แนะนำนาฬิกา Diver Watch ในงบหลักพันถึงหลักแสน ฉบับปี 2023
1. Casio Duro MDV106
Casio Duro เป็นนาฬิกาดำน้ำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยคุณสมบัติของนาฬิกาจะมาพร้อมการกันน้ำ 200 เมตร ขอบหน้าปัดจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียว เม็ดมะยมและฝาหลังเป็นแบบขันเกลียวแน่น ซึ่งในปี 2022 ที่ผ่านมาได้ออกสีใหม่ มีสีสันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สีทูโทน หรือ สีเดียว ส่วนการดีไซน์จะโดดเด่นด้วยเข็มวินาทีที่มีการแต่งแต้มสีแดงเข้าไป บางรุ่นจะมีการจับคู่สีของเข็มวินาทีให้เข้ากับขอบหน้าปัดได้อย่างสวยงามและลงตัว มาพร้อมโลโก้ Marlin อันเป็นเอกลักษณ์อยู่บริเวณ 6 นาฬิกา โดยจะทั้งรุ่นที่มีโลโก้และไม่มีโลโก้ มาพร้อมสายเรซินที่เข้ากับตัวเรือนได้เป็นอย่างดี
2. Seiko Prospex SPB335
นาฬิการุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม The Black Series ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงได้มีการออกรุ่นใหม่มาอีกครั้งในปี 2023 นี้ ซึ่งได้นำการออกแบบจากนาฬิกาดำน้ำในปี 1968 มาปรับให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "Night Vision" โดดเด่นด้วยพรายน้ำที่ทำมาจาก Lumibrite ช่วยให้แสงสีเขียวสว่างมากยิ่งขึ้น มีการแต่งแต้มจุดสีแดงบนเข็มวินาทีเพื่อให้อ่านเวลาได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มสีทูโทนบนขอบหน้าปัดเพื่อให้ดูสวยงามและกลมกลืนกับตัวเรือนได้เป็นอย่างดี มาพร้อมขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตร สามารถสำรองพลังงานได้นาน 70 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ 200 เมตร
3. Sinn T50
โดยแบรนด์ Sinn จะมีชื่อเสียงในด้าน Too Watch คือ เพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ ส่วนรุ่นที่เราจะแนะนำในครั้งนี้เป็นรุ่นเหมาะกับข้อมือคนเอเชียมากที่สุด นั่นก็คือ Sinn T50 ซึ่งเป็นคอลเลกชันใหม่ล่าสุดปี 2023 มาพร้อมวัสดุ Goldbronze ที่ผสมผสานระหว่างทองและสัมฤทธิ์ ซึ่งจะให้ความสว่างมากกว่าสัมฤทธิ์ทั่วไป ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก นอกจากนี้แล้ว หน้าปัดของนาฬิกายังโดดเด่นด้วยลวดลายแบบรอยขัดที่ให้ความพิเศษไม่ซ้ำกันในแต่ละเรือน มาพร้อมขอบหน้าปัดที่มีการเซาะร่องเพื่อให้สามารถจับหมุนได้ง่ายขึ้น และยังมาพร้อมระบบพิเศษที่จะต้องกดก่อนจึงจะสามารถหมุนขอบหน้าปัดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้หมุนขอบหน้าปัดโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยนาฬิการุ่นนี้มีความสามารถในการดำน้ำลึกถึง 500 เมตร
4. OMEGA Seamaster 300M
นาฬิกา OMEGA Seamaster Diver 300m James Bond 60th Anniversary รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ เปิดตัวมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ (James Bond) ที่ได้สวมใส่นาฬิกา OMEGA ในภาพยนตร์ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ใหม่นี้ โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินลวดลายคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมขานาฬิกา (Twisted Lug) และขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวทำจากวัสดุอะลูมิเนียม มีการสลักตัวเลข 60 แทนรูปสามเหลี่ยมในดั้งเดิม พร้อมทั้งวาล์วปล่อยก๊าซฮีเลียม (Helium Escape Valve) และความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 300 เมตร พิเศษกับด้านหลังตัวเรือนด้วย Animated Caseback ที่เป็นเหมือนฉากเปิดภาพยนตร์เจมส์ บอนด์
5. Rolex Yacht-Master 42 in RLX Titanium
ตัวเรือนของ Yacht-Master จะใช้วัสดุที่มีค่า พร้อมขอบหน้าปัดที่หมุนได้สองทิศทาง มาพร้อมขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตร โดย Yacht-Master รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับวัสดุตัวเรือนไทเทเนียม RLX ที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความทนทานสูง โดย Yacht-Master รุ่นใหม่ล่าสุดถือว่าเป็นรุ่นที่สองของแบรนด์ Rolex ที่ผลิตด้วยไทเทเนียม RLX ให้ลุคแบบ Diver Watch ที่มีความคลาสสิกและสวยงาม ผสานระหว่างวัสดุไทเทเนียมกับขอบหน้าปัด Cerachrom ที่เป็นสีดำด้านได้อย่างลงตัว มาพร้อมความสามารถในการกันน้ำลึก 100 เมตร
6. Blancpain Fifty Fathoms
ในโอกาสครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms ทางแบรนด์จึงถือโอกาสเริ่มต้นปีแห่งการเฉลิมฉลองด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ แยกออกมาเป็นหลาย Act โดย Act 1 ได้ถูกปล่อยออกมาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม มาพร้อมขนาดหน้าปัดที่เล็กลงกว่าปกติที่ 42 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Fifty Fathoms ยุคใหม่ที่มีขนาดเท่านี้ ในส่วนของการดีไซน์ ทั้งลักษณะของเข็มและหลักชั่วโมงจะยังคงเดิมที่มีกลิ่นอายของโมเดลปี 1953 พร้อมเคลือบสารเรืองแสงที่ให้ความสว่างมาก ส่วนขอบหน้าปัดทำจากวัสดุแซฟไฟร์แบบโดม ทำให้ขอบมีความเงาสวยงาม พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 300 เมตร และสำรองพลังงานได้นาน 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน ซึ่งนาฬิกา Act 1 รุ่นลิมิติดอิดิชัน ทั้งหมด 210 เรือนที่ออกมานี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แฟนคลับทั่วโลกต่างชิงกันจับจองเป็นเจ้าของ จนทำให้นาฬิกาถูกจำหน่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว
ติดตามคอนเทนต์นาฬิกาที่น่าสนใจได้ที่
IG: / auctionhouse_official
FB: / auctionhouse.th
อย่าลืมกดติดตามเพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
#AuctionHouse #WatchReview #WatchInsights #ลงทุนนาฬิกา #รีวิวนาฬิกา