หนูอยากฟังค่ะ ป้าทำยูปเลบนะคะ

ใช่ค่ะ อยากฟังมากเลยค่ะ

สาธุๆๆค่ะ

ตอนเด็ก เราฝันเเบบนี้เหมือนกันค่ะ เเต่ในฝันเราวิ่งหนีออกจากเเถวไปอีกฝั่งนึงของถ้ำที่มืดๆไม่มีคน เเล้วก็สดุ้งตื่นก่อนตลอด ฝันบ่อยมาก พอโตขึ้นมาก็ไม่ฝันอีก เเต่ยังจำได้ถึงทุกวันนี้

ลช งช ล

งช

​@@user-jx8ue6sb9t งง ชง งช

ท่านท้าวจตุโลกบาลหน้าตารูปร่างท่านเป็นเยี่ยงไรคะ ขออนุญาตศึกษาเรียนรู้ค่ะ

ขอบคุณนะคะ / Admin

ขอบคุณมากๆครับสำหรับสาระดีๆ

@@JenYantipOfficial สวัสดีครับอาจารย์..คือถ้าผมอยากจะให้อาจารย์ช่วยตรวจดวงชะตาของผมเองไม่รู้ว่าผมจะมีช่องทางไหนบ้างครับ.

+1

เห็นด้วยค่ะ.. สาธุ

เวอร์ชั่นเยอะเกิน

+1

ตัดสังโยชน์ 3 ข้อแรกให้ขาดครับ ไม่งั้นไม่เป็นอันทำมาหากิน หรือ มีชีวิต

ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจอาจารย์เจน มาโดยตลอด / Admin

มีสูตรมาแนะนำลองฝึกทำดูสาธุ : "นายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ขยัน เมื่อชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่า เราชักยาว เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่า เราชักสั้น" แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น เมื่อหายใจ เข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก ย่อมสำเหนียกว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจออก ย่อมสำเหนียกว่าเราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า ดังพรรณนามาฉะนี้ภิกษุย่อมพิจารณา เห็นกายในกายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง ย่อมอยู่ อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค. ดูกรภิกษุทั้งหลาย "เรากล่าวลมหายใจออกลมหายใจเข้านี้ว่าเป็นกายชนิดหนึ่งในพวกกาย" "ถ้าภิกษุเจริญอานาปานสติแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งอานาปานสตินั้นเล่า" อานาปานสติ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ ข้อที่ ๒๒๔ หน้า ๔๒ เจริญสติปัฏฐาน 4 อย่างน้อย 7 วันอย่างมาก 7 ปีบรรลุอนาคามี (จิตเหนือโลก) หรือ ถ้าไม่เหลืออุปทานเลยเป็นอรหันต์

มีวิธีที่จะรับรู้เรื่องราวต่างๆของภพภูมอื่นได้ครับ.....นั้นคือการปฏิบัติกรรมฐานครับ.....ปฎิบัติอย่างจริงจังไม่ย้อ ท้อต่อความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆปที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฎิบัติครับ....มารไม่มีบารมีไม่เกิดประเสริฐไม่ได้....ถ้าอยากรู้อยากเห็นก็ต้องปฎิบัติอย่างเดียวครับ....รู้ด้วยตนเองย่อมดีกว่าคนอื่นมาบอกนะครับ....จะได้แบ่งเบาภาระของคุณ เจน เข้า...ปฎิบัติไปเรื่อยๆ....ช้าแต่ชัวร์....อย่าใจร้อนวู่วามด่วนได้นะครับ....ของดีต้องคอยๆชิมรสชาตทีละเล็กละน้อย...ถึงได้รู้คุณค่าครับ....เมื่อก่อนผมก็ใจร้อนด่วนได้เหมือนกัน....แต่มาตอนนี้ได้ก็ช่างไม่ได้ก็ชั่งครับ....ใจเย็นปฎิบัติไปเรื่อยเดียวเห็นเองครับ..ข้อสำคัญอย่ากลัวสิ่งที่ได้เห็นนะครับ...อาจจะได้ไปเที่ยวนรก สวรรค์ ก็ได้นะ...เหมือนกับผมที่ได้ไปมาๆแล้วครับ...และยังได้ไปเห็นอีกหลายที่นะขอบอก....อ้อและยังได้เห็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวอีกด้วยนะและได้พูดคุยสื่อสารกับเขาด้วยนะ...ขอบอก

TV TV

ตุ๊กเเกตุ๊กเเก

คนในนรกคือเจ้าพนักงานที่ทำบุญและบาปพอกัน

เข้าใจว่า เขาทำตามหน้าที่ ในฐานะ จนท.

เป็นจิตนิมิตรของผู้ที่โดนลงโทษเองครับ ไม่ใช่คนอื่น

สามารถกลับไปฟังในเฟสบุ๊คอาจารย์เจนได้ครับ ตอนที่อาจารย์ขาหรือข้อเท้าเป็นอะไรสักอย่าง ผ่านเครื่อง MRI ครับ

ตกนรกเท่านั้นที่เจอท่ายยมนะระดับโสดาบันไม่เจอแน่

ไม่ทุกชีวิตหรอก​ เฉพาะคนที่ทำทั้งบุญและบาปจึงจะพบพญายมราช​ คนที่ทำแต่กรรมดี​ จะขึ้นสวรรค์โดยตรง​ และคนที่ทำบาปหนักจะลงนรกโดยตรง

ไม่มีใครมารับใครตอนตายทั้งนั้นอะกรรมจะพาไปเอง

สาธุครับอาจารย์