+1

×1

ขอให้น้องมารีเจอคนดีเป็นคู่ครองคนที่ไม่มั่นคงขออย่าเข้ามาใกล้ ถ้าเข้ามาก็ขออย่าให้น้องมีใจให้เลย

เห็นด้วยเลยค่ะน้องมารีมีความคิดดีมากๆ ใครได้น้องเป็นคู่ชีวิตคงเป็นคนโชคดีมากๆ

เรียบง่ายพิมพ์ผิดค่ะ

น้องมารีพื้นฐานเป็นคนน่ารักบวกกับมีมุมมองคิดบวกและจริงจังมั่นคงในความรักเป็นพื้นฐานในตัวตนของน้องอยู่แล้วและชีวิตคู่ที่สำคัญต้องเชื่อใจซึ่งกันและกันให้เกียรติกันเป็นสิ่งสำคัญ

ชอบคอมเมนท์นี้นะคะ จริงใจขัดเจนและมีมุมมองที่เป็นปัจจุบันมาก

รอจนกว่าจะถึงวันนั้นนะจ๊ะน้องมารีคนสวย ❤️💋

สองน้องกล้าหาญ พูดความจริง ซึ่งผู้หญิงทั่วไปไม่กล้าเพราะ เป็นเรื่องหวาดกลัวการถูกประนามจากสังคมโดยเฉพาผู้หญิงไทย คือมันก็อยู่ที่ขนบฯ ประเพณีที่ถูกปลูกฝังกดทับมานั่นแหละ ประกอบกับวัฒนธรรมสังคมที่มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และกฎเกณฑ์นี้น่าจะเป็นความคิดที่ออกโดยผู้ชายที่บ่งบอกให้ผู้หญิงรู้โดยการกระทำของตัวเองว่า ผู้ที่จะมาเป็นแม่ของลูกพวกเค้านั้นต้องเลอเลิศประเสริฐศรีเป็นกุลสตรีเหมือนนางในวรรณคดีเท่านั้น ทั้งๆที่ผู้ชายทั้งหลายเหล่านี้ก็เละเทะสำซ่อนแถมก็หลอกลวงทำร้ายทำลาย ผู้หญิงอื่นๆได้อย่างภาคภูมิใจในตัวเอง และ บางคนก็ดูหมิ่นในเกียร์ติของผู้หญิงว่าเค้าง่ายด้วยซ้ำไม่มองที่หัวใจ หรือ ความซื่อ และยังมีหน้ามาถือว่าเป็นเรื่องปกติของพวกเค้า เป็นแบบนี้มายาวนาน แม้กระทั่งยุกต์นี้ก็เถอะผู้ชายที่คิดแบบนี้เป็นเช่นนี้ก็ยังมีหลงเหลืออยู่ ดังนั้น ต้องเป็นผู้หญิงเก่งที่เชื่อมั่นในคุณค่าของความเป็นคนที่คิดดี คิดเป็น เลี้ยงตัวเองได้ มองเห็นคุณค่าชีวิตในความเป็นคนที่เหมือนกันและเท่ากันอย่างที่สองสาวแสนสวย มองเห็นตัวเองเป็นแบบนี้เท่านั้นหวังว่าอีพีนี้จะให้ข้อคิดที่ดีที่สุดกับคน ในยุกต์นี้ ณ.ปี 2021#รักมารี,ลิลลี่

เห็นด้วยค่ะ มุมฝรั่งจากประสบการณ์ที่เห็นการเลี้ยงดูมา แตกต่างจากสังคมไทยมาก เด็กทุกคนต้องฝึกคิดวิเคราะห์เองแต่เด็ก เค้ารู้เรื่องการป้องกันตัวเอง การรู้จักปฏิเสธ ไม่มีการคลุมความคิดเด็กด้วยระบบความคิดเก่าๆ การที่อยู่กับแฟน แล้วรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ ต้องอยู่ที่การเลี้ยงดูมาแต่ต้น ถ้าพ่อแม่เลี้ยงแบบโอ๋ ต้องอยู่ในความดูแลของชั้น ลูกก้อจะไม่มีทางเติบโต ไม่มีทางคิดเองได้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับการอยู่ด้วยกันเยอะๆก่อนแต่งงาน เพราะแต่งงานแล้วการถอยหลังกลับมันยากกว่าการเป็นแฟนกันมาก

จริงค่ะท้องง่ายจะตายผู้ชายก็ไม่ป้องกัน ท้องในวัยที่ไม่พร้อม ถึงจะไม่อยู่ก่อนแต่งก็ท้องได้ ปัญหาโลกแตก

คุณน่ารักมากเลยค่ะ

อ่านคอมเม็นต์แล้วมองเห็นภาพเลยค่ะน่ารักมาก

ถ้าเป็น สมัยก่อนอาจใช่ฝ่ายหญิงเสียเปรียบเพราะต้องเกาะฝ่ายชายให้ดูแลเลี้ยงดู แต่ปัจจุบันผู้หญิงส่วนมากเก่งบางคนเก่งกว่าผู้ชายเสียอีก ผู้หญิงเหล่านี้จึงอยากศึกษาการใช้ชีวิตคู่กับคนรักก่อนว่าถ้าแต่งงานกันไปแล้วจะรับอุปนิสัยของกันและกันได้หรือเปล่า และต้องดูสังคมความเป็นอยู่ของทั้ง 2 ฝ่ายด้วยว่าอยู่ระดับไหน ดีกว่าถ้าเขาจะเรียนรู้กันก่อนแต่งงานน่าจะดีกว่าจัดงานใหญ่โตแล้วเลิกกันภายหลัง

@@lekkiemandes6366 เห็นด้วยที่สุดค่ะ คำว่าเสียเปรียบสำหรับผู้หญิงในยุกต์นี้ไม่ใช่แน่นอนเพราะหญิงเก่งดูแลตัวเองได้ไม่ต้องอดทนอดกลั้นเป็นฝ่ายรอคอยหรือเป็นของตายสำหรับผู้ชายเหมือนสมัยโน้นนนอีกต่อไปแล้ว

@Tatum Supharruch ไม่ใช่อยู่ดีๆก็อยู่ก็ไปอยู่ด้วยกันในมุมที่เขาคุยกันคือวัยพร้อมแต่งแต่ต้องการศึกษากันก่อน สังคมปัจจุบันที่ผู้หญิงสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพาฝ่ายชาย อย่างเดียว นั่นคือเหตุผลที่คนที่ไม่อยากทนในสิ่งที่ทำให้เขาต้องทนในปัญหาหลังแต่งงาน คือการศึกษานิสัยลึกของทั้งสองฝ่ายว่าทนกันได้ไหม

@@lekkiemandes6366 +1 ให้ล้านไลท์ และ น่าร๊ากก

แบบที่ว่านี้ ถ้ามีความคิดทันสมัยแบบนี้ก็ต้องทำใจไว้เหมือนกัน

คนที่เขาคบหากันเขาต้องเรียนรู้กันก่อนแต่ง และความคิดสังคมไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องอยู่ในสถานะที่มั่นคงพอและคิดสร้างครอบครัว และรู้จักทั้ง2ครอบครัวพอเป็นสังเขป เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงตัดสินใจลองอยู่กันก่อนถ้ารับกันได้ก็แต่งกันไป ถ้าไม่ได้ก็แยกย้ายกัน ดีกว่าแต่งงานกันแล้วก็ต้องมาหย่ากัน เลิกกันหลังแต่ง หลังมีลูก

พวกหัวโบราณก็ชอบตามมาแซะเน้อะ ขอบคุณแหล่ะที่เข้ามาดูตลอด มาดูบ่อยๆนะ เผื่อกะลาบนศีรษะจะเปิดออกได้บ้าง สักนิดก็ยังดี✌🏻

จะมีกี่คนเขาก็ไม่ได่สร้างความเดือดรอ้นให้ใครกอ่นจะว่ามารีดูชีวิตตัวเองบ้างนะ

ดิฉันอายุ 65 ค่ะโชคดีที่ยังอยู่ได้ถึงยุกต์นี้ ยุกต์ที่คนรู้จักสร้างสัมพันธ์กันได้ในทุกสถานะแค่นิ้วแตะหน้าจอยุกต์ที่ผู้หญิงทำงานเป็นผู้บริหารได้ดีเท่าผู้ชายยุกต์ที่ผู้ชายทำครัวได้เก่งกว่าผู้หญิงหลายคน ยุกต์ที่นำเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตคู่ที่เก็บไว้ปิดปากมิดชิดมาแสนยาวที่ควรเปิดเผยมาพูดคุยสนทนาได้ทั้งที่เป็นเรื่องธรรมชาติโดยแท้ สิ่งที่สองน้องพูดเป็นเรื่องปกตินะคะเพียงแต่มันถูกกดทับเป็นความลับในบางประเทศด้วยขนบฯประเพณี น้องพูดในมุมที่คนไม่กล้า พ่อแม่ที่มีหัวอนุรักษ์นิยมก็อนุรักษ์ต่อไปค่ะไม่ต้องสนใจการปรับเปลี่ยนใดเหมือนชาวโลก สองน้องมิได้ออกมาพูดเชิญชวนให้ใครทำตาม สำหรับคน 65 ปีอย่างดิฉันเห็นมาเยอะค่ะกับการแต่งงานกับผู้ชายแสนดีสุภาพผู้หญิงที่เป็นกุลสตรีดูใจกัน 10-15 ปีแล้วแต่ง อยู่กัน 6 เดือนหย่าเพราะ อะไรคะ เพราะการเป็นคู่รักกับคู่ชีวิตมันรู้ซึ้งรู้ลึกต่างกันค่ะอาจมีคนค้านว่าอย่างน้อยก็ได้ขึ้นชื่อว่าได้แต่ง แล้วความสุขในสภาวะจิตใจหล่ะ คำว่าได้แต่งงานมันช่วยได้มั้ย ช่วยให้พ่อแม่หัวอนุรักษ์ได้หน้าแค่นั้นหาความสุขทางใจให้ลูกอย่างไรคิดมั้ย ฟังทุกประโยคของมารีแล้วจะกระจ่างชัด น้องบอกแล้วเริ่มต้นจากการเป็นแฟนก่อน ไว้วางใจกันเชื่อใจกันอายุพร้อม การงานพร้อม สังคมพร้อม สถานการณ์พร้อมก็อยู่ได้เรียนรู้ด้วยใจรักที่มีให้กันและกัน ไม่ใช่สักแต่ว่าแค่ได้อยู่ด้วยกันหาก มีเหตุไปด้วยกันไม่ได้จากทุกเหตุ ทั้งเรื่องส่วนตัวแค่สองคนหรืออาจจะมึอุปสรรคจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเค้าก็ต่างแยกจากกัน สภาวะจิตใจย่อมเข้าใจถ่องแท้มากกว่า นี่เป็นยุกต์ที่ใจเปิดกว้างแล้วของผู้ชายไทยที่รู้จักรักผู้หญิงที่หัวใจ นิสัย ไม่ใช่คอยแต่จะจ้องหาผู้หญิงที่เป็นนางในวรรณคดี ทั้งๆที่ตัวผู้ชายเองก็โคตรสำส่อนเละเทะ ถ้าสมมุติจะต้องอยู่ก่อนแต่งไปอีก และ ไม่ได้แต่ง ดิฉันมองที่ความสุขในชีวิตของลูกสาวสำคัญมากกว่าทุกสิ่ง คนในบางประเทศก็อยู่ด้วยกันแบบโคตรจะหวานอมขมกลืนมีแต่ทุกข์ตลอดเพียงเพื่อความสุขที่อนุรักษ์นิยมของบุพการีและสังคมรอบข้าง ชีวิตของลูกๆต้องเลือกเองเพราะลูกเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องอยู่เป็นของตายให้ดูไร้ค่ากับคนในสังคมโดยรอบกับสังคมครอบครัวของฝ่ายชาย แค่สนทนาด้วยในมุมที่มองต่างเท่านั้นไม่มีผิดกว่าหรือถูกกว่านะคะ

ใช่แน่นอน