สาวๆ เพื่อนใหม่ของเรา จัดอารมณ์มาแบบวัฒนธรรมต่างชาติอย่างแท้ทรู แต่ตรงจุดนี้ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกนะครับ โปรดแซ่บ

แต่ก็ว้าว กับความคิดเห็นของสมาชิกใหม่สองสาวนะ ไม่ใช่ว่าไม่โรแมนติก แต่เพราะทั้งคู่มีตรรกะและเหตุผลที่มองลึกไปถึงเบื้องหลังของตัวโฆษณา ทำให้เราได้มองอีกมุมนึงว่า ก็จริงแบบที่เค้าคิดกันเนาะ ว่าเราเองก็ควรจะต้องนึกถึงประเด็นด้านนี้กันด้วย

ต่างวัฒนธรรม ต่างความคิด จะให้คนเราคิดเหมือนกัน ทั้งโลกคงเป็นไปไม่ได้ 😊😊😊😊

อยากบอกแม่สาวผมแกละว่า จุดประสงค์ของโฆษณาแรก ไม่ได้ต้องการขายการฆ่าตัวตาย แต่อยากให้มองถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ความรักของพ่อที่มีต่อลูก ที่ยอมเสียทุกอย่างไปเพื่อที่จะให้ลูกมีชีวิตกลับมา ส่วนเรื่องที่พี่สาวเป็นมะเร็งนั้น ที่นางไม่เชื่อว่าชีวิตจริงจะมีแบบนี้ อยากบอกว่าในไทยมีแบบนี้จริงๆ แค่บริจาคผมยังน้อยไปเป็นเรื่องจิ๊บๆ มาก บางคนบริจาคไตข้างหนึ่งให้กับคนในครอบครัวก็มีหลายเคสมาแล้ว อย่างว่าความผูกพันในครอบครัวของแต่ละชนชาติมันต่างกัน ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด แต่อยากให้เปิดใจลองมองดูอีกด้านเท่านั้นเอง

เพราะวัฒนะธรรมต่างกันครับ โฆษณาต้องการสื่อถึง ความมั่นใจ ของเด็กสาวที่มั่น ในตัวเองในสิ่งที่ตนเองคิด จะเป็นสิ่งที่มั่นคงถาวร แต่กลับตรงกันข้าม ล้มทั้งยืน เมื่อรอดชีวิต ถึงมองเห็นที่ตัวเองมองไม่เห็น สิ่งที่ตัวเองอับอายต่อ คนอื่นและรู้สึกว่าสิ่งที่มีค่าและหวังดีกับเราอยู่ กับเรามาทั้งชีวิต ไม่ใช่การเอาเด็กมาโหน

คนไทยเรามีความละเอียดอ่อนด้านความคิด และการนำเสนอ สิ่งที่โฆษณาพยายามจะสื่อคนไทยเราสัมผัสได้ แต่มุมมองของต่างชาติ จะเป็นอีกแบบนึง มันเป็นเรื่องของแนวการคิดและวิธีคิดของแต่ละวัฒนธรรมครับ 😊

ส่วนมากชาวตะวันตกก็เข้าใจคอนเซ็ปต์ของโฆษณาไทยนะ บางคนอาจมีงงบ้าง แต่2สาวนี้อาจตะมีมุมองต่างจากชาติตะวันตกคนอื่นเพราะพวกเธอมาจากยุโรปตะวันออก จึงอาจมีมุมมองต่างออกไป ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร แต่อาจโฟกัสคนละจุด เนื่องจากเธอมองในมุมของการขาย และการนำโศกนาฏกรรมมาเป็นจุดขายคงไม่ดีนัก ส่วนฝั่งเสรีนิยมอาจจะมองด้านให้แรงบันดาลใจและมีความหมายลึกซึ้งกว่าการขายตรงแบบโฆษณาของคะวันตก นอกจากความต่างทางวัฒนธรรมแล้วระบบความคิดของเศรษฐกิจและสังคมก็มีผลต่อมุมมองได้เช่นกัน

ทุกคลิปที่ผ่านมาดูแล้วสนุกมากค่ะ แต่คลิปนี้เรารุ้สึกไม่อินกับ2สาวเท่าไหร่😅

เข้าใจความรู้สึกของน้องผู้หญิงสองคนนะ​ คงจะด้วยอายุที่ยังน้อยเลยไม่ค่อยอินกับความรู้สึกผิดหวังจากความรักและการเจ็บป่วยที่ยากต่อการรักษาเท่าไหร่​นัก ถ้าอายุมากกว่านี้แล้วกลับมาดูโฆษณาสองชุดนี้อีกครั้งน่าจะเข้าใจมากขึ้น

รู้สึกว่าสองสาวจะให้ความสำคัญกับการมีชีวิตและครอบครัวนะคะ แต่เราขอแนะนำโฆษณาที่เราคิดว่ามันซึ้งได้กว่าสองตัวนี้นะคะ มีโฆษณาของ thai smile ชุดแก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร , โฆษณาชุด โอเลี้ยง ,และโฆษณาเกี่ยวกับครูค่ะ อันนี้มีหลายตัวที่ซึ้งๆ ลองหาดูนะคะ เราเชื่อว่าเรียกน้ำตาได้กว่านี้แน่ๆค่ะ

เราว่าความต่างวัฒนธรรมมีผลมากๆค่ะ คนต่างชาติเลยไม่ค่อยเก็ตเพราะตัวเขาไม่ได้มีประสบการณ์ที่ลิ้งกับเรื่องแบบนี้ คนไทยอินกับครอบครัวค่ะ ถึงจะโตแค่ไหนครอบครัวคือลำดับนึง แต่ฝรั่งเขาแบบโตแล้วก็ออกไปใช้ชีวิตซะส่วนใหญ่ ถ้าทำเรื่องครอบครัวแบบนี้แน่นอนมันกินใจชาวไทยเราๆอยู่แล้วเพราะประสบการณ์ตรง

จริงๆเอาตามเหตุผลของสองสาวก็ไม่ผิดนะ แต่มันอาจจะมองผิดจุดไปหน่อย 🤣

สองสาวคิดว่าโฆษณาบอกถึงการฆ่าตัวตาย แต่คนไทยมองว่าความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรทำอะไรพวกเขาก็ยังคงรักลูก

This is a corporate advertising..they don't want you to buy their product, but they wanted you to take care who took care of you.

จริงความคิดของน้องผู้หญิงทั้งสองคนไม่ผิดนะก็จริงอย่างที่น้องเขาพูด แต่มุมมองและการตีโจทย์ของvdoโฆษณานี้ผิดไปจากมุมมองของคนไทยจริงๆแล้วอยากบอกน้องเขาว่าการที่ทีมคิดโฆษณานี้เขาไม่ใช่ว่าเหมาว่าเขาเป็นคนไม่ดีนะคะเขาแสดงออกถึงความรักความห่วงใยจากพ่อถึงลูกและสะท้อนถึงความที่ลูกในวัยรุ่นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ที่มีพ่อเป็นผู้พิการ คนไทยจะละเอียดอ่อนค่ะและประเทศเราก็ไม่ได้สนับสนุนการฆ่าตัวตายกองเซ็นเซอร์ของไทยเราก็เข้มมากเรื่องแบบนี้เขาไม่ปล่อยออกสื่อแน่นอน ไม่ผิดค่ะที่น้องฝรั่งเขาจะคิดและพูดออกมาได้ตรงๆมันก็จริงแต่การโฟกัสและวัฒนธรรมเราต่างกัน ประเทศไทยจะละเอียดอ่อนกับครอบครัวและอีกหลายๆเรื่อง อยากให้น้องทั้งสองได้อ่านได้เห็นคอมเม้นทุกๆคอมเม้นจังค่ะน้องทั้งสองจะได้เข้าใจในโฆษณาว่าสื่อถึงอะไรและเขาจะเข้าใจและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและความเป็นไทยได้เพิ่ม ทุกๆประเทศย่อมมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน

เอาตรงๆนะ โฆษณาพวกนี้เราดูเป็นสิบรอบแล้วนะ ชอบดูคนอื่นรีแอคชั่นว่าเป็นไง แต่เราก็ร้องไห้น้ำตาไหลทุกคลิปเลย 😢😅

ชอบความเห็นของสาวๆที่บอกว่ามันไม่สมจริงค่ะ เวลาดูโฆษณาหรือหนังเราไม่เคยคิดถึงมุมนี้เลย เราจะใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิดแบบไม่รู้ตัว จนบางครั้งก็งงว่าทำไมคนอื่นดูแล้วไม่อินเหมือนเรา พอนางพูดมาแล้วแบบ เออ ก็จริง5555

นึกว่าตกเลือดเพิ่งสังเกตุเห็นเหมือนเลือดหยดตอนขึ้นเปลนอน เค้าให้ดูความรักของพ่อที่มีต่อลูก

จิตใต้สำนึก สาวฝรั่ง ไม่เหมือนเอเซีย โตแล้วจากครอบครัว คนไทยผูกพัน คนจีนบอก เลือดข้นกว่าน้ำ

คู่นึงดูด้วยความรู้สึก อีกคู่ดูด้วยความอคติ

หลายๆคนบอกว่ามองลึกมากแต่สำผมผมว่าเห็นกลับกันว่าสาวเขามองตื้นไปและก็โลกสวยไป ถ้าบอกแค่นี้ไม่สมควรแล้วคุณก็คงดูหนังต่อสู้ไม่ได้หรอก ถ้ามองลึกจริงต้องเข้าใจสิ่งที่โฆษณาจะสื่อ คือความสัมพันธ์ของครอบครัว ไม่ได้เข้าใจสิ่งที่โฆษณาจะสื่อเลย ซึ่งไม่ผิดแต่ผิดอย่างนึงผิดประเด็น (ความคิดใครความคิดมัน) หากใครไม่เห็นด้วยกับผมกรุณาคุยด้วยเหตุผล

มันเป็นโฆษณาประกันมันเป็นเรื่องของชีวิตอะไรก็เกิดขึ้นได้ดึงบันเทิงคงขายไม่ได้คนไม่ได้ อันที่สองเขาต้องดึงความสงสารให้คนมาบริจาคผมกันเยอะๆ โฆษณามันต้องเสริมเติมแต่งทุกประเทศเป็นเรื่องปกติถ้าไม่เอาอคติมาตั้ง แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มี เชื่อว่ามีเยอะเลยล่ะทำไมจะไม่สมจริง พ่อแม่ตายพี่น้องดูแลกันเอง แน่นอนไม่มีอะไรถูกผิด

ดูเหมือนหลายคนจะเข้าใจสาวๆ แต่ผมคิดต่างนะ ถึงจะต่างวัฒนธรรมแต่คนเรามีจิตใจ แต่ก็ไม่ว่ากันนะต่างคนต่างจิตใจ บางคนเห็นคนตายก็ยังเฉยๆบางคนเห็นคนตายแล้วสงสาร

4:38 โห มุมมองนี้น่าคิดอะ คือไม่ได้จะบอกว่าเป็นมุมมองที่ดีหรือไม่ดีนะ แต่มันเป็นมุมมองที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนเลยอะ หาเงินกับเรื่องฆ่าตัวตาย ว้าวสุป ๆ TT

ผมเข้าใจและชอบวิธีคิด victory และ irina มันเป็นอีกมุมมองที่บ้านเราไม่ค่อยได้มองที่มุมนี้เท่าไร. ไม่มองแบบโลกสวย,ไม่มองมันว่าเป็นสื่อวิดีโอเพื่อความบันเทิง แต่มองในมุมของสังคมวิทยา. ผมเคยดูสารคดีเกี่ยวกับการทำตลาด โดยใช้จิตวิทยาบนพื้นฐานความกลัวและ ภาพรักษาความปลอดภัยในการทำการตลาด(ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า โฆษณามันถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี)

โดยทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีใครผิด มุมมองขึ้นอยู่กับประสบการ์​ที่บุคคล​ๆนั้น พบเจอมาทั้งชีวิต มีมากมีน้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งคนที่มีมากก็จะมองได้ลึกซึ้งและรอบด้านกว่า และจะมองออกว่าใครที่เจอปัญหา​แล้วมีประสบการณ์​ไม่เยอะพอที่จะหาทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา​นั้นๆได้ และมันอยู่ที่สังคมที่เขาเติบโตมาด้วยว่าหล่อหลอมคนให้มีด้านไหนในตัวมากน้อยต่างกัน ทำให้มีมุมมองในการโฟกัสต่อสิ่งต่างๆ แตกต่างกันออกไป ความเอื้ออารี​ เอื้ออาทร ความเห็นอกเห็นใจที่มีมากน้อยต่างกันของคนแต่ละสังคม แต่ละประเทศ​ และอีกประเด็น​ที่สำคัญ​กว่าคือ สองสาวทำงานเบื้องหลังด้านโฆษณา​ จึงทำให้การดูโฆษณา​แตกต่างจากคนทั่วไป ที่โฟกัสไปที่อารมณ์​ และความรู้สึกต่อเรื่องราวที่ดำเนินไป แต่กลับไปโฟกัสที่ความจริงไม่จริง โน้มเอียงไปค่อนข้างมากในการใช้ตรรกะ​เหตผลตัดสิน แทนที่จะอินไปกับอารมณ์ของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมา จนลืมสังเกตว่าตัวโฆษณา​ต้องการสื่อสื่งใดกันแน่ อะไรคือคริติคอล หรือพ้อยท์​สำคัญของเรื่องราวนี้ ถ้าคนที่ไม่อินกับอะไรที่ใช้อารมณ์​แปลว่าคนพวกนี้จะไม่ชอบฟังเพลง ดูหนัง การ์ตูน​ และข้อสันนิษฐานอื่นๆ เช่น เพื่อนที่ยั่งข้างๆ ดูอาการแล้วจะเออ ออตามกันไป เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ดูมีความรีบตอบ ไม่ค่อยให้เหตผลเท่าไหร่ ลักษณะ​นี้จะต่างกับอีกคนที่พยามอธิบาย​มากกว่า ถ้าจับถามแยก อาจจะได้คำตอบแตกต่างจากนี้ก็เป็นได้ สุดท้ายก็ไม่มีใครผิด เพราะมันก็เป็นแค่มุมมอง

มีมุมคนเข้าใจสองสาวเยอะแล้ว ขอมุมคนช็อคบ้างได้ไหมคะ จู่ๆก็รู้สึกเข้าใจคำว่า "อยากรู้จิตใจคนประเทศไหนเป็นไง ให้ดูสภาพอากาศประเทศนั้นๆ" พวกเธอเหมือนกำแพงน้ำแข็งเลย😂😂😂😂

ผมชอบคลิปนี้มากๆเลยครับ ผมไม่เคยนึกได้ในมุมแบบนี้2สาวนี้คิดมาก่อนเลย ไม่ได้มองแค่เนื้อเรื่อง มองเข้าไปถึงตั้งแค่การคิดเนื้อเรื่องเพื่อมาเป็นโฆษณา สำหรับผมมันทำให้เปิดมุมมองอีกด้านนึงเลยว่า 1สิ่ง1อย่างนี่มุมมองมันเยอะมากจริงๆ ชอบมากเลยครับ

เราอาจเห็นต่างจากสองสาวตรงที่เขาไม่ได้เอาการฆ่าตัวตายมาเป็นจุดขายของเรื่องหรือขายให้คนซื้อผลิตภัณฑ์ แต่มันเป็นโฆษณาสร้างความตระหนักรู้ เหมือนเป็นตัวอย่างบทเรียนกลายๆ ว่าให้ใส่ใจคนใกล้ตัว นอกจากนี้แล้วก็เป็นโฆษณาที่สอนอะไรหลายๆ อย่างด้วยในแง่มุมการใช้ชีวิต ปัญหาเด็กวัยรุ่นฆ่าตัวตายหรือคนที่โตแล้วฆ่าตัวตายก็มีเยอะ เหมือนโฆษณาหยิบประเด็นนี้มาชี้ให้เห็นและให้คนดูตระหนักถึงประเด็นพวกนี้ด้วย

จริงๆแล้วเอาความรู้สึกเรื่องการพยายามฆ่าตัวตายมาเป็นแกนหลักผมเองก็คิดแบบสาว2คนนั้นนะ มันไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะเอามาเป็นโฆษณา เป็นในหนังในซีรี่ย์ว่าไปอย่าง แต่เรื่องความรู้สึกนี่ก็เรียกน้ำตาอยู่ครับ

เขาไม่ได้ขายของครับมันคือระครสะท้อนสังคม

การตลาดบ้านเราจะต้องเล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้ล่ะ ถึงจะทัชใจ ต่างชาติยังยอมรับ แต่ก็เข้าใจสาวยูเครนนะที่ไทยหยิบยกเอาการฆ่าตัวตายมาในมุมมองแบบนั้น ถือว่าเข้าใจได้

สาวต่างชาติที่มาใหม่ 2 คนนะ ต้องอยู่สัก 3-4ปีก็คงจะรู้กับการโฆษณาแหละมั้งกับคำพูดของเขาที่เขาพูดออกมา เพราะเขาไม่รู้ไงว่าประเทศไทยมันคนละแบบกับทางบ้านเขา

ปกติชอบดู Reaction ฝรั่งเค้าดูโฆษณาเศร้าของไทยอยู่ละอ่ะ รอมานานเลยสำหรับอันนี้ ^^

การคิดวิเคราะห์ในโฆษณาตัวแรกของสองสาวโดยเฉพาะน้องมัดจุก เออ มันเป็นอีกข้อนึงที่เราเพิ่งตระหนักถึงและควรสังเกต แน่นอนว่าเราดูมาหลายปีแต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องที่ว่ามาหาเงินกับประเด็นการฆ่าตัวตายเลย มันต่างมุมมองจริงๆ เพราะสิ่งที่เรามองคือความผูกพันของพ่อแม่ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินประกันจะช่วยเหลือเรื่องเงินได้ แต่เขามองไปที่อีกจุดที่ใหญ่พอกันคือการฆ่าตัวตายของตัวละคร เออ มันก็น่าคิด

ความคิดเห็นของสองสาวนี่มันใช่เลย คนไทยหากินกับความสงสารมากไป พอได้ฟังความคิดเห็นของเขาเราก็ได่เปิดโลกอีกมุมเลย

จริงๆอยากให้รีแอคโฆษณาที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริงค่ะ เช่น โฆษณาครูเจี๊ยบครูอาสาชนบท เป็นโฆษณาที่สุดยอดมากๆๆ

ได้ว้าวกับมุมมอง 2 สาวนี้นะ น่าสนใจทีเดียว ส่วนตัวเวลาดูก็น้ำตาไหลนะ แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ รู้สึกกำลังถูกบีบคั้นอารมณ์จากผู้สร้างมากเกินไปจนไม่อยากอินถึงแม้จะน้ำตาไหลก็ตาม แต่ก็คิดว่าในโฆษณาตัวแรก 2 สาว มองคนละจุดกับที่โฆษณาจะสื่อนะ แต่ก็มองได้ไม่ผิดจ้า

the joi gen2มาอีกแล้ววว555555 ชอบมากกยินดีต้อนรับนะค่า victoria n irina

เข้าใจสาวๆนะ ทั้งสองคนเข้าใจถึงเบื้องหลังของโฆษณาได้ดีเลย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าโฆษณานี้แย่เสมอไปนะ ก็เข้าใจแหละโฆษณาเล่นความรู้สึกเพื่อให้ทัชใจแล้วคนก็ซื้อ แต่ในอีกมุมนึงมันช่วยสอนให้เราเข้าใจในมุมมองและการวางแผนชีวิตในหลายๆอย่าง ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ เพียงแต่ต้องวางแผนชีวิตให้ดีๆ อาจเพราะสองสาวยังอายุน้อยด้วย ต่างวัฒนธรรม ไม่มีภาระ มั่นใจในตัวเอง เลยไม่ได้คิด เรื่องพวกนี้ แต่ก็ขอบคุณความคิดใหม่ๆของสองสาวนะคะ

ก็ไม่มีผิด ไม่มีถูก อยู่ที่มุมมอง การตีความ และบางอย่างอาจเคยมีประสบการณ์​ที่แตกต่าง รวมถึงความอ่อนไหว ละเอียดอ่อน ด้านอารมณ์​ด้วย บางทีสองสาวจากยูเครนและโรมาเนียอาจจะไม่ได้มองในแง่ดี เหมือนที่หลายๆคนมอง ประเด็นของ โฆษณาประกันชีวิตส่วนใหญ่อยากให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิต และคนเราจะรู้คุณค่าของชีวิตก็เมื่อผ่านการสูญเสียหรือเกือบสูญเสียชีวิตทั้งตัวเองและคนสำคัญ ดังนั้นการนำเสนอก็จะเป็นไปในแนวทางนี้ มันไม่ใช่เรื่องของการเอาความตายหรือ การฆ่าตัวตายมาหากินหรืออะไรทำนองนั้น

นี่ก็เศ้ราครับ ครูหนุ่มที่เอาแม่มาโรงเรียนและดูแลแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์กับเรื่องนักศึกษาสาวทีบังเอิญไปเจอเด็กที่ถูกทิ้งในถุงขยะแล้วเก็บมาเลี้ยงเหมือนลูก น่ารีแอค2เรื่องนี้ครับ

เข้าใจความคิดของผู้หญิงนะ แต่มันมีความคิดนึงผุดขึ้นมาหลังจบโฆษณาที่สองว่า เวลาดูหนังนี่เขาเคยอินมั่งมั้ย55555🤣

อะไร ของผู้หญิงสองคน อคติเกินไป จ้องจับผิดอย่างเดียวเลย

คิดว่าสองสาวคงเหมาะกับโฆษณาที่สร้างจากเรื่องจริงมากกว่าเรื่องแต่ง เช่น โฆษณาไก่ย่างห้าดาวอันนั้น หรือนศเก็บเด็กมาเลี้ยงอันนู้น

วัฒนธรรมที่แตกต่างกันครับ ต่างชาติบางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ ความผูกพันธ์อะไรแบบนี้ ชีวิตคน มันเกิดได้ทุกรูปแบบครับ

ผมมองสองสาวน่าจะอยู่ในประเภทที่เรียกว่าหากไม่แน่ก็แพ้ไปทำนองนั้น และน่าจะไม่เข้าใจถึงความรักและความผู้พันระหว่างครอบครัวเท่าไร .. ยิ่งให้คะแนนศูนย์ด้วยล่ะก็ชัดเจนครับ

We don't know how cruel the world will be to us. But we will always be kind to this world.

ยินดีค้อนรับนิคจ้า แลน่ารักดี

สองสาวโลกสวย ในความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่านี้เยอะ ยายตาบอดอยู่กับหลานสี่ขวบงี่

แต่ละโฆษณา จี้ปมสุดๆ น้ำตาแตกทุกอัน

ได้เห็นความคิดที่แตกต่างจากสองสาวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ยินดีตอนรับเพื่อนสาวอีกสองสาวที่มาใหม่นะคะ🎉🎉🎉🎉

ถ้าสองสาว เจอโฆษณาตลกของ เชนไดร์ ที่เล่นโดยพี่ สายเชีย ที่ใส่ชุดปลวก กับ แมงสาบ จะเป็นไงบ้างนะ 55555

คนดูยังร้องไห้ตามเลย,,

น้องผู้หญิงผมแกละ..เธอช่างมองโลกในแง่ร้ายให้ร้ายกว่าเดิมได้อีก เธอไม่รู้เหรอว่า โฆษณามันสะท้อนความจริงในสังคมยุคใหม่ คุณไม่รู้ว่าสังคมไทยเป็นไง คุณเลยตัดสินโฆษณาว่าคือเรื่องหลอกลวง...นี่สิทัศนคติที่แห้งแล้งและเหี่ยวเฉา.

ผมว่าความรู้สึกไม่ผิดหรอกที่คนแต่ละคนจะคิดอย่างไง แต่การที่มีโฆษณาแบบนี้มันทำให้ใครบางคนได้รู้สึก แล้วอยากเปลียนตัวเองให้ดีกว่าเดิม ได้รู้สึกเห็นใจแล้วรักคนที่อยู่ข้างๆเรามากขึ้นไม่ใช้คนนอกบ้าน แต่ใส่ใจคนในบ้านที่อยู่ข้างๆเรา เป็นต้น ผมก็เป็นคนๆนึ่งที่เปลียนแปลงจาก โฆษณาแบบนี้จากเป็นคนไม่สนใจใครเลยเอาแต่เพื่อนๆ จนได้ดู ผมก็รู้สึกถึงความห่วงใยของครอบครัวมากขึ้นจริงๆ

ใช้หัวใจและความรู้สึกผูกพันธ์มากกว่าความคิดนะ แต่ก็อย่างว่าล่ะวัฒธรรมมันต่างกัน เขาคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดอะไร เขาอาจจะไม่เคยหรือไม่ค่อยพบเจอเหตุการณ์อย่างในโฆษณาไทย มันก็เลยแบบว่า ดูเป็นไปไม่ได้ ดูเดินจริงในชีวิตสังคมและประเทศของเขา

ชอบเวลาได้มุมมองที่แตกต่างและใหม่แบบนี้มากค่ะ ต้องขอบคุณสองสาวเลยนะ บางทีเรามัวแต่อินไปกับมันจนไม่ได้ลองวิเคราะห์ดูเลย

วัฒนธรรมต่างกัน ต่างชาติไม่เก็ต พอได้ฟังเราก็อึ้งกับความคิดเห็น แต่ก็เข้าใจเขา

ถ้าบอกว่าไม่ชอบที่เอาเรื่องฆ่าตัวตายมาทำหนังโฆษณาขายของ แล้วที่เอามาทำเป็นหนังฉายโรง ไม่ยิ่งแย่เหรอ ขายตั่วเก็บเงินตรงๆ เลย ??? Content ที่เราดู ๆ ทุกวันนี้ ไม่เก็บเงินก็ขายของ ไม่ก็เรียกยอดวิวทั้งนั้น มันมีผลประโยชน์มาเกี่ยวทั้งนั้นแหละ น่าจะดูที่คุณภาพของเนื้อหานั้นๆ มากกว่า

สาวๆดีนะคะเเต่คราวหลังเอามีอีพีตลกๆดีกว่า ขัดมู๊ดมาก

อยากให้นางเจอ โฆษณา ถ้ามีโอกาสจะรักษามันไว้ นางดู ไปไม่เป็นแน่ ทั้งเศร้า ทั้งหลอก ทั้งหักมุม อยากเห็นอาการของเธอจัง😊😊

คือ โฆษณาไทยบางครั้งจะสื่ออะไรสิ่งหนึ่ง แล้วจะโยงไปอีกสิ่งหนึ่ง ก็โอเค มันลึก มันกว้างตีความหลากหลาย แต่การรับรู้ของคนอาจจะตีความแตกต่างกับสิ่งที่คนทำโฆษณาคิด มันเป็นสิ่งที่คนทำโฆษณาเขาต้องควรจะรับทราบและคิดอยู่เสมอ อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยหากมีคนที่คิดในหลายแง่มุม มีทั้งดีและแย่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่โฆษณาประเภทเล่นกับความรู้สึก ที่นิยมเอามาใช้ราว 10 กว่าปีที่ผ่านมาคืออารมณ์ ใช่ มันค่อนข้างเข้าถึงง่ายคนสนใจ และบางคนดูซ้ำ อาจเพราะชอบเนื้อหา บางเพราะต้องการเสพ moment แต่ดาบ 2 คมย่อมมีคือ เนื้อเรื่อง หากมันมีแง่ลบ ในเชิงด้านลบ จนลึกมากไปอย่าง การฆ่าตั้วตาย ความทรมานจากโรค อุบัติเหตุ เป็นต้น หากต้องการคนชมมากกว่าติ แง่มุมเหล่านั้นอาจจะต้องลดน้ำหนักลง ใช้มุมภาพการถ่ายทำที่สะท้อนให้ตีความแทน โฆษณากินใจมีอีกเยอะที่ไม่ใช้ฉากแบบนี้ ได้มีการสะท้อนอารมณ์ไปในรูปแบบอื่น อย่างไก่ย่าง 5 ดาว หรือ เมืองไทยประกัน โฆษณาผู้ชายที่มีแต่ให้ หรืออาจารย์หมอที่เสียสละให้ลูกศิษย์ หรือล่าสุด ลูกสาวที่มาเยี่ยมคุณแม่ที่ทะเล ในช่วงสุดท้ายของชีวิต มันก็สามารถสร้างแนงสะเทือนใจในแง่มุมของความอบอุ่นและการเจอกันครั้งสุดท้าย ได้ดี และสามารถตัดการตีความในแง่มุมของความรุนแรงหรือการใช้ความทรมาน มาตีแผ่เพื่อธุรกิจได้

2สาว ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ถึงมาวนดูถึงจะซึ้ง

อยากให้ react วันแม่ บาบิก้อน ครับ

Welcome back Khun Nick ka.

ขอ Reaction คลิปนี้ครับ treasure every opportunity

เขาควรตัดต่อหน้าปกไห้แม่ส่วผมแกละไม่มีน้ำตากซักหยด แต่ว้าวก็เห็นโฆษณาอีกด้านแหละ แต่ไม่รู้สิ

ด้วยความต่างวัฒนธรรม ทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนใช้ ตรรกะ เหตุผลให้การดูมากกว่า ใช้ความรู้สึกจากข้างใน

ผมชอบคุณทุกคนมากๆ

ผมว่าหลากหลายมุมมองดี เรามาจากต่างวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ แนวคิด มองต่างกันบ้าง ไม่เข้าใจบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ส่วนตัวเราคือเหมือนเขาคิดคอนเซ็ปมาว่าไม่ว่าเราจะเป็นโรคหรืออุบัติเหตุใดๆเราสามารถเขารักษาได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ส่วนสาวสาวเขาคิดอีกด้านซึ่งถ้าช่วงเวลานั้นประเทศไทยไม่มีใครมาคิดเรื่องฆ่าตัวตายมาทำแนวทางหาเงิน เขาซึ้งความรักหรือการตอบเเทนแล้วการมีประกันคือการป้องกันการสูญเสียทั้งตั้งใจให้เกิดกับไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้น

เราคิดว่าโฆษณาไม่ได้อยากให้เราซื้อของเขาทั้งหมด แต่ครึ่งนึงคืออยากสร้างแบรนด์ให้ตัวเองจำได้ด้วยล่ะ เลยจะบอกว่าเอาเรื่องฆตต.มาใช้เพื่อให้เขาเอาเงินให้คุณ เราว่าอันนี้ก็สุดโต่งไปหน่อย 5555 เราว่าความเอเชี่ยนพาเรนท์อ่ะ ลองเอาให้คนเอเชียชาติอื่นดูอาจจะรู้สึกน่าสนใจกว่านี้ อยากรู้ว่าวัฒนธรรมร่วมมันเป็นไปได้ถึงขนาดไหน ฮา

รู้สึกว้าวกับความเห็นใหม่ๆ

จริงๆกลุ่มเป้าหมายหลักของโฆษณาคือคนไทย คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจแล้วมองในมุมที่โฆษณาจะตีความออกมาอยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่ต่างชาติบางกลุ่มจะไม่เข้าใจ

ไม่ได้สนับสนุนหรือส่งเสริมการฆ่าตัวตายในโฆษณานี้ แต่สื่อถึงสังคมจริงๆ ปัญหาและทางออกที่แย่นี้มีอยู่ในทุกสังคม มันคือเรื่องจริง....เหมือนการนำเสนอเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง ที่มันมีอยู่จริงและเกิดขึ้น...คุณคงจะบอกว่า มันไม่ควรนำเสนออย่างนั้นหรือเปล่า....คุณคงจะชอบให้นำเสนอแต่สิ่งดีๆ นวนิยายและทุ่งดอกไม้ อย่านำความจริงมานำเสนอ....นำเสนอที่ดีคือโลกแห่งจินตนาการ เจ้าชายและเจ้าหญิงผู้แสนดี

ก็เข้าใจในมุมมองของบริบทของต่างชาติ หรือต่างวัฒนธรรม หรือแม้กระทั้งมุมมองคนที่อยู่ในวงการโฆษณาเลยนะ เปิดมุมมองให้เราได้คิดในอีกมุมนึง แอบเห็นด้วยนะไม่อยากให้นำเสนอการ suicide (ในฐานะที่เคยผ่าน) แต่ก็เห็นในมุมมอง(คนทั่วไป) ที่เห็นถึงความรักของคน ก็คือว้าวเลย

โฆษณาแรกเข้าใจ ณ ที่ไม่ควรเล่นกับประเด็น ฆตต ของสองสาว แต่ โฆษณาสองอะไรคือการไม่เมคเซ็น และไม่อินกับโฆษณา ไม่รู้ดิ ไม่บังคับว่าให้อิน แต่จะบอกว่า เพราะ ฉันไม่เชื่อ เอ้า ก็มันคือการโฆษณา Not True อยู่แล้ว ควรถอดตรรกะทิ้งไปก่อนมั้ย ไม่รู้ ก็ต่างวัฒนธรรมแหละ เลยไม่อินกับ ความคิดเห็นคนผมแกละเหมือนกัน

Vicky Why u so cute ❤

เค้าไม่ได้สร้างเพื่อเอาเงินนน เค้าสร้างเพื่อสอนคน

ฉันผิดหวังกับสองสาวนี้มาก

เคยดูโฆษณา 2 ตัวนี้มาเกิน 10 รอบละ พอกลับมาดูอีกก็น้ำตาร่วงอีก แล้วดันดูก่อนนอนด้วย พน.เช้าตาจะบวมไปทำงานมั้ยละเนี่ย ㅠㅡㅠ

กดรักไอรีน่ากับวิคตอเรียรัวๆเลยครับ 💕

วิเคราะห์ลึกมาก

ช่วงความคิดในหัว หน้าทำซับให้เค้าฟังเข้าใจด้วยว่าเธอคิดอะไรอยู่ตอนนึกถึงพ่อตอนแรกๆ หลายโฆษณาทำมาจากเรื่องจริง

ดูกี่ครั้งก็ขี้มูกโป่งตลอด ปกติชอบอันแรกกว่า แต่ดูรอบนี้ชอบอันสองทากร้องแบบ5555

อยากให้ the joi รีแอคคลิปตลก Bangkok first time ครับ ☺️

ความเห็นส่วนตัวคับ ตระกะ ความคิดมักสะท้อนตัวตน หรือ มุมมองการใช้ชีวิต และ มุมมองของการมองบุคคลที่ 3 เสมอว่าจะออกมาด้าน บวกหรือลบ ย้ำนะครับมุมมองส่วนตัว

โฆษณาที่ฝรั่ง ผช ใส่แว่น พูดถึงน่าจะเป็นโฆษณาทรูหรือเปล่าไม่แน่ใจ เด็กน้อยไปขโมยของมาให้แม่ เป็นยา เฮียร้านก๋วยเตี๋ยวเลยจ่ายให้พร้อมให้ลูกสาวทำเกาเหลาให้ด้วย ผ่านไปหลายปีเฮียล้มป่วยต้องเซ้งตึก เด็กคนนั้นที่เฮียเคยช่วยปัจจุบันเป็นหมอ ค่ารักษาทั้งหมด 0 บาท

แล้วหนังฮอลลีวู้ดที่มีพล็อตฆ่าตัวตาย หรือพล็อตแย่ๆ ในเรื่องต้องโดนตำหนิด้วยหรือไม่ ??? ผมว่าเธอสองคนหลงประเด็นนะ

You girl..don't judge other people. I can't imagine if you lose your father or the one who loves you 😐

เจ๊ใส่แว่นกำแพงสูงลิบเลยค่ะ

โฆษณาเชนไดรท์ครับ ของดี

ช่วยทำคลิป reaction เพลง ชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร ของอัสนี วสันต์..ชื่อเมืองหลวงที่ลง Guinness book ในสถิติชื่อเมืองหลวงที่ยาวที่สุดในโลก..อยากรู้เพื่อนชาวต่างชาติจะรู้สึกอย่างไร..

นอกจากเหตุผลส่วนตัว สังคม มุมมอง ความต่างของอายุ ก็เป็นอิทธิพลหลักต่อการให้คำตอบหรือหาเหตุผลครับ

มองคนละมุม ความคิดต่าง ไม่ว่ากันค่ะ

สังคมต่างกันมาก แม้ต่างคนต่างคิด แต่ก็มีจุดร่วมในประเด็นส่วนหนึ่งร่วมกันเข้าใจได้ทั้งโลกครับ โฆษณาดราม่าต่างๆ หรือสร้างสรรค์สังคม ส่งเสริมภาพลักษณ์องกรณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่ของไทย มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงเกือบทั้งหมด ตรงนี้แหละที่ต่างชาติคงไม่รู้และเข้าใจเต็มร้อย เพราะบริบททางสังคมต่างกันครับ ความเห็น เห็นด้วย เห็นต่างเป็นเรื่องปกติครับ

เห็นได้ชัดว่าความเห็นของผู้ชมทั่วไปกับคนในวงการสื่อมันแตกต่างกันคนละขั้วแต่มันก็น่าสนใจแบบที่พวกเราไม่เคยเอ๊ะมาก่อน

Don't take stuff for granted ไม่ใช่อย่าถือสานะคะ แต่หมายถึง อย่ามองข้ามคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ #แปลผิดอีกแล่วววว

ต้อง โฆษณา บาบีคิว พลาซ่า และโฆษณา เด็กโตขึ้นเป็น หมอ ที่ถูกช่วยหลือค่ายา จาก คนขายก๋วยเตียว