆ ก็พูดกันไม่รู้เรื่องเราก็เลยโมโหเอาครีม2กระปุกนั้นโยนคืนใส่พวกมันและเราก็เดินหนีหาที่หลบภัย ! ถ้าวันนั้นไม่ได้น้องที่ร้าน Lyn ช่วยไม่รู้จะทำไง นึกแล้วยังสยองไม่หาย แง้ 😨 คือไม่ได้ต้องการจะเรียกใครว่ามันแต่คำนี้ถือว่าให้เกียรติบุคคลกลุ่มนี้มากแล้วสำหรับเรา *

พวกนี้ รู้ธรรมชาติอุปนิสัยคนไทย คือ * ใจอ่อน * เกรงใจไปเสียหมด * หน้าบาง แคร์ความรู้สึกคนอื่นๆ มากกว่าตัวเอง * กลัวเสียงดังที่เหมือนการประจาน * ไม่อยากทำให้คนอื่นที่แสดงความหวัง ต้องผิดหวัง * มักทนไม่ได้กับคำพูดเชิงท้าทายเสียดสี ฝึกพูดปฏิเสธ : " ไม่เอาค่ะ " , " ไม่ต้องการค่ะ ", " เรื่องของคุณนี่ค่ะ - ไม่ใช่ฉัน", สูดลมหายใจเข้าสุดปอด..มองหน้ามัน..แล้วถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ เสร็จแล้วพูดว่า "ไม่" 😊 หากระดับนี้เอาไม่อยู่ ก็วิ่งหนีให้ดูเลย ขยะแขยงจุงเบย อย่ามาใกล้ 😂

อยากแชร์ประสบการณ์มากค่ะ ของเราเจอบูธนี้ที่ห้างดังย่านลาดพร้าว คลินิกชื่อ T…. วันเกิดเหตุคือนัดลูกค้าไว้ เรามาก่อนเวลาเกือบ 1 ชม. ก็เดินเล่นไป จนไปเจอบูธคลินิกนี้ เราก็ฟีลแบบไม่ได้คิดอะไร ก็เห็นใจคนทำมาหากินเนาะหยุดฟังเขาสักหน่อย แต่เซลล์เก่งมากๆ ค่ะ พูดจาหว่านล้อม ล้อมหน้าล้อมหลังกันอยู่หลายคน เราไม่ได้สนใจจะซื้ออยู่แล้ว และปฏิเสธอย่างจริงจังว่าไม่ซื้อ ฉันไม่เคยทำอะไรกับใบหน้าอยู่แล้วไม่ซื้อค่ะ เซลล์เปิดราคามาจาก 20000 ลดลงมาเหลือ 17000, 15000, 12000, 10000 จนสุดท้าย 7000 ค่ะ!!! ดั๊มราคาแบบเรายังอึ้งซึ่งตอนนั้นจากที่เรามาก่อนเวลานัดหมาย กลายเป็นถึงเวลานัด กลายเป็นเลยเวลานัด 10 นาที ยังไงก็ไม่ปล่อยเราออกจากบูธค่ะ จนเราถามตรงๆ ว่า…น้องคะ คือพูดตรงเลยนะ ตอนนี้พี่เลทเวลานัดกับลูกค้ามา 15 นาทีแล้ว ถ้าพี่ไม่ซื้อยังไงน้องก็ไม่ปล่อยพี่ไปใช่ไหม น้องยิ้มหวานค่ะและตอบว่าใช่ เราอึ้งมากกับความตรงของน้องและจำใจต้องรูดบัตรไปตัดรำคาญค่ะ สรุปวันนั้นเราเลทลูกค้าไป 25 นาที พูดถึงเรื่องทำคอร์สซึ่งน่าเกลียดยิ่งกว่าการขาย น่าเกลียดแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอบนโลกใบนี้ค่ะ คอร์สของเราเป็นการแก้ไขรอยคล้ำใต้ตาค่ะ ซึ่งทำทั้งหมด 5 ครั้ง แต่เราไม่ได้มาทำต่อเนื่องค่ะ ซึ่งเราไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่ละ จนกระทั่งเหลือครั้งสุดท้ายซึ่งทางคลินิกโทรตื๊อมากถึงมากที่สุดค่ะให้เข้ามาทำ เราก็คิดว่าไปทำซะให้มันจบๆ จะได้เลิกโทรตื๊อสักทีก็เข้าไปทำค่ะ ขณะนอนทำอยู่บนเตียงนั้นก็มีเซลล์เข้ามายืนขายแพคเกจค่ะ บอกว่าผิวหน้าเราแห้งนะคะอย่างนั้นอย่างนี้ แนะนำคอร์สฉีดเมโสค่ะ คุณพี่จะหน้าฉ่ำวาวใสเด้งในวันรุ่งขึ้นเลยนะคะ พูดๆๆๆ ประมาณ 15 นาทีไม่หยุด จนเราตัดบทว่า…น้องคะ ถ้าพี่ไม่ซื้อคือน้องไม่จบกับพี่ใช่มั้ยคะ จะพูดอีกนานไหมคะ พี่ซื้อก็ได้ค่ะ นางยิ้มหวาน…แล้วก็เดินออกไปค่ะ ซึ่งการฉีดเมโสทางคลินิกนี้คนที่ฉีดให้ก็ไม่ใช่แพทย์อะไรใดๆ ค่ะ เป็น Therapist ฉีดให้ค่ะ และที่แย่กว่านั้นทิ้งรอยแผลเข็มไว้บนหน้าเราด้วยค่ะ!! ต้องมาทายาลบรอยแผลเป็นอยู่หลายเดือน ไม่ต้องพูดถึงความฉ่ำวาวใสเด้งอะไรที่เคลมมาเราคือเฉยมากค่ะ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ กับใบหน้า เหมือนเอาเงิน 20000 บาทไปโยนทิ้งเลยค่ะ ถ้าคิดว่าเรื่องน่าเกลียดน่าชังนี้จะจบแล้ว…ยังค่ะ!! อันนี้อย่าใช้คำว่าน่าเกลียด ต้องใช้คำว่าทุเรศค่ะ พอหลังจากทำคอร์สเมโสจบแล้ว เซลล์ก็มีของสมนาคุณให้ค่ะ นางเคลมว่าเป็น Mask รกแกะ ซึ่งต้องเป็นลูกค้าที่ใช้บริการ 50000 บาทขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้รับ แต่ใันนี้แถมให้คุณพี่ไปเลยค่ะ…เหมือนจะดีนะคะ แต่ถุงที่นางเอามาใส่ของคือถุงร้านกาแฟ Starbucks ค่ะ!!! ใช่ค่ะ ถุงกระดาษของร้านกาแฟค่ะ นี่คือความทุเรศมากถึงมากที่สุด คลินิกใหญ่ขนาดนี้ไม่มีถุงแบรนด์ตัวเองเหรอคะ ลงทุนทำถุงสักหน่อยก็ได้มั้ย ลูกค้าซื้อคอร์สเป็นหมื่น คุณเอาถุงแบรนด์อื่นมาใส่ของให้เขา ทำไปได้เนาะ สุดท้ายนะคะ ถ้าผู้บริหาร T…. ได้ผ่านมาอ่านคอมเม้นท์นี้ อยากชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นเชิญได้นะคะ หรือจะดีกว่าหากคุณปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการบริการของคุณ และเทรนด์ลูกน้องให้มีความจริงใจกับลูกค้า รักในงานบริการมากกว่านี้ (มากกว่าการทำยอดขาย!!) ก็จะเป็นผลดีกับธุรกิจของคุณเองค่ะ ส่วนตัวเราตอนนี้ เจอเพื่อนพี่น้องที่จะมาทำสวยกัน เราก็จะแฉพฤติกรรมของคลินิกนี้ให้ฟังกันโดยถ้วนทั่วเลยล่ะค่ะ ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีกค่ะ

ขอเพิ่มเติมการตัดสินของศาล ที่ว่าให้คุณลูกหว้าชนะคดีนั้น ไม่ใช่แค่ว่าโพสตามความจริงอย่างเดียวนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน คือมีความหมายว่า โพสที่คุณลูกหว้าโพสเป็นเรื่องจริง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป แบบนี้ไม่ผิดหมิ่นประมาท แต่ถ้าเรื่องโพสไม่เกี่ยวกับประชาชนทั่วไป เช่น โพสว่าเพื่อนตัวเองว่าเนี่ยอีหมูขี้เกียจทำงานเป็นภาระของเพื่อนร่วมงาน แบบนี้มีความผิดฐานหมิ่นประมาทนะครับ เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป

ช่องคุณมาถูกทางแล้วครับ รายการแบบนี้ไม่มีใครทำเลย หาเคสมาเรื่อยๆเลยนะครับ ช่องเติบโตไวแน่นอน

Thanks! เวลาเดินห้างแล้วต้องผ่านโซนความงามทีไรคือแบบ เหนื่อยใจจริงๆ แต่ถ้าไม่รอดจริงๆ เราจะชอบตอบเค้าว่า มีคลีนิคที่ดูแลอยู่แล้วค่ะ ไม่สนใจค่ะ เค้าก็จะเลิกไปเอง และก็โชคดีมากที่แต้มบุญยังมี ที่คลีนิคที่ไปประจำหมอจริงใจจริงๆ ไม่มิจ 55555555555

ต่อจากคลิปที่แล้วที่โดนขอทานห้างตอนมัธยม ส่วนรีดไถความงานก็โดนไปตอนสมัยปี 1 555 โดนลากตัวเข้าไปตอนกำลังรีบ ๆ เลยยอมสมัครไปสองพันจะได้รีบออกมาเพราะตื๊อไม่เลิกจริง ๆ แล้วสุดท้ายก็โดนโทรให้นัดเข้าไปใช้สิทธิ์คอร์สที่สมัครไว้ แต่สุดท้ายก็เลื่อนมาเรื่อย ๆ (ไม่งั้นถามไม่เลิกว่าเมื่อไหร่ว่าง) จนตอนนี้ผ่านมาน่าจะ 6 ปีแล้วก็ยังโทรมาอยู่ 5-6 เดือนครั้ง (ถ้ายอมไปสักครั้งเดี๋ยวได้โดนตื๊อคาเตียงแบบที่ว่าแน่ ๆ เลยไม่ไปง่ายสุด)

เหตุการก่อนจะด่ามันแรงๆ มายืนล้อม เซ้าซี้ โดนตัว บลูลี่ ดูถูก จนระเบิดใส่พวกมันด้วยการปาเงินใส่หน้าแล้วด่าแล้วก็ดูถูกมันกลับ ทั้งหมดคือผ่านการปฏิเสธแบบเกรงใจและให้เกียรติแล้ว

+1ค่ะ โดยเฉพาะห้างใหญ่สุดย่านพระราม2 มีแบบนี้ทุกชั้น แถบจะเป็นห้างร้านเสริมความงามแล้ว ตื้อเก่ง ดักเก่ง อยากไปเดินเปิดหูเปิดตาบ้างเจอแต่พวกนี้จนไม่อยากไปเดินห้างนี้เลย ซื้อของออนไลน์อยู่บ้านยังสบายใจกว่า อยากให้มีคนทำเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ ขอบคุณที่ทำออกมานะคะ 👍🏻👍🏻👍🏻

นี่เคยโดนค่ะ ตอนนั้นเป็นนักศึกษา มันก็เรียกเราเข้าไปร่วมสนุกกับกิจกรรมของมัน มันก็ออกตัวว่าขอเวลาแค่ 1 นาที มันยกพวกมาตื้อจนเข้าเดินตามเข้าไป เราก็ถามย้ำว่าแค่ 1 นาทีนะ มันบอกว่าโอเค พอเข้าไปปั้ปรีบถามเราเลยว่าทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ ขอเบอร์ชอที่อยู่ เราก็บอกตามความจริงว่าเราเป็นนักเรียน มันก็ถามต่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไร เราก็ไม่บอก ทีนี้มันก็บอกว่าร่วมกิจกรรมกับมันจะได้ส่วนลดเสริมความงามแต่ต้องสำรองจ่ายก่อน เราก็บอกว่าเราเป็นนักเรียนจะเอาตังที่ไหนไปทำคะ มันก็ถามต่อว่าคุณพ่อคุณแม่มีบัตรเครดิตไหมคะ บอกเลขมาก่อนก็ได้ถ้าจำได้ เราก็เลยสวนว่าไหนบอกร่วมกิจกรรมแค่ 1 นาทีไงคะ ไม่เห็นเล่นอะไรเลย ถามข้อมูลอย่างเดียว เกินนาทีแล้วด้วย ทีนี้มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาตะเพิดเราออกจากบูธเลยค่ะ มันบอกว่าเชิญค่ะ ออกไปเลยค่ะ ไม่มีอะไรจะถามแล้วค่ะน้อง ไอพวกนี้เล่นหนักจริง บางที่ก็บอกว่าหารตังกับเพื่อนซื้อสินค้ามันสิ หารคนละไม่เล่าไหร่เอง ไม่เท่าไหร่คือคนละ 400 บาท อยากให้มันสูญพันธุ์มาาก

แชร์ประสบการณ์ครับ - สิ่งที่อันตรายที่สุด และห้ามยอมให้ทำเด็ดขาดคือ "สปามือ" ครับ จากที่เคยโดนคือ เอามือจุ่มลงไปในน้ำยาอะไรบางอย่าง พอเอามือออกมาจากน้ำยา มันจะเป็นเมือกๆ ลื่นๆ แล้วทางพนักงานจะเอาฟอย (หรือพลาสติกใส หรืออะไรก็ตาม) มาห่อมือเราไว้ บอกว่าเพื่อให้เซรัมมหัศจรรย์นี้ซึมเข้าไปในมือได้ดีขึ้น ถ้าเรายอมทำ เราจะติดกับดักทันทีครับ เพราะเราจะโดนพันมือไว้ทั้งสองข้าง แล้วพนักงานจะพาเราไปนั่งสักที่นึง แล้วขายคอร์สทุกอย่างแบบสุดพลัง และเราจะไปไหนไม่ได้เลยเพราะเค้ามัดมือเราเอาไว้แล้วจนกว่าเค้าจะยอมปล่อยเราไป อันนี้อันตรายมาก ห้ามทำเด็ดขาดเวลาโดนลากเข้าบูธ - ท่าไม้ตายสุดยอดของพวกนี้คือ ถ้าเราซื้อคอร์สไปแล้ว (ใช่ครับ ผมเคยพลาด) และพอเราเข้าไปใช้บริการแล้วเค้าพยายามขายคอร์สมาเรื่อยๆ ถ้าเราปฏิเสธเค้าไปเรื่อยๆ จนถึงวันนึงเค้าจะพูดว่า "งั้นต่อไปนี้ถ้าสะดวกเข้ามาใช้บริการ ก็โทรมานัดคลีนิกได้เลยนะคะ เพราะถ้าน้องไม่ซื้อคอร์ส ทาง บ. เค้าจะไม่ให้พี่บริการเพราะไม่มียอดเข้ามา" ...พูดอะไรไม่ออกจริงๆ ได้แต่ตอบว่า "ครับ" เท่านั้น...

เราเคยเจอตอนนั้นยังเด็กๆอยู่เลย ปัจจุบัน 30 แล้ว ยังมีให้เห็นอยู่ ทางห้างคือ ไม่คิดจะรักษาหน้าตาของตัวเองบ้างหรอ การที่มีพวกเหลือบไรพวกนี้ในห้างทำให้ไม่มีใครอยากเดิน

ตอนเรียนอยู่มหาลัย โดนลากไปซื้อบ้านเลยครับ บิ๊กซี นครปฐม เกือบเซ็นแล้ว ดีนะใจแข็งสุดๆ

เรื่องป้ายยานี่แฟนผมโดนเลย ที่ห้างแถวศรีนครินทร์ โชคดีที่ผมอยู่ด้วย และการแต่งตัวของผมก็ซ่อนความโอตะคุไว้มิดชิด( เสื้อยืดตลาดนัดลายน่ากลัวๆ กางเกงคาร์โก้ ผมยาวกระเซิงๆเลยกลางหลัง ) พอมาทำท่าดึงแขนแฟนผม ผมแค่ทำหน้าไม่พอใจแล้วใช้สายตาโหด(ซ่อนโหมดคิตตี้) แล้วถามไปโต้งๆว่า "มารยาทมันฝึกยากไปมั้ย?" จบข่าวครับ

จากชายผู้เล่าเรื่องหลอนกลายเป็นชายผู้เปิดโปงด้านเน่าเฟะของหลายๆองค์กรมากกว่านักสืบเอกชนซะอีก เป็นกำลังใจให้นะครับ แต่ผมก็อยากฟังเรื่องของ creepypasta อีกครั้งหนึ่งนะครับ ผมขอแนะนำเรื่องของ "the alice killing"นะครับเป็นเรื่องแต่งใน creepypasta (ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน) เกี่ยวกับคดีฆ่าตกรรมต่อเนื่องในญี่ปุ่นที่ยังเป็นปริศนาช่วง 1999-2005 อยากให้พี่เล่าเรื่องนี้มากครับ หวังว่าพี่จะเอาเนื้อเรื่องนี้มาเล่านะครับ ดูแลตนเองด้วยนะครับขอบคุณครับ😊

เจอพวกนี้ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ขี้เกรงใจคือเสร็จมัน เดินต่อไปทำเป็นไม่รับรู้ เราเป็นคนหน้านิ่งๆเดินไม่สนโลกพวกนี้อย่างมากก็เเค่พูดทักทาย ถ้าเข้ามาคุยก้ปฏิเสธสั้นๆแบบไม่ต้องหยุดเดิน ย้ำอยากหยุดเดินไม่งั้นจะเข้ามารุมทันที บอกไปเลยว่าไม่สนใจไม่ต้องยิ้มหรือแสดงไมตรีใดๆ พวกนี้ยิ่งต่อปากต่อคำยิ่งเป็นการเปิดช่องว่างให้มันขายของ

โดนค่ะ ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ขนาดบอกว่ารีบไปธุระ มันยังบอกว่าขอแค่เบอร์โทรแป๊บเดียว ขณะเดียวกัน ก็โอบเอวพลางลากเข้าบูธ บอกว่าไม่มีเงิน มันบอกว่าจ่ายบัตรได้ เลยถามว่าแพงสุดเท่าไหร่ มันบอก 3 หมื่น พอจะลุกบอกว่าเดี๋ยวมีส่วนลด เลยพูดไปว่า ดิฉันมีสิทธิ์ไปทำธุระ ถ้าคุณยังพูดต่อ จะแจ้งความกักขังหน่วงเหนี่ยว แล้วเดินออกมาเลย แฮร่...รอด

เคยโดนดึงเข้าบูธ แต่เราสะบัดแขนออกเลย มองนิ่งจ้องหน้าคนดึง พวกนางก็ถอยนะ คนไทยติดนิสัยขี้เกรงใจ+ใจอ่อนมันเลยเป็นเหยื่อชั้นดีของคลีนิคพวกนี้ เวลาเดินห้างรำคาญบูธพวกนี้มากๆ ต้องคอยเดินเลี่ยงตลอด มันใช่เรื่องที่คนมาใช้บริการห้างต้องหลบคนพวกนี้มั๊ย? เคยมีครั้งนึงเราแต่งตัวธรรมดาหน้าไม่แต่งเพราะรีบออกจากบ้านไปเอานาฬิกาที่จองเอาไว้ เดินผ่านบูธพวกนี้ไม่มีใครสนใจ พอเห็นเราเดินออกมาจากช๊อปถือถุงแบรนด์รีบกรูเข้ามารุม เสต็ปเดิม เมินใส่ โดนดึงแขนก็สะบัดไปเลย อย่าไปแคร์อย่าหน้าบางให้พวกมัน😂

คนจิตอ่อนอยู่ยากจริงสงสารอยู่นะ😅ทั้งที่บอกปัดๆไปเลยก็ได้แท้ๆ เงินมันอยู่ที่เราแหละขู่ยังไงก็ไม่มีทางเอาไปได้หรอก จิตต้องแข็ง ให้กู้ให้ยืมก็ไม่ใช่แล้ว

ยังดูไม่จบ แต่พอฟังถึงประโยคที่บอกว่า “ป้ายครีมลงบนแขน” นี่มันประสบการณ์เราเลยนี่หว่า 55555 วันนั้นจะรีบซื้อของไปทำธุระสำคัญ กำลังปรี่ไปแผนกที่ต้องการ บูธนางตั้งอยู่หน้าแผนก แล้วแบบมาตอนไหนไม่รู้เรียกเรา น้อง ๆ ยังไม่ทันจะหันไปเลยแม่งป้ายมือมาเลยจ้า แล้วก็ทาทาทาชวนคุยไปเรื่อย ผมบอกผมรีบต้องไปธุระต่อแล้วจะเดินออกมา ดึงผมไปล้างมือต่อ มาเดี๋ยวพี่พาไปล้างมือ คือน้ำยาล้างมือของเราเป็นแบบลาๆๆ (อิเชี่ยย) เลยต้องจำใจฟังเพราะมือยังล้างไม่เสร็จ กว่าจะปฏิเสธไปได้เกือบไปทำธุระไม่ทัน

เดินหนีอย่างเดียวค่ะ เซลล์ตามตื้อเราว่าสภาพผิวหน้าเริ่มไม่ดีแล้ว เราเลยบอกว่าไม่รู้จะทำสวยไปทำไม ไม่รู้จะสวยให้ใครดูเพราะวันๆก็คุมแต่นักโทษในเรือนจำ นานๆจะได้มาเดินห้างสักชั่วโมงสองชั่วโมงเอง ไม่มีเวลามาทำที่คลินิกหรอกค่ะ นางรีบหนีอย่างไว

เคยหลงไปซื้อคอร์สค่ะ จ่ายไป 15,000 ทำ10ครั้ง พอตอนไปทำหน้า ระหว่างนอนทำอยู่ก็มาขายเพิ่มตลอด บอกไม่เอาๆก็ตื้ออยู่นั้นทั้งๆที่ทำครั้งแรกเอง บอกจะได้เห็นผลเพิ่มโน้นนี่ บอกไม่มีเงินก็ลด แลก แจก แถม สุดๆ กลายเป็นว่าไม่อยากไปทำอีกเลยค่ะ เพราะเบื่อฟัง เบื่อการยัดเยียด

วิธีสู้กับคนหน้าด้านคือเราต้องด้านกว่าครับ ต้องฉะกะมันตรงนั้นเลย พวกนี้อาศัยความหน้าบางของคนมาหาประโยชน์ 😂😂

เราโดนบ่อยนะ เพราะปกติจะทำหน้าแบบ ซื่อๆ ง่ายๆ พวกนักรีดไถ่ความงาม เค้าก็เลยชอบมาดักเรา จนเราต้องทำหน้าโมโหพูดแรงๆใส่ ถึงจะปล่อยเราไป แถมยังมีมาลับหลัง แอบบ่นลับหลังใส่ให้เราได้ยินอีกนะ จนเราต้องเดินไปหารปภ บอกว่าโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยคนพวกนี้ ช่วยเรียกตำรวจให้หน่อย จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ผู้จัดการห้างก็มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น อีกพวกรีดไถ่พวกนี้ก็บอกว่า ที่ล้อมหน้าล้อมหลังเพราะว่ามีสินค้าที่อยากจะให้เราลองฟรีๆ เจตนาดี แล้วก็เอาครีมฟรีมาให้เรา สองหลอด ตอนแรกกะว่าจะเราเรื่องให้สุดๆ จริงๆ แต่ก็ขี้เกียจ สุดท้ายได้ครีมฟรีมาใช้ฟรีสองหลอด ซึ่งจริงๆ ก็เอาไปทาฝ่าเท้าแหละ กลัวหน้าพัง เจอมาเยอะ ครั้งแรกโดนกล่อมให้ซื้อครัมแบบหน้าฟังไปเลย

หากินบนความทุกข์ของคนอื่น ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ผมก็เพิ่งรู้กับช่องนี้แหละ

เราก็เคยพลาดไปเสียไปเกือบแสนเหมือนกัน เพราะความใจดีแท้ๆ จากแค่คำขอว่าให้ช่วยมาฟังหนูหน่อยนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แค่ฟังแปปเดียว แต่พอลากเราเข้าไปแล้วคือคุยนานมากๆ ขนาดบอกไม่มีเงินก็ยังถามหาบัตรเครดิต ขอดูกระเป๋าตังค์ สุดท้ายความอ่อนโลกเราตอนนั้นก็โดนไปเต็มๆ 😢 นี่ขนาดไม่ใช่คนแต่งตัวนะ แล้วพอไปใช้คอร์สจริงๆมันก็จะพาเข้าห้องส่วนตัวแล้วกดดันให้ซื้อเพิ่มอีก ปฏิเสธยังไงก็ไม่รอด โดนอยู่หลายครั้งจนต้องตัดใจเสียมารยาทลุกหนี กว่าจะหลุดพ้นออกมาได้ หลอนไปเลย ทุกวันนี้คือไม่เดินผ่านหรือมองหน้าพนักงานคลินิกพวกนี้เลย กลัว

แต่บูธความงามนี่ชอบนะ เดือนไหนมีตัง ไปเดินเล่นๆ หวังให้เขาเรียกแม่งไม่เรียก ชอบเรียกตอนเป็นนักศึกษาขอตังพ่อแม่ ตอนทำงานเดือนที่เงินไม่พอก็เรียก เซง ส่วนตัวชอบฉีดๆ เลเซอร์ งี้ ถ้าไม่พร้อมเสียตังมันจะรู้สึกแย่เลยอ่ะ แต่บางที ได้ราคามาถูกมากจริงๆ อันนี้คุ้ม ป.ล. ชอบคลินิกไม่มีเซลวางโปรโมชั่นมาเองแทน สบายใจ

เคยโดนเสียไปเป็นแสนจริงๆ ค่ะ ไปห้างดังคนเดียว เพราะเราซึมเศร้าอยากมาเดินห้างพักใจ พอมีเซลมาคุยเราก็สงสารเขายอมฟังไปเรื่อย เราไม่ได้เป็นคนแต่งหน้า ไม่ได้แต่งตัว ไม่ใส่เครื่องประดับ ลักษณะเราก็บ้านๆ พวกเขามารุมเอาครีมมาลงไปเรื่อย ต่อไปก็หนีไม่ได้แล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะขัดขืนยังไง เพราะจิตใจเราเองก็อ่อนแออยู่ด้วย ขอบคุณคลิปนี้ค่ะ อยากให้มีหน่วยงานมาช่วยคัดกรองร้านแบบนี้ออกไปค่ะ

เราโดนเกือบตลอด จนหลายครั้งต้องยอมเดินอ้อมเพราะไม่อยากเฉี่ยดไปหน้าร้านเลย เคยเจอครั้งนึงคือจับแขนเราลากไปลองสคลับ อะไรสักอย่างแล้วก็ขัดไปพูดสรรพคุณต่าฃๆนานๆ โปรอะไรไม่รู้เยอะแยะมาก แต่โชคดีวันนั้นเราไปกับเพื่อน เพื่อนเลยบอกว่ามีธุระต่อแล้วพาเราออกมาเลย ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยเดินไปใกล้บูทนั่นอีกเลยเซลล์น่ากลัวมากคือลากไปเลยอะไม่ได้แค่จับแขนอะ

จัดการกับพวกนี้ง่ายมาก อย่าเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจใคร เกรงใจปุ๊ปเสร็จเลย

เคยโดนที่เซ็นทรัลบางนา โดนไป 8000 พอนัดไป ก็บอกว่ามีอีกโปรนึงจะให้จ่ายตังเพิ่มตลอด เลยโชว์เงินในบัญชีให้ดูเลยว่าไม่มีจริงแล้ว และบอกจะแจ้งความเลยยอมให้ออกมาจากคลีนิคได้ จำได้ไม่ลืมเลย คลีนิคอยู่บนตึกข้างเซ็นทรัลบางนา ตอนนี้เปลี่ยนชื่อไปแล้วมั้ง ตอนนี้ถ้าเจอไอ้พวกนี้จะไม่เสวนาหรือชายตามองอีกเลย ไอ้พวกไถเงินพวกนี้ทำไมยังมีให้เห็นอยู่ในทุกวันนี้อีก

เซนปิ่นเจอล่าสุด คลินิกเขียนป้ายกำจัดขี้แมงวันจุดละ 300 บาท ไปถึงนับได้ 10 จุด เราก็เตรียมตังค์ไว้ 3,000 บาท สักพักบอกเรา 300 สำหรับจุดแรก จุดที่เหลือ 9 จุด คิดจุดละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,300 บาท เหี้ยมากกก ถามที่อื่นมา เหมาจุดเขาคิด 3,990 บาทเอง เสียความรู้สึกมาก

อยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองเช่นกัน แต่คนอื่นๆ ก็เล่าไปเยอะแล้ว 1. ห้างควรรับรู้ กับสิ่งนี้หรือไม่ เราจะไปแจ้ง ร้องเรียน หรือบอกใคร และถ้าแจ้งแล้วยังคงเป็นเช่นเดิม จะมีวิธีการใดต่อไป 2. เมื่อเราพลาด เสียเงินไปแล้ว คนจะรุมด่า และโทษว่า โง่เอง เขาไม่ได้บอกให้ควักเงินจ่าย ไปจ่ายให้เอง กลายเป็นคนเงียบกันหมด ไม่กล้าปริปาก เลยกลายเป็นช่องโหว่ให้ใช้โอกาสนี่แหล่ะ 3. หนี หนี หนี ไปให้พ้น คือ สิ่งที่ต้องทำเวลามองเห็นพวกนี้ครับ อย่าให้ค่า หยุดฟัง หยุดทำเป็นคนดีมีมารยาท รีบเดินหนีให้พ้น เร็วๆๆๆๆ เท่านั้นครับ 4. หลายครั้งยกตัวอย่างเซเลปคนดังมาทำป้ายแสตนโชว์ มีรูปคนดังในแคตาล้อก แอบอ้างชื่อขณะป้อนข้อมูลใส่เรา ถ้าคุณชื่นชอบคนๆนั้นอยู่แล้ว ก็จะเสร็จมัน

ดีใจกับการเติบโตของช่องเสมอนะ เราโดนบูธความงามมาดึงแขนบ่อย แต่เราเป็นคนหน้าเหวี่ยง มองเฉยๆก็ดูเหมือนมองจิกเลย เขาเลยไม่ค่อยกล้าตื๊อค่ะ ใครประสบปหโดนตื๊อขายของ ลองเอาทริกมองแรงมองเหวี่ยงเราไปใช้นะคะ

จากใจครับโดน จับฉุดเข้าไป แล้วนางจับเเขนเราเอายามาป้าย เเล้วก็อธิบายนั่นนี่นู่นต่างๆนาน สุดท้ายขายครีมแบบเเพงมาก แต่พอดีไม่มีตังจ่ายเลยรอดมาได้ครับ

ที่เซนปิ่น ประมาณปี 2016 ผมขึ้นมาจากบันไดเลื่อน มีผู้หญิงจากบูธ อะไรสักอย่างที่น่าจะเกี่ยวกับความงาม มาพูดว่า พี่คะแล้วเหมือนจะดึงแขน ผมก็กระชากแขนออกอย่างเร็วเลยแล้วทำเสียง ชิ๊ แล้วก็หันไปมองค้อนพนักงานคนนั้นด้วยสายตารังเกียจสุดๆ พนักงานคนนั้นถึงกับวิ่งไปกอดพนักงานอีกคนนึงเลย ในขณะเดียวกัน ผมก็ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อและสะบัดแล้วก็เช็ดแขน แล้วก็เดินจากไป พร้อมทั้งคิดในใจว่า หึๆมึงโดนกูแล้วกล้าดียังไงมาโดนตัวกู

เราไม่เคยโดนตกจนถึงขั้นเข้าไปฟังได้เลยค่ะ เราค้นพบเทคนิคปฏิเสธของเราเอง แค่ตอบ"ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณค่ะ"ด้วยเสียงปกติหรือเสียงนิ่มๆ ไม่ได้เหวี่ยงอะไร และระหว่างพูดอย่าหยุดเดินนะคะ แค่นี้ก็รอดมาตลอดแล้วค่ะ เขาให้อะไรอย่ารับ พูดอะไรไม่ต้องฟังค่ะ "ไม่เป็นไรจ้าขอบคุณค่ะ"แล้วอย่าหยุดเดิน แค่นี้จบเลย😊

ขอทานห้างหลังๆมานี้เลี่ยงได้อยู่ แต่บูธความงามผมพึ่งโดนเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนแรกก็จับแขนบอกใช้เวลาไม่นาน เสนอครีมทุกตัว ทุกโปรที่มี ลดได้ ผ่อนได้ มีฝรั่งหน้าตาดีตัวสูงอยู่ในกลุ่มด้วยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ พอเสนอจนหมุดมุกก็ปล่อยผม(สงสัยห้างจะปิดเลยปล่อย) เกือบไปซื้อของไม่ทัน ผมแอบได้ยินฝรั่งคนนั้นด่ากลับ F_ck off ตามหลัง

อยากให้ทำเคสฟิตเนส รีดไถ ด้วยครับ ผมเคยโดนเพื่อนเอาชื่อไปแจกให้ฟิตเนส แล้วฟิตเนสโทรมา บอกให้มาลองใช้บริการฟรี1วันจะพาทัวร์ฟิตเนส ผมก็เลยอยากลองไปดู ชวนเพื่อนไปด้วย เพราะคิดไว้แล้วว่าอาจจะโดนรุมทึ้ง พอไปแล้วเค้าก็ไม่ได้ให้ลองใช้อะไรเลย แค่พาเดินแนะนำ แต่ละส่วนต่างๆ เสร็จแล้วเค้าก็ถามว่าสนใจลดความอ้วนเลยไหม สมัครเลยไหม เค้าก็พยายามหว่านล้อมต่างๆนาๆ ดีว่า ผมกับเพื่อน ใจแข็งมากก็เลยยังไงก็ยืนกรานว่าไม่สมัคร พอเซล ผู้หญิง ปิดจ็อบไม่ได้ เค้าก็เลย โมโหแล้วไปตามเทรนเนอร์ หรือเซล ผู้ชายมา คุย ผู้ชาย เค้าก็มาถามว่าบ้านอยู๋ไหนกัน พอบอก ไป เค้าก็อ้างว่า อ๋อ แถวนนั้น ผมก็มีเพื่อนอยู่ แล้วก็อ้างว่ารู้จัก ขาใหญ่ของแถวบ้านผม ซึ่งพูดมาแต่ละชื่อ ผมไม่เห็นจะรู้จัก เค้าก็พยายาม หว่านล้อมปนขู่ ผมกับเพื่อน แต่ผมกับเพื่อนใจแข็งอยู่แล้ว เลยบอกว่ายังไงก็ไม่สมัคร เซล ผู้หญิง เริมโมโห ก็มาด่าประมาณว่า ถ้าไม่อยากทำ ไม่รักสุขภาพ มาดูทำไมเสียเวลา ผมก็เลยบอกไปว่า อ้าวก็พวกคุณโทรมาชวนเอง แล้วอ้างชื่อเพื่อนผมว่าเค้าแนะนำมา ผมก็เลยลองมาดูให้ จะสมัครหรือไม่สมัครมันก็สิทธิ์ของพวกผม ถ้าผมพร้อม อยากจะสมัครเดี๋ยวผมจะติดต่อมาเอง ไม่จำเป็ฯต้องรีบให้สมัครทันทีตอนนี้ คือผมอะไปตั้งแต่ 5โมงเย็น กว่าผมจะผละออกมาได้เกือบ2ทุ่ม ถ้าผมกับเพื่อนไม่ใช่คนใจแข็ง คงยอมแพ้ยอมสมัครไปแล้ว ที่นี้ไม่กี่วันต่อมาครับ ผจก. ที่ทำงานผม โดนฟิตเนสเจ้าเดียวกันเลยหลอกให้สมัคร เค้าก็รำคาญเลยสมัครไปให้จบๆตัดรำคาญไปมั้งครับ โดยเค้ากะว่าจะจ่ายให้แค่เดือนเดียวแล้วยกเลิกเมมเบอร์ ทีนี้มันไม่จบ เพราะมันโทรมาให้ไปใช้บริการทุกวันเลย ผจก.ผมบอกว่า ไม่ว่างไป ฟิตเนสก็จะบ่นใส่ว่า คูรลูกค้าวมัครแล้วจะทิ้งไปเฉยๆไม่ได้ต้องมาใช้บริการด้วย แต่ผจก. ผมก็ไม่ยอมไป กะว่าจะจ่ายให้เดือนเดียว แล้วจบๆไป ทีนี้มัไม่จบพอเข้าเดือน2ไปก็โดนหักบัตรไปเลยสถานะเมมเบอร์ยังไม่โดนยกเลิก จนต้องโทรไปฟิตเนส กับ ธนาคาร เพื่อยกเลิกรายการ วุ่นวายมาก นี่แหละครับเคส ฟิตเนสรีดไถที่ผมเคยมี ปสก. คิดว่าน่าจะมีหลายๆท่านก็น่าจะเคยโดนกันมาบ้าง

สิ่งนี้เป็นหัวใจของห้างตั้งแต่จุดกำเนิดแล้วล่ะค่ะ มีเป็นสารคดี สร้างที่ให้คนพักผ่อนหย่อนใจ แล้วเปิดกระเป๋าจ่ายเงินให้ เป็นจิตวิทยา ที่จะต้อนเราให้เกิดความอยากได้ ความอยากจะเหมือนหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น และจะทำให้เรารู้สึกผิด รู้สึกด้อย หากไม่ได้ใช้บริการหรือสินค้าของพวกเขา มันคือกลยุทธ์ค่ะ แต่ละคนที่ไปเดินมีภูมิต้านทานต่างกัน ของที่เราไม่อยากได้ ของที่ไม่จำเป็น พวกเขาจะทำให้เราอยากได้ และคิดว่าขาดมันไม่ได้อย่างเดียวค่ะ โดยเฉพาะเด็กๆ นี่คือเป็นกลุ่มหลักของเขาเช่นกันไม่ใช่เฉพาะบูธความงาม

โดนมากับตัว แล้วพอเริ่มันก็จบไม่ได้เพราะจะเสียดายค่าที่เสียไปก่อนหน้า เลยต้องต่อไปเรื่อยๆ เบ็ดเสร็จก็หลายแสน เสียค่าโง่มากค่ะ ตอนนี้เข้ามาทำงานในวงการนี้แทน (แต่ไม่ใช่เซล) จึงเพิ่งทราบกลไลข้างใน และก็ไม่ชอบการตลาเ(?) แบบนี้เหมือนกัน

พวกเซลล์พวกพนักงานเหยียดก็มี พวกปฏิบัติกับลูกค้าไม่เท่ากัน แม่เคยจะไปยกเลิกสิทธิ์แล้วโอนสิทธิ์ให้คนอื่นทำแทน พนักงานปฏิเสธไม่ได้ ทั้งที่ตอนไปแรกๆพูดกำชับว่าสามารถโอนได้ แม่ก็ช่างหัวมัน แต่พอลูกค้าอีกคนน่าจะลูกค้าประจำ ดูมีเงิน สวยเลย เพราะเห็นคางจมูกปากน่าจะเสริมแต่งฉีด เห็นทักทายดูลั้ลลามาก ละลูกค้าคนนั้นพูดถึงเรื่องโอนสิทธิ์ อีพนักงานคนนั้นก็จัดการให้อย่างดี โทรถามติดต่อนู่นนี่ แม่ฉันคือตอบอย่างเดียวว่าไม่ได้ คลีนิคหาดใหญ่ข้างๆกิมหยงแห่งหนึ่ง

เราไปฟิตเนสในห้างแทบจะทุกวัน แล้วก็เจอปัญหาบูธความงามเหล่านี้ไม่เว้นแต่ละวัน พยายามจะเข้ามายื่นโน้นยื่นนี่ให้ตลอด ทั้งๆที่เราปฎิเสธทุกครั้ง รู้สึกรำคาญมาก ไม่รู้ว่าเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาแต่ชาติปางไหน เห็นแทบจะทุกวัน-ปฎิเสธก็ทุกครั้ง มันจะอะไรกันนักกันหนาทุกวี่ทุกวันว่ะ!?

ดูช่องนี้เหมือนได้รับภูมิต้านทานเหลี่ยมทางสังคม ดีจังเลย

โดนเหมือนกันนค่ะ โดนลากไปนั่งฟังแล้วโดนล้อมหน้าล้อมหลังไม่ให้ลุก จนกว่าเราจะยอมมัดจำหรือทำอะไรซักอย่าง ถึงจะยอมปล่อยเราไป

เราอายุ 25 แล้ว แต่เราแต่งตัว ทำตัวเหมือนเด็กมัธยมไม่ค่อยมีเงินก็ยังโดนอยู่เรื่อย ๆ เลย งงมาก บางทีเห็นบูธ+พนักงานยืนอยู่หน้าคลินิกก็ต้องเดินอ้อมไปอีกทางเลย หนักใจ

เราจากบิ๊กซีรัชา (ค่าตั้งบูธ แต่คลินิกอีกห้าง ตอนนั้นชื่อนึง ตอนนี้เปลี่ยนชื่อคลินิคแล้ว) ตอนนั้นคือต้องการรักษาหน้าเพราะสิวขึ้นเยอะมาก ตอนแรกบอกจ่ายจอง 1,000 ค่าคอสไม่กี่หมื่น แต่ให้ได้ตลอดยาวๆ จนกว่าจะจบคอร์ส พอไปถึงคลินิค มาเสนอโปรตอนนั้นเรายังเรียน แต่ก็ทำงานไปด้วยแหละ เราบอกไม่มีเงินขนาดนั้นหรอกคอสเกือบแสนเป็นแสน พอเค้าถามมีบัตรไหม เราก็บอกมีแต่วงไม่ถึง เค้าบอกก็ใช้บัตร แล้วเค้าพาเราเอาบัตรไปดูมี 50,000 ก็รูดละบอกพี่คุยกับเจ้าหน้าที่ทำได้ คือคอสแบบที่เราต้องการแหละ รักษาสิว(ไม่มีการกดสิวใดๆ) มีเป็นแต้มสิว มาร์คใต้ตา มาร์คหน้า เลเซอร์รักแร้ แถมมาถามเราต่อว่าอยากทำทั้งตัวไหม รวมในคอร์สนะ เดี๋ยวตัวจากตัวนั้นมาเป็นอันนี้แทน เราบอกทำ พอถึงวันที่ทำ มาบอกคนละคอร์สต้องจ่ายเพิ่มเราบอกไม่เอาก็บอกจองไว้ไหม 1,000 เซ้าซี้จนเราชักสีหน้าใส่ก็ไม่สนเลยบอกจอง ละจ่ายไป พอรอบถัดไปก็บอกนี่มียาตัวใหม่เข้ามาลดสิวไว เราบอกไม่เอาก็เหมือนเดิม เราบอกรอบหน้าละกันรอบนี้ไม่ได้ถืออะไรมาเลย เลยรอดไป ทำอยู่อย่างงั้น 2 เดือน คือ ไม่มีไรดีขึ้นมาเลย แต่ทุกๆครั้งจะเสนอคอร์สไปเรื่อยๆ พอบอกไม่เอาก็พูดให้เรารู้สึกแย่ ต่ำต้อย เลยไม่ไป ไลน์มา โทรมา จี้อย่างกะเป็นเจ้าหนี้ บอกไม่ไป ก็มาบอกยังไม่จบคอร์สนะ ไม่ทำต่อเหรอ เลยบอกไปว่าไม่ ไม่ทำ ไม่สะดวก ไม่อยากทำ ที่เสียไปช่างมัน ไม่ชอบตรงที่ไม่เอายังมาเซ้าซี่พูดดูถูก คอร์สราคาแค่นี้เองไม่มีเงินจ่ายเหรอ จ่ายมาจบคือสวยเลยนะ หาเงินง่ายๆเอง ซื้อเถอะ ไม่จนหรอกน่า ละแบบนี้เมื่อไหร่จะสวยแบบพี่ ดูพี่สิพี่ก็ทำที่นี่นะ สวยขึ้นตลอดเลยนะ (อยากหยุมหน้า หยุมปากมันมากบอกเลย) แต่พอออกมาก็ต้องมาจ่ายหนี้ที่เสียไปโดยที่หน้าไม่ทันจะดีขึ้น แต่ก็บอกตัวเองว่าดีที่ออกมา เสียไปคือค่าครู รู้ว่ามันเป็นแบบไหน พอออกมาจากนั่นสักพัก มีบูธในห้าง เราจะไปเข้าห้องน้ำ มาดัก 3-4 คน เราบอกจะไปห้องน้ำ ก็บอกช่วยกรอกก่อนนะแป๊บเดียว เลยตอกไปว่า "ปวดขี้ มันแป๊บเดียวไม่ได้" พอออกมาจากห้องหน้าเราก็โดนจ้องแต่เราเดินอ้อม เรียกว่าวิ่งหนีดีกว่า ปัจจุบันมีภูมิขึ้นละ เดินฝ่าไปมึนๆเลย ด่าช่างหัว ไม่สน ทุกวันนี้ยังนึกโมโหไม่หาย โมโหให้ตัวเองที่สิวหายยากไปหาหมอที่ไหนก็ไม่หาย ทำให้ต้องมาเจอมันเนี่ย

นับถือพี่จริงครับ ที่แฉไปหลายวงการ

เคยโดนถึงขั้นลากไปนั่งฟังในร้าน บอกไปหลายทีแล้วว่าไม่เอา แต่พวกนั้นก็ช่วยกัน hard sale แต่ด้วยความงกของตัวเอง ก็ไม่ยอมให้เงินกระเด็นซักบาท สุดท้ายพวกซอมบี้ต้องยอมปล่อยเราออกจากร้าน

เคยโดนหมดไปเป็นหมื่นเหมือนกันครับ เมื่อก่อนสิวเยอะมากเลยทำ ทำจนจบคอร์สก็แทบไม่ช่วยอะไร มาจบที่ออกกำลังกายครับดีที่สุด ใครอยากสวยหล่อแนะนำให้คาร์ดิโอวันละ 40 นาที ผิวจะผ่อง สิวจะหาย รูปหน้าจะดีขึ้น (เพราะระบบหายใจดีขึ้น) ไม่ต้องไปเสียตังค์เยอะๆหรอกครับ สุขภาพดีผิวเราจะดีเอง

อยากให้ทำเรื่องพวกเด็กที่มาขายนมเปรี้ยวตอนติดไฟแดงด้วย ไม่รู้ว่ามันเป็นขบวนการอะไรรึเปล่าแต่เห็นเด็กๆชุดนักเรียนเดินตากแดดร้อนๆถนนเสี่ยงๆแล้วกังวลมาก ปีก่อนๆตอนที่เราเรียนมัธยมอยู่ก็เคยเห็นเค้ามาแจกใบปลิวให้ไปขายนมเปรี้ยวอยู่แจกที่หน้ารร.เลยมันแบบเอ๊ะๆยังไงไม่รู้

คลิปที่ดีและมีประโยชน์มาก ขอบคุณที่ให้ได้ฟังครับ

ชื่นชมคลิปดีๆ แบบนี้ค่ะ เป็นกำลังใจ ❤ ให้นะคะ /ใครที่เคยถูกหลอก ไม่ต้องเสียใจนะคะ คนเราพลาดกันได้ เป็นประสบการณ์ค่ะ 😊

แม่เราเคยโดนแต่ไม่ถึงหมื่นเรียกไปคุยแบบนี้นี่แหละฟิลหว่านล้อมไม่กระชากไม่ขู่กรรโลกฟิลเพื่อนสาวชวนคุยแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก็คุยๆไปเขาก็ให้ลองครีมแม่ก็ลอง สรุปไม่โดนค่าคอร์สแต่โดนค่าครีมสัก2-3พันนี่แหละประมาณ- 2-3กระปุกแพงอยู่นะแต่ตอนนี้ไม่ได้ถามว่าใช้แล้วดีมั้ยแต่ไม่มีการขอบัตรใดๆ

พวกขายซิมเหมือนกันคะเราโดนมากับตัว บอกว่าซิมฟรีๆบังคับให้เอาพอเอาบอกว่า300 เพราะเติมเงินเข้าซิมเเล้วมีโปรโมชั่นเน็ตอะไรก็ไม่รู้งงมากๆ😢

เราเข้าใจนะว่ามันคืองานของคุณต้องทำยอดขายแต่บริการที่คุณนำเสนอมันต้องเกิดจากความสมัครใจของลูกค้าด้วยไม่ต้องไปหลอกขายเค้ามันทำให้ภาพลักษณ์อาชีพพวกคุณมันเสียหายแล้วคนที่เค้าขายบริการที่มีคุณภาพเห็นผลจริงเค้าดูหม่นหมองไปด้วย สุดท้ายนี้ชอบบทความดีๆของคุณโอ ที่มีสาระให้คนดูค่ะทำต่อนะคะบทความสะท้อนสังคมที่คนไทยต้องปรับตัวให้ไวกว่าวิฉาชีพเพราะเด๋วนี้มาหลากหลายวิธี

แฟนผมพึ่งลาออกจากร้านที่ขายครีมในห้างแบบนี้แหละครับ เจ้าของเป็นต่างชาติ ส่วนมากจะเป็นชาวตะวันออกกลาง ครีมที่ซื้อมาก็นำเข้ามาอาจจะทางจีนบ้าง ทางประเทศของตัวเองบ้าง แต่ต้นทุนไม่กีบาท เวลารับสมัครพนักงานก็รับจำนวนเยอะๆ(เพราะมีคนที่เข้าไปทำแล้วเริ่มตาสว่างลาออกเยอะ) พนักงานเข้าไปไม่สอนอะไรเลย ไม่มีการอบรมเกี่ยวกับครีม เกี่ยวกับเรื่องผิว ถ้าคนไม่มีพื้นฐานความรู้ก็เข้าไปขายแบบงงๆนั่นแหละครับ ให้คอยดูคนที่อยู่ก่อนเป็นตัวอย่างว่าทำยังไง เงินเดือนไม่สูงมากเน้นให้ค่าคอม เน้นขายคนที่มีสามีฝรั่ง หรือคนจีน

เล่าสนุกมากครับ ตามมาฟังต่อจากคลิปขอทานห้าง❤

ห้างเซ็นทรัล​ ปิ่นเกล้า​ มีคลินิกความงามแบบนี้เยอะมาก​ มีเซลยืนอยู่หน้าร้าน​ คอยดักจับลูกค้า​ เราปฏิเสธว่า​ ไม่ๆๆๆคะ แต่เคยโดนไป​ 3,000​ คือครีมบำรุงผิว, ครีมล้างหน้า​ และนวดหน้าด้วยครีมของเขา​ ตอนที่ขายของ​ พนักงานยิ้มแย้ม​ เอาใจใส่ลูกค้า​ แต่พอถึงวันนัดนวดหน้าให้ใช้ฟรี​ 1 ครั้ง​ พนักงานทำหน้าตาเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน​ ทำหน้าตาแปลกๆ ปัจจุบัน​นี้​ คลินิกพวกนี้​ เวลาเราเจอ​ เราตอบปฏิเสธ​ โดยการโบกมือว่า​ ไม่เอาๆๆๆคะ

ชื่นชม เจ้าของ ช่องมากกครับ .. เป็นการให้ ความรู้ดี มาก ครับ ขอบคุณมากครับ ที่จัดทำดี มาก ❤❤❤1

กำลังรอเรื่องนี้อยู่เลยค่าาา น่ารำคาญกว่าขอทานห้างอีก

เราเดินเชิดไปเลยค่ะ ห้ามหยุดนะคะ เดินต่อไปเท่านั้นค่ะ

ขอเรื่อง ทำประกันออมทรัพย์ ที่ตั้งบูธตามห้าง ด้วยครับ

ชอบมากครับเรื่องนี้เปิดให้แม่ดูยายดู ส่วนตัวชอบแนวนี้มาก ขอให้ทำบ่อยๆนะครับ

เคยโดนบ่อยเลยค่ะ แต่เราหนีมาได้ทุกครั้งด้วยการเดินหนีอย่างเร็ว ไม่สบตา ไม่เปิดช่วงให้เขาชาร์จเข้าหาตัว แต่มีรอบนึงที่เราพลาด เราเดินชิวไปหน่อยเลยไม่ได้สังเกตว่าด้านหน้ามีบูธความงามดักอยู่ เราเลยโดนชาร์จเข้าถึงตัว พยายามเดินขนาบเบียดเราไม่ให้เราเดินหนีไปไหน และพยายามเดินตามเราแทบจะออกจากห้างอยู่ละ ระหว่างทางก็จะชวนเราคุยไม่หยุดว่าเราชอบสีอะไร มีปัญหาผิวแบบไหน กังวลไรอยู่มั้ย นี่ก็ตอบปัดๆ จนสุดท้ายนางเลยพยายมปิดเกมด้วยการให้เราช่วยลงชื่อทดลองโปรให้นางหน่อย ไม่ต้องจ่ายเงินเลยแค่ลอง ไม่ชอบก็ไม่ต้องต่อโปร แต่เรารู้เลยว่าถ้าลงชื่อไปเราน่าจะซวยแน่ๆ เลยบอกไม่สะดวกค่ะ (เสียงแข็งๆ หน้าตาดุดัน) จนนางหน้าเสียแล้วเราก็ได้โอกาสสับตีนแตกหนีเลยค่ะ เรียกได้ว่าแทบจะวิ่งหนี

เคสที่ผมเจอคือ ผมโมโหมาก ตอนเดินห้างเคยโดนพวกนี้ดึงเข้าไปเหมือนกัน ตอนแรกถามว่ามาทำอะไร ผมบอกมาซื้อของเล่น มันก็แนะนำครีมไรไปเรื่อย ผมก็ปฏิเสธไปบอกว่าไม่ค่อยสะดวกเงินไม่ค่อยมี มันพูดหมาๆกับผมว่า "มีเงินซื้อของเล่นแต่ไม่มีเงินดูแลหน้าตัวเองเนี่ยนะ" ผมฉุนขาดเลยตอนนั้น ผมพูดดังลั่นบูธเลยว่า เรื่องของผม! แล้วก็สะบัดมือเดินออกจากบูธทิ้งให้พนักงานยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น😂

เคยเจอครั้งหนึ่งครับ วันนั้น ไปสอบ หลังสอบเสร็จไปเดินห้างก่อนกลับที่พัก เดินไป กลุ่ม เซลกรูเข้ามา จับมือ เอาครีมมาทา แล้วบอกว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ หน้าน้องเป็นรูเป็นกระเป็นสิว เป็นกระใช้ ครีมนี้ ดีขึ้น แน่นอน วันนี้มีโปรโมชั่น พี่ลดให้ จาก 4800 ลดเหลือ 3800 เราก็ปฏิเสธไป เพราะ ไม่ได้ พกเงินมาขนาดนั้น ปฏิเสธอยู่ตั้งนานกว่าจะออกมาได้

อยากแชร์ประสบการณ์ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆและใจอ่อน ชอบเดินห้างคนเดียว พวกนี้ชอบพุ่งเข้าหาโดยไม่ได้ขายคอร์สเลยจะบอกว่า "น้องถ้าเซ็นตรงนี้น้องจะได้ของสัมนาคุณจากห้างนะคะ พี่ขอเวลาแปปเดียว" พอเดินเข้าไปเท่านั้นล่ะ พยายามจะขายคอร์สความงามหว่านล้อม จริงๆรู้นะว่ากำลังโดนหลอกขาย ตัดปัญหาซื้อคอร์สที่อยากทำซึ่งเป็นการลอง (1 ครั้ง2500บ.) หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปเพราะรู้ว่าโดนหลอกขาย แต่โทรมาตื้อประจำว่าว่างตอนไหน เมื่อไรจะมา บล็อคเบอร์ก็แล้วก็ยังหาเบอร์อื่นโทรมา สุดท้ายรำคาญเลยไปทำที่คลีนิคที่อยู่ในห้าง พอทำเสร็จขายต่อ ต้องทำต่อเนื่องบลาๆ สรุปบอกไปขอบคุณค่ะ ขอคิดดูก่อน เดินออก(ไม่มีตังค์ด้วย เสียดายตังค์) หลังจากครั้งนั้น พวกคอร์สขายครีม เอาครีมมาป้ายชวนคุยบลาๆ กระปุกละ5000 คุยมาเถอะเงินไม่ออกจากเป๋าแน่นอน555 //สรุป อย่าหันไปสบตาพวกนี้ค่ะ คนที่ขี้ใจอ่อน อย่าหยุดค่ะ อย่าเห็นต่อของฟรีของถูกค่ะ ต้องศึกษาดีๆนะคะคลีนิคต่างๆ ปล.ผ่านมา5ปี ยังโทรมานะคะ ขนาดบล็อคทุกเบอร์แล้วยังจะโทรมาอีกกก!!!

เจอสปาหินที่ central บางนา 2-3 เดือนก่อน มันน่ากลัวมากค่ะ เพราะพวกนางไม่ได้อยู่ใกล้บูท แต่มาเตร่ดักเราซึ่งจะไปซื้อของที่ H&M เดินหนีมีเซลล์วิ่งตามมารุมเพิ่มทีละคน คนสุดท้ายคือ วิ่งออกมาจากไหนไม่รู้กระโดดมาขวางหน้าเรา แล้วน้องเป็นสาว 2 ตัวสูงใหญ่ กดดันน่ากลัวมากค่ะ โดนรุมอยู่ 3 คน เดินหนีแต่พวกนางเดินตามแนวขอทานที่อินเดียเดินตามเลยค่ะ คือที่โน่นอินเดียเดินตามเป็นกิโลๆ ก็ตาม นี่โดนจนเกือบไปสุดห้างอีกฝั่ง ตอนนั้นอยากไปฟ้องห้างมาก เพราะมันทำให้เรากลัว และเสียเวลาซื้อของ พวกนางรุมเราตั้งแต่ก่อนร้าน H&M จนเราไม่เห็นร้าน ผ่านร้านเช่าไปหลายร้านจนจะสุดห้าง แต่รีบเลยไม่ได้ไปแจ้งห้าง จะกลับไปซื้อร้าน H&M ก้อสยอง ต้องชะโงกมองว่าพวกนางอยู่ตรงไหน สรุปอยู่แถว H&M เรย จะเดินไปก็กลัว จริงๆมัน impact ห้าง ร้านค้ามากๆนะคะ ไม่รู้ทำไมห้างให้ทำได้ บางห้างที่ชั้น 3 เป็น zoning คลินิก เวลาเราไปเดิน ยอมลงบันไดเลื่อนไปเดินชั้น 2 แล้วขึ้นมา 3 ใหม่ตรงผ่านดงคลินิกไปแล้ว ร้านเช่าแบบบูทลอยขายของอื่น บอกเลยว่าได้ที่เช่าแถวคลินิกโคตรซวยค่ะ คนหนี ทุกคลินิกทุกบูทควรหยุดการคุกคาม หาลูกค้าแบบนี้ ห้างต้องเด็ดขาด ห้ามมายืนนอกบูท และเดินตามลูกค้าเป็นร้อยๆเมตรแบบนี้ จะซื้อของไม่ได้ซื้อเลย

เราเกือบเสียเงินกับคลินิกเสริมความงามด้วยความเราอ่อนประสบการณ์ เเละโชคดีเรามีคุณพ่อมาด้วย

โดนไปหลายแสนเลยค่ะ แถมโดนพฤติกรรมแย่ๆของพนักงานคนแล้วคนเล่า ขนาดช่วยซื้อแล้ว ยังไม่พอใจวันที่ไปทำหน้าก็ขายอีกทั้งๆที่ยังไม่หมดคอร์ส กะให้หมดตัวกัยเลยทีเดียว ไปนอนทำหน้าไม่เคยได้นอนทำดีๆเลยสักครั้ง เค้าเข้ามาทั้งๆที่เรานอนทำหน้าอยู่ เหลือเกินจริงๆ

ดีมากมากที่คุณได้ทำคลิป เพื่อ เป็น กระจก ส่อง ให้ สังคม เจอเหมือนกันค่ะ แต่ว่า เราเคยคิดว่า อาจเป็นงาน ของเค้า เราเข้าใจนะ แต่เราต้องใจแข็ง ถ้าเราอยากซื้อ อยากทำสวยกับเค้า เราก็ทำ แต่ ถ้าไม่อยากทำ เราก็แค่เดินผ่านไป อย่าเข้าไป มันคือ งาน เค้าน่ะ เราต้องระวังเอาเอง เราจะโทษใคร เจ้าของห้าง เค้าไปให้พวกนี้เช่าที่ล่ะ แบบนี้ต้องคุยกับเจ้าของห้าง นะ สังคมจะได้ดีขึ้น

พูดบ้างได้มั้ย ห้างดังแห่งหนึ่ง ร้านสีชมพูตรงทางขึ้นบันไดเลื่อน วันนั้นก็จริงที่ว่าเราตั้งใจจะไปหาคอร์สทำเลเซอร์อยู่แล้ว อะพอเห็นราคาตอนแรงแพงมากๆๆ ละพอบอกว่าไม่ไหวก็ลดเอาเรื่อยๆ ทั้งที่เรารู้อยู่แก่ใจว่าคลินิกข้างๆมันถูกและดีกว่า แต่เราก็อะลองดูก็ได้เท่านั้นแหละ ขายคอร์สอื่นๆอีกเต็มเลย คือเราก็ต้องกินก็ต้องใช้เหมือนกัน ยังมีหน้ามาตื้อพูดว่าพี่ไม่มีเงินเข้าเลย คือเราเองก็ไม่ได้มีเงินเหมือนกัน และเนื่องจากเราลงคอร์สเลเซอร์ไปคอร์สนึงจึงมีไลน์ติดต่อกัน ยังมีการโทรมาตื้อในไลน์ คือแบบถ้าไม่ตื้อมากเราอาจจะสนใจเอง นี่คือพยายามยัดเยียด ทุกครั้งที่ไปทำนี่แบบพยายามมากที่จะขอเงิน ซึ่งคอร์สแรกที่เราจ่ายเราก็จ่ายครบแล้ว จนตอนนี้เรายังไม่จบคอร์ส แต่ว่าแบบยังจะมีใจมาขายคอร์สใหม่ทั้งที่บอกว่าไม่แล้ว ก็ยังจะตื้อ แบบคอร์สสองหมื่น เงินพันสองพันก็เอา มัดจำไว้ก่อน คือตอนนั้นไม่มี ก็คือกะเอาให้ได้บอกมีบัตรนี่เอามารูดสิ เงินสดมีมั้ย ในบัญชีมีมั้ย คือเราอึดอัดมากจน ไม่อยากเสียดายคอร์สที่เหลือแล้วก็ไม่อยากไปทำละ รำคาญ พอ จบ อยากให้มีมาตราการจริงๆ อึดอัดนะเจอไรแบบนี้

ผมมีประสบการณ์กับพ่อผม มีวันหนึ่งผมอยู่ห้างมาเก๊า เเล้วมีบูท ที่ขาย เกลือสบู่อะไรซักอย่าง เเละมีผู้หญิงเอาเกลือมาป้ายมือเเละพูดอะไรซักอย่าง เเล้วจากนั้นพ่อผมรู้ว่าเป็นเกลือที่คล้ายๆสบู่ จึงไปล้างออกด้วยกัน เเละพอเดินออกมา เจอบูทที่2 (น่าจะคู่เเข่งบูทเเรก) มาป้ายมือเหมือนกัน ก็ตามstep ล้างออก เเล้วพอกลับ พ่อกับผมก็ต้องเดินไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา เพราะเเถวนั้นในห้างคนน้อยมาก

(คอร์สทำทรีทเม้นท์) พนักงานขายหว่านล้อมเราทุกทางค่ะ ตื้อสุดๆ เราบอกว่าอยู่ต่างประเทศ แถมบอกเราว่าซื้อเก็บไว้ก่อนก็ได้ ให้เพื่อน พี่ น้องใช้ก็ได้ และใช้ได้ภายใน1-2ปี อะไรประมาณนี้ ฟังจนเหนื่อย จนต้องบอกว่ามีธุระต้องรีบไป ไม่มีเวลาฟังจริงๆ สุดท้ายก็รอด ถ้าตอนนี้เห็นบูทพวกนี้ จะเดินเลี่ยงทันที 😅

เราโดนมาจนเจ็บ 555 เจออะไรแบบนี้ให้เดินผ่าน อย่าไปสนพวกเขาเอาความน่าสงสารมาขาย ออกมาป๋อยอ หรืออวยเราต่างๆ นานา อย่าไปสบตา อย่าหยุดคุย พูดคำเดียวเลยค่ะ ไม่ค่ะ ไม่สนค่ะ ไม่มีตังค่ะ เคยเจอโหดสุด คือพึ่งจ่ายค่าคอร์สไป 5 หมื่น พึ่งได้เหยียบเข้าไปในร้าน อีเซลวิ่งมาขายเพิ่มอีก 5 หมื่น เรานี่ขึ้นเลย น้องคะ!!! พี่ยังไม่เคยทำสักครั้งจะมาขายเพิ่มอีกเหรอ hard sale แบบนี้พี่ไม่ชอบ หลังจากนั้นก็ใช้คอร์สเท่าที่มี และบอกเลยว่าไม่ซื้อเพิ่มค่ะ!!!!

เคยสะพายกีต้าไปเปลี่ยนสาย เซ็นลาด แม่งยังเรียกผม ยืนสะพายกีต้าฟังเจ๊กระเทยแพร่ม ทาตัวทดลองที่มือมากมาย เปรียบเทียบที่ทากะบไม่ทา ลดสุดๆ แม่งลดอยู่แล้วยืนไปนานๆแม่งมีสูตรซื้อเพิ่มลดเพิ่มงอกมา ยืนไปนานๆ แม้งมีสูตรเดี๋ยวใช้สิทธิ์พนักงานลดให้อีก แม่งลดจากหลายพัน จนเหลือพันเดียวลดซะหมดความน่าเชื่อถือเลย แพ็คเกจก็สวยดีแต่ดูรู้ว่ากาก มีหลายสาขา ยืนถามไรแม่งตอบหมด แล้วสุดท้ายก็ขอตัวไปเปลี่ยนสายกีต้า ทำหน้าบึ้งใส่ คือยืนฟังแม่งเกิน40นาทีอะ แม่งคงคิดว่ากูได้แน่ๆไอ้เด็กนี่555555

เคยเจอหนักสุด คือเค้ายื่นคูปองให้เราแล้วเราไม่เอา เราบอกว่าเคยไปฟังมาแล้ว นางก็บึนปากใส่แล้วก็เดินตามไล่แล้วก็ตะโกนไม่เอาไม่เอาไม่เอาหรอคะ แล้วเราไปคนเดียวคนที่ทำก็คือเป็นสาวสองตัวใหญ่เลย เพื่อนนางก็ยืนหัวเราะชอบใจ

ในห้าง เซ็นทรัล ลาดพร้าว จะมีบ่อยครับ ชั้น 1 กลางห้าง

เคยโดนค่ะ นัดเพื่อนไว้ในโลตัสเพื่อไปชำระค่าสินค้าเพราะจะถึงคิวชำระแล้ว จึงรีบเดินผ่านเซลล์กับมาล้อมหน้าล้อมหลังพอบอกว่าเรารีบกลับบอกรีบจริงอะ ตามด้วยสายตาเหยียดๆ ถ้าไม่รีบน่ะวันนั้นมีสวนกลับแรงๆแล้ว

เราเดินเจอบูธพวกนี้นะ เราเดินผ่านเลยไปเลยค่ะ ทำเหมือนไม่มีพวกนางอยู่ตรงนั้น จะพูดไรพูดไปไม่สน เงินในกระเป๋าเรา ถ้ารเาไม่ควักมันออกมา ก็ไม่มีใครเอาไปได้ ปฎิเสธให้เป็น อย่าเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น เราเป็นลูกค้าของห้าง หรือถ้าเห็นบูธพวกนี้ตั้งอยู่ เดินห่างให้ไกลๆๆๆๆ

ส่วนตัวเรา เราเคยเจอมาก้อแย่แบบในคลิปย่านปิ่นเกล้า แต่มีคลีนิคที่เราชอบจนถึงทุกวันนี้ คือวาเรล่า เค้าทำนัดชัดเจนมาก ออกแนวตามตัวลูกค้าให้มาทำด้วยซ้ำ เราชอบพนักงานที่ซื่อสัตย์ ไม่ขายคอร์สหนักจนลูกค้าหนี ถ้าลูกค้าดูเหมือนสนใจ เค้าค่อยให้ข้อมูล เรารู้สึกว่า เรามีcomfort zone กับที่นี่ ใดใดคือเราไม่ได้โฆษณา แต่เรารีวิวตามความเป็นจริงที่เราเคยทำมาจริงๆ

แถวฟิวก็เจอบ่อยค่ะ เราเดินอย่างเดียวไม่สนใจ นางก็มาแซะหน้าเรา เราก็เลยแซะนางนางกลับนางก็เงียบกริ๊บไปเลย เราไม่ได้สวยหรอก แต่มั่นใจว่าสวยกว่าอีเซลล์คนนั้นแน่ๆ

อย่างที่คุณวิโรจน์บอกครับ เจอคนหน้าด้าน เราต้องหน้าด้านกว่า

เคยเดินห้าง Big C แล้วมีเซลผู้หญิงเดินเอาบัตรส่วนลดยื่นมาให้ที่มือ เราก็รับไว้แบบงงๆ แล้วก็จะเดินหนี แต่เค้าหยุดเราไว้ด้วยคำพูดที่ว่า พี่ขอเวลาสัก 5 นาทีนะคะ ขอแค่ชื่อกับเบอร์โทร เราเลยบอกว่า อ่อ ไม่สะดวกอ่ะค่ะ แล้วจะเดินหนี เซลคนนั้นรีบมาขวางเราไว้ละบอกว่า งั้นพี่ขอบัตรส่วนลดคืนนะคะ เราก็เลยคืนไปให้แบบไม่สนใจอะไร 🤣ดีนะที่เราเป็นคนใจแข็ง ไม่ค่อยหลงเชื่อส่วนลดอะไรแบบนี้ ถ้าจะทำหน้าคือจะศึกษาก่อนและเดินไปทำที่คลินิกที่อยากทำเอง และเรารู้สึกว่าพวกบูธความงามแบบนี้มันน่ารำคาญมากๆ ชอบตั้งบูธขวางตรงทางเดินโล่งๆ ของห้างและพนักงานชอบมาเดินมายืนขวางทางคนเดินในห้างอ่ะค่ะ 😤😩

ประเทศนี้ คดียังไม่เกิดไม่สามารถทำอะไรได้เลย พวกเราต้องระวังกันเอาเอง

เนื้อหามีประโยชน์มากๆเลยครับ

บูรรีดไรความงาม มันคงจะไม่มาเกะคนทรงผม โอตาคุ อย่างผม และนิสัยเซอๆ 😂😂 ล่ะมั้ง สำหรับผู้ชาย อยากสวยแนะนำไปออกกำลังกาย เป็นใจเกเร ขอบคุณนะครับพี่ที่สอนไม่ให้ลงกลอุบายคนบางกลุ่ม มีประโยชน์มากๆเลย

โอ คารุชู วิชคุง ยินดีด้วยคับที่มาได้ไกลมากๆ (จาก สมาชิกเก่า,ช่องเก่า)

ตรงมาก เราเป็นคนนึงที่หลวมตัวหมดไปหลักแสน ไปทำคอร์สยังไม่หมดก็เสนอขายอีก อึดอัดมาก จนต้องทิ้งคอร์สไม่ไปอีก ทุกวันนี้ยังโทรมาตาม

เคยโดนเรียกแถวเซน 3 เดินๆอยู่ดึงเข้าไปเลยจังหวะโคตรนรก พูดจาหว่านล้อน รีดไถเงินหนักมาก วันนั้นโชคดีหน่อยเอาเงินสดไว้ในเป้ นางถึงขั้นให้เปิดกระเป๋าตัง เปิดแอพธนาคารดูเงินในบัญชี ถึงหลุดออกมาได้ หลังเจอถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็พูดเสียงแข็งๆไปเลยบอกไม่ว่างรีบไม่สะดวก

ทางแก้ไข่ คือ การแก้กฎหมายให้ระบบดีขึ้น

เราก็โดน หลักหมื่นเหมือนกัน ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงของผิวจริง ตอนแรกไม่ได้คิดเข้าหรอกโดนดึงเข้า อ่ะขายคอสแรกเราก็ถือว่าซื้อไปทำไป แต่ปัญหาคือขายของทบไปเรื่อย ๆ ที่เราเสียทุกรอบที่เข้าทำคอส เลยลาเลยยังทำไม่ครบแต่รู้แน่ว่าทำต่อก็จะถูกยัดขายอีกแน่นอน

นึกถึงตัวเองสมัยเรียน กทม แล้วเราตามอะไรไม่ทันเลย มีพี่คนหนึ่งดักทางเราชวนเราทำผิว ด้วยความที่เราขี้เกรงใจไม่กล้าเดินออกเลยยอมเดินไปนั่ง เราโดนถามเรื่องเงินเดือน(เราทำงานไปด้วย) เขาก็เสนออันแพงๆมา(เกือบสองหมื่น) ที่เกริ่น เราบอกว่าเราขี้เกรงใจไม่กล้าเดินออกใช่มั้ย แต่เรากล้าโกหก ทั้งชื่อตัวเอง เบอร์ รวมถึงบัตรเครดิต ซึ่งมันมาถามเอาเลขหลังบัตรด้วย ทุเรศมาก และเราก็ชวนมันพูดไปเรื่อยแล้วดูปฏิกิริยา จำได้ว่าคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมงจนเขารำคาญแล้วยื่นส่วนลดอะไรไม่รู้ สุดท้ายก็เดินออกมา ทิ้งในห้องน้ำ จะบอกว่างงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่เดินออกมา แต่ขามันแข็งเลยใช้วิธีการพูดโกหกให้มันจบๆไป เพราะเรามั่นใจอย่างนึงว่า เขาไม่รู้ว่าเราเป็นใคร จะโกหกยังไงเขาก็ขี้เกียจมาดูประวัติหรอก แค่ได้เงินก็พอ 😅 แต่อย่างน้อยมองในแง่ดีคือเรารั้งไม่ให้เขาไป scam คนอื่นอยู่ครึ่ง ชม. อ่ะนะ

เรามองว่าประเทศเรา hard sell จนน่าลำคานค่ะ ไม่แค่ในห้าง ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ตอนเราไปเที่ยวพัทยา ตรงท่าเรือไปดกาะล้าน แล้วอยากต่อรถสองแถวเพื่อไปลงบขส. แต่พี่คนขับ หลายคนมาล้อมเราให้เหมารถ เราเลยเดินหนีจุดคิวรถเพื่อจะไปรอ grab มารับแต่พี่มีคนนึง กระชากกระเป๋าเป้เราจนตัวเซ

คือแบบเราพอใจในหน้าตาตัวเองตามสภาพการเงิน ใช้แค่ครีมซองเซเว่น แล้วเจอคนมาทัก ว่าหน้าเราเป็นโน้นนี่นั่น เราก็แอบเฟลนะ แต่ไม่ใจอ่อนหรอกค่ะ เพราะไม่มีตังค่ะ ปล.สภาพคนขาย ผิวก็ไม่ได้สวยอะไร แต่งหน้าหนาเต๊อะ ดูเฟคมาก ขนาดทำงานเกี่ยวกับความงาม ถ้าได้แค่นี้ อย่าหาทำ

เคยโดนครับ แต่เอาตัวรอดได้😅 โคตรตึงคอนเท้นนี้ ขอบคุณครับ เป็นความรู้