ขอบคุณที่รับชมครับ

ขอบคุณที่รับชมครับ

เรื่องนี้จริงๆ นานาจิตตังเลยครับ เป็นเรื่องความเชื่อซะส่วนใหญ่ครับ

ไม้basswood ราคาถูกกว่าไม้ชนิดอื่นครับ ซึ่งก็ไม่ได้แพง หรือถูกกว่า alderสักเท่าไหร่ครับ แต่ด้วความที่มันหาง่ายกว่า และมีโทนเสียงที่เหมาะกับกีตาร์แนว rock ซึ่งปกติดแล้วถ้าไปจับคู่กับการทำสีทึบๆ มันจะมีlow ที่เป็นที่นิยม JP เขาคุ้นเสียง basswoodมาจากตอนใช้ ibanez ครับพอย้ายไปmusicman เลยใช้ไม้ชนิดเดิมครับ ถามว่า American basswood ดีกว่าแบบปกติมั้ยผมไม่แน่ใจครับ ไม่เคยจับbasswoodปกติเลย รุ้แค่ว่าสีไม้ เนื้อไม้ต่างกันนิดหน่อยครับ

ไม้เเต่ละชนิดมันมีเกรดของมันอย่างเเล้นต้นใหญ่กับต้นเล็กเนื้อมันต่างกัน

ต่อกับต่อ ต่างกันตรงซับเทนว่ายาวกว่า แบบต่อมาจะสั่นสะเทือนได้มากกว่า เพราะไม้ต่อกันมา มันจะสะเทือนทั้งตัวมากว่า แยกต่อ ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร กีต้ารที่ดีคือกีต้าร์ที่มาตรฐาน

คลิปนี้น่าจะมีคำตอบครับ kzfaq.info/get/bejne/iqpnjJup2dzJYGQ.html

ถ้าตอบในแง่ของผม ไม้ส่วนที่ไม่ได้มีการเคลือบเพื่อกันความขื้นเข้าออก ผมใช้ Lemon oil ทั้งบริดและฟิงเกอร์บอร์ดครับ ่ความชุ่มชื้นที่ได้จากlemon oil จะรักษาสภาพไม้ได้ดีครับ ส่วนเรื่องเสียงหรือความแตกต่างของเสียง ในไม้ที่ชโลมด้วยlemon oilกับไม่ชโลม ผมแยกไม่ออกครับ

@@tungsai3483 แล้วน้ำยา hydrate กับ lemon oil แบบไหนจะดีกว่าครับ

@@user-qp4mu7cp5h เรื่องดีกว่า ผมไม่แน่ใจครับ เพราะปกติผมไม่ได้เน้นทำความสะอาดครับ ผมเน้นชุ่มชื้น ผ้าเช็ดๆความสะอาดเป็นผลพลอยได้ครับ ผมเลือกlemon oilครับ

ขอบคุณมากครับ ผมก็ไม่ค่อยทำความสะอาด แค่เห็นฟิงเกอร์บอร์ดมันดูแห้งๆซีดๆ ก็เลยทาๆไว้ครับ🙏

ผมชอบ swap ash มากกว่าครับ เพราะswap ash เบากว่าash ผมชอบกีต้าร์เบาๆส่วนเรื่องเสียงแยกไม่ออกครับ555 แต่รู้สึกswap ash มันจะป่องๆกว่าหน่อยมั้งครับ

@@masterofbacon7328 fender เดี๋ยวนี้ไม่ทำswamp ash ออกมาเลยครับ

@@supachatrattananet7533 ปกติแต่ก่อนเขาเป็นผู้นำ swamp ash นะครับแต่เดี๋ยวนี้เงียบกริบเลย เพราะผมจำแต่ได้เคยมีสตรัทswamp ash เบามาก ชอบมาก คือเสียงเป็นสตรัทในอุดมคติผมเลยครับละเบาสุดๆ

ในแง่ของไม้แห้ง ตอบว่าใช่ครับผม

ยกตัวอย่างง่ายๆfender คอขาวเเละคอดำ เสียงต่างกันชัดเจน สเป็คอย่างอื่นเหมือนกันหมดยกเเว้นไม้ที่แปะตรงฟิงเกอร์บอร์ดชิ้นบางๆ ถ้าหูคุนฟังไม่ออกผมเเนะนำให้เเคะขี้หูบ้างนะครับ

@@user-on6gx4fk6j ต้องลอง blind test ครับ

ปิ๊กที่ใช้ต่าง เสียงต่างครับ คนเล่นคนละคน เสียงจะต่างในสองแง่ น้ำหนักการเล่น กับ นิ้วมือที่กดสาย ต่างกันครับ เสียงต่างในอีกแง่คือเรานั่งฟังเสียงกันคนละตำแหน่งครับ

ทำได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ต้นไม่ใหญ๋พอครับ

ขอบคุณที่รับผมมากๆครับ

555

พยายามหาไม้ที่กลางๆ ยึดความแข็งแบบ alderไว้ครับ ถ้าแข็งมากกว่านั้นเสียงจะเริ่มแหลม ถ้ายิ่งแข็งเท่าเมเปิ้ลจะยิ่งแหลมไปอีก อันนี้เป็นแค่ปัจจัยนึงนะครับ ยังมีความแน่น ความเป็นโพรงของไม้ น้ำมันในไม้ ความเหนียวของไม้ สรุปหลักๆหาไม้ที่ไม่เหนียวมากหรือยืดตัวมากๆทำบอดี แต่ก็ไม่แข็งแนวประดู่ หรือถ้าจะทำจริงๆ เอาไปทำ semihollow ได้ครับ

ฟังไม่ออกจริงๆครับ

มีคนถกเถียงเรื่องนี้ ด้วยขอโต้แย้งในแง่ blind test ตลอดครับ รวมไปถึง blind testโปร่ง นั่งฟัง ผลที่ออกมาเหมือนกันครับ แทบทั้งหมดฟังไม่ออก แต่พอ blind test แบบเล่นเอง จะรู้สึกได้ทันทีครับ เรื่องนี้นานาจิตตังจริงๆครับ

@@tungsai3483 เห็นด้วยมากๆ เรื่องบลายเทสต์แล้วฟังไม่ออก แต่พอเล่นเองกลับรู้สึกได้ชัดเจน ตรงนี้พูดถึงกันน้อยมากๆ ครับ ทั้งที่มันเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ เพราะเมื่อคนเล่นนั้นสัมผัสถึงความต่างได้ มันจึงส่งผลต่อการเล่นอย่างชัดเจน

@@kradookproject287 ผมว่าการที่เราได้สัมผัสกับจุดที่กำเนิดคลื่นเสียง มันอาจจะเดินทางผ่านร่างกายเราโดยตรง ถึงจะโดนลดทอนแต่มันก็อาจจะรู้สึกได้มากกว่า? ฟีลแบบหูฟัง bone conduction หรือผมแค่เพ้อเจ้อนะ 555

@@Obivionz ผมไม่แน่ใจเรื่อง bone conduction นะครับ แต่การรับรู้ของมนุษย์มีมากกว่า หู จริงๆ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเล่นเครื่องเสียงบอกว่า ย่านเบสลึกๆ ที่ต่ำเกินย่านที่หูเราจะได้ยิน เราจะสัมผัสได้ทางผิวหนัง แต่ถ้ากับกีตาร์โปร่งนี่ชัดเจนมากๆ เพราะอย่างในช่องตั้งสายก็เคยมีพูดถึงให้เลือกกีตาร์ตัวเรารู้สึกถึงการสั่นสัมผัสที่อกได้มากกว่า ส่วนถ้าเป็นกีตาร์ไฟฟ้า เรื่องนี้อาจน้อยลงไปพอสมควร แต่ก็ต้องมีผลแหละ แค่ว่ามากหรือน้อย แล้วเราจะสัมผัสได้ไหม และยอมจ่ายกับข้อแตกต่างนั้นไหม

เคยชมตอนสมัยคลิปนี้ปล่อยใหม่ๆครับ 😀