โอกาสมีสิ่งมีชีวิตก็ถือว่าน้อยนิด ถึงมีโอกาสสูญสิ้นอารยะธรรมก็สูงมาก เอาแค่ทรงภูมิแบบเราแค่เริ่มจะฉลาดไม่กี่พันปีก็เริ่มจะทำให้ตัวเองเสี่ยงจะสูญพันธุ์แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเป็นแสนเป็นล้านปี ความทรงภูมิของเราเป็นตัวเร่งจัดการตัวเราเอง😅

เมื่อพูดถึงเอกภพ ดังนั้นโลกเป็นตัวอย่างดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่เอื้ออำนวยต่อวิวัฒนาการ อย่างไรก็ตาม แต่ละกระจุกกาแล็กซีย่อมมีระบบสุริยะที่เอื้ออำนวยต่อวิวัฒนาการเช่นเดียวกับเรา แต่ก็คงจะมีอยู่จำนวนน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ระบบสุริยะของเรามีความบังเอิญ ที่ลูกอุกกาบาตตกมายังพื้นโลกในยุคไดโนเสาร์ แท้จริงแล้ว ความบังเอิญดังกล่าวนี้เป็นตัวแปรสำคัญทำให้วิวัฒนาการไปสู่จุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีระบบสุริยะที่คล้ายกับเราในGalaxyใดก็ตาม ดังนั้นจะต้องมีตัวแปรดังกล่าวเช่นกันถึงจะทำให้วิวัฒนาการไปสู่จุดสูงสุดที่เรียกว่า มนุษย์ ดังนั้นจึงทำให้มนุษย์เป็นผู้ทรงภูมิปัญญาเพียงหนึ่งเดียวในเอกภพ

สิ่งง่ายๆที่มนุษย์รู้แล้ว คือชีวิตที่เกิดขึ้นสั้นนักในโลก3มิติ(4คือรวมเวลา) ไม่มีความเสถียรแน่นอนอะไรเลยเข้าในหลักเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป อย่าไปทุกข์ใจในเรื่องเหล่านี้

ขอโทษที่เห็นปกคลิปตอนแรกเป็น anti-life equation ครับ

ฟังสนุกมากค่ะ เล่าได้ไหลลื่น เข้าใจตามได้ง่ายทุกคลิปเลย ชอบเข้ามาฟังค่ะ😊

ส่วนตัวผมคิดว่า รู้จำนวนไปก็เท่านั้นแหละ ทราบใดที่จักรวาลยังไม่หยุดขยายตัว ผลลัพธ์ที่แน่ชัดก็ไม่น่าจะมีหรอกครับ จักรวาลกว้างใหญ่ในระดับระยะทางใช้เป็นหน่วยปีแสงสมองเราไม่สามารถสร้างภาพจำลองหรือจินตนาการได้หรอกครับเรารู้แค่ว่าจำนวนดาวเคราะห์ที่มีอยู่ยังมากว่าเม็ดทรายในโลกของเรา ยังไงเราก็ไม่ใช่1เดียวในจักรวาลอย่างของแท้แน่นอนครับ ไหนจะเรื่องจักรวาลที่มีมากกว่า1จักรวาลอีก สิ่งที่เราควรค้นหาในตอนนี้ก็คือ เมื่อถึงเวลาได้พบเจอกันเเล้ว จะสื่อสารกันยังไงให้รู้เรื่องจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันก็น่าจะอยู่ที่ประเด็นตรงนี้แหละครับ

ขอบคุณที่ทำช่องรายการให้ความรู้ ขอบคุณจริงๆ ทำต่อไปครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมมีทฤษฎี หนึ่งว่า มนุษย์เราไม่ได้อยู่มิติเดียวกันกับ สิ่งมีชีวิตอื่นๆนอกโลกที่อยู่ต่างละมิติ เราจึงไม่พบเจออะไรเลยที่บ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่น (มิติที่ว่านั้นคือมิติคู่ขนาน)

ก็ถ้าเอาวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตฐานคาร์บอนมาคิดมันก็น้อยแหละ แต่ถ้ารวมเอารูปแบบชีวิตอื่นที่ไม่ใช่คาร์บอน เช่น รูปแบบชีวิตเชิงฐานโลหะที่เป็นพื้นฐานอารยธรรมจักรกลความเป็นไปได้มันก็จะสูงขึ้นมาเพราะรูปแบบชีวิตแบบนั้นไม่จำเป็นต้องใช้สภาพแวดล้อมการดำรงชีพแบบมนุษย์ที่ต้องใช้อากาศน้ำหรืออาหารมารักษาสภาพดำรงชีพ อารยธรรมรูปแบบนี้มีความเป็นไปได้สูงสุดเมื่อเทียบกับระดับการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่มุ่งเน้นไปทางการยืดอายุขัยหรือสู่ความเป็นอมตะ ซึ่งถ้าไม่บรรลุเรื่องการยืดอายุขัยทางชีววิทยาก่อนก็จะมุ่งเน้นไปทางสละความเป็นคนเอาอุปกรณ์เสริมต่างๆมาเพิ่มในร่างกายเน้นกาคเชื่อมต่อภายนอก ซึ่งไม่ว่าทางไหนก็จะยกระดับอารยธรรมสูงขึ้นมามากกว่าคนบนโลกอยู่ดี แถมยังทำให้การเดินทางในอวกาศ การจำศีลหรือการสำรวจจักรวาลในช่วงชีวิตนั้นมากกว่ามนุษย์อย่างเทียบกันไม่ได้ รูปแบบชีวิตนี้ที่ใกล้เคียงที่สุดกับมนุษย์ก็คือพวกเอไอแอนดรอยด์หรือไซบอร์กที่มนุษย์พยายามเอามาแทนที่คนนั่นล่ะ เมื่อไปถึงจุดหนึ่งคำถามเชิงปรัชญาจะตามมาว่าเอไอที่มีความคิดหรือความอิสระจะถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ความหมายในเรื่องการสืบพันธ์ก็อาจต้องมาตีความใหม่ในเรื่องของการปลูกถ่ายเปลี่ยนอวัยวะ การโคลนนิ่ง การถ่ายโอนความทรงจำจากร่างหนึ่งไปอีกร่างซึ่งจักรกลทำได้อยู่แล้วตราบที่ชุดความจำไม่เสียหายหรือกู้คืนได้ ซึ่งคนเองก็คงไม่ต่างกันในจุดนั้นถ้าก้าวหน้าพอทำตามที่ว่ามาได้ อีกประเด็นหนึ่งที่ทฤษฎีต่างๆบนโลกไม่กล่าวถึงคือเรื่องการใช้สสารมืด ปฏิสสาร หรือพลังงานมืดที่มนุษย์ยังไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะเพิ่มเติมเอามาใช้ประโยชน์ได้นอกจากตีความกว้างๆแบบรวมๆเท่านั้น การจะติดต่อสื่อสารได้ฝั่งรับและฝั่งส่งสารต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ตรงกันหรือมีความเข้ากันได้ก่อนถึงจะรับรู้ถึงกันได้ มนุษย์ส่งไปในรูปแบบสิ่งของกับคลื่นวิทยุหรือคลื่นแถบอื่นแต่อีกฝ่ายที่พยามจะติดต่อค้นหานั้นอยู่ในเชิงสสารกับพลังงานเดียวกันหรือเปล่า หรือต่อให้อยู่ในระนาบมิติของสสารพลังงานเดียวกันจะมั่นใจได้อย่างไรว่าอีกฝั่งมีการใช้รูปแบบติดต่อค้นหาแบบเดียวกันไม่ได้ใช้ระบบที่ล้าสมัยกว่าหรือทันสมัยกว่าที่มนุษย์ใช้งานอยู่ อย่างบนโลกนี้แค่เสียงของมนุษย์กับสัตว์ใช้นี่ก็ต่างกันแล้วนะไม่รวมถึงภาษาหรือทางพวกฟีโรโมนที่มนุษย์รับรู้ไม่ได้อีก ไหนจะเรื่องของเวลา แต่ละอย่างที่ว่ามามันอาจจะไม่เกี่ยวกันตรงๆแต่ก็นำมาเทียบได้ถึงเรื่องที่ว่าทำไมการที่คิดว่าไม่มีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตหรือการติดต่อหากันรวมถึงเปอร์เซ็นในความเป็นได้ต่ำนั้นมันหลุดไปจากความเป็นจริงที่ละตัวแปรสำคัญอย่างระดับอารยธรรมหรือรูปแบบสิ่งมีขีวิตออกไป จริงๆมันยังมีเรื่องที่ว่ามีเรื่องของเทคโนโลยีการอำพรางตัวหลบการตรวจจับเพื่อความปลอดภัยในการถูกสอดแนมหาดาวที่อาจจะกลายเป็นอาณานิคมหรือเกิดสงครามล่าทรัพยากรอีก ขนาดมนุษย์ยังไม่ไว้ใจกันเองเลยแล้วอีกฝ่ายจะมั่นใจได้อย่างไรว่าส่งตอบกลับมาแล้วจะปลอดภัย ยิ่งอวกาศกว้างใหญ่มีการเกิดดับตลอดมันยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่ที่จะไม่มีอารยธรรมอื่นๆหรือดาวที่มีชีวิตนะ อย่าลืมว่ามนุษย์เพิ่งสร้างมาได้แค่พันกว่าปีเองถ้าไม่นับประวัติศาสตร์ก่อนหน้าที่ฝั่งตะวันตกหรือคนยุคใหม่ตีความเวลาจริงๆไม่ได้

มีตัวแปรของ "ช่วงเวลา" ด้วย อายุของดวงอาทิตย์ 4,500 ล้านปี แต่มนุษย์เราเพิ่งอยู่มา 3-4 แสนปี และมีความรู้มีเทคโนโลยี่ที่สูงพอแค่ไม่กี่ร้อยปี เทียบกับอายุแกแลคซี่โอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาในช่วงเวลาเดียวกันจึงน้อยลงอีกมาก 😂

แปลก รู้ทั้งรู้ว่า"ขณะนี้ตอนนี้".การจะเจอสิ่งมีชีวิตหรือโลกที่คล้ายเราแบบ100%แม้กะทั้งการเดินทาง แทบจะเป็น 0% แต่สิ่งที่มันชัดเจนนั้น คือ โลกของเราอันสมบูรณ์แบบสุดๆ จะด้วยความบังเอิญที่แทบเป็นไปไม่ได้สุดๆของโลกและสิ่งมีชีวิต แต่สิ่งมีชีวิตที่มีสติมิปัญญากลับไม่รักษาโลกที่เป็นบ้านหลังเดียวตอนนี้เอาไว้ก่อนที่จะมองหาแหล่งที่อยู่ใหม่ ทั้งๆที่มืดบอดในตอนนี้

ถึงจะมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวจริง แต่เราก็มีข้อจำกัดทั้งระยะทางและเวลา คงไม่มีทางเจออารยะธรรมอื่น นอกจากจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวข้ามข้อจำกัดนั้นได้

รอคอนเท้นเรื่องนี้นานมากกกกก ขอบคุณที่ทำออกมานะคะ กำลังสนใจเลย ❤❤❤

อยากให้ทำข้อมูลเกี่ยวกับ ดาววิ่ง ที่ทอฟฟี่3บาท50 และโน๊ต อุดม บอกว่าเป้นจานบินมนุษย์ต่างดาวหน่อยครับ ว่าความจริงมันคืออะไร

ส่วนตัวผมคิดว่า สิ่งมีชีวิตแบบพวกเรากำเนิดขึ้นเพราะความ"ฟลุ้ค"แบบว่าต้องมีองค์ประกอบจากดาวดวงอื่นมารวมกันที่โลกแบบไม่ขาดไม่เกิน ต่อให้มีจำนวนดาวเป็นอนันต์แต่ถ้ามึงไม่ฟลุ้คอย่างโลก สิ่งมีชีวิตไม่เกิด

สำหรับผมผมคิดว่าสิ่งที่ภูมิปัญญาเขาพัฒนาจนถึงขีดสุด จนใช้กระเเสจิตสื่อสารกัน เปรียบเทียบ เขาคือ มนุษย์เราคือมด มดสื่อสารกับมดรุ้เรื่องเเต่สื่อสารกับคนไม่ได้ สำหรับผมคิดนะ

สิ่งมีชีวิตเชิงภูมิปัญหาเกิดได้น้อยมาก เทียบจากจำนวนสปีชี่ส์สิ่งมีชีวิตบนโลก กับมนุษย์ ถ้าง่ายก็คงเห็นเยอะบนโลกแล้ว

โลกที่มีสิ่งมีชีวิตมีจํานวนหลักหมื่อนอาจ1-5หรือ9หมื่นจักรวาลก็ได้ความจริงเราไม่ต้องค้นหาสิ่งมีชีวิตอื่นๆเพียงแค่เราต้องยอมรับพวกเขาให้ได้เท่านั้นเพราะนั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรรูปลักญณ์แค่สิ่งปรพกอบภายนอกทุกสรรพสิ่งมันคงอยู่ในรูปแบบของมันเท่านั้นทุกอย่างในจักรวาลมันไม่รุ้จักจบสิ้นและไม่มีจุดเริ่มต้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาไม่มีจุดเีริมต้นและจุดสิ้นสุดธาตุทิพย์เหล่านั้นคงอยู่ทั้งอดีต ปัจจุบันและ อนาคต

อยากให้ลองขุดดาวอังคาร บางที่เราอาจจะได้คำตอบอะไรเร็วขึ้น ในอดีตอาจจะมีสิ่งหนีมาจากดาวดวงอื่นที่ตายลง และย้ายมายังโลก แต่เขาเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่โดยไม่สอนเรื่องเทคโนโลยี เพื่อที่อายุโลกจะได้อยู่ได้นานขึ้น ลองคิดดูสิ ถ้ามนุษย์มีเทคโนโลยีตั้งแต่หลายพันปีที่แล้ว ป่านนี้ทรัพยากรโลกอาจจะหมดไปแล้ว แต่ด้วยความที่เรามีดีเอ็นเอ เราก็ค่อยๆพัฒนาจนเก่งเกือบเท่ากับบรรพบุรุษของเราแล้ว

จะเนิร์ดไปไหนเนี่ย ความรู้คือแน่น แต่ละตัวแปรคือมีที่มาที่ไป ค้นคว้าไปอีก เอามาย่อยฟังง่าย มีรูปอีก ดีงามสำหรับเด็กเนิร์ดจริงๆ อาจาร์ยทุกคนเอาแบบนี้ตอนเรียนได้มั้ย มันเก็ทง่าย

ขอบคุณความรู้ครับ คนที่ให้ 0.001 ในการเกิด อันนี้คือน้อยเกิน ในเมื่อเราเกิดมาได้ มันจึงเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีแค่โลกเราที่อาศัยอยู่ได้ แต่...จากที่ผมคำนวณ ทั้งกาแลคซี่ของเรา ผมคิดว่ามีอารยธรรมระดับมนุษย์ขึ้นไป ประมาณ 9 - 30 อารยธรรม ไม่เกินนี้ครับ

ลองค้นหาคำว่า "Project Serpo" ดูคับ มันคือโครงการแลกเปลี่ยนมนุษย์ต่างดาวของอเมริกาคับ น่าจะไขข้อกระจ่างอะไรหลายๆอย่างได้

ดูครั้งแรก ชอบเลยครับ ขอบตุณสำหรับความรู้ดีๆๆมากมายเลยครับ จะติดตามทุกๆครัังไปครับ

สิ่งมีชีวิต เช่น มนุษย์ ซึ่งร่างกายประกอบด้วยอนุภาคมูลฐานขนาดเล็ก 3 อนุภาคคือโปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน หรือเรียกง่ายๆคืออะตอมให้มองในมุมที่ว่าอะตอมหรืออนุภาคพวกนี้สามารสารสิ่งมีชีวิตได้แต่ตัวอนุภาคหรืออะตอมตัวมันเองก็ไม่มีชีวิต เเล้วสิ่งมีชีวิตทำไม่ต้องมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในเมื่อเหล็กก็เกิดมาจากอะตอมหรือสสารอะไรต่างๆก็เกิดมาจากอะตอมถ้าให้มองในมุมกลับกันมนุษย์อาจจะเป็นก้อนหินก้อนหินก็อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตก็ได้สลับกัน

สมมุติฐานของผม มนุษย์ศึกษาตัวเองและดวงดาว และมนุษย์ก็อาจจะจำลองหรือควบคุมหรือทำให้เกิดโลกและระบบสุริยะ มนุษย์อาจเป็นผู้ที่ทำลายล้างกันเองจนสูญสิ้นหมดก็เป็นได้ การสร้างต้องมีวัตถุดิบ สร้างได้ควบคุมไม่ได้

เอกภพกว้างใหญ่ ขนาดไหน ไม่มีใครรู้จุดสิ้นสุด การเดินทาง การติดต่อระหว่างดาว เป็นไปไม่ได้ ด้วยวิทยาการของเรา ทำไมเราถึงคิดว่าสิ่งมีชีวิต ต้องใช้ออกซิเจน มีธาตุ หรือสภาพแวดล้อมเหมือนสิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์

ถ้าเรารู้ค่าตัวแปรทั้งหมดเป๊ะๆ ก็หมายความว่าเรารู้ค่า N มาก่อนแล้ว ซึ่งผมว่าเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเท่ากับเราสำรวจทั้งกาแลคซีได้หมดจริงๆ

ไม่มีเอเลี่ยนนี่สิแปลก กว้างใหญ่จนนับไม่ได้ นี่ก็แปลก ถ้าพระเจ้าสร้าง ก็ยิ่งแปลก ไม่รู้จะโปรดักชั่นใหญ่อลังการดาวล้านดวงเพื่อ? 😂

ทุกคืนจะต้องเปิดมาดูช่องนี้ว่าลงคลิปยัง ในที่สุดก็มา😂 รอเลยครับ

ผมคิดว่า ยังไงสมการนี้ก็ยังใช้มนุษย์เป็นปัจจัยในการตั้งสมมุติฐานการค้นหาอยู่ บางทีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาอาจไม่ได้เหมือนหรือคล้ายกับมนุษย์ ถ้าไม่ได้เจอก็ยากที่จะบอก

เทคโนโลยีที่ชอบมากที่สุดก็น่าจะเกี่ยวกัน ยานอวกาศ เดินทางด้วยความเร็วสูง 2 ก็น่าจะเป็น สิ่งเคลื่อนย้ายสภาวะ และสสาร ขนาดใหญ่

เคยอ่าน All tomorrow ผมว่ายังไงเอเลี่ยนต้องมีครับ ติดแค่ช่วงเวลา ระยะทาง=เวลา บางทีเวลานับพันล้านปีกว่าสิ่งมีวิตจะวิวัฒนาการระดับสูงมาเจอกัน

มนุษย์ทำได้แค่ส่งสัญญาณคลื่นต่างๆแต่ยังไม่สามารถเดินทางไปถึงดวงดาวต่างๆ ระบบสุริยะอื่นๆและแกแลคซี่อื่นๆได้เลย ดังนั้น ทุกวันนี้นี้มนุษย์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากการเดาว่า เดาว่า คาดว่า คิดจินตนาการไปต่างๆนานาก็แค่นั้นเอง

โอกาสยังไม่เป็นศูนย์ ลิซ่าอาจจะบังเอิญมาดูคลิปนี้แล้วทักไปหาก็เป็นได้

มันจะเหงา และ หว่าเว้ มากๆเลยนะ ถ้าสิ่งมีชีวิต มีแค่โลกของเราที่เดียว ถ้านับจาก จำนวนกาแล็กซี่ที่มีเป็นพันล้าน ส่วนตัวก่อนตาย หรือในช่วงชีวิตนี้ อยากเห็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ไม่จำเป็นต้องเป็น สิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมก็ได้ เอาแค่ สัตว์เซลล์เดียว ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤ขอบคุณมากนะที่ออกมาสอนให้รู้ให้เข้าใจในสิ่งที่มนุษย์ในโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากและในทุุกสิ่งของอวากาศที่มีอะไรอีกมาก ขอบคุณมากนะครับ

ขออนุโมทนาด้วยครับพี่เอก ถึงว่าไม่ได้ลงคลิปนานเลย

สมการนี้มันหา เผ่าที่เหนือกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ แน่นอนเราพัฒนาจนสามารถรับสารได้ แต่ก็ส่งไประดับหลายปีแสงไม่ได้ แล้วเราจะหวังให้เผ่าไหนส่งมา ระยะมันไกลมากๆๆๆ แล้วหาประโยชน์จากมันไม่ได้เลย สู้ประมาณจากจำนวนดาวขึ้นมาเลยดีกว่า หรือรอให้มีการรับสารจริงๆ ดีกว่า

ถ้าเกิดมนุษต่างดาวไม่มีอยู่จริง โลกของเราก็โชคดีมากๆในเอกภพ

นี่แหละพระพุทธเจ้าได้บอกไว้แล้วมากกว่า 2500 กว่าปีเกี่ยวกับเรื่องดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตทั้งหมด 4ดวงดาว

เกิดแล้วก็ดับ ติดต่อกันยากมาก

ผมคิดว่าเวลาเท่านั้นครับ เรายังได้แค่เริ่มต้น มันไม่น่าจะง่ายและไวขนาดที่อายุขัยของเราจะทันได้เห็นหรือรับรู้แต่เชื่อว่าสักวันนึง ในอนาคตอันไกลแสนไกล ที่เราจะพบเจอ ขีดจำกัดของ มนุษย์เราจะพัฒนาขึ้นไปมากกว่านี้

คิดง่ายๆ สิ่งมีชีวิต้กิดมา ประมาณ 600 ล้านปี เพิ่งมี มนุษย์ ที่ฟลุ๊ค ทรงถูมิปัญญา..ปัจจัยนี้แหละเกิดยากสุดแล้ว

การมีชีวิตอยู่ของมนุษยชาติและสิ่งมีชีวิตที่ผ่านมาคือเครื่องยืนยันว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นมีอยู่จริง แต่อาจจะอยู่ในรูปแบบไหน อาจจะอยู่ในขั้นตอนการกำเหนิดหรืออาจใกล้จะดับไป หรืออยู่ในขั้นพัฒนาไปจนเหนือจินตนาการเราก็ไม่อาจรู้ แต่ที่รู้ๆมีอยู่จริงแน่นอน

เราเพิ่งคิดค้น การพลางตัวได้กับเครื่องบิน ผมเชื่อว่า พวกเค้ามีสิ่งนี้ติดตัว เช่นเดียวกับสัตว์บนโลกบางชนิดที่สามารถมองเห็นได้ตอนเวลากลางคืน และเปลี่ยนสีให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นเป็นการยากมากที่จะเจอพวกเค้า นอกจากเค้าให้เจอ หรือเผลอ ไม่แน่ว่า พวกเค้าอาจจะอยู่ใกล้เรามากกว่าที่เราคิดก็ได้นะครับ

คลิปนี้ไหลลื่นมากครับ ฟังเพลินมาก ซาวด์ประกอบก็แจ่ม ❤

โลกของเรานั้น ถูกหวยครับ เพราะ ดาวเคราะห์ ที่อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ ส่วนมากจะเป็นดาวเคราะห์ก๊าซ มีเพียงระบบสุริยะของเท่านั้น ที่มีดาวเคราะห์เป็นหิน ที่อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ ระบบสุริยะอื่นๆ ดาวเคราะห์ชั้นหิน อยู่ไกลจากดาวฤกษ์มาก เลยทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิต ทรงภูมิปัญญา --------------------------------------------- ถึงจะมีสิ่งมีชีวิต ที่มีภูมิปัญญา ก็ไม่สามารถก้าวถึงเทียร์ 3 อาจเป็นเกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น โรคระบาดไม่มีทางรักษา อุกกาบาตพุ่งชน ภัยพิบัติธรรมชาติ สงครามล้างบางกัน อย่างโลกของเรา เราอยู่เทียร์1 เทียร์2ต้องสร้าง ทรงกลมไดสัน เก็บพลังงานจากดาวฤกษ์ได้ อย่างดวงอาทิตย์ได้ เทียร์3 เข้าถึงพลังของดาวฤกษ์ ในกาแลคซี่ของตัวเองได้ หนังสตาร์เทรด อยู่เทียร์2กลางๆ ส่วน สตาร์วอ อยู่เทียร์3 ซีรี่ย์สตาร์วอ อาโซกา กำลังจะเข้าเทียร์4 เพราะวาปไปกาแลคข้างเคียงได้

สิ่งที่ผมหวังในชีวิตก็คือ การได้นั่งดูข่าว ว่า มียานอวกาศลงจอด ณ จุดสำคัญบนโลก ไม่ก็โลกได้รับสัญญาณวิทยุ จากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา 😅😅

คิดเล่น ๆ ถ้าสมการมันผิดตั้งแต่แรกหละครับ สิ่งมีชีวิตที่อื่นอ่านจะไม่ต้องใช้ปัจจัยการดำรงชีวิตแบบมนุษย์บนโลกก็ได้

เป็นไปได้หรือเปล่าที่ผิวดาวมันอยู่ไม่ได้ แต่อยู่กันที่ใต้ผิวดาว เลยไม่มีคลื่นแม่เหล็ก หรือคลื่นวิทยุออกมา หรือสะท้อนผ่านไปได้เพราะมีดินเป็นฉนวนกั้นไว้ มีทางเดียวคือลงจอดบนดาว แล้วเจาะลงไปใต้ดินแล้วเปิดเครื่องวิทยุ ทิ้งเอาไว้ จนพวกที่อยู่ใต้ดินรำคาญ หรือได้ยิน

ผมคนนึง และว่า ข้างนอกนั้น ต้องสิ่งมีชีวิต อย่างเรา แน่นอน เชื่อ 10000000000% ว่าต้องมี

แล้วทำไมไม่หาสิ่งมีชีวิตที่เรึยบง่ายล่ะ อย่าพยายามตามหาสิ่งมีชีวิตที่ภูมิปัญญา

ฟังเพลินดีครับ ไว้เอาไปเล่าให้ลูกฟังต่อ 😊

ทำคลิปเยอะเยอะได้ไหมคะ ชอบมากรอฟังทุกคลิปเลยค่ะ

ผมว่าเอเลี่ยนมีอยู่จริง แต่เรายังไม่สามารถค้นพบเอเลี่ยนเนื่องจากเทคโนโลยี ที่ยังไม่มากพอ และจักรวาลเรามี ดาวอยู่เยอะมากๆ แน่นอนว่าต้องมีสักที่ ที่มีเอเลี่ยน อยู่ 👍

อีก300ปีกว่่าสัญญาณจะไปถึงเขากลับอีก400กว่าปีพวกเราคงทำลายโลกนี้ไปแล้ว

ชีวิติ ไม่ว่าจะหลายเซลหรือเซลเดียว ก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต จักรวาลคือกลุ่มก้อนที่อัดเน้นด้วยแกแลคซี่ต่างๆเป็นก้อนเดียวกัน จักรวาลมีขอบเขต แต่มีหลายจักรวาล จัดรวาล ไม่ใช่อวกาศเพราะอวกาศยังไม่พบว่ามีขอบเขต แต่จักรวาลมีขอบเขต

ไม่ต้องคิดเยอะ แค่มี เกิด แก่ เจ็บตาย บุญ กรรม 5คำ ครอบทุกจักวาล❤

เราอยู่ไกล จากเพื่อนบ้านมากๆด้วย โอกาศพบกันสิ่งมีชีวิตต่างดาว เลยน้อยลงไปด้วย ใช่มั้ยครับ

ผมว่า วิธีที่จะทำให้เผ่าพันธุ์ต่างๆอยู่รอดได้นานๆ มันจะต้องมีการรวมตัวกันของหลายๆเผ่า ก่อตั้งเป็นสมาพันระหว่างดาว เพื่อคานอำนาจและป้องกันการรุกรานกันและกัน

ผมว่าที่ไม่มีเอเลี่ยนเพราะเอเลี่ยนทรงภูมิปัญญามันฆ่ากันเองจนสูญพันธุ์ไปแล้ว หากมีปัญญาก็ต้องมีความขัดแย้งภายในและกลายเป็นสงครามที่รบกันเองเหมือนมนุษย์ในตอนนี้ที่ไม่รู้จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ตอนไหน

ผมติดค้นทฤษฎีนึงของผมเอง เป็นไปได้มั้ยครับ ว่าดวงตาและเทคโนโลยีของมนุษย์เรา ไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แบบไม่สามารถมองเห็นมวลอะไรเลยทร่เป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลก มองได้แค่ดาวต่างๆ

ทําไมจึงไม่มี หรือไม่เจอ สิ่งมีชีวิตใหม่ๆ เกิดขึ้นที่โลกใบนี้อีก ในเมื่อโลกนี้อํานวยต่อการกําเนิดสิ่งมีชีวิต

สำหรับผมนะ ผมคิดว่ามีพวกเขาอยู่แหละ แต่ไม่อยากเจอหรอก อย่าเจอเลย

มันน้อยมากๆพอๆกับเราจะถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1นั่นแหละ ใช่มันเป็นไปได้ยาก แต่ถามว่ามีคนถูกมั้ย ...มีทุกงวด

โอกาสเจอเอเลี่ยน​ยังมีค่า​ probability มากกว่าการหาประชาธิปไตย​ในประเทศ​สารขัณฑ์​แลนด์​ซะอีก

ปัจจัยของสิ่งมีชีวิตของดวงดาวขึ้นอยู่กับการทำงานของดวงจันปริวาลด้วยไหม... สนามของดาวที่ป้องกันตัวเองจากอุกาบาศอีก... นั่นนู่นนี่​การคืนชีพสนามพลังงานของดาวอังคาร​ ต้องอาศัยดวงจันที่ต้องอยู่ถูกที่ถูกทางและรอบการหมุนอีก...ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องของสนามพลังงานทำงานสอดคล้องกัน ผลกระทบของการหมุนของโลกและดวงจันทร์จะเป็นอย่างไรต่อไป

มันไม่มีทางเป็นไม่ได้ที่จักรวาลกว้างใหญ่มากมาก มันจะมีแค่เราที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา เพียงแต่เทคโนโลยีทั้งของเค้าและของเรายังไม่สามารถติดต่อหากันได้

สิ่งมีชีวิตต่างดาว มีแน่นอน แค่มันกว้างมากๆๆๆจนหากันไม่เจอ กล่องเจมส์เวปน่าจะส่องเจอดาวที่มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตบ้าง

ถ้าอนาคตมีการคิดค้นคลื่นวิทยุแบบควอนตัม น่าจะดีนะครับ

เราต้องมาปรับค่าพารามิเตอร์ f ต่างๆให้เหมาะสม เพื่อคำนวนความน่าจะเป็นของจำนวนอารยธรรม รอบๆรัสมี L ปีแสง โห้ คนคิดสมาการนี้เก่งๆจริงๆ แต่คนอธิบายนี้เก่งพอๆกัน สามารถอธิบายให้คนอย่างผมเข้าใจได้ 555

เรายังรอเอเลี่ยนมาตรวจข้อสอบ สมการนี้นะครับ

ฟังเพลินๆสนุกดีครับ 😊

มนุษย์เราเกิดจากเหตุบังเอิญหลายอย่าง เช่นเดียวกับนอกโลก โอกาสจะเกิดเหตุบังเอิญแบบโลกเรา มันยากมาก สรุปคือไม่มีมนุษย์ต่างดาวครับ

ผมคิดว่ามันมีแหละ และอาจจะมีเยอะด้วย แต่อุปสรรคที่เราก้าวข้ามมันไม่ได้ในตอนนี้ก็คือระยะทางนั้นแหละ ไม่ต้องคิดถึงการเดินทางข้ามกาแลคซี่เลย แค่เดินทางในกาแลคซี่เดียวกันด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสงพันเท่ายังไม่เพียงพอเลยที่จะเดินทางในเงื่อนไขระยะเวลาอายุไขของสิ่งมีชีวิต

ทำไมไม่ลองถามพวกอิสลามครับเขารู้ทุกอย่างเลย เขาบอกว่าอัลเลาะห์สร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาไม่รู้ว่าเขารู้มาจากไหนเหมือนกัน ลองถามดูครับเผื่อจะได้ปลดล็อคทุกสรรพสิ่งทุกอย่างบนจักรวาลนี้

และเมื่อเราขับยานอวกาศด้วยความเร็วเหนือแสงไปที่ดาวดวงหนึ่ง ไปพบต้นไม้ พบสิ่งมีชีวิต ที่เหมือนหมู เหมือนเป็ด ไก่ สติปัญญาก็เหมือนๆกัน เราจะทำอย่างไร ระหว่างส่งราชฑูตไปเจริญสัมพัธไม่ตรี หรือจับมากิน

จักวาลที่ไม่มีอากาศเขาเรียกว่าอวกาศและดวงดาวทุกดวงเราเลื่อนได้หมดให้เขตอวกาศดาวทุกดวงเลื่อนได้หมดและให้มันเข้าแค่โลกได้แต่เป็นแนวตรงมาหาโลกและดาวทุกทุกดวงเราเลื่อนได้หมดทุกดวงทั่วจักวาลเให้เข้าแค่โลกได้ทุกดวงและพระจันทร์เข้าแค่โลกได้เต็มที่ก็แค่นี้ในเขตที่เป็นอวกาศและกลางวันก็เป็นพระอาทิตย์ถ้าต่อเป็นขั่นบรรไดผมเรียนจบแล้วทุกดวงและพาจัทร์ถ้าเราพาเข้าแค่โลกเท่าใดมันจะอยู่เท่านั้นและไม่กลับไปที่เดิมพระจันทร์ไม่กลับไปที่ดิมแต่พระจันทร์เราเข้าแค่โลกเท่าใดมันก็อยู่เท่านั้นแต่ผิดกับดวงอาทิตย์คือถ้าเราพาเข้าแค่โลกมากมากจนดวงอาทิตย์จะชนะเมฆทำได้เท่านนั้นแต่บางที่ตอนเย็นเราปล่อยไปดวงใหญ่ดวงอาทิตย์และพอหัวเช้าดวงมันจะไม่ใหญ่เท่าเดิมและมันจะเล็กลง30เปอเซ็นและถ้าไม่ขยาย2ถึง3วันดวงอาทิตย์มันจะเท่าเดิมปกติผมคิดดวงอาทิตย์มันเล็กลงเองได้และผมจะต้องเพิ่มดวงอาทิตย์ทุกวันวันละ5ถึง20เปอเซ็นแล้วเมฆจะไม่เป็นก้อนกันทั่วโลกแค่นี้เป็นตัวชี้วัด...และผมแบบเล่นเล่นนะคือกลาวคืนผมนอนแต่เป็นกลางวันของฝรั่งและผมคิดว่าต้องมีฝรั่งที่ทำได้เหมื่อนผมคือผมนอนกลางคืนและเป็นกลางวันของฝรั่งเขาเลยลดดวงอาทิตย์ให้เล็กลงเล็ก..คิดอีกแบบหนึ่งเท่านั้นและอีกอย่างคือดวงอาทิตย์มันลดระดับลงเองเพราะไม่อย่างนั้นโลกจะตายถ้าเราพาแบบไม่รู้อะไรและมันอันตราย..และผมเลยแลเมฆคือเมฆขาวเช้าถึงเที่ยงเมฆขาวและพอหลังเที่ยงก็เร่งแสงอาทิตย์ที่ละหิดทีละหิดและเราต้องแลเมฆเพราะเมฆมันค่อยค่อยเล็กและจากหายจนหมดตอนเย็นนั้นและท้องฟ้าจะสวยากมาก..แต่ทั้งวันอย่าเจอที่ตัดเหล็ก..แต่ใช้ที่ตัดเหล็กผมจะทำไม่ได้และก็จบเพราะผมเข้าสมาธิไม่ได้และก็จบหมดทุกอย่างและผมเดินหนีเพราะผมเจ็บทั่วร่างกายแล้วเจ็บหมดทั้งตัว

ผมเคยอ่านมาบางที่ว่า ดาวที่อยู่อาศัยได้ต้องอยู่ประมาณแขนกาแล็คซี่ด้วย เพราะถ้ายิ่งเข้าไกล้กลางกาแล็คซี่รังสีก็ยิ่งเข้มข้น

เป็นไปไม่ใด้ที่จะมีแค่เผ่าพันธ์เรา เพียงเผ่าพันธ์ เดียว ที่ทรงอารยธรรม จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพรศาลหาที่สิ้นสุดไม่ใด้ แระเราอาจเป็น 1 เผ่าพันธ์ที่เกิดก่อนก็ใด้ แต่เป็นไปไม่ใด้ เพราะ เทคโนโลยีที่เราใช้ทุกวันนี้เป็นเทคโนโลยีย้อนกลับของพวกเขา

ในทัศนของส่วนตัวผมเองนะครับ ผมจะยึดถือเอากฏของจักรวาลอ้างอิง เอาแบบบ้านๆ ง่ายๆ คืออย่างนี้ครับ "ที่นี่มีสิ่งนี้อยู่ ก็น่าจะมีสิ่งนี้อยู่ที่อื่นด้วย" ที่เราไม่เห็น เช่นมีมวลสารแบบในโลกที่นี่ และเราก็ได้รู้มากขึ้นๆแล้วว่า มีจริงๆ จะมากบ้าง น้อยบ้าง ก็แตกต่างกันไป หรืออาจจะมีสิ่งอย่าง ที่เรายังไม่รู้ ไม่พบอีกมากก็เป็นไปได้ ซึ่งทั้งสองประการนี้ ก็อยู่ในกฏของจักรวาล ที่คู่กันเสมอ นั่นคือ มี กับไม่มี ครับ ที่เรานยังไม่รู้ไม่พบ นี่แหละคือ โจทย์การบ้านของมนุษย์เราที่ต้องทำต่อไปครับ

แผ่นเสียงที่โลกเคยส่งออกไปในอวกาศ บางทีอาจจะถูกพบหลังมนุษย์สูญพันธ์ไปแล้วด้วยครับ

จะไปยากอะไร ก็หาดาวที่ มีอายุใกล้เคียงโลก แล้ว เอาลำดับ มหายุคของโลกเป็นต้นแบบ ก็พอจะ คาดเดาและจำกัดวงได้ ไม่งั้นก็เหมือนงมหาเข็มในมหาสมุทร

ขอถามแบบโง่ๆครับสรุปอายุโลก4500ปีหรือ4600ล้านปีครับ ห่างกัน100ล้านปีมันเยอะนะครับข้อมูลอันใหนใกล้เคียงสุดหรือไม่เป็นไรครับ

ตามการมองเห็นวิเคราะห์ เป็นไปไม่ได้ว่ามีแค่เราแต่ความจริงไม่อาจปฎิเสธได้ว่ามีแค่เราอยู่เพียงแค่โลกเดียวจริงๆ ทุกอย่างที่ว่ามนุษย์ต่างดาว นั้นไม่เคยมีรูปที่ชัดๆที่ถ่ายได้ มีแค่รูปภาพที่ไม่ชัดเจนเท่านั้นยากที่จะถ่ายได้จริงหรือ มีมั้ยคับภาพถ่ายที่ชัดเจน😅😮🎉

สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา มีอยู่บนโลกเรามากมาย แต่เรามองข้ามไปและยังศึกษาไม่แตกฉานเอง

ขอขอบคุณ

ทำคลิปรีวิวหนังสือที่อ่านน่อยครับ แต่ละเล่มข้างหลังดูน่าสนใจดี

พีท่าพระเจ้าเป็นคนสร้างจริงๆแล้วพระเจ้าเอาอะไรมาสร้างจักรวาลและโลกของเราครับ😅😂😂

ในเมื่อยังไม่เจอดาวที่เหมาะสมต่อการเกิดสิ่งมีชีวิต ก็ยากจะเจอสิ่งมีชีวิตนอกโลกครับ

เอาเป็นว่าอีกไม่เกินหนึ่งหมื่นปีเราจะสามารถสร้างยานอวกาศที่สามารถเดินทางไปสำรวจรอบจักรวาลของเราและเราเองนี่แหละที่จะไปทำให้ดาวบางดวงสามารถมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้ แต่ขออย่างเดียวอย่ารบกันจนโลกระเบิดไปซะก่อนหละ

ถ้าตัวผมเป็นดาวเคราะห์ ที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดสิ่งมีชีวิต สิ่งแรกเรยที่ผมจะทำนั้นคือ ตัดวงจรการถือกำเกิดของมนุษย์ครับ สิ่งมีชีวิตเดียวที่กำเนิดมาเผื่อทำลาย โหดร้ายและป่าเถื่อน แถมไม่มีประโยชน์ใดต่อ สิ่งมีชีวิตอื่นแม้แต่นิดเดียวก็คือ "มนุษย์"

เราคงต้องใช้เวลาในการพัฒาเทคโนโลยี่ ด้านอวกาศต่อไป เพื่อการเดินทางสำรวจ ซึ่งมันก็ไกลกันมากสำหรับเราในเวลานี้

ขนาดโลกเรามีสิ่งมีชีวิตเป็นพันเป็นหมื่นรูปแบบ แต่ก็มีแค่ 1 รูปแบบเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ อย่าว่าแต่หามนุษย์ต่างดาวเลย หาสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษ์ในโลกเราเองยังไม่มีทางเจอ

ศึกษาจิต ทำสมาธิ คือคำตอบ หยุดคิด จึงคิดได้

ความแปลกอีกอย่างของจักรวาล ถ้า 240 จริงและส่งสัญญานออกมาจริงสักห้วง 400 ปี ทำไมไม่เคยเจอดาวสักดวงที่ส่งสัญญานออกมา หรือแม้แต่ห้วง หมื่นหรือล้านปีแสงเราก็ไม่เคยเจอ มันเงียบผิดปกติ ถ้าชีวิตเกิดง่าย ทำไมเราไม่เคยเจอ

กาแล็คซี่หนึ่งมีสี่ทวีปครับ เราอยู่ชมพูทวีป จักรวาลนั้นมีเยอะครับ และเราไม่สามารถไปมาหากันได้ตัววัตถุครับ มีไปด้วยมโนมยิทธิ เท่านั้นครับ ปล. ผมรู้ดี ผมเรียนมา

คลื่นกว้ากว่าที่เรารู้เยอะครับ มนุษย์อาจจะใช้คลื่นวิทยุ รังสีแกรมมาา รังสีเอ็กซเรย์ ลองคิดเล่นๆนะครับว่าสิ่งมีชีวิตต่างอาจจะใช้คลื่นที่อยู่เหนือกว่าที่เรารู้จักอาจจะทำต่อสัญญานกันไม่ติด เขาอาจจะใช้คลื่นต่ำกว่าหรือสูงระยะที่มนุษย์ค้นพบก็ได้ครับ5555 ดวงดาวเป็นอนันต์เพราะเราไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ความถีีคลื่นก็ควรจะเป็นแบบนั้นนะครับ5555 ผมมโนไปรื่อย

ลองแทน N=1 แล้วถอดสมการย้อนกลับเพื่อไปเดาค่าตัวแปรที่เรายังไม่รู้ค่า น่าจะมีประโยชน์มากกว่านะครับ 1 มาจาก เรารู้แน่ๆว่ามีโลก 1 ดวงแน่ๆ และดวงอื่นเรายังไม่มีหลักฐานเลย เพราะฉะนั้นแทนค่าไป N=1 ไป เราอาจจะเดาได้ค่าอื่นๆในค่าที่อาจจะเป็นไปได้ขั้นต่ำนั่นเอง

นั่นแหละ ถ้าหลายๆคนได้รู้ สมการเฟอมี่ จะรู้เลยว่า ไม่ง่ายที่จะเจอ และถ้าจักรวาลมีผู้สร้าง มันก็คงสมเหตุสมผลแล้ว ที่อยู่ห่างกัน เพราะถ้าอยู่ใกล้กัน คงมีการรุกรานกัน เพราะการพัฒนาการทางวิทยาศาสตร์แต่ละดาว มันเจริญไม่เท่ากัน😑