กรณี เจสซี่ เด็กหนุ่มลูกครึ่ง วัย 17 ปี ที่ถูกพ่อแม่จับได้ ว่าเอาเงินสะสมสำหรับเกษียณของพ่อชาวต่างชาติ จำนวน 8 แสนบาท ไปให้กับครอบครัว พิม แฟนสาว และต่อมาเจสซี่หนีไปกับนางสาวกานต์ แม่ของพิมด้วย จนกระทั่งแม่ของเจสซี่มาทราบภายหลังว่า ลูกชายกดเงินไปถึง 1,318,390 บาท นั้น
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 นางสาวกานต์ นายเบียร์ สามี และนางสาวพิม ลูกสาว คู่กรณีของครอบครัวเจสซี่ เดินทางไปที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร เพื่อขอปรึกษากรณีที่แม่ของเจสซี่ ไปร้องทนายรณณรงค์ แล้วเรียกเงินครอบครัวหลักล้าน
นายเบียร์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองก็เข้าอกเข้าใจแม่ของเจสซี่มาตลอด และยอมรับผิด ที่ทำให้ครอบครัวของเขาเดือดร้อน แต่ได้มาดูหลักฐานและข้อเท็จจริง พูดคุยกับกานต์และน้องพิมแล้ว ก็ทราบข้อมูลว่า เงินที่โอนมาให้ที่มีหลักฐานมีประมาณ 400,000 บาท และหลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางครอบครัวได้พูดคุยกัน แล้วตกลงกันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับแม่เจสซี่ และพยายามติดต่อไปเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย แต่แม่ของเจสซี่ก็ไม่ยอม และจู่ ๆ ก็มาร้องทนายรณณรงค์ พวกตนจึงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรัชพล จุดประสงค์หลักคือ ต้องการคืนเงินให้ตามที่ได้เอาไปจริง
นายเบียร์ กล่าวต่อว่า ตนจะชดใช้ในการกระทำที่ลูกของตนเอาเงินมาจริง แต่ยอดขึ้นมาเรื่อย ๆ อยากขอโทษทางคุณพ่อกับเจสซี่ แต่ไม่ขอโทษแม่ ตนรู้สึกว่าลูกสาวของตนทำให้เจสซี่หมดอนาคตในเรื่องการเรียน ซึ่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมที่จะไปพูดคุย เพื่อจะขอไกล่เกลี่ยชำระเป็นรายเดือน แต่มารู้ข่าวว่าครอบครัวเจสซี่ไปร้องทนาย ตนไปนั่งรอที่โรงพัก แต่ไม่มีใครมา เลยลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตามที่ดูข่าวยอดที่จะให้ตนชำระ 1,300,000 บาท แต่หลักฐานในการโอนเงินเข้ามาถึงทางครอบครัวตน รวมแล้วแค่ประมาณ 400,000 บาท ตนอยากชดใช้ส่วนที่ลูกเอามาจริง ๆ
ส่วนเรื่องที่พี่ชายของฝั่งเจสซี่ มีการโพสต์ภาพหน้าลูกสาวของตนโดยไม่เบลอ และโพสต์ข้อความว่า "รบกวนใครที่เป็นเพื่อนของบุคคลในรูป ติดต่อและรู้ที่อยู่บุคคลในรูป ได้รบกวนทิ้งเมนต์ไว้เดี๋ยวติดต่อไป บุคคลในรูปนี้มีหมายจับจากตำรวจ" อันนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาท ซึ่งไม่ได้เป็นความจริง ลงภาพลูกสาวของตนโดยไม่เบลอหน้ามันผิด พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่
ด้าน นางสาวกานต์ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับเจสซี่จริง ตอนนั้นเจสซี่ได้ยุติความสัมพันธ์กับลูกสาวแล้ว แต่ยังมีการพูดคุยเรื่องเงินอยู่ เจสซี่มาปรึกษาลูกสาวว่าจะทำยังไงกับเรื่องเงินดี หลังจากนั้นทางครอบครัวตนได้ปรึกษากันว่าจะไกล่เกลี่ย หรือจะชดใช้เงินให้กับทางครอบครัวเจสซี่ยังไง ส่วนเรื่องเงินเจสซี่ไม่ได้นำมาให้ตน เขาให้ลูกสาวตั้งแต่ตอนคบกัน และชดใช้ไปหมดแล้ว ตามข่าวบอกว่าตนหนีไปกับเจสซี่หอบเงินไปด้วย ไม่เป็นความจริง เรื่องเงินไม่เคยมาถึงตน อยากจะบอกกับครอบครัวของเจสซี่ไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต อยากให้มาพูดคุยตกลงไกล่เกลี่ยกัน ทางตนพร้อมจะเจรจาชดใช้เงินให้ อยากบอกแม่เจสซี่ อยากได้เงินให้มาตกลงกัน แต่แม่ยังไม่หยุดไปร้องสื่อ ร้องทนาย ตนอยากให้เรื่องจบ ทางครอบครัวพร้อมจะรับผิดชอบ
ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า ทางครอบครัวนางสาวกานต์และนายเบียร์ ยอมรับว่ามีเงินส่วนหนึ่งโอนเข้ามาให้ลูกสาว แต่ยอดเงินไม่ตรงกับที่แม่ของเจสซี่กล่าวอ้าง จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายแม่เจสซี่ ที่ต้องพิสูจน์และหาหลักฐานมายืนยัน ว่ายอดเงินกว่าล้านบาท เป็นเงินที่เจสซี่โอนมาให้น้องพิมทั้งหมดหรือไม่ เพราะถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ครอบครัวของน้องพิมก็คงจ่ายตามยอดที่อ้างมาไม่ได้ อีกทั้งฝ่ายครอบครัวน้องพิมแสดงความจำนงที่จะจ่ายเงินคืน เดินทางไปถึงโรงพักแล้ว แต่แม่ของเจสซี่กลับไม่มาพูดคุย จึงไม่รู้ว่าทางแม่เจสซี่ต้องการอะไรกันแน่ และจริง ๆ แล้วเรื่องนี้เจสซี่เป็นคนทำผิด พ่อแม่ต้องร่วมรับผิดชอบเช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะเอาผิดฝ่ายเดียว
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 17 มิถุนายน 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
KZfaq : cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์