คนไม่จบสูง เขาก็ต้องปากกัดตีนถีบหางานทำอยู่แล้ว ไม่งั้นก็ใช้ชีวิตไม่ได้ หรือไม่ก็รู้อยู่แล้วว่าจะทำอะไรเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนมหาลัย แต่ปกติส่วนมากพวกจบปริญญา​ตรีคือไม่รู้จะทำอะไรดีเลยเรียนต่อไปให้ไกลที่สุด ถึง ป โท ป เอก เพราะพ่อแม่ยังจ่ายเงินให้ พวกที่จบ ป ตรี แล้วกล้าลาออกทั้ง ๆ ที่ไม่มีงานรองรับคือมีคนที่บ้าน support ล้มบนฟูก มันตลกที่เด็กบ้านเราอยากรับผิดชอบตัวเองเท่าเด็กเอเชียคือเรียนอย่างเดียว ค่าใช้จ่ายพ่อแม่ support ให้ แต่อยากใช้ชีวิตอิสระทำอะไรตามใจ ไป party ไป hang out แบบฝั่งตะวันตก

ผมจบป4 อายุ79ปี ทำงานทุกวันไม่เคยหยุด แม้มีฐานะอยู่ในขั้นดี ใช้อย่างไรก็ไม่หมด คือนิสัยของคนรุ่นเก่า การทำงาน คือการพักผ่อนที่ดี มีเพื่อนคุย มีคนเอาเงินมาให้ทุกวัน นี่คือความคิดของคนรุ่นเก่าครับ

555555 ผมเคยทำบริษัท เข้าออฟฟิส จันทร์-เสาร์ เงินเดินฝึกงาน 9,000 เงินเดือนบรรจุ 12,000 ทำอยู่5 ปีถึงได้ 15,000 ทำอีก5ปี ได้ 17,000 แต่ ค่าครองชีพ จากก๋วยเตี๋ยวขาม 30 ไป ชาม 60 ภายในไม่ถึง10ปี 😂😂😂 ไม่พอยาใส้ ไม่มีตังเก็บ อยู่ในเมืองก็แพง อยู่นอกเมืองก็เสียเวลาเดินทางนานและค่าเดินทางก็แพงอยู่ดี มีทางไหนให้เลือกบ้าง😂😂😂

เด็กรุ่นใหม่เขาถูกเลี้ยงดูแบบคุณหนู จึงขาดความอดทน&เชื่อมั่นตัวเองสูง มีอะไรมากระทบนิดหน่อยไม่พอใจก็ลาออกเพราะคิดว่าสามารถหางานใหม่ได้ครับ

ภาวะว่างงานมี 2 แบบหลักๆ 1. คืออัตรางานไม่มี คนเลยหางานทำไม่ได้ เช่นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศพวกนี้ให้ค่าแรงที่เหมาะสม คนทำงานสามารถเลี้ยงชีวิตได้ เช่น ทำอาชีพเด็กเสริฟก็เลี้ยงตัวเองได้ แต่ถ้าทำงานที่ใช้ความรู้สูงขึ้นก็ได้เงินเดือนมากขึ้น 2. อัตรางานมี แต่คนไม่เลือกทำงาน เพราะงานหนักไม่สมกับค่าจ้างที่ได้รับ คำว่าไม่สมนี้เป็นได้ทั้งความรู้สึกและความจริง ปัญหานี้มักเกิดในประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาเพราะอัตราค่าจ้างต่ำและบริษัทกดค่าแรงได้ ความแตกต่างของสองประเภทนี้ถ้าใครมีคนรู้จักอยู่ต่างประเทศจะรู้ดี ในงานที่ไม่ใช้สกิลเช่นขายของในร้านสะดวกซื้อ ค่าแรงในประเทศพัฒนาจะเหมาะสมอยู่ได้อย่างไม่ลำบากเพียงพอค่าอาหาร ที่อยู่และสิ่งอำนวนความสะดวกอื่นๆ ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะได้ค่าแรงในระดับที่เลี้ยงตัวเองยังลำบาก

เราว่าหลายบริษัทวางนโยบายเอาเปรียบคนทำงานมากเกินไปมาก หลาย ๆ อาชีพไม่น่าทำ ถ้าเรามีความสามารถ เราก็ไม่เลือกบริษัทที่กดขี่พนักงานค่ะ

ยิ่งเรียนเยอะยิ่งรักสบายกินดีใช้ดี ความอดทนยิ่งน้อยลง

เด็กรุ่นใหม่วัย Gen Z เน้นเสรีภาพมีความเป็นตัวตนสูง งานไม่ถูกใจ ไม่พอใจจะลาออก เมื่ออายุเข้าสู่วัยกลางคน จะเริ่มรู้สึกว่าอะไรก็จะยากขึ้น เมื่อถึงวัยใกล้ช่วงปลาย คิดได้ ก็สายไปแล้ว อายุมาก กำลังถดถอย

เด็กเรียนสูง รวยนะ สมัยนี้ค่าเทอมไม่ธรรมดา ไม่ใช่สมัยก่อนที่ค่าเทอมถูก ๆ พอจบออกมา ก็ไปเป็นนักลงทุน ทำอาชีพอิสระเยอะมาก พ่อแม่มีทุนให้ก้อนหนึ่งแล้ว

เอกชนกดค่าแรงทุกอย่าง เลยต้องวางแผนเข้าทำงานภาคราชการ อย่างน้อยก็ได้ตามคุณวุฒิ หน่วยงานใหญ่ๆ ก็มีงานมาก งบประมาณมาก ได้หมด ค่าพาหนะ เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน โอที ค่าประชุม ค่าบรรยาย ค่ารางวัลนำจับ รวมเดือนหนึ่งมากกว่าเงินเดือนอีก เพียงแต่ว่า กินเวลานานหลายปี จนกว่าจะได้เราจะเป็นผู้ชำนาญการ

ก็รัฐไม่ดูแล ปล่อยเอกชนกดขี่ เอาเปรียบพนักงานตามอำเภอใจ คนรุ่นใหม่เค้ามีสมอง ทำงานหาเงิน ไม่ได้ทำงานหางาน ไม่ได้เกิดมาเป็นทาส นั่งอ้าปากรอเบี้ยใต้ถุนร้าน นายจ้างดีๆ แฟร์ในไทยหายาก

ลักษณะงานมันเปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ งานที่ใช้ความรู้ระดับ ป.ตรี ลดลง เพราะเราเน้นการซื้อมาขายไป ไม่ได้ผลิดเอง ประกอบเอง กลายเป็นเหลืองานพื้นๆ เช่น รับส่งสินค้า เสริฟอาหาร ทำความสะอาด รปภ. ยังมีให้ทำ แม้กระทั่งสายช่าง ก็มีแต่งาน ติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ ซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ บำรุงรักษาเท่านั้น ขนาดโรงงาน เองก็ค่อยๆ ลดลงเหลือแค่ การประกอบง่ายๆ การออกแบบ แก้ไข ผลิตขั้นสูงก็หันไปใช้หุ่นยนต์ หรือสั่งเข้ามาจากต่างประเทศสำเร็จ แล้วมาประกอบโครงสร้างภายนอก ทดสอบก็ขาย เพื่อนผมจบวิศวะ ทำงานเดือนเป็นแสน แต่วันๆ เอาเอกสารประมูลมา เทียบคู่กับ บ.ผู้ผลิต เพื่อหาสินค้าที่เหมาะสม นำไปประมูล พอประมูลได้ก็ให้บ.ผู้ผลิตไปจัดการ วันๆ ก็ทำแค่นั้น แต่งานเยอะ จุกจิก กว่าจะปิดงาน ก็วุ่นวายปวดหัว ทุกวันนี้ เกษียณตัวเองมาอยู่บ้านแล้วครับ

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาแซะเด็กเจนใหม่ๆครับ ต้องapproachที่ปัญหาจริงๆ ทุกอย่างมันคือพลวัต ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ครับ

ตอนเรียนได้เงินใช้เดือนละมากกว่า 15,000 อีกสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูที่พ่อแม่พี่ป้าน้าอา ตามใจและเลี้ยงดูอย่างกับคุณหนู วันๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่เคยพบความลำบาก อยากได้อะไรก็ซื้อให้ เข้ามหาวิทยาลัยได้ก็ซื้อรถให้ เรียนจบก็ซื้อรถให้ ชีวิตสบาย แล้วจะไปทำงานเพื่ออะไรนอนอยู่บ้านก็มีกินจริงไหมจ๊ะ

จบใหม่เงินเดือน15,000 ตื่นแต่เช้านั่งรถไกลฝ่ารถติดไปทำงานเช้าจรดเย็น เลิกงานนั่งรถไกลกับบ้านฝ่ารถติดอีกซ้ำๆทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ ถ้ามีช่องทางอื่นทำได้เงินเท่ากันก็ทำ

สมัยนี้ ลูกใครๆ ก็มีความประสงค์จะให้ลูกเรียนระดับมหาวิทยาลัย ๆ ทีเรีบนกันมากที่สุด คือ ราชภัฏร ซึ่งจะมีแทบทุกจังหวัดที่เป็นจังหวัดใหญ่ ใครๆ ก็จบราชภัฏร ๆ เดี๋ยวนี้งานที่เขาหาได้ดีก็คือ ห้างสรรพสินค้า แลพ 7 - 11 น่าจะคิดบ้างว่า ถ้าเดี๋ยวนี้มันหางานกันได้แค่นี้ เรียนกันแค่ ปวช. ปวส. ก็พอ ไม่เปลืองเงิน ไม่เสียเวลา

ไม่ใช่เรา เคสนี้ แต่เราจบมหาลับวุฒิใบที่3 แต่พอกลับมาสมัครงานสายเดิม ธุรกิจเดิมที่มีประสบการณ์มากกว่า10ปี มาตลอดเป็นปีๆ กลับไม่มีบริษัทเรียกสัมภาษณ์ มีแต่แจ้งกลับว่าเข้ามาดูใบสมัครแต่ไม่พิจารณาต่อ

หนูโชคดี ที่หนูจบแค่ ป6 หนูเลยไม่ตกงาน เพราะหนู เลี้ยงควาย ทุกวัน มีกินมีอยู่ตามปะสา ก็มีความสุข ทุกวันคับ🥹 หนูเลี้ยงควายอยู่ บางที ควายนอนเล่น หนูก็ดูข่าวสารบ้านเมือง ที่วุ่นวาย มากมาย แย่งชิง อำนาจ บาทหลวง คดโกงบ้านเมือง อะไร อีก เยอะแยะมากมาย ส่วนใหญ่ก็คนที่มีการศึกษาทั้งหมดเลย หนูก็เลยมาสรุปว่า การมีการศึกษาก็ดี ที่หางานได้ สบายในระดับหนึ่ง ไม่ต้อง มาเลี้ยงควาย เหมือนหนู แต่ การศึกษาก็ไม่ได้ช่วยให้คนให้มีจิตใจสูง เหมือนที่เขาได้รับการศึกษา ก็เยอะแยะมากมาย 🥹 หนูเลยเข้าใจที่เขาว่าคนเราร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรฉาน หนูก็เห็นด้วย ที่ว่า สัตว์มันหากิน เข่นฆ่ากัน เพราะความอยู่รอด แต่สัตว์มนุษย์เรา เข่นฆ่า กัน แย่งอำนาจกันแย่งที่อยู่กัน แย่งคู่กันนอน อะไรอีกเยอะแยะมากมาย สุดท้ายการศึกษา ก็ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตสำนึกที่ดี มีคุณธรรมที่ สามารถค้ำจุนโลกได้เต็มร้อยเลย🙏

ยิ่งเรียนสูง ยิ่งมีทางเลือก ยิ่งว่างงานเพราะเลือกงาน ไม่สู้งาน ค่านิยม genz

บางบริษัท เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน การคอรัปขั่น ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานไม่ดี ไม่น่าทำงาน การลาออกเลย เป็นหนทางงที่ดีที่สุด..😮😮😮😮😮

งานหนักใช้เกินคุ้ม ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้ายังไม่พอ สุขภาพจิตพังหมด

ครู รับสอบราชการ มีทั้งปี สอบครูท้องถิ่น ครู กทม ไม่มีตกงาน เงินเดือนน้อย แต่สวัสดิการรักษาพ่อแม่ สบาย

ผมจบแค่ม 3 ทำงานอยู่ที่เดิม 18 ปี ไม่เคย ย้ายไป ไหน ไม่ชอบการเริ่มต้นใหม่ สตาร์ทเงินเดือน 3500 ตอนนี้ เงินเดือนผม 9,500 บวกเบี้ยเลี้ยงค่าเที่ยว ประมาณ 25,000 ถึง 30,000 บาททุกเดือน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง บริหารชีวิตครอบครัวให้ดี ก็พอ อยู่ได้ครับ ทำงานเกี่ยวกับพนักงานขับรถ ส่วนแฟน จบม 6 ทำโรงงาน ก็เกือบ 20,000 บาท รวมโอที หักจากผ่อนบ้าน ส่งลูกเรียนก็มี เหลือเก็บนิดหน่อย

พวกเรียนสูงเค้ามีเซฟโซนครับ พ่อแม่พร้อมเลี้ยง คนที่ไม่ได้เรียนสูงมีเหตผลเดียวคือ พ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งเรียน พวกเขาจึงไม่มีเซฟโซน ยังไงก็ต้องทำงาน

ตอนนี้คือกินบุญเก่าที่คนรุ่นเก่าที่โน๊ตบอกว่าอย่าไปสอนเด็กเลย ถ้าคนเจนนี้ไม่พัฒนาตัวเองก็เริ่มเตรียมเข้าสู่ภาวะถดถอยได้เลย

สถิติ หรือ % หากนำเสนออย่างผิวเผินมันก็แค่ตัวเลขครับ ไม่สามารถสรุปอะไรได้แน่ชัดสักเท่าไร , %ว่างงานที่ต่ำในบางกรณีอาจจะเกิดจากการไม่มีทางเลือกก็ได้ครับ มีงานอะไรก็ทำไว้ก่อน เพราะเป็นภาวะจำเป็น , หรือ%ว่างงานที่สูงในคนบางกลุ่ม มันก็อาจจะเกิดจากการที่เขาเลือกที่จะลาออกเอง ซึ่งการเลือกที่จะลาออกเอง มันไม่น่าจะเรียกว่าตกงานนะครับ อาจจะพิจารณาแล้วว่า งานที่ทำอยู่มันไม่คุ้มค่า เขาก็เลือกออกไปทำอย่างอื่น นั้นก็คือเขามีทางเลือกครับ

กระทรวงศึกษธิการไทยควรตื่นได้แล้ว การศึกษาสายวิชาชีพ เช่น ปวช.ปวส.ตลาดแรงงานต้องการมากที่สุด ต้องหันมาพัฒนาด้านสายวิชาชีพจริงจัง ส่งเสริมยังไงก็ได้จูงใจให้เด็กหันมาเรียนสายนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เรียนกันตามมีตามเกิดแบบทุกวันนี้ จบมาก็ตกงาน ต้องเน้นเลยไปสำรวจจริงจังว่าตลาดแรงงานต้องการแแบบไหนก็ไปสร้างหลักสูตรออกมาให้ตรงความต้องการ ตื่นได้แล้ว

ปัญหาคือ ค่านิยมการจบปริญญา แต่จบออกมาแบบไม่มีคุณภาพทำให้ทำงานไม่ได้ หรือเค้าไม่รับเพราะจบมาแบบคาบเส้น ต้องไปทำงานที่ต่ำกว่าวุฒิ ก็ติดสบายอีก ไม่อยากทำสำคัญตัวว่าจบปริญญามา ก็เลยหางานไม่ได้ ที่มีคุณภาพแล้วว่างงานจริงๆแค่ส่วนน้อย

ผมจบ ป.ตรี ตั้งแต่จบมา งานเข้าตลอดครับ ขึ้นอยู่ว่าจบแบบไหนครับ ทำงานอย่างไรมากกว่าครับ เลือกมาก ยากจนครับ ส่วนตัวผมทำได้ทุกงาน ลำบาก ก็ต้องอดทน ตอนเรียนมหาลัย ลำบากมากกว่าทำงานอีก

ส่วนตัวครอบครัวเป็นข้าราชการ แต่...มีpanให้ลูกๆ สร้างธุรกิจส่งนตัวเกี่ยวกับงานบริการ เช่น ตัดผม งานช่าง จบสูงเดี๋ยวนี้ อีโก้สูงก็สูงตาม คิดว่าตัวเองเก่งไปหมด

มหาวิทยาลัยอ่ะเปิดสอนหลายคณะเยอะจัดแล้วมันไม่สอดคล้องกับตลาดเลย ถ้าจะทำงานโรงงานเป็นลูกจ้างทั่วไปวุฒิม.6ก็เหลือเฟือล่ะ แล้วก็ไปสอบโทอิคเอาไว้ เน้นเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่3ที่ยอดฮิต ให้ฝึกพูดคุยอ่านเขียนกับชาวต่างชาติได้ก็สบายล่ะ แต่ถ้าจะทำงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรืองานวิชาการ หรือสายไอทีวิศวะต่างๆ สายโรงพยาบาลพวกนี้ต้องเรียนป.ตรี สรุปแล้วครูแนะแนวแต่ล่ะช่วงวัยนั้นสำคัญเลย ควรแนะแนวตั้งแต่เด็กอยู่วัยประถมศึกษาว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรจะได้วางแผนอนาคตถูก แต่ถ้าจะไปทำธุรกิจนี่ หรือขายของเล็กๆน้อยๆทั่วไป ไม่ต้องเรียนสูงหรอก ม.3ก็ขายได้ ถ้าอยากรู้การจัดการบัญชี วิธีจ่ายภาษี บลาๆ หาคอร์สเรียนเสริมเอาก็ได้มีเยอะแยะ หรือจะหาเรียนการสร้างธุรกิจเสริมเอาก็ได้ ไม่งั้นก็เรียนสายอาชีพไปเลยกลุ่มนี้ไม่ค่อยตกงานหรอก

ไปเป็นเด็กเอ็นเน็ตไอดอลหรือไปทำโอลลี่แฟนกันเยอะ เพราะงานเบา เงินดี รวยเร็ว คือหลักคิดของเด็กรุ่นใหม่

บุคลากรทางการแพทย์น้อย รัฐน่าจะสนับสนุนให้มาก ทั้งพยาบาล หมอ ช่วยเรื่องค่าเรียนมันแพงมาก คนอยากเรียนด้านนี้เยอะแต่ไม่มีเงินเรียน จบมางานรอเพียบ ไปทำงานต่างประเทศก็ได้ ด้านสุขภาพ ดูแลคนแก่ คนป่วย เงินดี

คนที่บอกว่าจะลาออกๆ 4ปียังอยู่ที่เดีม ,คนที่บอกว่าอดทนเดียวก็ดีเอง 3เดือนหายแวบ 🤣🤣🤣

เอาจริงๆนะ สังคมไทยสังคมเอเชียหลักสูตรการศึกษามันไม่สอดคล้องกับอาชีพการงาน งานที่มีตำแหน่งเยอะที่สุดคือกรรมกรแรงงาน แล้วเด็กปริญญาเขาจะทำได้ไง รองมาที่ต้องการแรงงานคืองานบริการซึ่งไม่ต้องเอาวุฒิปริญญาหรอก คนม.6 ม.3 ก็ทำได้ให้มาฝึกฝนเพิ่มจ้ายค่าแรงก็ไม่หนักไป คนไปเรียนปริญญาเขาหวังว่าเขาจะมีงานที่สบายรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต แต่พอจบมาจะตำแหน่งงานเหล่านั้นมีไม่มากเหมือนงานบริการ ต้องแย่งกันเพื่อให้ได้งานอีก นี่เป็นสาเหตุที่คนทุกวันนี้ไม่อยากเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เรียนแค่มัธยมศึกษาพอ ฝึกวิชาชีพหางานง่ายกว่า ส่วนคนด้อยการศึกษาเขาใช้แรงไม่เลือกงานเพราะไม่มีสิทธิ์เลือกก็ไม่ตกงาน เข้าใจอะไรยาก แค่โดนหลอกให้เรียนเพื่อกระดาษแผ่นสองแผ่นเพื่อมาแย่งงานที่มีไม่กี่ตำแหน่ง ตำแหน่งมีหลักพัน คนจบหลักแสน จบปริญญามาใหม่ บริษัทก็บอกไม่มีประสบการณ์ไม่รับพิจารณาอีก ถ้าเรียนปริญญาแล้วต้องมาเป็นกรรมกรจะเรียนไปทำไมเสียเงินเสียเวลาตั้งหลายปี ถ้าจบปริญญาแล้วมาเป็นเด็กเสริฟจะเรียนสูงไปทำไม เอาเวลาเอาเงินไปเรียนภาษาช่วงสั้นๆแล้วมาทำงานบริการตามร้านอาหาร ทำงานโรงแรมดีกว่า

หลานเราจบป.โทออกมาทำงานได้เงินเดือนเริ่มแรก สี่หมื่นกว่าบาทค่ะ เก่งมากๆ พูดได้สามภาษา อังกฤษคือ👍 อายุแค่ 24ค่ะ อย่าคิดว่าการศึกษาไม่สำคัญนะคะ โลกเขาไปไหนต่อไหนแล้วค่ะ เรียนให้เก่งจริงๆเท่านั่น ออกมามีงานรองรับแน่นอน ถ้าไม่มีการศึกษา ก็ทำงานแรงงานสิคะ จะรออะไร เอาแรงงานกำลังตัวเองเข้าแลกนะคะ

การศึกษาไม่ช่วยอะไร ยิ่งเรียนเยอะก็ยิ่งเลือกเยอะใช้เงินเยอะ เลือกกินเลือกใช้เก่ง ฟุ่มเฟือยถนัด

จะให้ทำยังไงเวลาไปสมัครงานก็กำหนดอายุแล้วบางที่ ขออายุไม่เกิน 30, บางที่ขอไม่เกิน 25 ยังไม่ทันดูกันที่ความสามารถเลยแต่มองที่อายุแล้ว

มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เลือกงานได้ แต่ไม่มีคนจ้าง รู้มาก งานหนักไม่อยากทำ เป็นเหตุให้ตกงานเพราะไม่คุ้มค่าแรงครับ

เศรษฐกิจไม่ขยายตัวงัย นายจ้างกดค่าแรง จบ ป ตรีแต่ได้ค่าแรงเท่า ป.6 ลองสำรวจให้ดีสิ

ขอให้มีงานทำทุกคนค่ะ

บ.กลัวต้องจ่ายสมทบประกันสังคม

นอนนาน ทำงานน้อย เที่ยวบ่อยแป๊บเดียวตางค์หมด

อยากให้ปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษา คือ ทุกสายควรเรียนอาชีวะก่อนรวม2ปี เพื่อฝึกทำงานจริงเมื่อผ่านแล้วจึงขึ้นเรียนชั้นปีที่3และต่อไป จากท่ีสังเกตุจากที่ทำงานจริง คนที่เรียนสายอาชีวะแล้วเรียนต่อจนจบป.ตรี จะทำงานดีมาก รู้ละเอียดและทำงานรวดเร็วและมีคุณภาพดีมาก เพราะรู้รายละเอียดของงานจึงสามารถปรับปรุงงานให้ดีขึ้นได้และอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากคนจบป.ตรีโดยตรงจะไม่รู้ขั้นตอนรายละเอียดของการทำงาน ทำงาน แบบกล้าๆกลัวๆไม่เด็ดขาดเหมือนคนเรียนอาชีวะมาก่อน

บริษัทลดจำนวนพนักงานเขาก็ให้พนักงานสมัครใจลาออกนะ เหตุผลมันก็จะเป็นลาออกเหมือนกัน

เด็กยุคใหม่มีช้องทางทำงานหาเงินได้หลายอยาง ไม่อยากทำงานประจำบริษัทเงินเดือนขั้นต่ำไม่พอใช้

มันมีหลายองค์ประกอบนะครับ การที่คนคนนึ้งจะลาออก ต้องคิดหลายอย่าง เเละมีหลายปัจจัยที่มากระทบกับชีวิตเขา สังคมสมัยใหม่เปลี่ยนไป การทำงาน ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต มันคนละอย่างกับเมื่อก่อนมาก จะให้คนยุคใหม่ เป็นเเบบคนยุคเก่า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เช่น จบใหม่ เงินเดือน 12,000-15,000 บาท สำหรับปัจจุบัน ถ้าไม่ได้อยู่บ้านพ่อบ้านเเม่ ไปทำงานห่างไกลบ้าน เเทบไม่มีเงินเก็บเลยครับ คนรุ่นใหม่จึงมองไม่เห็นความสำเร็จ จึงเลือกที่จะออก เเล้วไปหางานใหม่ เเละอีกปัจจัยหนึ่ง คือ การทำงานร่วมกับคนยุคเก่า เข้ากันไม่ได้ ทัศนคติ ระบบ การสื่อสาร มันเข้ากันไม่ได้ มันจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผล เเละมีอีกหลายอย่างมากระทบ เยอะ

ผมเป็น ผจก.ฝ่ายบัญชี ตั้งใจสอนงานให้เป็น 3 ด.ลาออก บอกยากเกิน "ไม่คิดจะสู้งาน เรียนรู้งานเลยเหรอ" กลับไปบ้านมีพ่อแม่คอยเลี้ยง 😒

คนสมัยก่อนๆรุ่นพ่อแ ่ แบะรุ่นกลางๆมาจะได้งานตรงตามที่เรียนมาหางานง่าย สอบรรจุบ่อยๆ นับสมัครสอบ คนเข้สทำงานอยู่ตลอดค่ะ แต่รุ่นหลังๆมา อายุตำ่กว่า40ลงไป จะหางานตรงกับที่เรียนยากขึ้นค่ะ นอกจากไม่เลือกงาน มีสอบบรรจุน้อยลง และประกาศรับสมัครตำแหน่งน้อยลงค่ะ คนก็เลือกงาน และไม่อดทนก็ลาออกกันมากขึ้นค่ะ

เด็ก รุ่นใหม่ ไม่มีความอดทนอยากได้เงินสูงๆ งาน สบายๆ งานหนักไม่เอา ก็เลยต้องตกงาน

ผมเรียนจบแค่ ปวส เคยคิดจะเรียน ปตรี ต่อแล้ว แต่ทำงานด้วยตอนเรียนแล้วไม่ไหวก็เลยออกมาทำงานเต็มตัว ผมทำงานมา3 ปีเงินเดือนก็เกือบ1.9หมื่นละ แต่คนทีจบป.ตรีมาเริ่มที่หลังผมอยู่แผนกเดียวกัน เริ่ม1.2หมื่น เริ่มก่อนได้เปรียบครับ ไม่เกี่ยวกับวุฒิเลย จบปตรี ก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้15,000 บาท อยู่ที่ประสบการณ์ล้วนๆ

เด็กรุ่นใหม่ มักติดเกมส์ได้รับการตามใจ มีเทคโนโลยี่ ที่ทำให้หลงตนเอง และหลงโลก..ยากที่จะพัฒนาชาติไทย ไปแข่งขันกับชาติอื่น เพราะขาดความอดทน+สังคมผู้ใหญ่ ก็ฟอนเฟะ-คอรัปชั่น เล่นพวก แบบนักการเมือง😢

หน่วยงานรัฐยังรับป.ตรีน้อยเลยกลัวต้องจ่ายค่าแรง150000-18000รับแต่ปวช.9พันกว่าปวส.11000จะพอกินมั้ย

เด็กสมัยนี้ถ้าเรียนจบปริญญาได้ง่ายขึ้นก็ไม่สู้ปัญหาดังนั้นสมเหตุสมผลที่จะตัดสินใจลาออกได้ง่ายขึ้นครับ

เพราะหนึ่งเลือกงาน.คิดว่าจบสูงค่าเเรงหมื่นห้ายังน้อยอยากได้สองหมื่นห้า.เข้างานใหม่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำงานออกมาได้ดีหรือเปล่า.เลยทำให้บริษัทไม่รับค่ะ.

มันอยู่ที่ว่าจบคณะอะไรค่ะ และทนแค่ไหน โตมากับความฟุ้งเฟ้อ อวยรวยแต่เด็ก ติดกับดักวัยรุ่นสร้างตัวก็อยากรวยเร็ว พนง มันรวยช้าค่ะ ก็ไปทำอาชีพอิสระกัน ไม่ต้องจ่ายภาษีด้วย อย่าดราม่าค่ะ มีรายได้นอกระบบกันทั้งนั้น ส่วนพวกไม่จบมหาลัย ก็เป็นได้แค่ sub contract ถ้าจะเข้าระบบ แต่ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้เค้าทำงานนอกระบบค่ะ ไม่อยู่ในฐานวิจัย คนที่วิจัย คนที่มาพูด ก็แค่นักวิจัยอยู่กับตัวหนังสือ

ค่าจ้างถูก อ้างประสบการณ์ ที่ไหนๆก็อยากได้เด็กจบใหม่เพราะค่าจ้างถูก เงินเดือนไม่พอสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยซ้ำ 😅พฤติกรรมแบบนี้ใครมันจะชอบละครับ

เรียนสูงหางานยาก ต่างด้าวไม่ได้เรียนมาทำงานในไทยมีเงินไปสร้างบ้านในประเทศตัวเองได้

จบมหาลัย=กูจบมาสูง ทำไมเงินกูน้อยจัง จบม.ต้น-ม.ปลาย=งานอะไรกูเอาหมด ดีกว่าไม่มีงานทำ

ส่วนนึงมาจากการศึกษาเมืองไทยล้าหลังเหมือนเต่าคลาน วิสัยทัศแย่คิดนอกกรอบไม่เป็นเอาแต่วนตามตำรา

ทุกวันนี้ทำงานอิสระ เห็นคนรอรถ-ขึ้นรถเมล์ แล้วคิดย้อนถึงภาพในอตีต ว่าเราทำไปได้ยังไง!!?? งานประจำร๋อ เข้า-ออก มาก็หลายบริษัทฯ อยู่ ประมาณว่าคนในอยากออก-คนนอกอยากเข้า

เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ความอดทนต่ำนะ มันแค่ไม่มีเหตุผลให้อดทนเท่านั้นเอง ในเมื่อมีฟูกให้ล้ม จะอดทนไปทำไม ถ้าที่ทำงาน toxic แล้วลาออกได้ก็ต้องลาออก จะอดทนทำต่อจนถึงตอนที่ไม่มีฟูกให้ล้มหรอ

ไม่แปลกหรอกครับ จบสาขาวิชาชีพที่มันล้นมันก็ต้องตกงานก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นจบบนมนุษย์ศาสตร์ปีนึงหลายหมื่น จบกฎหมายปีนึงหลายหมื่นจะเอางานที่ไหนรองรับล่ะครับ..

ที่บริษัท รับสมัคร อยู่นะค่ะแต่ๆๆ ส่วนใหญ่มา แป๊บๆออก บอกขับGrab ส่งอาหาร รายได้ดีกว่า เป็นนายตัวเอง ขยันๆ3 หมื่นขึ้น ออกเวลาไหนก็ได้ มาทำงานบริษัท เข้าออกตามเวลา 1-2 หมื่นกว่า เค้าไม่อยากทำ นี้คือเรื่องจริง ณ ตอนนี้มุมมอง เปลี่ยนไปแล้ว บางคนจบ ป.ตรี ก็จริงทำงานไม่ทน เยอะมากๆ😅 2024

ช่วงนี้ว่างงานกันทั่วโลก ไม่ใช่แต่เฉพาะเมืองไทย

ประเด็นคือ ค่าจ้าง บริษัทจ่ายไม่ไหว ก็เลือกวุฒิต่ำกว่า ป.ตรี

คนยุคนี้รักสบาย

มุมมองจากฝ่ายบุคคลแบบผมที่เจอ มีหลายมิติครับ

เรียนมากเลือกมากจมไม่ลง แต่ล่มจม 😂😂

มันจะทนอะไรได้ล่ะ แค่ยืนตากแดดเข้าแถว มันยังทนไม่ได้เลย😅

ตกงานเพราะไม่รู้จักความลำบาก ถือว่าตัวเองมีการศึกษา มาดอยู่ดาวพุ้น😂😂😂

เด็กสมัยนี้...ไม่อดทน..เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนสัก2_3ปี....แล้วค่อยย้ายงาน...

คำว่าลาออก คือ ทำหลายตำเเหน่งเกิน สุดท้าย ทนสุดๆเเล้ว เลยหางานใหม่ ได้ งานใหม่เเล้วลาออก

แต่ผมหาเด็ก เข้าบริษัท ไม่มี ในสมุทรสาคร

เพื่อนจบปริญญาตรีบอกเดินตากแดดตรวจงานก้อไม่เอาแล้วตอนนี้ไปทำงานที่บ้านธุรกิจส่วนตัวยังไม่มีอะไรเป๋นชิ้นเป็นอัน ผมจบ ปวส.ทำงานในช๊อปออกไปรับงานตากแดดตากลมทำมา21ปีแล้วมีครบทุกอย่างแล้วบ้านรถ

ค่าแรงไม่คุ้มกับค่าครองชีพต่างหากเยอะที่สุด

คนจบปริญญาตรี ตอนนี้บริษัทห้างร้าน เค้ารับเต็มเอี๊ยดหมดแล้ว ทุกวันนี้ห้างร้านบริษัทมีแต่จะเอามนุษย์เงินเดือนที่จบปริญญาตรี อายุเกิน +40 ปี เชิญออก ไล่ออก กันแล้ว เพื่อรับเด็กรุ่นใหม่ ฐานเงินเดือนไม่สูงเข้ามาแทนแล้ว..... #สนับสนุนคนอายุ40ปี เชิญออก ไล่ออกแล้วเอาเด็กรุ่นใหม่มาแทนที่ฮะ

หมดยุคเป็นลูกจ้างแล้ว ! ควรสร้างผู้ประกอบการใหม่ๆให้มากขึ้น ยึดความพอดี !

เด็กรุ่นใหม่ไม่มีความอดทน ชอบงานสบายแต่ได้เงินเยอะๆ ซึ่งมันไม่มีในความเป็นจริง ยิ่งบางคนสามารถเกาะพ่อแม่กินไปเรื่อยๆได้ ยิ่งไม่อยากทำงาน

หมายถึงงานอะไร ในระบบ/นอกระบบ เอกชน-ราชการ เขาทำงานหารายได้อย่างอื่นกันก็เยอะ นั่งดูแต่ข้อมูลหน้าจอ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใด เบื่อ !

เชื่อว่าส่วนใหญ่เกิดจากความรู้สึกว่ารายได้ไม่คุ้มกับการเสียเวลาไปทำงาน 😢

แต่อย่างหนึ่งที่ประเทศขาดคือแรงงานคุณภาพเฉพาะทางที่ใช้ IQ สักหน่อยแต่ประเทศอื่นเช่นเวียดนามเริ่มมีมากกว่าไทยจนนักลงทุนจะไม่มองไทยอยู่แล้ว หรือย้ายฐานการผลิตไปหรือเปล่า?????

[เคยได้ยิน] วิธีวัดคนว่างงาน จำนวนชั่วโมงต่อเดือนจะต่ำมาก ประมาณว่า ได้ทำงาน ไม่กี่ชั่วโมงต่อเดือนก็นับว่ามีงานทำแล้ว ฝากหาตัวเลขทีครับ เขาถึงได้โม้ได้หรือเปล่าว่าไทยอัตรว่างงานต่ำ

ทำนาครับ มีที่นา25ไร่ มีสระน้ำแหล่งน้ำ ปลูกข้าวกินเอง เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่กินเอง ตกงานไหม ไม่นะมีอะไรให้ทำทุกวัน แต่ที่แน่ๆ จบแค่ ม.3 แต่ขอโทษ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร

เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีความอดทน

เงินเดือนสูงๆนายจ้าง รับภาระไม่ไหว

บริษัทไม่มีคุณภาพเยอะครับ แม้จะมีชื่อเสียงมานาน พอเข้าไปจริง ๆ แม้แต่ผู้บริหารยังบ่นเองต้องการการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นไม่แปลกใจที่เด็ก ๆ จะเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อให้ได้งานตรงใจ ทั้งรายได้และงาน อย่าลืมว่าจบก็ 22 พอถึง 40 งานก็เปลี่ยนยากแล้ว และสายอาชีพงานในระบบก็น้อยมาก บางสายก็ไม่ได้มีงานสำรอง และการบริหารงานหลายที่ก็เอาเปรียบแรงงาน ผลงานต้องเร็ว แต่คนสอนงานก็ไม่มีประสิทธิภาพ

ความสุขสบายมากไปส่งผลให้ขาดความอดทน

ทุกที่มีคนขยันมีคนขี้เกียจ ไม่เกี่ยวกับ gen บริษัทผมมีเด็กจบใหม่ 80% เด็กเก่า 20% ก็ทำงานกันได้แค่มอบงานให้เหมาะกับแต่ละคน ใครไม่ไปต่อก็จะลาออกไปเองเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คนส่วนมากก็ยังทำงานปกติถือว่าภาพรวมโอเคครับ จะมีน้อยมากเป็นพวกเหลือขอ ซึ่งคนประเภทนี้มีทุก Gen เราเป็นผู้ใหญ่อยากให้เด็กเคารพต้องประพฤติให้ดี ทำตัวให้น่าเคารพเด็กมันจะมองเห็นเราจากพฤติกรรมไม่ใช่คำพูด เด็กสมัยนี้จะไม่เคารพผู้ใหญ่ที่พูดอย่างเดียวไม่ทำพฤติกรรมให้เหมาะสม

กิจการ ห้างร้านต่างๆๆตอนนี้มีแต่จะปิดตัว ไม่เกิดการขยายธุรกิจ ประกอบการใช้เทคโนโลยีอื่นมาแทนคนในการทำงาน จึงไม่จ้างคนทำงานแล้วค่ะ

จริงๆ %การไล่ออกน่าจะเยอะกว่านี้ แต่คนให้สัมภาษณ์ใครจะกล้าบอกว่าตัวเองโดนไล่ออก

บางคนมันไม่ไปทำงานเลย เรียนจบพักผ่อน😂 บุญเก่าเยอะ

เคยดูสัมภาษณ์เด็กมหาวิทยาลัยใกล้จบว่า จบปริญญาตรีแล้ว อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ เด็กที่ให้สัมภาษณ์ตอบใกล้เคียงกันหมดว่า 100,000 - 200,000 บาท ค่ะ 😇😇😇

เด็กเดี๋ยวนี้เค้าไม่เรียนมหาลัยกันแล้ว ต่างประเทศลาออกมหาลัยยังเป็นเศรษฐีระดับโลก เลยลาออกมานอนตีพุง เล่นเกมอยู่บ้านกัน 🤣

ทุกวุฒิการศึกษานี่ รวมแพทย์ด้วยไหม๊...

เพราะเรียนสายสังคมฯ มากเกิน

จบมาทำงาน 2-3 ปีเงินเดือนเริ่มสูงก็จะบีบให้ออกทำวนๆไปประหยัดทุนบริษัทจะได้กำไรเยอะๆ โอเคนะ

มีท่านใดคิดเหมือนผมมั้ย...ปัจจุบันนี้ เงินค่าเล่าเรียนที่จ่าย20000/ปี×ปีที่เรียน (อุดมศึกษา)💥ไม่คุ้มกับผลลัพท์ หลังจบการศึกษา=ตกงาน!!เงินเดือนไม่พอ!!#สุดท้ายจบที่ค้าขาย..

งานหายากนะผมว่า ผมไม่มีงานทำ สมัครที่ไหนก็ไม่รับ

ระดับอุดมศึกษาจบมามันหางานยากเพราะว่าวุฒิสูงพวกนี้ต้องเป็นระดับหัวหน้างานแล้วใครเขาจะรับล่ะครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีงานไหนที่เหมาะสมกับอุดมศึกษานะครับ