Рет қаралды 8,485
27 เม.ย. 65 - บนสังคมออนไลน์แชร์คำเตือนเกี่ยวกับ “ฟลูออไรด์” ซึ่งเราคุ้นเคยกันว่า อยู่ในยาสีฟันหลายชนิดนั้น เป็นพิษต่อร่างกาย ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้ไอคิวต่ำ และทำให้เป็นโรคต่าง ๆ หลายโรค เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
🎯 ตรวจสอบกับ รศ.ทพญ.ดร.วลีรัตน์ ศุกรวรรณ
ผู้เชี่ยวชาญสาขาทันตกรรมสำหรับเด็ก
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สัมภาษณ์เมื่อ 22 เมษายน 2565
🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์
-----------------------------------------------------
📌 สรุป 📌
Q : ฟลูออไรด์เป็นสารเคมีที่เป็นพิษแบบที่เขาเตือนนี้ จริงไหมครับ ?
A : ไม่เป็นความจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ๆ
การที่เราใช้ฟลูออไรด์ในชีวิตประจำวัน ถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย
แล้วก็มีประโยชน์มากกว่าโทษนะคะ
Q : ที่จริงแล้ว ฟลูออไรด์มีอยู่ทั่วไป ?
A : เราพบฟลูออไรด์ได้ทั้งในอากาศ ในดิน ในหิน หรือในน้ำนะคะ
โดยเฉพาะแหล่งน้ำจากทางธรรมชาติ
นอกจากนี้อาหารพืชผักผลไม้บางชนิด
ก็จะมีฟลูออไรด์เป็นองค์ประกอบอยู่ในนั้น
Q : หากจะให้โทษ จะต้องมีปริมาณสูงมาก ๆ ?
A : ความเป็นพิษของฟลูออไรด์ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ
เราต้องได้รับปริมาณมาก ๆ หรือ ปริมาณสูง ๆ อย่างต่อเนื่อง
สะสมเป็นระยะเวลานาน ๆ
ปริมาณที่มากอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ยาวนาน
Q : เขาบอกว่า ฟลูออไรด์ทำให้ไอคิวต่ำกว่า จริงเหรอครับ ?
A : ก็ไม่พบความสัมพันธ์ คือไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับ
การได้รับฟลูออไรด์กับระดับไอคิว หรือความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก
Q : เขาบอกว่า ทำให้เกิดอีกหลายโรค ?
A : การได้รับฟลูออไรด์ ก็ไม่มีความสัมพันธ์ กับการเกิดโรค
ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน หรือโรคทางต่อมไร้ท่ออื่น ๆ
Q : เขาอ้างอิงว่ามีงานวิจัยเลยนะครับ ?
A : พอเราอ่านในหลายละเอียดของงานวิจัย
ที่ออกมาจากกลุ่มต่อต้านการใช้ฟลูออไรด์เหล่านี้
เราก็จะพบว่า การออกแบบการทดลองส่วนมาก
เขาก็จะทำการทดลองในสัตว์ทดลองเป็นหลัก
แล้วก็ให้สัตว์ทดลองเหล่านี้ได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูงมาก ๆ
มันจะเป็นการทดลองที่ค่อนข้างพยายามให้เกิดโทษของฟลูออไรด์อยู่แล้ว
Q : ในบทความที่แชร์กัน เตือนเรื่องฟลูออไรด์ในน้ำประปา ?
A : สำหรับประเทศไทย
ก็จะต้องมีปริมาณฟลูออไรด์ไม่เกิน 0.7 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร
หรือ 0.7 ส่วนในล้านส่วน
ซึ่งจากการสำรวจแหล่งน้ำที่เอามาน้ำประปา
ก็พบว่าอยู่ในปริมาณฟลูออไรด์ที่ปลอดภัย สามารถนำมาใช้ได้
แล้วประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ไม่ได้มีมาตรการ
ในการเติมฟลูออไรด์เสริมเข้าไปในน้ำประปาแต่อย่างใด
Q : แล้วตามข้อเท็จจริง ผลเสียจากฟลูออไรด์ที่มากเกินไป เป็นยังไงครับ ?
A : พบได้บ่อยที่สุด ก็จะไปเกิดกับฟัน และกระดูก
ฟันที่ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป เกิดฟันตกกระ เป็นหลุม หรือเป็นร่อง
บางครั้งอาจจะเห็นเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล
ส่วนการสะสมของฟลูออไรด์ที่บริเวณกระดูก ก็อาจจะเกิดที่บริเวณข้อต่อต่าง ๆ
สำหรับโทษของฟลูออไรด์ ที่มีต่อระบบปราสาท ก็จะเกิดขึ้น
ก็ต่อเมื่อได้รับระดับฟลูออไรด์ที่เป็นพิษในครั้งเดียว
แต่โดยปกติแล้ว โทษในระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
พบได้น้อยมากในชีวิตประจำวัน
Q : ที่แชร์กันยังบอกว่า ฟลูออไรด์ เป็นแค่ขยะอุตสาหกรรม
ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อสุขภาพเลย ?
A : การค้นพบประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุของฟลูออไรด์
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของวงการทันตแพทย์ก็ว่าได้
ทำให้เราลดอัตราการเกิดโรคฟันผุลงไปได้เยอะ
อย่างมีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว
ก็เป็นที่มาของการเติมฟลูออไรด์ลงไป
ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทางด้านทันตกรรม
การป้องกันฟันผุโดยฟลูออไรด์ที่ดีที่สุด
ก็คือการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมกับฟลูออไรด์
ในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง
Q ; ยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุไม่ได้เหรอครับ ?
A : อาหารที่มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาล
จะถูกเชื้อที่อยู่ในช่องปาก เปลี่ยนแปลงให้เป็นกรด
หลังจากการรับประทานเสมอ
ฟันที่ถูกแช่อยู่ในกรดนาน ๆ ก็จะถูกกัดกร่อนผิวด้านนอกออกไป
การที่เราใช้ยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์
ก็จะแค่กำจัดคราบสกปรกที่ติดกับฟันออกไป
หรือเป็นการชะล้างกรดออกไป
แต่จะไม่มีตัวฟลูออไรด์เข้าไปเป็นส่วนประกอบของเคลือบฟัน
เพราะฉะนั้น คราวหน้าถัดไปที่เราทานอาหาร และมีกรดเกิดขึ้น
มันก็จะมีแต่การละลายเคลือบฟันออกไป แต่ไม่มีการดึงแร่ธาตุกลับมา
รวมทั้งตัวเคลือบฟันที่สูญเสียแร่ธาตุออกไปแล้วค่ะ
ความแข็งแรงมันก็จะลดลง
ในขณะที่ถ้ายาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
ฟลูออไรด์ก็จะกลับเข้าไปจับกับผิวเคลือบฟันที่ถูกละลายแร่ธาตุออกไปแล้ว
แล้วก็มีความแข็งแกร่งแข็งแรงมากขึ้น
และก็ต้านทานต่อการเกิดกรดครั้งต่อไป หลังจากการรับประทานอาหาร
จะทำให้เกิดกระบวนการการเกิดฟันผุในครั้งต่อไปได้ยากขึ้น
Q : อาจารย์ยังแนะนำย้ำเตือนแบบนี้ ?
A : การป้องกันฟันผุ เราสามารถทำได้เองที่บ้านนะคะ
ทำได้ง่าย ๆ นิดเดียว ก็ด้วยการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์
ใช้เวลาแปรงอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 นาที
พยายามบ้วนน้ำให้น้อยที่สุด หรือคายเฉพาะฟองออก
แล้วก็งดการดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหาร อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที
เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันนั้นได้มีโอกาสสัมผัสกับเคลือบฟัน
แล้วก็สร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันของเราค่ะ
Q : สรุปแล้วที่แชร์เตือนว่า “ฟลูออไรด์เป็นสารพิษ” นี่เป็นอย่างไรครับ ?
A : ไม่ถูกต้อง จะเป็นการส่งเสริมความเข้าใจผิด ๆ ต่อการใช้ฟลูออไรด์ค่ะ
ดังนั้นก็ไม่ควรจะแชร์ต่อค่ะ
👉 ทุกวันนี้ ข้อมูล ข้อความ “น่าเชื่อถือ” สร้างง่าย โดยใครก็ได้
ดังนั้น ก่อน “หลงเชื่อ” สิ่งใด ควรตรวจสอบว่า “เชื่อถือได้” จริง ๆ
#ชัวร์ก่อนแชร์ #sureandshare
-----------------------------------------------------
🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ "ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์" 🎯