เห็นพี่ศีสุดาชื่นใจเพลงเพราะ

สมัยนั้นคู่นี้ต้อง นิว จิ๋ว

มารักกันเถอะ คำร้อง พจน์ จารุวนิช ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน ญ. 1) เออแน่ะ ช่างโชคดีบังเอิญที่มาพบกัน ญ. 2) มีธุระสิ่งใดนั้นบอกให้ฉันทราบบ้างซิ ญ. 1) เปล่าดอกน่ะ ธุระสิ่งใดไม่มี ญ. 2) แล้วไยทำเป็นยินดีเหมือนมีความนัยแปลกใจจริง ญ. 1) หากบอกออกไปคงทำให้หายประวิง ญ. 2) บอกมาซิอยากทราบจริง อย่าทำนิ่งให้เนิ่นนาน ญ. 1) จะชวนให้เธอไปพบความชื่นบาน ญ. 2) ขอทีฉันไม่ต้องการ รำคาญเที่ยวงานเหลือทน ญ. 1) เหตุใดใยคิดผิดทาง เราควรจะสร้างความสุขให้มีแก่ตน ญ. 2)แต่ฉันไม่ขอดิ้นรน ขอยอมเป็นคนเหินห่างสังคมไม่คลาย ญ. 1) อย่าหวาด... อย่ากลัวมัวคิดระแวงแหนงหน่าย ญ.2 ) อย่ากล่าวบรรยายมิหน่ายที่จะฝันใฝ่ ญ. 1) เมื่อเกิดประเสริฐนัก ควรที่จะหาสุขไว้ เมื่อชีพลับดับสิ้นไป ไม่เสียใจที่เกิดมา ญ. 2) สุขอย่างไรไหนลองช่วยมองๆ หา ญ. 1) รักกันนั่นแหละดีหนา จะพาลืมทุกข์สุขกายใจ ญ. 2) เบื่อหน่ายไม่อยากฟัง ญ. 1 โถ ลองสักครั้งเป็นไร... ความรักหวาน ญ. 2 สักเพียงไหน ญ. 1 จะบอกให้ ญ. 2) เอ้า บอกมา ญ. 1) เมื่อรักกันหนามันเสียวซ่านอุรา ยามนอนอาวรณ์ผวา ญ. 2 ก็น่าจะทดลองดู ญ. 1) อยากลองต้องไปด้วยกัน ญ. 2) ขอให้บอกฉันว่าใครจะให้เรียนรู้ ญ. 1) หากฉันหาชายเป็นครู ญ. 2) ฉันยังอดสู ญ. 1) ลองดูว่าเป็นอย่างไร ชุมชื่นยิ่งนักเมื่อยามได้รวมรักใคร่ ญ.2 ) ชุ่มชื่นแค่ไหน ฉันไม่แน่ใจทดลอง (สร้อย) หมู่) ฮาเฮฮา รักนี่แหละหนาพาหัวใจผุดผ่อง มนุษย์สุดปอง ร่วมสุขสองทุกเมื่อเชื่อวัน มาเถิดมารักกันเถิดหนาคนทั้งโลกชอบกัน มนุษย์สุขสันต์ดั่งขึ้นสวรรค์ รักนั้นบันดาล ..(ดนตรี).. หมู่ชาย) สุขเหลือเมื่อรัก สุขนักคล้ายขึ้นสวรรค์ สุขไหนเทียมทัน รักกันหวานมันถึงใจ ชื่นในเมื่อยามรักใคร่ ชื่นใจสิ่งใดหรือปาน... (สร้อย) ..(ดนตรี).. ญ. 2) ได้ฟังทำนองบทร้องร้อนเร่าเอาการ แน่หรือรักหวานน้ำตาลจะเป็นน้ำตา ญ. 1) แน่นักว่ารักหวานกว่า น้ำตาจะเป็นน้ำตาล.(สร้อย) ญ. 2 ) เชื่อแล้วว่ารัก อาจพักชวนขึ้นวิมาน ญ. 1 ) ชื่นใจใดปาน รักกันซาบซ่านทรวงใน ญ. 2 ) อยากลอง ช่วยจองรักใคร่ ญ. 1 ) ชื่นใจรีบไปทดลอง. (สร้อย). จาก บ้านคนรักสุนทราภรณ์