คาถาพลิกชีวิตหลวงปู่ศิลาสิริจันโท ท่องสวดทุกวันเพื่อเพิ่มบุญบารมีให้ตนเอง สวดตอนนั่งสมาธิจะมีอานิสงส์มาก เมื่อจิตใจสงบเป็นสมาธิ จะมีบุญบารมีสูงมาก คิดอธิษฐานขอสิ่งใดก็จะสมหวังดังปรารถนา
#คาถาพลิกชีวิต #หลวงปู่ศิลาสิริจันโท #วัดพระธาตุหมื่นหิน #สวดมนต์พลิกชีวิต
#คาถาพลิกชีวิต #หลวงปู่ศิลาสิริจันโท #พระธาตุหมื่นหิน
#คาถาพลิกชีวิต #หลวงปู่ศิลาสิริจันโท #วัดพระธาตุหมื่นหิน #สวดมนต์พลิกชีวิต
สำหรับผู้ที่สวดมนต์ต่อเนื่องทุกวันไม่เคยว่างเว้นจากการสวดมนต์เลย นับเวลาต่อเนื่องกันตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป บุคคลผู้นั้นจะมีราศีสง่าขึ้นตามลำดับ ส่วนในด้านจิตวิญญาณของบุคคลนั้นจะมีแสงสว่างโชติที่สว่างกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่สวดมนต์ เมื่อเหล่าวิญญาณพบเห็นบุคคลที่มีแสงสว่างโชติที่สว่างเด่นชัดกว่าคนทั่วไป ก็จะรู้ได้ทันทีว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้ที่สวดมนต์อยู่เป็นประจำ เมื่อพวกอมนุษย์เช่นเปรตหรืออสุรกายพบเห็นแสงสว่างโชติที่สว่างไสวดังกล่าว ก็จะถอยหนีไม่รบกวนบุคคลผู้นั้นเลย ด้วยเป็นผู้ที่มีคุณพระรัตนตรัยแพร่คุ้มครองอยู่ และคุณพระยังจะช่วยให้บุคคลแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่อยากให้คุณพระคุ้มครองเร็วขึ้น ขออธิบายให้ทุกท่านเข้าใจตามที่หลวงปู่เดิน เคยสอนเอาไว้โดยขอยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้ว่า การที่ต้องการให้คุณของพระคาถามาสถิตตามปกติต้องสวดมนต์ทุกๆวัน เป็นเวลาหนึ่งปีขึ้นไป คุณของพระคาถานั้นจึงจะมาสถิตในตนเริ่มส่งผลในด้านต่างๆ ซึ่งผู้สวดจะรับรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้หากต้องการให้คุณของพระคาถาให้มาสถิตเร็วขึ้นต้องเพิ่มการสวดพระคาถานั้นจากวันละหนึ่งจบเพิ่มเป็นวันละเก้าจบขึ้นไปหรือสวดตามกำลังวันเพื่อเร่งผลให้บังเกิดเร็วขึ้นจากเดิมที่เห็นผลหนึ่งปีจะเห็นผลเร็วในหกถึงแปดถึงสิบเดือน ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับความขยันและตั้งใจจริงของแต่ละบุคคลด้วย ทั้งนี้หากเพิ่มการสวดเป็นวันละสองเวลา เช้าเย็นจะเห็นผลเร็วยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ว่า หากบุคคลนั้นกำลังดวงตกอำนาจของกรรมเก่ากำลังส่งผลอยู่อำนาจคุณฟ้าก็จะแสดงผลไม่เต็มที่นัก แต่อาจช่วยผ่อนเคราะห์กรรมจากหนักให้เป็นเบาได้หรือช่วยส่งให้ผลกรรมที่ส่งผลอยู่นั้นผ่านพ้นไปเร็วขึ้น แต่ต้องหมั่นสร้างบุญกุศลอื่นเพื่อส่งเสริมด้วยอีกทางหนึ่ง เพราะคุณความดีและบุญกุศลทั้งหมดในทุกๆด้านจะต้องมาประสานเกื้อกูลร่วมเป็นกำลังสนับสนุนช่วยกัน จึงจะเห็นผลได้ประจักษ์แจ้งจริงซึ่งทั้งหมดท่านจะต้องเป็นผู้กระทำด้วยตนเองไช่ไปขอพรจากเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใดเพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนไปกว่าการเริ่มลงมือกระทำด้วยตนเองก่อน
ให้เราตั้งจิตอธิฐานว่า ข้าแต่เทพเทวดาผู้เป็นสักขีพยานในการรักษาทรัพย์ตั้งแต่อดีดชาติจวบจนปัจจุบัน บุญกุศลใดก็ตามทรัพย์ใดก็ตามที่ข้าพเจ้าพึงสั่งสมมาให้ข้าพเจ้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในดินแดนสุวรรณภูมิ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าได้พบบวรพระพุทธศาสนา ได้พบพระศรีคเณศ ได้พบพญานาคราช หรือเทวดาองค์ใด ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอใช้เวลาที่มีอยู่ในภพชาตินี้ในการทำนุบำรุงประเทศชาติบ้านเมืองและศาสนา ขอการดูแลอุดหนุนตนเองและครอบครัว วงศ์ตระกูลให้มีอิสระภาพ ให้สำเร็จสะดวกสะบาย ทรัพย์ใดมีอยู่จริงทั้งที่ดิน ทั้งใต้น้ำทั้งที่อากาศขอให้หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า จะมาในรูปแบบใดก็ดี ขอให้มาอย่างถูกต้อง ขอให้มาเป็นภูมิปัญญาอันเป็นประเสริฐบ่อเกิดแห่งความดีทั้งตัว สาธุ สาธุ สาธุ
คำอธิฐานแก้กรรมเรื่องการเงิน
หากข้าพเจ้ามีวิบากกรรมใดที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเงิน อย่างหนักหนามีหนี้สินไม่สิ้นสุดบัดนี้ข้าพเจ้าได้รับผลที่เป็นทุกข์เหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้าได้ชดใช้แล้ว ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายขอให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นโปรดปลดปล่อยและยอมอนุโมทนาบุญให้ข้าพเข้าได้กลับมาทำมาหากินรุ่งเรือง ร่ำรวย มีโชคลาภ หมดหนี้ ข้าพเจ้าจะนำทรัพย์นั้นไปช่วยเหลือสังคมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป สาธุ สาธุ สาธุ
บทสวดมนต์แผ่เมตตานั้น จะประกอบไปด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ คาถาแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายหรือบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร บทแผ่เมตตาให้ตัวเอง คาถาแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ และคาถาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล โดยปกติแล้ว เวลาที่เราไปทำบุญที่วัด พระท่านมักจะนำสวดมนต์บทนี้แล้วจึงทำการกรวดน้ำ เป็นอันจบพิธี แต่จริง ๆ แล้วบทสวดมนต์แผ่เมตตานี้ก็สามารถสวดที่บ้านได้เช่นกัน
หลังจากที่ทุกคนสวด “บทแผ่เมตตา” จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากเป็นการสวดที่วัด พระท่านก็จะนำสวดในส่วนของ “บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร” ต่อ แต่หากสวดอยู่ที่บ้าน อาจจะหาต้นไม้ พร้อมกับน้ำใส่ขวด จากนั้นเริ่มกรวดน้ำและมกล่าวคำตามนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนายบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ