อิหร่าน 8 วัน ตามรอยอารยันเปอร์เซีย เตหะราน-ชีราซ-เปอร์ซีโปลิส-อิศฟาฮาน-คาชาน เดินทาง : 9-12 มีนาคม 2560
เที่ยวชม พระราชวังโกเลสตาน วังแห่งนี้ก็ยังคงความงดงามในการตกแต่งภายในด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชรที่สุดอลังการ และการตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องเคลือบที่มีสีสันและลวดลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปะยุคกอญัร ชมอัครสถาน ซึ่งทุกคนที่มาเยือนอิหร่านต้องไม่พลาดชม นั่นก็คือกรุอภิมหาสมบัติแห่งชาติอิหร่านที่ พิพิธภัณฑ์อัญมณี ซึ่งอัญมณีจากทุกยุคทุกสมัยของกษัตริย์ทุกราชวงศ์ที่เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เซีย สถานที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยตาหนักถึง 7 แห่ง ตาหนักขาว ในอดีตเป็นที่ประทับของกษัตริย์ ชาร์ ปาห์ลาวี กษัตริย์องศ์สุดท้าย และเป็นที่เก็บสะสม ของมีค่ามากมาย ชมตาหนักเขียว ซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดยใช้หินอ่อนสีเขียว ภายในประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมกระจกที่งดงามตระการตามาก ชมมัสยิดสีชมพู ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงามแปลกตามาก เพราะประดับไปด้วยกระเบื้องโทนสีแดง-ชมพู-เหลือง ชมอนุสรณ์สถานของท่านศาสนจารย์อาลี อิบบิน ที่ตกแต่งสวยงาม ด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชร ที่ระยิบระยับ ภายใต้โดมประธาน ที่มีรูปทรงสวยงาม ชมป้อมการิมข่าน สร้างโดยท่านการิมข่านแห่งราชวงศ์ซันในช่วงที่ท่านสถาปนาเมืองชีราช ชมพระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส ชมนครหลังความตาย นัค-เช รอสตัม หรือ สุสานสี่กษัตริย์ เป็น สุสานของพระมหากษัตริย์แห่ง ราชวงศ์อะคามินิดที่เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เซียและเคยประทับที่พระราชวังปอร์ซีโปลิส ก่อนที่จะสวรรคต เดินทางสู่เมือง อิศฟาฮาน ชม พระราชวังเชเฮลโซตุน ที่สร้างในปี ค.ศ.1614 สมัยชาห์อับบาสที่ 1 มาแล้วเสร็จในปี1647สมัยกษัตริย์ชห์อับบาสที่2 มีเสาไม้สูงที่โถงด้านหน้า 20 ต้นซึ่งทอดเงาลงไปบนผืนน้าที่ใสนิ่งในสระซึ่งอยู่ด้านหน้าวัง ในห้องโถงด้านในของเชเฮลโซตุน มีภาพเขียนแบบเฟรสโกขนาดใหญ่หลายภาพที่มีชื่อเสียง ชมมัสยิดอิหม่าม ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดทางด้านทิศใต้ของจัตุรัส เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นมัสยิดที่มีองค์ประกอบทางด้านสถาปัตย์ที่สวยงามที่สุดในประเทศอิหร่าน ชม พระราชวังอะลีคาปู สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์ ชาห์อับบาสที่ 1 และชมมัสยิดชีค-ล็อตฟุลเลาะห์ ซึ่งเป็นมัสยิดเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่จะเข้ามา ทาการละหมาดได้ สร้างโดยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ระหว่างปีค.ศ. 1602-1619 ขึ้นชื่อว่าวิจิตรสวยงามที่สุดในการตกแต่งภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โดมประธานซึ่งอยู่ตรงกลางหลัง ชมสะพานคาจู สะพานแห่งนี้สร้างข้ามสองฝั่งของแม่น้าสายันเด-รูด โดยกษัตริย์ ซาห์อับบาสที่ 2 แห่งราชวงศ์ ซาฟาวิด เมื่อปี ค.ศ 1650 โครงสร้างตอนล่างเป็นหิน ส่วนตอนบนเป็นอิฐ มีพลับพลาที่ประทับสาหรับการเสด็จแปรพระราชฐานในบางเวลาของพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่กึ่งกลางบนชั้นที่สองของสะพาน นอกจากนั้นที่ฐานล่างสุดของตัวสะพานยังสามารถปิดช่องระบายน้าได้ด้วยหากต้องการกักเก็บน้าไว้ใช้ในบางช่วงเวลา ชม โบสถ์แว๊งค์ เป็นโบสถ์ประจาชมชนชาว อาร์เมเนีย ซึ่งนับถือศาสนา คริสต์ นิกายออร์โธด๊อกซ์ ตัวโบสถ์สร้างระหว่างปี 1606-1655 หากมองจากภายนอกจะเห็นโดมของโบสถ์ เหมือนเป็นโดมมัสยิด พิพิธภัณฑ์ ของชาว อาร์เมเนียน ซึ่งจัดแสดง ภาพเขียนของบุคคล สาคัญของชาว อาร์เมเนียน และบางส่วนจัดแสดงวิวัฒนาการ เกี่ยวกับ การพิมพ์ในอิหร่าน ซึ่งชาวอาร์เมเนียนเป็นผู้บุกเบิก และส่วนสุดท้ายเป็นแผนที่ขนาดใหญ่จัดแสดงให้เห็นพื้นที่สังหาร ซึ่งชาวอาร์เมเนียน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศ ตุรกี ถูกสังหารหมู่ครั้งแล้ว ครั้งเล่า รวมจานวนแล้วมากกว่า 500,000 คน ซึ่งพวกเขายังพยายามเรียกร้องความยุติธรรมต่อชาวโลก มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไร้การเหลียวแลจากองศ์กรต่างๆ โบสถ์แห่งนี้ เดินทางจากเมืองอิศฟาฮานมุ่งขึ้นเหนือสู่หมู่บ้านโบราณที่อยู่บนเทือกเขาซาร์โกรส ก็คือหมู่บ้านอะบียาเนห์ ซึ่งเชื่อว่ามีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปีเศษ ชาวบ้านที่นี่แต่งกายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นชนชาติที่สืบเชื้อสายมาจากพวกอีลาไมท์ เดินทางสู่เมืองคาชาน เชื่อว่ามีมาตั้งแต่ประมาณ 4,000ปี ก่อนคริสตกาลตัวเมือง ที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 11-13 สมัยที่พวกเซลจุกมีอานาจปกครองเหนืออาณาจักร เปอร์เซีย มีชื่อเสียงทางด้าน การทาเครื่องปั้นดินเผา กระเบื้องเคลือบและการทอผ้า ทอพรม