คนไทยนั้นมีการนำมะพร้าวมาทำเป็นอาหารคาวหวานมายาวนาน โดยใช้เนื้อมะพร้าวมาทำเป็นกะทิ หรือแม้แต่การสกัดเป็นน้ำมันมะพร้าวนำมาประกอบอาหาร และเครื่องประทินผิว ซึ่งแต่ละปีนั้นมีการใช้มะพร้าวมากกว่า 10 ล้านลูก และนอกจากเอาเนื้อไปแปรรูปแล้วก็ยังมีส่วนของกะลาที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์หลากหลายโดยเริ่มจากกะลาที่นำมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เราคุ้นเคยอย่างเช่นภาชนะใส่ของกินของใช้ ไปจนถึงเครื่องประดับ และของตกแต่งบ้านอย่างโคมไฟ ที่ราคาไม่ธรรมดา เพราะตกอยู่ที่อันละหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติที่รักในงานของกะลานอกจากนั้นกะลาอ่อนก็ยังนำไปทำเป็นกับข้าวมากมายไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลายคนไม่เคยรู้ และเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดานักชิม ที่ใครได้ชิมแล้วจะต้องติดอกติดใจในรสชาติความกรุบกรอบและกะลาก็ยังนำไปเผาเป็นถ่านส่งออกไปแปรรูปเป็นผลิต๓ณฑ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแกนไส้ดินสอ ไส้กรองน้ำ กรอกเครื่องดื่ม นำไปทำเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง และนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารคาวหวาน และเบอร์เกอร์รี่แสนอร่อย ผงถ่ายยังนำไปอัดเป็นถ่านก้อนส่งออกไปยังประเทศที่มีหิมะตก เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงให้ความอบอุ่น และนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหารที่ไร้ควัน แต่ให้ความร้อนได้อย่างยาวนานนอกจากนี้กะลาก็ยังนำไปทำเป็นเครื่องดนตรีอย่างซออู้ ที่นำกะลามะพร้าวพันธ์พญาซอมาทำเป็นตัวซอที่ให้เสียงที่ไพรเราะ ซึ่งกะลามะพร้าวพันธุ์พญาซอก็เป็นที่ต้องการของเหล่าบรรดานักสะสม ทำให้กะลาของมะพร้าวสายพันธุ์นี้มีมูลค่าตกอยู่ที่ลุกละ 500- 1,000,000 บาทกันเลยทีเดียวจากการเดินทางหาความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกะลา ที่หลายคนมองว่าเป็นเพียงของไร้ค่าไร้ราคา แต่วันนี้ทำให้รู้แล้วว่ากะลาไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่คิด แต่กลับกลายเป็นของที่มีมูลค่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนที่มองเห็นคุณค่าอยากมากมาย
ติดตามข่าวสารทีวีบูรพาเพิ่มเติมได้ที่
tvburabha.com/
/ tvburabha
/ tvburabha
/ kobnokkala