ประเทศไทยผู้บริหาร เป็นพวกสมภารถุศีล ทำให้ประเทศขาดภูมิคุ้มกันนะครับ

หมายถึงท่านมาปรากฏให้เห็นใช่มั๊ยครับ

@@user-ku7gx3eh9b ใช่ค่ะท่านยืนตรงหน้าถือไม้เท้าเห็นแวบเดียว

ว

เห็นด้วยค่ะ ...น่าจะอยู่ท้ายของคลิปนะคะ

แนะนำดาวโหลดเเละเอาไปฟังดีกว่าครับ...แก้ใขตัวเองดีกว้าไปแก้ใขคนอื่นนะ🙂

ดี

ลองฟังหลวงพ่อปราโมทย์ดูนะครับ ท่านเคยศึกษาธรรมจากหลวงปู่ดูลย์ครับ

@@wissawachamaboon405 ได้ฟังธรรมหลวงพ่อปราโมทย์มาพักใหญ่แล้ว เลยตามมาฟังธรรมของหลวงปู่ดูลย์ด้วยค่ะ

ครับผม ขอให้เจริญในธรรม สาธุด้วยนะครับ

Wissawa chamaboon ไ

แนวทางสอนปฏิบัติของหลวงปู่ดุลย์ก็เป็นแนวทางเดียวกันกับของพระพุทธเจ้านั่นแหละ สติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม หลวงปู่ดุลย์ท่านก็เน้นเรื่องจิต โฟกัสเรื่องจิตโดยเฉพาะ ผ่านสภาวะธรรมด้านจิตตานุปัสสนามา จึงนำแนวทางมาสอนตามที่ท่านถนัด ซึ่งไม่ได้สอนธรรมะแหวกแนวจากพระพุทธเจ้าเลย สอนธรรมะอันเดียวกัน บรรลุเรื่องจิต หลุดพ้นเรื่องจิต ก็เหมือนบรรลุสติปัฏฐานด้านกาย ด้านเวทนา และด้านธัมมานุปัสสนาเช่นกัน เพราะกายก็เนื่องกับจิต เวทนาก็เนื่องกับจิต ธรรมา หรือธรรมารมณ์ทั้งหลายก็เนื่องกับจิต อยู่ที่จริตที่เราชอบ ชอบปฏิบัติสติปัฏฐานด้านไหน ส่วนด้านจิตตานุปัสสนา เหมาะสำหรับคนมีพุทธจริต คนมีปัญญามาก ปัญญาชน คนมีความคิดละเอียดอ่อน อารมณ์ละเอียดอ่อนจึงดูฐานจิตได้สะดวกสบายตามธรรมะสัปปายะ(ธรรมะเป็นที่สบาย) ดูฐานจิตได้ถูกโฉลกกับกรรมฐานด้านจิตตานุปัสสนา ซึ่งหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านก็ปฏิบัติได้ และนำมาสอน ไม่นอกเหนือจากคำสอนของสมเด็จพระพุทธองค์เลย

หลวงปู๋ดูลย์ ท่านยกธรรมะของพระพุทธเจ้า เรื่องจิตตานุปัสนา มาเทศนาสอน เพราะธรรมทั้งหลายรวมลงที่จิตเป็นที่สุด จิตนี้แหละคือพุทธะ หากผู้ภาวนายังไม่ถนัดดูจิตท่านก็จะสอนให้พิจารณากาย พิจารณาสังขาร เพื่อให้สมาถะกัมมัฏฐานเพิ่มกำลังขึ้นแล้วค่อยทำจิตตานุปัสสนาให้แน่วแน่ เชี่ยวชาญ จากนั้นท่านจึงจะสอนให้เดินปํญญาต่อไปจนถึงอรหัตผล

นี่ก็ชัดเจนมากนะคะท่าน โทรศัพท์มีปัญหารึป่าวคะ

ทำคลิปก็ต้องมีรายได้เพื่อยังชีพด้วยค่ะ ธรรมก็สอนอยู่ให้ตามรู้ ผู้รู้และผู้ถูกรู้

ส่วนนี้น่าจะหมายถึงการแยกขันธ์ ... เมื่อซักผ้าแล้วรู้สึกเมื่อย ความเมื่อยนั้นไม่ใช่กาย แต่เป็นเวทนาทางกาย และตัวผู้รู้ว่าเมื่อยก็เป็นอีกตัวหนึ่ง ... ดังนั้นจึงพูดว่ากายไม่ได้เมื่อย ตัวรู้ก็รู้แบบสบาย ๆ ไม่เกี่ยวกับกาย แต่ที่เมื่อยคือเวทนาทางกาย ... เมื่อเกิดเวทนาทางกายแล้ว ก็แค่รู้ไป หากปรุงต่อเป็นเวทนาทางใจ_เป็นทุกข์ ก็รู้ไป แต่ถ้าทนไม่ไหวแล้ว ก็ควรจะหยุดพัก ... ประมาณนี้ครับ ถูก_ผิดอย่างไรขออภัย เพราะเริ่มปฏิบัติอยู่

@@SaereeNon น่าจะใช่ครับ ขอบคุณครับ ถ้าปฎิบัติจริงๆจังก็คงหายสงสัย ตามที่พระท่านบอกพระอานนท์ เนอะครับ สาธุ ธรรม ครับ

เลื่อนไปจนสุดแล้วเปิดดูอีกทีเท่านี้ก็ไม่มีโฆษณาแล้วค่ะ