เพราะสุดโต่งเกินไป แถมไม่สนใจเสียงของผู้ชม แทนที่ mermaid จะเป็นหนังคืนกำไรให้กับค่าย กลายเป็นหนังที่หลายคนแช่งให้เจ๊งมากที่สุด ถถถถถ

รอ zootopia ค่ะ เรารักของเรามาเป็นปีๆ นิคจูดี้ต้องกลับมาเท่านั้น🥺🫶 ส่วนตัวชอบ soul มาก อาจจะเพราะเราชอบฟัง jazz กับหนังเเนวสร้างแรงบันดาลใจอยู่เเล้ว เรื่องนี้อยากให้ทุกคนได้ดู เราว่าไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย ดูจบเเล้วอยากมีชีวิตอยู่ ใช้ชีวิตให้มีความสุขต่อไปเรื่อยๆ ไม่น่าออกมาช่วงโควิดเลย;-; แต่ซีรีย์มินเนี่ยนบอกเลยว่าทำออกมากี่ภาคๆเราก็อยากดู เค้าออกแบบคาเเรกเตอร์ตัวละคร การดำเนินเรื่อง กับสตอรี่หลักมาดีมากๆ แค่ไปดูสามสหายตัวหลักก็คุ้มเเล้ว😆

น่าเสียดายที่ Elemental โดนหางเลขไปด้วย เพราะเป็นหนังที่ดีต่อใจอีกเรื่องหนึ่งเลย หนังอาจเกี่ยวกับความรักแต่ก็เกี่ยวกับครอบครัวด้วย การยอมรับในตัวผู้อื่นและเรื่องของลูกที่อยากให้พ่อแม่มีความสุข ส่วนตัวเรื่องนี้น่าจะสามารถสื่อถึงกลุ่ม LGBTQ ได้เหมือนกันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นคู่รักเพศเดียวกันเพราะมันเล่นกับคำว่า "รักที่เป็นไปไม่ได้" หนังน่าจะเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าเด็ก

หลัง ๆ มันเป็นหนังปัญหาชีวิตมากเกินไป คือตั้งใจจะสอนการใช้ชีวิตมากเกินไป สอนความแตกต่างมากเกิน จนแบบ มีแต่หนังแบบเนี้ยะ ลองย้อนไปดูสมัยก่อน Toy Story มันคือการ์ตูนผจญภัยเลย เด็ก ๆ เข้าถึงง่าย แล้วค่อยสอดความสัมพันธ์ไปก็ได้ นี่กะจะเอาแต่สอนชีวิตอย่างเดียว ละยิ่ง Elemental นี่มองเห็นตั้งแต่ดาวอังคารเลย ว่าธาตุในหนังก็คือชาติพันธิ์ หนังขาดความสดใหม่ เพราะจงใจสอนการใช้ชีวิตมากเกินไป

หนังยุคนี้ ทำหนังเหมือนทำโฆษณาอะ โฆษณาของคนกลุ่มนี้กลุ่มนั้น มีทั้ง คนดำ LGBT วีแกน เฟมทวิต บังคับยัดมาให้มันต้องอยู่ในหนังทุกเรื่อง แทนที่จะโฟกัสที่จะทำหนังให้มันสนุก เมื่อก่อนหนังสนุกแทบทุกเรื่อง พอมายุคนี้พยายามเอาหนังดังเก่าๆมาทำภาคต่อเพื่อเกาะกระแสจะยัดสิ่งเหล่านั้นลงไป สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นนี้ไง

หลังๆมาdisneyขยันwokeจนเละ ไม่แคร์แฟนคลับ เจ๊งไปหลายเรื่อง ยิ่งmermaidนี่ ไม่ไหวอะ wokeจนพัง ปี2019นี่เรียกว่ายุคทองของdisneyเลยแต่ละเรื่องทำเงินถล่มทลายมาก แต่หลังจากนั้นยุคมืดเลย

เราคนนึงที่เป็นแฟนดิสนีย์หนักมาก ชอบทุกเรื่อง โตมากับดิสนีย์คลับและการ์ตูนหลายๆ เรื่อง แต่ elemental ไม่มีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้เราอยากไปดูจริงๆ ก็ตามที่คลิปนี้บอกเลยนะ เห็นด้วยหมดแบบไม่มีอะไรจะแย้ง คือ เมื่อก่อนดิสนีย์คือค่ายการ์ตูนที่สอดแทรกข้อคิดดีๆ มีเพลงเพราะๆ ที่ติดหู ในเรื่อง pixar ก็จะมีจุดขายหลักๆ เลยคือ มีซีนเรียกน้ำตาที่ impac มากๆ ในเรื่อง แต่หลังๆ พอเริ่มใส่ woke เข้ามาทุกเรื่อง มันเลยทำให้ขาดความน่าดู ไม่ได้บอกว่า woke มันผิด แต่บางทีดิสนีย์ก็ต้องหย่อนและผ่อนลงบ้างอ่ะ

นี่ยังมีสโนไวท์ที่จ่อคิวเข้าโรงที่ไม่รู้จะได้กำไรมั้ย ดิสนีย์คงต้องกินบุญเก่าต่ออย่าง frozen zootopia อีกทั้ง toystory ที่ไม่รู้จะมีภาค5เพิ่มมาเพื่ออะไร การ์ตูนเรื่องใหม่มันต้องออกมาปังแบบ encanto ถึงจะไปรอด

ไม่ได้หมดยุคเเค่ Diversney ไม่ใส่ใจในการเขียนให้เรื่องราวเเละตัวละครมันดีเเละทําให้คนดูสามารถ Connect กับเรื่องราวเเละตัวละคร

Soul ของโคตรดีครับ ผมยังคงรัก Pixar อยู่เสมอ CoCo, Wall-E, Toy Story, Inside Out, Finding Nemo, Cars, Monsters inc. Monsters University, The Incredibles, Ratatouille, The Good Dinosaur, UP, A Bug's Life ทุกเรื่องเป็นการ์ตูนที่ผมดูแล้วมีความสุขมากครับ ย้อนดูไม่รู้กี่รอบก็ยังสนุก ส่วน Disney เอิ่ม..ชั่งเขาเถอะครับ

แต่หนังดิสนีย์เดี๋ยวนี้แผ่วจริง ผิดหวังกับปีเตอร์แพนมาก หลับแล้วหลับอีก เพิ่งรู้ว่าเนเวอร์แลนด์หม่นหมองน่าเบื่อขนาดนี้เพราะอีภาคนี้เนี่ยแหละ ขาดความ Magical ไปเยอะเหมือนเอาคนแก่เบื่อโลกมาทำหนัง

หลายเรื่องที่ขาดทุนมีจุดที่เป็นปัญหาร่วมกันเลยคือบทหนังมันห่วยอ่ะ ทั้งๆที่จริงๆมันคือจุดขายของพิกซ่าร์อ่ะ ส่วนตัวไม่ได้มองว่าการใส่ความหลากหลายมันเป็นปัญหาของค่ายนี้ด้วยซ้ำ ดูอย่าง Coco(2017) อันนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่ ไม่อาศัยบารมีหนังภาคต่อ ยกเอาวัฒนธรรมมาเล่าตรงๆเลย หนังทำเงินแถมชนะออสการ์ด้วย หรือเอาใกล้ๆอย่าง Turning red(2022)อ่ะทุกวันนี้เพลงยังติดหูอยู่เลย หลายคนชื่นชม(เสียดายดันเอาลงD+) แต่ดันเอา lightyear ที่บทไม่มีอะไรเลยมาลงโรงแทน ฉากหลังอวกาศก็เฉยๆไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกใหม่ สอบตกความเป็นพิกซ่าร์ไปมาก ส่วนค่ายแม่หนูผีกับมาร์เวลก็ตามนั้น คนสาปแช่งกันเยอะละ สงสาร

อย่างแรกเลยคือดิสนีย์ควรจะเลิกบ้าได้แล้ว เพราะตอนนี้ดิสนีย์สุดโต่งเกี่ยวกับการสนับสนุนคนดำและ LGBT มากๆ ซึ่งตรงจุดนี้ มันเยอะเกินไปจนกลายเป็นการยัดเยียดให้กับคนดู โดยเฉพาะการแคสนักแสดงที่มารับบทในเดอะลิตเติ้ลเมอร์เมดไลฟ์แอคชั่น นี่เป็นสิ่งที่ดิสนีย์พลาดแบบไม่น่าให้อภัยเลย ผู้บริหารของดิสนีย์เอาสมองส่วนไหนคิด ถึงได้อนุมัติให้แอเรียลออกมาเป็นแบบนี้ บ้าบอมากๆ ความจริงแล้วแอเรียลควรจะทำเงินให้กับดิสนีย์ได้อย่างน้อยสุดๆก็ 1,200 ล้านดอลลาร์ สุดท้ายกลายเป็นหนังเจ๊งยับ ซึ่งขอโทษจริงๆที่พูดคำนี้ แต่โคตรสมน้ำหน้าเลยว่ะ ทำตัวเองเเท้ๆ

เพิ่งไปดู Elemental มา หนังดีมากๆ เลย น่าเสียดายที่ได้กำไรไม่เยอะ ดูแล้วรู้สึกชอบพอๆ กับ Toy Story 1-3, Coco, Finding Nemo, Monster Inc หรือ Wall-E เลย มีฉากซึ้งจุกๆ เสียดสีสังคมนิดหน่อย อย่างตอนไปปาร์ตี้ที่บ้านธาตุน้ำนั่งแล้วนั่งรวมกันที่โต๊ะกลม ดูไปดูมาเหมือนเวลาคนจีนไปกินโต๊ะจีนวันรวมญาติ ต่างคนก็ต่างโม้นู่นนี่ นอกนั้นยังมีฉากมุกฮาน่ารักๆ ดูแล้วมีความสุขอีกด้วย คหสต คิดว่าเนื้อเรื่องหนัง เด็กเล็กๆ อาจจะดูแล้วยังไม่อิน ไม่ใช่ทาร์เก็ต ก็เลยได้รายได้น้อย

ผู้บริหารชุดใหม่เหมือนจะลืมหัวใจที่ส่งมอบความสุขความสนุกที่ซื่อตรงเรียบง่ายเหมือนในอดีต ไปเน้นเรื่องความเท่าเทียมความหลากหลายซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเน้นย้ำมากขนาดนี้ มีบ้างเป็นเรื่องดีแต่ไม่ควรทำให้ดูเหมือนยัดเยียด เพราะสิ่งสำคัญที่ต้องเน้นคือความสุขความสนุกต่างหาก

ดิสนีย์ที่ทำอะไรออกมาทีก็ปังเหมือนใช้เวทมนต์เสกบัดนี้ได้สิ้นแล้วสินะ ตัวเองขายความฝันและความแฟนตาซีมาตลอด เป็นโลกอีกใบสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความสดใส แฟนตาซี แต่จู่ๆเหมือนผีเข้า ทำหนังการเมืองเอา เรื่องสีผิว LGBTQ+ มายัด(เยียด) ฉากต่างๆ เสื้อผ้าหน้าผมคือบ้งมาก(จากหนังล่าสุด เงือกwoke) ปรับให้ทุกอย่างดูสมจริงมากขึ้นจนความแฟนตาซีหายวั๊บไปหมด ก็สมควรที่จะแตกยับๆ เรื่องต่อไปสโนว์wokeก็คงขาดทุนเหมือนเดิม

เราชอบ Elemental มากนะ สร้างมาดีมาก น่ารัก สนุก ตลก เหมาะกัยทุกเพศทุกภัย ดูออกมาแล้วรู้สึกใจฟูมากๆ อิ่มใจ ดี พูดถึงความรักทุกระดับ ความรักชายหญิง ความรักครอบครัว ความรักของเชื้อชาติ มันครบมาก ร้องไห้ ซึ้ง และหัวเราะ มีครบจริงๆนะ คิดจะ woke ก็ woke แบบไม่นัดเยียดแบบ Little Mermaid แล้วแต่คนจะมองเลย เราให้ 10 ไม่หัก มันดีย์!!!

อยากดู Inside Out ภาคต่อ ชอบมาก เราว่ายังไปได้อีกเยอะ Zootopia ก็ชอบ เราโตมากับ Disney อยากให้กลิ่นอายในยุครุ่งเรืองยังอยู่ต่อไป :)

ช่วงข่าวที่มีแผนกความหลากหลาย ก็ทำเอาคนกำหมัดพอควรว่า เพราะเธอคนนี้เหรอ ถึงทำให้หนังหลายเรื่องที่หลายคนคาดหวัง ดันืำออกมาผิดหวัง

disney ต้องกลับมาทำการบ้านใหม่อีกเยอะเลย ความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ที่น่าผิดหวัง ผมนี่ผิดหวังกับ the Little mermaid มากๆ ทำลายภาพจำผมไปอย่างแรง 😢😢😢 ในขณะที่ค่ายอื่น แม้ไม่ดังเท่า Disney แต่ทำการบ้านมาดีมากๆๆ ขอชื่นชมจริงๆ

คิดว่า ดิสนี่ย์พยามยัดเยียดเรื่องความเท่าเทียมมากเกินไปจนหลงลืมที่จะฟังความเห็นจากผู้ชม และ พยายามจะดันดิสนี่ย์พลัสให้มันดังมากเกินไป

พอเป็นเเบบนี้ก็คิดถึงปี 2019 นะ เพราะในช่วงนั้นเรียกได้ว่าเป็นปีทองก็ ดิสนีย์เลยก็ว่าได้เพราะหนังเเต่ละเรื่องในปีนั้นต่างก็ทำเงินละดับพันล้านเลย❤😊 รักผลงานคุณภาพของช่อง The Movement/Tonครับ♥️😳

แทบทุกค่ายเลยค่ะตอนนี้ พวกนักวิจารณ์ส่วนใหญ่เป็นwoke ถ้าไม่ใส่เนื้อหาเอาใจพวกwokeโดนด่ายับแน่นอน ค่ายหนังเลยต้องยัดๆเข้าไป wokeมันคิดว่าตัวเองหัวก้าวหน้าดีกว่าคนอื่นใครคิดไม่เหมือนตัวเองเป็นพวกล้าหลังหมด

เราชอบ Elemental นะครับ ส่วนตัวให้10/10 ดีทุกอย่าง ตัวละคร เพลง มุมมองเรื่องความแตกต่าง ความรักต่างขั้ว ซึ่งก็ถูกที่เป็นประเด็นเก่า แล้วก็มุมมองเรื่องครอบครัว แต่เราดูแล้วไม่ติดอะไรเลย ฟิลดี ได้ความหลากหลายความว้าวฟิลอินไซด์เอาท์ และความซึ้งในเนื้อหากับตัวละครฟิลโคโค่ ปล.ที่บอกว่าฟิลเหมือน อินไซด์เอาท์+โคโค่ เป็นในเชิงเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายครับ(สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูอิลิเมนทอล) ปล.2 ใครที่ยังไม่ได้ดูผมแนะนำครับ ถ้าคุณชอบ2เรื่องที่ผมยกมาเปรียบเทียบ ผมการันตีว่าเรื่องนี้จะเป็นอีก1เรื่องที่คุณชอบ ในเรื่องที่เข้าฉายช่วงโควิด ซึ่งผมได้ดูทาง disney+ แล้วชื่นชอบ คือ turning red / encanto / soul (ตามลำดับ) ที่เหลือคือเฉยๆ เรื่องที่ชอบตลอดกาล Brother Bear

ลองกลับไปดู Coco สิมันแตกต่างกับ บัซฟ้ากะเหว coco ดู 5 รอบยังไม่เบื่อ บั๊ซดูแล้วคิดเทื่อไรมันจะจบฟะ coco ดูแล้วอบอุ่นใจตัวละครเด่นชัดสีสรรบทเทพมาก ไม่ใช่เดาง่าย แต่ยุคหลังมันไม่ซาบซึ้งไม่น่าจดจำ ไร้จุดเด่น

น่าเสียดาย Elemental มาก หนังไม่ได้แย่เลย ออกจะสนุกด้วยซ้ำถ้าเทียบกับ Strang world หรือ Lightyear ตอนนี้ก็ได้แต่คาดหวังกับ Wish เห็นว่าจะนำเสน่ห์เดิมๆของดิสนีย์กลับมาเล่าอีกครั้ง เช่น ตัวร้ายที่จ่อหัวเลยว่าเป็นตัวร้ายตั้งแต่ต้นเรื่อง (ไม่ใช่ twist villain หรือปมในครอบครัว) ซึ่งห่างหายไปนานมากกก ถ้าจำไม่ผิดตัวร้าย iconic สุดท้ายคือคุณแม่กอเธลจากเรื่อง Tangled เลยมั้ง ถ้ารอบนี้ดิสนีย์สร้างตัวร้ายที่ประทับใจคนดูได้เท่าระดับตัวร้ายในตำนานอย่าง สการ์/ จาร์ฟา/เออร์ซูล่า ก็อาจจะมีหวังก็ได้นะ

Disney ยุคนี้คือหนังเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่หนังหรือการ์ตูนเพื่อความสร้างสรรค์ที่แท้จริง ถ้าไปดูหนังหรือการ์ตูนยุคก่อน มันสอดแทรกเรื่องราวยิบย่อยให้แนบเนียนมากกว่านี้อีก แต่ยุคนี้ อะไรๆก็มุกเดิมซ้ำซาก ปัญหาหลักๆคือไม่ฟังความเห็นของผู้ชมส่วนใหญ่ มัวแต่สนใจในเรื่องไม่จำเป็น ทำตัวเป็นเสาหลักของความคิดการเมืองนั่นนี่จนเพี้ยนไปหมด เหมือนลืมไปว่าจะหนังมันมีต้นทุนต้องได้กำไรด้วยแต่มัวทำตัวเป็นกระแสการเมืองเพียงอย่างเดียว อย่างThe little mermaid ชัดเจน มาอีกล่ะความหลากหลายเชื้อชาติ สีผิว พลังผู้หญิงแบบOverpowered ผู้ชายต้องทำตัวโง่ไร้สาระให้ผู้หญิงแบก ลูกเลี้ยง บลาๆ แถมโชว์ให้เห็นจะๆด้วย คืออะไรเนี่ย เป็นโฆษณาการเมืองอีกล่ะ พอหลายๆอย่างรวมกันมันเลยฉุดอย่างอื่นไปด้วย ไหนจะเนื้อเรื่องเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแค่คนแสดงเป็นผิวอื่น ตีความไปทางการเมืองอีก อะไรก็ไม่รู้อีกเพียบ มันสมควรจะเจ๊งตั้งนานแล้ว นอกจากนี้มันยังทำให้หนังหรืออนิเมชั่นเรื่องอื่นที่มันดี มันทำเงินไม่ได้ด้วยเพราะกระแสเชิงลบจากเรื่องอื่นมาไหลทับรวมกันอีก ปัญหาเลยซ้ำซากกว่าเก่าอีก

อาจใช่ เพราะภาพยนตร์กลายเป็นกิจกรรมที่คนไม่เลือกเสพเป็นอันดับหนึ่งเหมือนยุคอดีต คนส่วนใหญ่เสพกิจกรรมโซเชียลมีเดีย ออนไลน์ต่างๆมากกว่า ผมไม่ได้เข้าไปโรงภาพยนตร์มาเป็นเวลาเกือบ10ปีแล้ว

John Lasseter นี่คือคนที่โคตรสำคัญของ Pixar แต่ก็ยังเผือกหาเรื่องไล่เขาออกจากบริษัท

เรื่อง Elemental ผมมองไม่ออกว่ามันสร้างมาให้กลุ่มใดดู จะขายเด็ก? ขายวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่? มันเกี่ยวกับความรัก ให้เด็กดูคงจะเข้าใจยาก คือมันครึ่งๆกลางๆอะ

น่าเป็นห่วงมากๆ หมดความสดและ นึกถึงการตายซากของหนังฮ่องกงที่ผ่านมามากๆ ปล สมัย John Lasseter คุมนี่แหละ มันคือความสุขที่ดูได้ซ้ำๆ ไม่มีเบื่อมากๆ

มันsimpleมากๆ เรื่องที่ขาดทุนดูหน้าหนังมันไม่ได้น่าดูเลย แม้เนื้อเรื่องจะดีก็ตาม จะโดนข้อหาเหยียดมั้ยเนี่ย 555 แล้วช่วงหลังนี้ก็ขยันสร้างจังหนังเท่าเทียมหลากหลายเนี่ย ยัดมันเข้าไปแบบไม่เป็นธรรมชาติ ก็รู้ทั้งรู้ว่าขายบางประเทศไม่ได้แล้วจะมาผิดหวังเรื่องรายได้ทำไม

พูดถึงอนิเมชั่น สำหรับเราลายเส้นตัวละคร+การดีไซน์รูปลักษณ์มีผลมากกว่าพล็อตว่าจะเข้าไปดูดีไหม พวกฉากหลังสิ่งของก่อสร้างพวกธรรมชาติยังไงค่ายนี้ก็ทำได้สวยตาแตกอยู่แล้วไว้ใจได้เลยตัดตรงนี้ไป ไปโฟกัสที่ตัวละครแทนบางเรื่องคือตัวละครหลักลายเส้น+ดีไซน์ไม่สวยเลยไม่มีความน่ารักหรือเท่อะไรมาขายเราเลยอะ ลายเส้นบางเรื่องทำให้นึกไอพวกการ์ตูนnetworkยุดใหม่ที่ลายเส้นดูโง่ๆแต่แค่มาอยู่ในรูปแบบ3dอะ บางคนอาจจะชอบแต่เราโคตรเกลียดเลยลายเส้นแบบนี้ไม่ไหวจริง😂😂 อยากได้ลายเส้นแบบfrozen, zootopia, big hero6อะไรแบบนี้มากกว่าอะมันมีทั้งความน่ารักความเท่อยู่ในนั้นกลมกล่อมมาก

ยอดเยี่ยมเสมอครับ ทั้งการบรรยาย การเรียบเรียง รอคลิปช่องนี้ตลอดครับ

Disney และ Pixar เคยพาเราไปโลดแล่นในจินตนาการด้วยการผจญภัยแล้วค่อยสอดแทรกข้อคิด แต่ปัจจุบันพยายามเน้นประเด็นที่ต้องการสอนจนซีเรียสเกินไป ทำให้จับกลุ่มเป้าหมายเด็กและครอบครัวไม่ค่อยได้

บรรยายและเรียบเรียงดีมากครับ ฟังเพลินจนไม่อยากให้จบ ส่วนตัวผมว่ายุคนี้คอนเทนต์มันหลากหลายด้วยแหละ ดิสนีย์เองก็ต้องเน้นกลุ่มเด็กน้อยด้วย เนื้อหาก็เลยจืดชืดเมื่อเทียบกับค่ายอื่น

เราดูหนังเพื่อความบันเทิง ไม่ได้ต้องการถูกบังคับหรือถูกยัดเยียด

ค่ายนี้คิดว่าตังเองเป็นใหญ่มั้งครับ จะใส่อะไรก็ใส่ ยิ่งเรื่องบิดเบือนจากต้นฉบับนี้ของชอบเค้าเลย สุดท้ายก็อย่างที่เห็นเลย แอบสมน้ำหน้าอยู่นะครับ ที่เป็นแบบนี้ จะได้ตาสว่างสักที

อยากดูเจ้าหญิงผิวสีอีก ไม่ก็เจ้าชายเป็นเกย์นะครับ ดิสนีย์ 555555😂

เห็นด้วยครับ เน้นความหลากหลาย จนไม่เหลือความคิดสร้างสรร

หนังเรื่องไหนของ ดิสนีย์ ไม่มีเพลงโดนๆ คนก็จะลืมไปอย่างรวดเร็ว .. มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่จะทำอะไรประหยัดงบ จะสู้กับ ค่ายจีน ค่ายญี่ปุ่น หรือ streaming ทั้งหลายตั้งจัดเต็มเท่านั้นโดยเฉพาะเพลง...😊

Elemental สนุกมากก น่ารักสุดๆ

ช่วงนี้คลิปมารัวๆ เลย ชืนชอบมากๆคับ the movement/ton

น่าจะเพราะดิสนี่ย์wokeหนักเลยช่วงนี้ เนื้อเรื่องก็ซ้ำๆเดิมๆ คนดูไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหนังต้องการสื่ออะไร แต่เราชอบในเรื่องTurning RedกับSoul นะเป็นเรื่องที่สนุกและเข้าใจง่ายนำเสนอประเด็นใหม่ถึงรายได้มันจะไม่ดี แต่พอหลังจากนั้นก็เลิกดูอนิเมชั่นของดิสนี่ย์ในโรงอีกเลยเพราะดูจากตัวอย่างก็ยังเบื่อเลย

ชอบการเรียบเรียงและน้ำเสียงมากๆ ชอบๆฟังสบายดูเพลิน

ผมก็ว่าหนังจาก disney ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยสนุกเลย มันขาดอะไรไปบ้างอย่าง ยิ่ง pixar มาอยู่กับ disney ยิ่งแล้วใหญ่เลย ผมดูหนังทุกเรื่องของ pixar นะ ผมรู้สึกว่ามันสนุกน้อยลงกว่าสมัยก่อน สมัย toy story , wall-e , inside out, ไม่ใชว่าหนังของ pixar สมัยนี้ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ มันก็ดี แต่ดีไม่เท่าสมัยก่อน ถ้ายุคนี้ของ pixar ผมก็ยังชอบเรื่อง soul นะ และ elemental ผมก็จะไปดูแน่นอน ผมยังรักและเชื่อ pixar อยู่ ว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเมือ่ก่อนได้

เป็นช่องหนังอีกช่องที่ผมโคตรจะรัก คุณภาพมากๆครับช่องนี้

ดิสนีย์ทำตัวเองล้วนๆ โฟกัสผิดจุดพยายามยัดเยียดความต่าง แต่หลงลืมการเล่าเรื่องราวที่เป็นจุดของตัวเอง ไม่ต้องพูดความสดใหม่และความคิดสร้างสรรค์อีกนะ

หวัดดี ฉันมาจากอนาคต wish คือเจ๊งไม่เป็นท่าเช่นกัน 555 อนิเมชั่นดิสนีย์สมัยใหม่มีแต่โทนมืดๆ สีครึมๆ ไม่น่าดูเลยสักเรื่อง ตัวละครผิวสีไม่ว่า แต่บรรยากาศในเรื่องก็มืดครึ้ม พอตัวละครเอกอยู่ในฉากคือมองไรไม่เห็น ไม่สะดุดตาเลย ทำไม frozen ถึงติดตลาด มีแต่คนชอบ จริงๆ ก็แค่ออกแบบตัวละครเอกให้สวย น่ารัก เจ้าหญิง ก็ดึงดูดคนมาดูแล้ว ยุคนี้เบื่อมากๆ เรื่องสอนความหลากหลาย สอนนู่นสอนนี่ เครียดมากพอแล้วมั้ง คนเราตอนนี้ขาดอะไรน่ารักฟรุ้งฟริ้ง อะไรที่เพ้อฝัน กลับไปแรกๆ ของดิสนีย์สิ หลายๆ คนต้องการแค่นั้นเลย (ส่วนอนิเมชันที่น่าเสียดายที่ไม่ทำรายได้มากพอแต่ว่างานดี ยกให้ red เลย)

ตอนแรกไม่ได้คิดไร แต่พอดูคลิปเออว่ะ ช่วงหลังๆมาเนื้อหาจริงๆ ซ้ำซากมาก ยุคก่อนดูสุดยอดขึ้นมามากเลย

ภาพยนตร์​แอนิเมชั่น​ของดิสนีย์​สำหรับผมก็ยังน่าดูอยู่นะแต่อยากให้เขามีความคิดใหม่เหมือนอนิเมะบ้างคิดนอกกรอบเจาะตลาดช่วงวัยอื่นๆบ้างหรือให้มันออกดาร์กไปเลย​(เปลี่ยนแนวทางบ้างเถอะ)​ แต่ถ้าชอบสุดๆของดิสนีย์​คือซี่รี่ย์​แอนิเมชั่น​อย่าง​ amphibia​ กับ​ the​ owl​ house​ ถือว่าสนุกมากๆและน่าจดจำ

ยุคก่อนพอรับได้นะเล่นประเด็นให้ตระหนักเรื่องโลกร้อนอนุรักษ์ธรรมชาติ ยังรู้สึกว่าเราทุกคนควรมีส่วนร่วม แต่มายุคนี้คือกุผิดอะไร คนเอเชียผิดอะไรกับคนผิวดำเราต้องดูอะไรพวกนี้ประหนึ่งเราไปดูถูกเหยียดหยามเค้ามานาน ประเด็นพวกนี้มันกินเวลาของหนังจนบดบังจังหวะการเล่าเรื่องจนมันเหลวไปหมดเหมือนใส่ๆมาเพราะผู้บริหารบังคับว่าต้องมี ยุคแรกแรกเรื่องสีผิวมันดีเพราะเค้าตั้งใจแต่แรกว่าจะมาเล่นประเด็นนี้เป็นหลักคือมันเล่าได้ไม่ฉาบฉวยเหมือนตอนนี้ที่แค่เปลี่ยนสีผิวตัวละครแบบมักง่ายๆก็นับว่าสนับสนุนความหลากหลายแล้ว

เรารักหนังพิกซ่าร์มากนะ คือโตมาพร้อมกับ toystory / monsters inc/ up / ratatouille etc. แต่ว่าหลังๆมา เรารุสึกเหมือนบทมันดรอปลง เหมือนมันขาดอะไรบางอย่างที่เราเคยดูแล้ว ว้าววว สนุกก การเล่าเรื่องที่แตกต่าง อย่าง good dinosaur/ lightyear/ soul คือดูแล้วดูอีก เพราะดูไม่จบซะทีหลับก่อนนตลอด เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดเลย แต่เราโอเคกับ zootopia/ inside out / coco นะ ยิ่ง coco คือร้องห่มร้องไห้เป็นจริงเป็นจัง ส่วน Onward/ Luca ชอบคาแรคเตอร์มาก น่ารัก แต่เนื้อเรื่องก็ยังเฉยๆอยู่ดี เรามาคิดว่าหรือเป็นเพราะเราโตขึ้น มุมมองต่างๆเลยเปลี่ยนแปลงทำให้ดูแอนิเมชันสนุกน้อยลงรึเปล่านะ

ชอบคลิปพี่มากเลย ทำต่อไปนะ👍🏻

Disney ในช่วงนี้บอกได้แค่คำเดียว "มันก็แค่ธุรกิจ"

พิกซ่า ออกมาจากดิสนี่ด่วนเลย ผมชอบตัวการ์ตูนที่พิกซ่าออกแบบมาก ไปเข้าร่วมกับโซนี่เถอะผมก็ชอบโซนี่เหมือนกัน

get woke, go broke. 😮‍💨😮‍💨

Elemental สนุกดีนะ😊ชอบ แพนด้าแดงก็สนุกนะ😍 น่ารักมาก❤

ผมว่าเพราะการดูหนังของคนดูเปลี่ยนไป รอดู สตรีมมิ่งก็ได้ ไม่ได้เหมือนแต้ก่อนที่ต้องไปดูเท่านั้น คนจะไปดูแค่เฉพาะที่อยากดูเท่านั้นส่วนที่เหลือรอเอางี้ ขนาดหนังที่กำไรยังมีรายน้อยลงถ้าเทียบกับสมัยก่อน ถ้าเป็นเมื่อต่อให้หนังไม่สนุกก็พอมีกำไรไม่เหมือนเดียวนี้ถ้าไม่ดีจิงหรือคนชอบจิงขาดทุนแน่ ธุรกิจนี้เริ่มแย่ลงทุกวันละถ้ามองภาพรวม หวังว่าจะมีหนังสักเรื่องที่กู้ศรัทธาได้

Dreamworks คือเดอะเบส😎😎😎

อยากรู้ว่ามันขาดทุนทีละเป็น100ล้านดอลติดต่อกัน แต่ทำไมยังสามารถทำหนังต่อได้ไม่ล้มละลาย

ช่องนี่นำเสนอเนื้อหาดีนะเนี้ย คือมีอ้างอิงมีรายละเอียดดีมาก ไม่ใช่ใส่ยับๆ 55555 ฟังเพลินมากครับติดตามเลย

Elemental คือดีมากอะ ให้ 10/10 เลย เสียดายแทนคนที่ไม่ได้ดูมากๆ อยากให้มันปังกว่านี้

หวังว่าหลังจากนี้คงจะดีขึ้นนะ อีคน woke ปสด. ลาออกไปแล้ว แต่ Toy Story 5 นี่จะสร้างจริงหรอ แค่ภาค 4 นี่บอกตรงๆว่าผิดหวังมากนะ มันทำให้ความรู้สึกดีๆในภาค 3 พังหมดเลย (ความคิดเห็นส่วนตัว)

สำหรับผม ยังรักดิสนีย์ พิกซาร์ มาเวล สตาร์วอร์ส เหมือนเดิม❤❤❤ รักตลอดกาล

ผู้กำกับอนิเมชั่นรุ่นก่อนๆของดิสนีย์หลายๆเรื่อง หลายคนคือเก่งมาก ดิสนีย์จะมาจบเพราะรุ่นนี้แหละ

ตอนที่ทุกช่อง ทุกเพจบอกว่าถึงขาลงของดิสนีย์ ผมไม่เคยเชื่อเลยครับ แถมยังเถียงกลับไปว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่พอเป็นช่องนี้ทำผมขอยอมถวายดวงใจเชื่อสุดชีวิตเวลาครับ รักมาก ยอมเชื่อทุกอย่าง

วิเคราะห์ดีและเฉียบขาดคร้าบ

ก็หนังเรื่องบัซนี้แหละ มีฉากแบบนั้น พ่อแม่หลายคน ยังอยากให้ลูกอยู่ในวัย ที่ลูกอยู่ในจินตนาการ อยู่ในเทพนิยาย แล้วเทพนิยาย ก็มามีฉากแบบนั้น พ่อแม่หลายคนถึงขนาด แอนตี้ ไปเลยก็มี แถมเรื่องดิสนี่ ที่นางเงือกเป็นคนผิวเข้มมาก ต่างจากในการบรรยายของการ์ตูน ทำให้ผู้ใหญ่ ที่อยู่ในจิตนาการวัยเด็ก รู้สึก เสียใจไปตามๆกันเลยว่าได้

Elemental คืออยากดูมาก แต่โรงต่างจังหวัดวันนึงมีแค่ 2 รอบด้วยซ้ำ เสียดายที่เวลาฉายเราไม่ว่างไปดูเลย

Dc เริ่มเจ๊งมาตั้งแต่ ชาแซม1 มาเบิร์ดออฟเพลย์ Ww1984 เดอะซูไซส์ ซุปเปอร์เพ็จ แบลคอดัม ชาแซม2 นี่มายันเดอะแฟลชยังเจ๊งอยู่เลย แต่ไม่พูดถึงไปพูดอีกฝั่งที่เค้ายังไม่มีหนังเจ๊ง แปลกเเฮ้ะ

ก็Wokeขนาดนั้นอะ ลากตั้งแต่Disney,Pixar,Star Wars ขนาดMarvelยังโดนอะจนMarvelพังหนักมากเพราะการยัดตัวละครหญิงตลอดเฟส4ที่ผ่านมา หมอแปลกพลาดเรื่องบท แต่จะอธิบายยังไงกับซีรีย์Ms.Marvel,She hulk(อันนี้หนักมาก),hawkeye,thor4อะ ในขณะที่Moonknight,Spider-Man(หาร2Sony),loki,Wandavision,Falcon มันไม่พัง บางเรื่องขายช่วงโควิตทำลายได้ถล่มทลายด้วยซ้ำ

Elemental ดีมาก ๆ ค่ะ หนังคุยกับความลูกคนโตอย่างเรามาก แต่คนคงเบื่อกับชื่อดิสนีย์ หลัง TLM ก็เข้าใจได้ ไปดูกันเถอะ ดีต่อใจมาก ๆ *แก้คำผิดค่ะ

ดูหาตรกรรมบนรถไฟโคตรสนุกเลย แต่พอไปแม่น้ำไน ไม่อินไงไม่รู้

รอให้ อนิเมะจาก ตะวันออกไปโพในโรงก็ดีนะ. เพราะ ของฝั่งตะวันออกนั้นค่อนข้างหลากหลาย และดูมีอัไรเยอะกว่าโดยเฉพาะ ตอนนี้ จีน กับ ญี่ปุ่นที่กำลังเป็นคู่แข่งหลายใหญ่ที่สุด เท่าที่เรามองออกเพราะ เกาหลีไม่เอาด้วยแน้ เนื่องจากความ ชาตินิยมสุดโตงที่จะไม่รับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นถึงมีก็มีแค่ส่วนน้อย่ำให้ ตลาด อนิเมชั่นเกาหลีไม่ค่อยดีเท่าไร แถมไม่ค่อยออกมาด้วย. แต่ของจีนและ ญี่ปุ่นนี้ค่อนข้าง ใหญ่เลย ทั้งแบบ CG อนิเมชั่น หรือแบบ 2D ก็ตามตัวอย่างเลยคือพวก. fate เวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ มาครบ ท่าคนยอมเปิดใจอาจจะรายได้สูงก็ได้ หรืออีกหลายๆเรื่องแต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบทำเพื่อกลุมแฟนๆสะมากกว่า รอบฉายเลยน้อย

คอมเม้นเป็นเอกฉันท์ คือเบื่อการยัดเยียดเรื่องความเท่าเทียมเกินความจำเป็น

หนังที่ควรมีแต่ความสนุกสนาน เบาสมอง แต่ดิสนีย์กลับทำตัวเป็นนักเคลื่อนไหว ยัดเรื่องหนักสมองมาให้คนดู ผมไม่ดูหนังดิสนีย์มาเกือบสิบปีแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยพลาดสักเรื่อง

ลูกสาว กับ ลูกชาย ชอบดูหนังไอตัวเหลืองๆ ดูทั้งวัน ตุ๊กตา เสื้อผ้า ขนาดแปลงสีฟันยังเป็นลายไอตัวเหลืองมินเนี่ยน 5555

ใช่ ที่สำคัญ แนวคิดพวกทำหนังค่ายใหญ่ๆเปลี่ยนไปมาก ทำให้คนดูเริ่มเบื่อกับการถูกบังคับ ทั้งการอยากแปลกใหม่แต่เอาแต่ยัดเยียดอะไรต่อมิอะไรเข้ามาแบบเหมือนมีสมองแต่ไร้สมองสุดๆ เมื่อผิดหวังมากๆ คนก็ไม่อยากดู บางเรื่อง...นักแสดงก็มีปัญหา...

Toy Story มันยังจะมีภาคต่ออีกเราะ ? 😅 ส่วนตัวสำหรับผม Toy Story เนื้อเรื่องหลักมันจบตั้งแต่ภาค 3 แล้วนะ ภาค 4 เหมือนเนื้อเรื่องเสริมมากกว่าประมาณว่าหลังแยกจากแอนดี้แล้วพวกวูดดี้เป็นยังไงบ้างประมาณนั้น ภาค 4 ตอนจบวูดดี้ก็แยกทางกะพวกบัสแล้วเดาเนื้อเรื่องต่อไม่ออกเลยครับว่าภาค 5 จะเล่าเรื่องยังไง 🤔

toy story ไม่รู้จะทำภาคต่อมาน่าดูมั้ย เพราะภาคต่อที่แล้วๆมามันเยอะมากแล้ว จนตอนนี้คิดไม่ออกว่าจะนำเสนอมุมอะไรอีก (นอกจากให้ของเล่นเผยตัวกับมอลลี่งี้หรอ😂)

Elemental ผมหลับคาโรงเลย หนังเดิมๆมาก ทั้งที่วันนั้นผมดูหนัง4เรื่องติดกัน Elemental , สาวแซ่บแอ๊บมาอ่อย , roundup , Flash ไม่หลับสักเรื่อง มาหลับเรื่องเดียวทั้งที่เป็นเรื่องแรก

ขยันเข็นกันออกมาถี่เกิน ทำตลาดก็น้อย แถมลง streaming ทันทีที่ฉายโรงเสร็จ มันจะเหลือเหรอ บางเรื่องก็ลึกซึ้งเกินไป ดูแล้วไม่รู้เรื่องว่าจะสื่ออะไร อย่าง Raya กะ Encanto ขนาดผู้ใหญ่ยังอีหยังวะ แล้วเด็กจะเหลือเหรอ

ดิสนี่ อ่ะเจ๊ง เพราะจ้างคนเล่น ไม่ตรง ตามต้นฉบับ

ดิสนี่ย์เอาแต่เรื่องที่เป็นกระแสสังคมมาทำ มันรู้สึกแบบอุสส่าหนีความจริงมาดูกาตูนแต่สิ่งที่มีนทำคือแบบ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย

เขาทำเพื่อความหลากหลายครับ ไม่ว่ากัน แค่ไม่ได้เงินผมไปอีกต่อไป

ความคิดผมนะ สำหรับผมมันดูจำเจ จนน่าเบื่อ (หนังใหม่ดูไม่น่ารอดยังไงไม่รู้😅)

อยากไปดูElementalนะ เพราะเป็นแฟนคลับดิสนีย์ แต่จากการสร้าง live action เรื่องล่าสุดเลยอย่าง The little mermaid ทำให้ไม่อยากสนับสนุนดิสนีย์อีกต่อไปแล้ว ถึงแม้จะอยากดูก็เถอะ😢😢😢😢😢

หมดยุคทองแล้วสินะ pixar กับ disney ผมชอบสองค่ายนี้นะมี cars up planes a bug life inside out และ toy story แต่พอหลังๆมาพอผมเห็น lgbtq ก็ปิดเลยผมผิดหวังมากไม่คิดว่าค่ายที่ดูมาตั้งแต่เด็กๆจะทำแบบนี้ขอให้การตูนร์เก่าๆของ disney และ pixar เป็นตำนานไปซะและเราจะไม่มีวันลืมวันเก่าๆที่เรามีความสุข ขำขัน และ สนุกกับมัน ผมจะคิดถึงความรู้สึกนั้นและจะไม่มีวันลืมมันเลยซักนิด

สมน้ำหน้าถอยไปหนูผี บาร์บี้จะเดินค่ะ 💅🏻👩🏼👛

พฤติกรรมคนเปลี่ยนไปแล้ว การดูหนังในโรง จะถือเป็นโอกาสพิเศษ คนรอดูทางออนไลน์ที่บ้านได้ ผมคนนึง อ้ออีกอย่าง พอโทนี่ตายแล้ว ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตามต่อละ 😅

หนังอวกาศ ชายกับชายจูบกัน แน่ใจนะครับว่าการ์ตูนทำให้เด็กดู ไหนนางเงือกความฝันในวัยเด็กพังทลายครับแล้วฉากใต้ทะเลก็มืดมาก บวกกันนักแสดงเล่นแข็งตอนยิ้มก็เหมือนไม่ได้ยิ้มครับรู้สึกแปลกๆ แทนที่จะทำเรื่องใหม่ไปเลยฉีกจักรวาลไปเลยดันเอาเรื่องเดิมแต่เปลี่ยนแค่คนที่ไม่ตรงสเปค จากที่ฟังมาพอเปลี่ยนผู้บริหารใหม่รู้สึกว่าหนังพยายามยัดเยียดครับ แล้วหนังที่ผู้บริหารคนเก่าเคยทำไว้ดีมากครับแต่ละเรื่องทำไมเขาถึงไม่ขาดทุนครับ คนใหม่ควรกลับไปคิดนะครับ

ขอบคุณ content มารัวๆเบยช่วงนี้ 😂 ส่วนตัวว่า หน้าหนัง/ หนังตั๋วอย่าง ของเรื่อง Elemental ..มันไม่น่าดึงดูดให้เข้าไปดูในโรงด้วยอะจ้า 😂 ..เราว่า ไม่ได้แค่อิมตัวกับ Pixar หนัง Super Hero ก็เริ่มอิ่มตัวแล้ว ..ไหนปัจจุบันจะมี Content Streaming เป็นทางเลือก แยอะแยะไปหมด ซีรีย์อีก ดูดเวลามากๆอะจ้า 😂 ..ถ้าหนังโรงไม่เป็รกระแสมากๆ เราว่า ปัจจุบันคนก็ไปดูหนังโรงน้อยลงด้วย ค่าตั๋วหนังแพงด้วย (รอลง Streaming ด้วย เพราะจ่ายค่าแพ็คเกจไปแล้วนะจ้า) 😂

Woke เข้าไปอีกถึงจะรู้สึกตัว

แฟนหนังดีสนีย์อาจจะอายุเยอะแล้วก็ได้ ส่วนนึงอาจจะมาจากสถานะการณ์โควิด ตั้งแต่เกิดโควิดผมก็แทบไม่เข้าโรงหนังเลย และหนังก็ไม่น่าตื่นเต้นเหมือนสมัยก่อนที่เคยดู ผมถ้าจะดูก็ดูในดิสนีย์พลัสแค่นั้น

อยากให้มี inside out 2 ครับ จริงๆก่อนหน้านี้ดิสนีย์ทำดีมาตลอดจนมาหลังๆเพี้ยนไปเยอะ อย่างเจ้าหญิงเทียน่ารู้สึกพอดีมาก สะท้อนชีวิตเจ้าหญิงยุคปัจจุบันได้ดีมาก

มันไม่ได้หมดยุคของดิสนี่ย์หรอกครับแต่มันหมดยุคของการพยายามขายความหลากหลายที่ใส่มาแบบไร้ชั้นเชิง แถมลูกค้าจากการขายความหลากหลายก็น้อยอีก คนปกติที่ดูเพื่อความสนุกก็ลดลงเพราะเหมือนมาดูโฆษณาเพิ่มในหนัง ในขณะที่การ์ตูนที่มาพร้อม ๆกันอย่างPuss in Boots 2 กับ Marioก็มาแต่คนดูกับคำวิจารณ์ยอดเยี่ยมเพราะมันขายแบบไม่ชัดเท่าดิสนี่ย์ไงละครับ ยกตัวอย่างLightYearแทนที่จะทำให้เรารู้สึกลุ้นไปกับตัวละครเอกแต่เสือกมีตัวละครเสริมโง่ ๆมา3ตัว ไม่เป็นงานไม่พอยังโทษพระเอกเวลาทำผิดอีก โคตรทุเรศเลย ถ้าเป็นไปตามอย่างที่คำโปรโมทว่าเอนดี้ชอบบัสเพราะเรื่องนี้ เอนดี้คงมีรสนิยมที่แย่มาก ๆเพราะตัวที่น่าจดจำไม่ใช่บัสแต่เป็นแมวหุ่นยนต์ ปล.มาริโอ้คำวิจารณ์ไม่ดีแต่ดูง่ายเซอร์วิสดีคนดูเลยชอบ

❤❤❤ ติดตามแล้ว ติดตามอยู่ ติดตามต่อ

ยับเพราะขยันดันพวกไอ้มืดกับนางสาวราอูล​ลลลลแท้ๆ

สำหรับเรา หนังมันจำเจ พล๊อตและตัวละครเดิมๆ หนังดิสนี่ย์เป็นอะไรที่เดาเนื้อเรื่องง่ายมาก ตัวเอกจะต้องมีปัญหา เป็นแกะดำในครอบครัว แตกต่างจากคนรอบข้าง ครอบครัวตัวเอกจะต้องยึดติดกับอะไรเดิมๆ และไม่สนับสนุนตัวเอกให้ออกนอกกรอบ ตัวเองจะมีก๊วนเพื่อนพากันซ่า ตัวเองและก๊วนเพื่อนจะก่อปัญหาบางอย่างจนกระทบต่อคนทั้วเมืองไม่ก็โลก ตัวเองและก๊วนเพื่อนจะออกผจญภัยตามหาตัวเอง ตัวเอกและก๊วนเพื่อนจะแก้ปัญหาและช่วยเมืองหรือโลกได้ ทุกคนยอมรับในตัวเอก เสนอมุมมองความรักของครอบครัว จบ….. พล๊อตแบบนี้วนซ้ำมาหลายเรื่องมาก มันเลยทำให้คนดูเบื่อ อีกอย่างเรื่องเสนอความหลกหลายทางเชื้อชาติ เราพอเข้าใจนะเพระอเมริกาประสบปัญหาการเหยียดเชื้อชาติมากขึ้น แต่การยัดเยียดไม่ได้ช่วยอะไร และดิสนีย์ไม่คิดจะทำอะไรใหม่เลย เอาแต่เปลี่ยนเชื้อชาติตัวละครไปเรื่อยจนคนดูเริ่มเอียน อีกอย่างระบบสตีมมิ่งเหมือนเป็นดาบสองคม เพราะหลังจากโควิด เหมือนการใช้ขีวิตคนทั่วไปเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง อย่างจะหาหนังดูแทนที่จะเข้าโรง ก็เปิดทีวีอยู่บ้านก็ดูได้ และสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องเดินทางไปไหน