อ.ถวัลย์ กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อาจารย์ทำ คือ หายใจอยู่ สิ่งนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ

อริสโตเติล เป็นรุ่นแรกๆที่กล้าเดา สิ่งที่เดาออกมายังไม่ถูกเสมอไป แต่ก็ยังไม่ผิดเสมอไป รอคนรุ่นต่อไปมาพิสูจน์

ก็เหมือนไส้เดือน มันใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าชีวิตมันมีเพื่ออะไร แต่สรุปแล้วชีวิตมันทำให้ดินร่วน และเป็นอาหารสัตว์อื่น

"ชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบ จะนำความสุขมาให้ ยิ่งกว่าการไล่ล่าความสำเร็จ ที่มันมักจะนำความกังวล ติดกับมันมาด้วย"

ไอสไตล์ เฝ้าคิดค้นหาทฤษฎีสุดท้ายของเขาจนจวบชีวิตเขาสิ้นลม ก็ยังไม่พบเจอ เเละสิ่งที่เขาค้นหาคือ นิพพาน.

ความสงบคือการปล่อยวาง การปล่อยวางคือนิพพาน

นี่คือหนทาง ที่ ยอดอัจฉริยะโลก พูดคิดออกมาบั้นปลายชีวิต แต่แท้จริง พระพุทธเจ้า ทราบก่อนล่วงหน้าไอสไตน์ ตั้งหลายๆร้อยปี คือการหลุดพ้น

เรียบง่ายสงบ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อเห็นอกเห็นใจกันก็จะไม่เอาเปรียบกัน จะอภัยกันได้ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ความเป็นสุขจะบังเกิดขึ้นในสังคมมนุษย์

ไม่เคยนึกมาก่อนถึงสิ่งที่เรียกว่า ”ความสุข” จะเอามันมาประยุคให้เกิดเป็นแง่คิดทฤษฎีเพื่อให้คนเราได้เกิดการเรียนรู้แบบเข้าใจ และมองภาพออก ขอบคุณอาจารย์มิกซ์ที่เป็นผู้เผยแพร่หลักคิดดีๆแบบนี้ และขอบคุณนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ที่จากโลกไปแล้วแต่ยัง สร้างสรรค์สิ่งดีๆไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้กันต่อไป ขอขอบคุณมากๆครับ 🌹

ชีวิตที่เรียบง่าย และเงียบสงบ ดีกว่าไล่ล่า ความเส็จ ที่มีความกังวล ขอต่ออีกนิด อยู่กับคนที่เขารักเรา แบ่งปันสิ่งดีๆให้กัน เดินสายกลาง ชิวิตต้องเดินต่อไป หลงทางเดินชีวิต รีบแก้ที่ตัวเราดูแลตัวเรา ข้อ ๑ ,๒, ๓, ของ อริสโตเดิล ใช่เลย..

ถูกต้องครับชีวิตที่ดีเรียบง่าย มีครอบครัวที่อบอุ่น

องค์พระผู้เป็นเจ้า เที่ยงแท้ พระผู้สร้างสูงสุด ผู้ที่ไอน์สไตน์ กล่าวถึง แบบไม่ยอมรับ แต่ ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีจริง เป็นคำตอบเดียวของทุกสิ่ง หุๆ

ชอบมากครับ อาจารย์ ธรรมมะ คือธรรมชาติ คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาอยู่บนโลกตั้งแต่แรก เพียงแต่ไม่มีหยิบยกขึ้นมา จนพระพุทธองค์ได้กำเนิดเกิด และนำออกมาเผยแผ่ สัจธรรมของความสุข ผมชอบปรัชญามากๆครับ ปรัชญาชีวิตคือสิ่งที่จะทำให้ไม่หลงทาง ชีวิตแท้จริงเป็นเช่นไร เรารู้ตัวเอง ถ้าเรามีสติ มีปัญญา และสมาธิ หากไม่รู้ตัวเองนั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้เมื่อ 2500 ปีก่อน ไม่อยากจะเชื่อว่าสามารถใช้ได้ไปตลอดกาล ติดตามผลงานของอาจารย์นะครับ พอยิ่งโตผมก็ฟังเพลงน้อยลงแต่กลับฟังธรรมและปรัชญามากขึ้นเพื่อให้ชีวิตตั้งอยู่บนความสุข

ลองนำแนวทางของพระพุทธเจ้ามาเสนอตามรูปแบบที่เสนออัลเบิร์ตไอน์สไตน์และอริสโตเติลสิครับ พระพุทธเจ้าก็สุดยอดนะครับ

คนอื่นอาจจะติดตามเพราะคอนเทนท์ แต่ผมติดตามเพราะตัวของอาจารย์นะครับ ชอบวิธีการนำเสนอของอาจารย์มากครับ

ชีวิตดีๆเป็นเป้าหมายเบื้องต้น แล้วความช้ำชากจะทำให้เบื่อ หาทางพ้นความเบื่อหน่าย ชึ่งมีคำจำกัดความว่า "ถึงทางตัน" จึงต้องดิ้นรนหาทางออก จากทางตัน ชึ่งต้องจำกัดความว่า "ความทุกข์ "นำไปสู่การหาทางพ้นทุกข์ และมีทางเดียว พระพุทธศาสนา. นำไปสู่ความหลุดพ้นจากทางตัน วนเวียนช้ำชากไม่รู้จบ...คือสิ้นทุกข์ความช้ำชาก..

ฟังทฤษฎีความสุขนี้น้ำตาแตก คิดถึงพ่อหลวงกับคำว่าพอเพียงค่ะ

คน เกิดมา ไม่ตาย ขณะนั้น ต้องมี ร่างกาย ๑ และมี พลังงาน จิต "พลังรู้ พลังจำ พลังรู้สึก(ดี/ไม่ดี/ชั่ว) พลังความคิด" ชีวิตก็ ดีบ้าง/ไม่ดีบ้าง มีแต่"กาย +จิตรู้ เท่าทัน ความคิด แล้วปล่อยวาง " ความสุข สบาย ปิติ +สุุข เกิด ไม่ต้องมี สิ่งภายนอก/ทรัพย์ มาให้เห็น/สัมผัส

มีชีวิตเพื่ออยู่กับคนที่รัก มีชีวิตเพื่อคิดถึงคนรักที่จากลา อยู่เพื่อนึกถึงเรื่องราวสุขทุกข์ที่ผ่านมา น้ำในตามันก็ไหล...

เรียบง่ายทางสายกลางไม่ทุกข์ไม่สุข สร้างนวัตกรรมเพื่อชีวิตล้ำค่าแต่ไม่มีราคา ความสำเร็จมาจากผลพลอยได้มิใช่กิเลส นี่คือชีวิตผม พึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณํ แบบ

ดูจนถึงท้ายคลิป ผมก็คิดถึง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ขึ้นมาทันทีเลยครับ

สมัยเป็นเด็ก ผมเองก็เฝ้าถามตัวเองเหมือนกัน ชีวิตนี้เกิดมาทำไม ก็พยายามค้นหาจากข้อมูลหลายๆทฤษฏีผู้รู้หลายๆท่าน สุดท้ายก็มาจบที่ศาสนาพุทธ หลังจากนั้น ผมก็ไม่อยากรู้อะไรอีกเลยครับ ซึ่งแก่นแท้จริงศาสนาพุทธนั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆครับ

เคยได้ยินว่า มีคนไปสัมภาษณ์ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า.ได้อะไรจากการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์.. #1.แน่นอนคือความภูมิใจ #2.ได้รู้ว่า ที่นอน หมอน ผ้าห่มอุ่นๆที่บ้าน คือที่ๆมีความสุขที่สุดแล้ว

พระพุทธศาสนาบอกไว้เมื่อ 2563 ปีมาแล้ว สิทธัตธะนี่แหล่ะของจริง😊

ทุกๆวัน ข้าพเจ้าเตือนตนเองนับล้านครั้งว่า ชีวิตทั้งภายในและภายนอกของข้าพเจ้านี้ ขึ้นอยู่กับแรงงานคนอื่นทั้งที่มีชีวิตอยู่ และผู้ที่สิ้นซึ่งชีวิตไปแล้ว ข้าพเจ้าต้องใช้เเรงงานตนเองมอบคืนในสัดส่วนที่เท่ากัน ในขณะที่ข้าพเจ้าเป็นผู้รับ และยังคงเป็นผู้รับตลอดเวลา คุณค่าที่ส่งต่อจริงๆ

เจ้าชายสิทธัตถะคือทีสุด เพราะรวยล้นฟ้าก็หนีไปอยู่ป่า ถ้าเข้าใจชีวิตแต่ไม่วางไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ เห็นพระทุกวันนี้มั้ยมีแต่สอนๆๆๆ แต่ทำไม่ได้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ความกังวล ความร้อนรุ่ม ความคับข้องหมองใจ แน่นอก ความทะเยอทะยานอยาก ถ้าเกิดขึ้นกับผู้ใด ผู้นั้นย่อมไม่สงบสุข

สุดท้าย คนที่ฉลาด ที่เก่ง ที่รวย มีอำนาจมากที่สุด ก็ถามหาความจริงของชีวิต ความจริงที่ถูกปกปิดด้วยอวิชชา(ความไม่รู้) นักปราชญ์ นักคิด ล้วนแต่ค้นหาความจริงนี้ แต่ยิ่งค้นหายิ่งไม่เจอเพราะค้นผิดวิธี เสียดายหากอริสโตเติลได้ศึกษาวิธีค้นหาเป้าหมายชีวิต เหมือนเจ้าชายสิทธัตถะ เขาจะรู้เป้าหมายชีวิตของชีวิตว่า มนุษย์เกิดมาจากไหน เกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายชีวิต และการดำเนินชีวิตทำอย่างไรให้มีความสุข ทฤษฏีแห่งความสุข ที่ อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ ปิ้งขึ้นมาที่โรงแรมอิมพีเรียล " ชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบจะนำความสุขมาให้ยิ่งกว่าการไล่ล่าความสำเร็จที่มักจะนำความกังวลติดมาด้วย " ความสุขที่ไอน์สไตน์ กล่าวไว้นั่นคือสัจธรรม ที่พระพุทธเจ้ายืนยันว่า ... นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบ(ใจหยุดนิ่ง)ไม่มี. เสียดาายทั้งสองท่านไม่มีโอกาศได้ฟังธรรม จากพระพุทธเจ้า ที่เป็นมนุษย์แต่ค้นพบคำตอบของชีวิต ว่า เกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายชีวิต และการดำเนินชีวิตทำอย่างไรให้มีความสุข ปล. อ.มิกซ์ 40 เอง ยังทันนะ การปฎิบัติธรรมไม่มีกาลเวลา ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่นะ จะได้นำเรื่องบุคคลในยุคพุทธกาล ที่ค่นหาความจริงของชีวิตเจอมาเล่าให้ฟัง อนุโมทนาบุญขอบคุณกับอ.มิกซ์ จาก FC จ๊ะ

Good life 1.สุขภาพดี 2.มีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ต้องกังวล3.มีความรักจาก สังคม

key factor สำคัญมากกับทฤษฎีแห่งความสุขของไอสไตน์ที่ถ้ามันมีเนื้อหาเพียงเท่านี้...ยังถือว่ามีช่องโหว่ในความคิดผมครับ คือเขาลืมพิจารณาถึงประเด็นที่ว่าตอนนั้นไอนสไตนเป็น "ผู้ประสบความสำเร็จ" ในเป้าหมายที่เขาต้องการแล้ว จนถึงขั้นกำลังจะได้รางวัลโนเบล ซึ่งนั่นคือเขาสร้างคุณูปการต่างๆ (ตามเป้าหมายที่เขามี passion) ไว้เรียบร้อยแล้ว เคลียร์ goal ในชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 3-4 step ใหญ่ๆ ..ดังนั้น ตัวเขาจึงรู้สึกมีคุณค่าและมี self esteem เต็มเปี่ยม จนเกิดสติระลึกรู้ได้ว่า สิ่งที่ทำให้สามารถ maintain ความสุขได้จากสภาวะนี้ ก็คือความสงบสุขหรือความเบาใจของชีวิตที่จะทำให้เขาสามารถ... ทำตามเป้าหมายหรือ passion ของเขาได้ต่อไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง ซึ่งนี่ก็เป็นขั้นตอนความปรารถนาของมนุษย์ตามหลักจิตวิทยาสของมาสโลว์อยู่แล้วสำหรับคนที่ได้สิ่งเติมเต็มพื้นฐานครบถ้วนมาก่อน .... ซึ่งมันจะน่ากลัวมากสำหรับคนที่ยังหลงทาง ได้แก่ คนที่ยัง... 1) ค้นหา passion ค้นหาตัวเองไม่เจอ 2) ไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากได้อะไร ถ้าหนักมากๆ ก็คือ "ไม่กล้า" คิดที่จะอยากได้อะไรด้วยซ้ำ 3) ไม่มีความรัก ความภูมิใจ ความมั่นใจในตัวเอง หนักหน่อยก็คือพวกกำลังเกลียดตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า หรือเป็นเหยื่อ 4) ไม่เคยพัฒนาทักษะความสามารถหรือภูมิปัญญาในองค์ความรู้ใดๆ จนถึงจุดที่คิดว่าตัวเองเก่ง 5) ยังไม่เคยมีตัวประเมินความสำเร็จที่เป็น "รูปธรรม" เช่น ผลงานดีๆ คุณภาพชีวิตที่ดี กัลยาณมิตรที่ดีที่ได้มาจากความสำเร็จ เป็นต้น ซึ่งถ้าเข้าใจทฤษฎีแห่งความสุขผิดๆ มันอาจจะทำให้เกิดแนวโน้มแห่งการ "หลอกตัวเอง" สำหรับพวกที่เป็นนักท้อ คนที่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ หรือคนเกียจคร้านที่มีความเชี่ยวชาญในการหา ข้ออ้าง เพื่อทำชีวิตให้ "จมปลัก" ต่อไปเรื่อยๆ โดยเอาความว่ามักน้อยมาเป็นตัวปิดบังความล้มเหลว หรือการไม่พัฒนาตัวเอง ซึ่งคนเหล่านี้ยากที่จะหา peace of mind ในระดับลึกได้จริงๆ เพราะการมีวิถีชีวิตในความสมถะเรียบง่ายสงบสุขแบบที่ว่า มันก็ต้องอาศัย passion และการไต่เต้าทางจิตวิญญาณเช่นกัน และสุดท้ายเมื่อคนเราไม่ได้รู้สึกว่าตัวเอง---ก้าวหน้า---ไปเรื่อยๆ ทางใดทางหนึ่ง เขาก็จะทุกข์และรู้สึกเซ็งกับชีวิตไปโดยอัตโนมัติ เหมือนงานวิจัยที่ได้สัมภาษณ์คนสูงอายุจำนวนมากในอเมริกัน ส่วนใหญ่พบว่า พวกเขาคิดว่าตัวเองมีชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ต้องการและเสียใจในหลายๆ เรื่องที่ไม่ได้พยายามไขว่คว้ามันอย่างเต็มที่ตอนที่ยังเป็นหนุ่มสาว

พระพุทธเจ้า มีคำตอบ...มีเหตุและผล. ทุกอย่างที่เกิดขึ้น รวมทั้งจิต..ที่อริสโตเติลและไอสไตล์. พยายามหาคำตอบ..และวิธีการ จัดการ.หา ทางออก..ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น..อย่างเป็นเหตุผล..และพิสูจน์ได ้....ที่กล่าวมาทั้งหมด..ไม่ได้โยงไปเรื่องศาสนา แต่มัน คือองค์ความรู้ ล้วนๆ. .ดร.ลองใช้ความเก่งที่มี..ลองศึกษาดู นะจ้ะ..เผื่อ ได้คำตอบ ที่อาจจะสื่อสารให้คนรับสื่อ..อย่างตรงประเด็น.. ติดตามตลอดนะจ้ะ..

ถ้า ไอสไตน์ เชื่อและคิดอย่างนั้น อย่างแท้จริงแล้ว หมายถึง "ชีวิตที่เรียบง่ายเป็นชีวิตที่มีความสงบสุขที่สุด" แล้วท่าน ไอสไตน์ จะพยายาม ค้นคิดทฤษฏีต่างๆ ทางฟิสิกส์ทำไม่ บางครั้งแลกกับละเลยต่อชีวิตที่อยู่รอบข้างจนกระทั้งสร้างปัญหาให้กับชีวิตของผู้อื่น(เมียคนที่ 1 เป็นโรงซึมเศร้าเพราะไอสไตน์มีโลกส่วนตัวมากไม่คอยมีเวลาให้กับครอบครัว รายได้ของครอบครัวน้อย เหมือนเลี้ยงลูกคนเดียว) ดังนั้น ผมคิดว่า ความสุขที่แท้จริงของของท่านไอสไตน์ คือ การได้แก้ปัญหาในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ เป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิตครับ บุคคลประเภทนี้ มักจะประสบความสำเร็จในศาสตร์ที่ตนสนใจเสมอ.

สาระความรู้ล้วนๆ อีกแล้วค่ะ ทำให้เรารอบรู้มีเรื่องหัวข้อใหญ่ไปคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนฝูงในวงกาแฟอีกแล้ว ..ขอบคุณอาจารย์มืกมั่กๆค่ะ

สุดยอดครับ. ชอบรูปแบบของ. โรเบิตร์. ชอบครับและจริง. ครับ

สุดท้ายยู่ที่คำสอนของพระพุทธเจ้า

ไม่มีใครตายเพียงเพระคนอึ้น ไม่รักมีแต่ตายเพราะไม่รักตัวเอง เพลงนี้ก็ใช้ได้กับมนุษย์ทุกคนนะ

คุณลองศึกษาคำของพระพุทธเจ้าจริงๆสิ โควต คำคม คำสอน ของ ไอนไสตน์ นักปรัชญาดังๆ คนที่ได้โนเบล สู้ไม่ได้เลยยยยยย #ฟังคำตถาคตจริงๆนะไม่เอาคำแต่งเติมข้อสงสัยจะหายไปเลย

ชื่นชอบการนำเสนอ อาจารย์มากค่ะ ไม่เวิ่นเว้อร์ ตรงประเด็น เข้าเรื่อง เข้าใจง่าย

ว้าวมาก ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่น เชื่อว่าพบกันอีก สั้นกระชับ ดีมากๆ 🙏ขอบคุณ🙏ขอบคุณ🙏ขอบคุณ🙏

สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยของการอาศัยกันและกันในการเกิดขึ้น ชีวิตที่่ไม่ว่าจะยากจนหรือว่าร่ำรวยด้วยทรัพย์สินและเงินทอง แต่ให้ตระหนักเสมอและรู้เท่าทันภายในจิตใจตนเอง ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา มีเกิดก็ย่อมมีเสื่อม ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน มีพบ มีจาก มีพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักเป็นธรรมดา อย่าได้มีความอาลัยอาวรณ์ มีสุขมีทุกข์ก็เพียงสภาพการปรุงแต่งทางจิตใจ การดำเนินชีวิตด้วยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่อ้อนวอน ร้องขอ เชื่อมั่นในตนเอง ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ปลายทางสุดท้ายของชีวิตทุกคนก็คือความตาย ทุกคนล้วนต้องตาย การแบ่งปัน การพัฒนาจิตใจให้บริสุทธิ์เพื่อเพิ่มกำลังสติสัตปชัญญะให้ไม่ตกอยู่ภายใต้การเป็นทาสทางอารมณ์ การพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณไปสู่ความดับทุกข์อย่างถาวรคือมรรค 8 เป็นหนึ่งในอรัยสัจทั้ง 4 การใช้ความเพียรบนทางสายกลาง ไปสู่ความหลุดพ้นจากพันธนาการทางจิตใจ คือการมีจิตใจที่สูง พ้นไปจากอำนาจของกิเลสเศร้าหมอง พ้นจากความทยานอยาก นำไปสู่การหลุดพ้นจากบ่วงของการฉุดรั้งให้วนกลับมาเกิดใหม่ในจักรววาล นี่แหละคือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต : มหาบุรุษ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกผู้หนึ่งได้กล่าวไว้และบอกวิธีปฏิบัติเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อ 2,600 ปีมาแล้ว

ถ้าไอน์สไตน์ศึกษาธรรมะของศาสนาพุทธ ไอน์สไตน์จะเข้าใจชีวิตมากกว่านี้

ขอบคุณอาจารย์ครับ ที่มาแบ่งปันความรู้ความคิดดีๆ ทั้งจากสามก๊ก และนักปราชญ์ต่างๆ ผ่านการเล่าเรื่องที่กระชับ สนุก ฟังง่าย และเนื้อหาแน่นๆ...ข้อคิดต่างๆที่ อาจารย์ได้เสริมเข้ามา อย่างน้อยกับตัวผมเอง ก็นำไปประยุกต์ใข้กัชีวิตให้มีความสุขอย่างพอเพียงได้ครับ...และก็หวังว่าท่านอื่นๆที่ได้ฟัง ก็คงจะคิดเช่นกันครับ....ขอให้อาจารย์ ทำแบบนี้ต่อไปนะครับ...และขอให้บุญกุศลที่อาจารย์ ทำให้นี้ ส่งผลให้อาจารย์ มีความสุขความเจริญ ในทุกด้านของชีวิตครับ

ที่สุดจริง* จบจริง* สมบูรณ์แบบจริง* ยิ่งกว่า อริสโตเติ้ล,ไอน์สไตน์ หรือทุกสรรพชีวิตใดๆ นั่นคือ *{{{ พระพุทธองค์@ }}}* *{{{ พระพุทธองค์@ }}}* ทรง...พบที่สุดแห่งชีวิตแล้ว* ทรงเมตตาสอนเรา ให้มุ่งจิตใจ...ให้หลุดพ้น* ไปจาก มนุษย์โลก,เทวโลก,พรหมโลก โดยเห็นให้ได้จริงๆ ว่ามันไม่สุขจริง...จริงรึไม่ ? ให้เรามอง,พิจารณาเอง เพราะ ลัวนตั้งอยู่บน อนิจจัง...เปลี่ยนแปลงตลอด อนัตตา...ตายไปต้องทิ้งหมด จึงนำมาซึ่ง ทุกขัง...ตั้งบนกองทุกข์ตลอด เมื่อตั้งบนความตาย มีเงิน ตายไปก็หมดเงิน มีคนที่รัก ตายไปก็พลัดพราก มีชีวิตตัวตน ตายไปก็สิ้นหมด .....แล้วชีวิตที่วนเวียนเกิด-ตาย ใน วฏสงสารนี้ มัน สุขตรงใหน ??? นั่นคือ ทุกขัง...ทุกสรรพสิ่ง ล้วนตั้งบนความทุกข์ เพราะฉะนั้น จงมุ่งจิตใจ...ให้หลุดพ้น* จาก วฏสงสาร...อันทุกข์ยิ่งนี้เสีย ด้วยวิธีการ >>>"ตัดร่างกายนี้"

เอา ความ คิด ที่ มี ออก มา ไห้ คน ได้ ไช้ ชีวิต ไง

I was born in สกลนคร but now I am in Niort,France .I was so good luck to watch this Ep thank you very much. จะติดตาม และ จะเป็นกำลังใจในการทำงานดีๆ ของ ท่าน ดร. นะคะ

อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่ คนรวยประสบความสำเร็จหลายคน จะใช้ชีวิตที่เหลือที่มีหลักคล้ายกัน คืออิคิไก

ขอบคุณมากๆครับ สำหลับความรู้ดีๆ

ความสุขอันแท้จริงนั้น คือ ความ พอเพียง ความสมดุล ไง ครับ มันตรงกับ ฤษฎี ของพระองค์ พระพุทธเจ้า ก่อนที่ ไอน์สไตน์ จะ ค้นพบสะอีก เพราะคิดไป คิดมา ก็ หนี ไม่พ้น คำ ว่า นิพพาน คือสัจธรรม ศูนย์กลาง แห่ง จักรวาล นั้นเองครับ

ขอบคุณ​สำหรับความใส่ใจในทุก ep. ที่ตั้งใจทำออกมาให้ฟังเสมอนะคะ เป็นของขวัญดีๆในแต่ละวัน ทุกครั้งที่เปิดฟังพี่ ดร.มิกซ์ มากๆค่ะ RESPECT​ 🙏🌹

ขอชม ฟังเพลินมาก จังหวะการพูดยอดเยี่ยม

ขอบคุณจร้า สำหรับเนื้อหาดีๆ

🙏ขอบคุณครับอาจารย์กับคลิปที่ดีงาม

ติดตามแล้วครับ อาจารย์ ชอบฟังอาจารย์เล่ามากๆ ทำอีกหลายๆคลิปนะครับ

ถ้าเกิดเราต้องการแค่สิ่งที่อยู่ในโลก นั่นไม่ใช่เป้าหมาย และเราคงจะไม่พบปลายทางที่แท้จริง มนุษย์ส่วนใหญ่หาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายร่างกาย แต่ไม่แสวงหาสิ่งที่ดีให้กับฝ่ายวิญญาณ

มองจากมุมที่เคยบวชเรียน เคยศึกษาเรื่องไอน์สไตน์ ที่เข้าใจในธรรมะ เพราะไอน์สไตน์ ศึกษาทุกศาสนา ผมไม่แปลกใจที่ ไอน์สไตน์ จะ เข้าใจลึกซึ้ง ผมอ้างอิง จากหนังสือ เรื่อง "ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" ลิ้งค์ อ่านฟรี หนังสือตัวจริง ผมเคยสัมผัสเเค่ตอนบวชเรียน ครับ มี รุ่นพี่ที่เป็น เณรมหา ซื้อมา ไว้เลยได้เห็นมาบ้าง ครับ ลองอ่านดูไม่เสียหาย ครับ ยังมี อ้างอิงอีกหลายเรื่องหากเพื่อนๆ คนไหน สนใจ อยาก ศึกษา หรือ อยาก คุยกับ ผมยินดี ครับ fb.mnmnmnrn [ลิงค์หนังสือ ออนไลน์ ที่เจอใน เน็ต sites.google.com/site/anawatsao/xi-tin-phb-xari ]

ร่างกาย, จิตใจ, จิตวิญญาณ.. 3องค์ประกอบ...ของวอซเลท ดีวัตเทิล

"สิทธถะทรงค้นพบหมด และตรัสไว้หมดแล้วในคัมภีร์อริยสัจสี่"

สองท่านนี้คือสุดยอดของบุคคลสำคัญ...แต่ถ้าจะถามผมว่าจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร ...ผมจะบอกตัวเองว่า...มีสูตรมีวิธีที่ง่ายนิดเดียว คือ ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา...เพียงแต่ผมเองก็ยังทำไม่ได้แต่รุ้ว่าจริง..สูตรที่ว่าก็คือ....ไตรลักษณ์ อนิจจัง/ทุกขัง/อนัตตา...รับรู้ว่า ธาตุ4ขันธ์5มันไม่ใช่ของเรา. ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า...ถึงแน่นอน...ความสุขของชีวิต

ฟังแล้ว หมือนคำสอนของศาสนาพุด โดยคนทีฉลาดที่สุดในโลก

ได้ข้อคิดดีครับ ไอสไตล์ คิดว่า การใช้ชีวิตอยู่ อย่างสงบสุข เรียบง่าย ดีกว่า การใช้ชีวิต มุ่งสู่ความสำเร็จ ที่มักนำความวิตกกังวลมาให้ (ผมจินตนาการ คิดว่า ไอสไตล์ คงคิดในใจว่า ระเบิดปรมาณู ที่ถือเป็นความสำเร็จของเขานั้น นำความวิตกกังวลมาให้เขา ว่าจะสร้างความเดือดร้อน ทำให้มีคนตายมากมายมหาศาล และญาติมิตรคนที่ตายก็จะสาปแช่งเขา ถึงแม้ว่า ระเบิดปรมาณู จะช่วยสร้างสันติภาพ ยุติสงครามโลก ได้ก็ตาม..ในมุมมองของผม ระเบิดปรมาณู ที่ทิ้งลง ญี่ปุ่น ทำให้ ไอสไตล์ เป็นทั้ง ฮีโร่ และซาตาน ในเวลาเดียวกัน จะผิดหรือถูก สุดแล้วแต่ใครจะคิด แต่ถ้าย้อนเวลาได้ ไอสไตล์ คงเลือก อยู่เฉยๆอย่างสงบ แทนการสร้าง ระเบิดปรมาณู แล้วใช้ชีวิตของเขาเพียงเพื่อเอาชีวิตรอดอยู่อย่างสงบสุขไปวันๆ แต่ก็นะสงครามโลก อยู่ที่ไหนก็ ไม่สงบสุขทั้งนั้น ถึงหนีรอด ก็อดคิดถึง คนที่เราปล่อยให้ตายในสงครามไม่ได้) อริสโตเติล คิดว่า ชีวิตที่ดี คือ สิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด สุขภาพดี จิตใจดี มีความเป็นอยู่ที่ดี ( แต่ผมคิดว่า การได้คิด ได้ทำ ในสิ่งที่ชอบ ก็เป็น ชีวิตที่ดี เช่นกัน แต่การได้คิด ได้ทำ ในสิ่งที่ชอบ ถ้าไปเบียดเบียน สร้างความเดือนร้อนให้กับชีวิตผู้อื่น มนุษย์ส่วนใหญ่ ย่อมไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นแน่ ) ผมคิดว่า มนุษย์เราคงเกิดมาเพื่อ ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น อยู่อย่างพอเพียง สงบสุข รอวันตายไป วันๆ แต่ใครจะอยากทำอย่างนั้นไปทั้งชีวิตกันละครับ ชีวิตมันต้องมีรสชาด ใช้ชีวิตแตกต่างกันไป ตามแต่มุมมองความคิดของแต่ละคน สรุป เอาจริงๆเลยนะ เราเกิดมาเพื่อทำอะไรกันแน่ เราไม่รู้หรอก เราจะคิด พูด ทำ ผิด หรือ ถูก สุดแล้วแต่ใครจะคิด ช่างแม่งเถอะครับ เราใช้ชีวิต อยากทำอะไรก็ทำ ขอแค่ไม่เบียดเบียนชีวิตตนเองและผู้อื่นมากเกินไป ก็พอแล้ว คนดี คนเลว คนจน คนรวย คนโง่ คนฉลาด สุดท้ายก็ตาย เหมือนกัน ต่างกันแค่ ชื่อเสียงดีชั่วหลังความตาย และบุญบาป ผลที่ตามมาก็เท่านั้น บางคนก็ใช้ทั้งชีวิต ตามความเชื่อของ ศาสนา ที่ตัวเองเคารพนับถือ จะถูกหรือผิด สุดแล้วแต่ใครจะคิด ครับ

ชอบมากครับฟังเพลินมาก ติดตามตั้งแต่ตำนายเมืองทรอยเเล้วนะครับ

ขอบคุณอาจารย์มิค ที่เอาแนวคิดดีๆอย่างนี้มาทำเป็นคลิปบอกเล่าให้ฟังครับ​ ผมเป็น FC ฟังสามก๊ก Express เกือบทุกตอน แต่ชอบคลิปนี้สุดเลยครับ ทำให้ตระหนักได้ถึง เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริงครับ

มาดูย้อนหลังไปสองปี ความรู้ที่มีคุณค่ามากมาย ขอบคุณอาจารย์ที่นำเสนอ ทฤษฎีแห่งความสุขของไอนสไตน์ อันเดียวกันกับ พระราชดำรัสในหลวง ร.9 เลยครับ พอเพียง....พอมีพอใช้ มีเยอะจงแบ่งปัน มีน้อยจงมัธยัสถ์ รอบคอบมีสติ

ชอบฟังเรื่องแบบนี้ครับ คนที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ของโลก

ขอบคุณคุณมิกซ์มากๆเลยครับ เพลิน และได้สาระเยอะมากครับ ผมฟังแล้วอยากทราบเลยครับว่าคุณมิกซ์อ่านอะไรมาบ้าง ถ้าทำคอนเทนหนังสือก็น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ เรื่องการตัดต่อ จัดภาพ แสงสี รวมถึงคำศัพท์ที่ใส่เข้ามาทำได้ดีมากกเลยครับผม

ขอบคุณขอบคุณและขอบคุณครับ

เป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ที่ดีครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ

วิทยาศาสตร์ครอนตั้มคือ สมการ โมเมนตั้ม สปินเนอร์ เชิงมุม เพลาลิ้ง 3 เหลียมนั้นเองที่แต่กต่างจาก สมการ โมเมนตั้มเชิ่งเดี่ยวหรือเส้นตรงแนวแขวนลอยนะ

ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ หนูนับถือความคิดของไอน์สไตน์มากๆ 🙏 อริสโตเติลและไอน์สไตน์ก็เป็นบุคคลที่น่านับถือ

ขอขอบคุณสำหรับ เนื้อหา เรื่องราว และ บทความดีดี ที่มานำเสนอ เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณ.....

อลิส โตเติล เกิดในครอบครัวระดับปานกลาง แต่ชีวิตชั้นมันอยุ่ในกรุง

ขอบคุณอาจารย์เช่นกันครับ🙏 ได้ฟังอะไรดีๆ ชีวิตก็มีความสุขแล้วครับผม😊

ผมก็ใช้ชีวิตเเบบนี้เเบบสงบ จนถึงวันที่หมดความสุข กลับกลายเป็นความเเค้น มันจะทำลายทุกอย่าง.....

รู้สึกโชคดีมากที่เจอคลิปนี้ ขอบคุณครับ

ขอบพระคุณครับ ที่มหาข้อมูลมาให้แล้วมาเล่าให้ฟัง ขอบพระคุณครับ

ขอบคุณครับ🙏 -เรื่องราวดีๆ -เหตุการณ์ดีๆ -ความปราถนาดีๆ

ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน ความตายเป็นของยั่งยืน มีแต่ความทุกข์ที่เกิด และความทุกข์ที่ดับ ในเกิด แก่ เจ็บ ตาย

ทุกๆชีวิต ต้องรับบทเรียนจากประสบการณ์ สะสม จนเกิดปัญญา มิใช่จู่ๆก็ อยากเรียบง่ายตามๆใครไป นั่นมิใช่สภาวะความจริงที่เกิดจากปัญญาของตนเอง ที่มีประสบการณฺเปรียบเทียบสิ่งดีไม่ดีรู้ด้วยตนเอง และสามารถเลือกได้เองในที่สุด ดังนั้นกว่าจะรู้จักความสงบ ก็ต้องเรียนรู้ความวุ่นวายมาก่อนทั้งสิ้น. ไม่มีใครสอนใครให้เชื่อได้ นอกจากประสบการณ์ที่เชื่อได้ของเขาและเราเองทั้งสิ้น.

ชอบคำไอน์สไตล์มากครับ ฟังแล้วสุขใจ ชอบฟังเรื่องเกร็ดชีวิตคนสำคัญ และมุมมองที่คุณนำเสนอ ติดตามเลยครับ

ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับคุนพี่มิ๊ก

ขอบคุณคับอาจารย์

Episode นี้ดีมากครับ ผมคือคนนึงที่เกิดมามีความฝันมีเป้าหมายในชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด ในแง่มุมนึงมันก็ดี ที่เราได้สร้างอะไรขึ้นมาด้วยตัวเราเอง แต่อีกมุมนึงมันก็ชังเหน็ดเหนื่อย กับการที่ต้องคิด ต้องทำ ต้องบริหาร แถบไม่ได้ใช้ชีวิตเลย สิ่งนึงที่ผมสรุปได้กับตัวเองคือต้องหาสมดุลในชีวิต แต่มันเหมือนกับที่เพลโต บอกเลยครับ ว่าบางครั้งคนเรารู้ว่าGood life ในชีวิตคืออะไร แต่มันมักจะถูกกรีดกั้นด้วย เหตุผลบางสิ่งบางอย่าง เช่น นิสัย เวลา หรือแม้กระทั่งโชคชะตา

ผมขอ 3 ข้อ ครับอาจารย์ สุขภาพที่ดี มีปัจจัยสี่ เห็นคุณค่าในตัวตน "นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ" ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบไม่มี

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ดีมากๆเลยครับ

ขอบคุณนะคะ ข้อมูลสำหรับอริสโตเติลหายากมาก ชอบฟังในยูทูปมากค่ะ

ขอบคุณมากครับอาจารย์ ผมมีความรู้เพิ่มมากขึ้นเพราะคลิปต่างๆ ของอาจารย์นี่แหละครับ

แนวทาง พระพุทธศาสนา ชัดเจนเลย

ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบที่หาได้ในตัวเรานี้..ตราบใดมนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาแต่ความสุขจากที่อื่น ชอบนะครับ ได้ข้อคิดสอนชีวิต

ขอบพระคุณครับอาจารย์

การทำให้ "สุข+สบาย" คือ ทำที่จิตใจ ซึ่ง มันทำอยู่ ๔ หน้าที่ (๔ ขันธ์) ๑ รู้ ๒ รู้สึก ๓ จำ ๔ คิดปรุงแต่ง ให้เหลือ ๑ หน้าที่ คือ หน้าที่ "รู้ เท่าทัน แล้ว รู้แค่รู้ ไม่คิด ความทุกข์ มาจากความ ไม่ว่าง เพราะ"จิต คิด ไม่หยุด ทั้ง ชั่ว+ดี แล้วยึดติด" การบรรลุธรรม/มีความสุข สบาย ปิติ พระพุทธเจ้า ใช้คำว่า "สัญเวทยิตนิโรธ" สมาบัติ อาการดังกล่าว คือ มี สมาธิ จิต หยุดเอาความจำ/ความรู้สึก มาใช้ เมื่อมี "สิ่งมา ให้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส หรือมา สัมผัสกาย " รู้ๆๆๆ เท่าทัน มันแค่ มารยา ไม่เอามาคิด/หวั่นไหว แล้ว มีเจตนาแสวงหา ความ "ว่าง"เกิด ความสงบ สุข ปิติ เกิด ไอสไตย์ มี สมาธิ/ภาวนา เรื่อยๆๆ จึงพบความ "ว่าง" ตรงกับคำสอน พุทธศาสนา "จิต ปล่อยวาง =ความสุข" ?

ตามมาจาก 3 ก๊ก ชอบวิธีเล่าเรื่องของอาจารย์มากค่ะ ขอบคุณค่าาา❤️❤️

*จงขอบคุณอดีต ขอบคุณปัจจุบัน และขอบคุณอนาคต ที่พวกท่านกำเนิดมา จากปัญญาเพียงเล็กน้อย ได้ตระหนักรับรู้จากอดีตพลัน จากชีวิตตอนนี้ ที่กำหนดด้วยปัจุบันในกำมือของคุณนั้น จากการสิ้นสูญ เพื่อลูกหลานพวกคุณในอนาคตอนันต์ และสิ่งสุดท้ายที่จะกล่าวให้รับรู้ไว้ จงขอบคุณในทุกลมหายใจ เพื่อข้าและทุกสรรพสิ่งเอย.

ชม 2 รอบ... คนที่รู้จักใช้ชีวิตเรียบง่าย ประหยัด คิดชื่นชม (appreciation) และสัมผัสการทำดี (gratefulness, thankfulness) ของคนอื่น แบบไอน์สไตน์ น่าจะมีความสุขมาก... ที่สำคัญ คือ เป็นความสุขที่ไม่ต้องใช้เงิน... ขอขอบคุณ สารคดีทรงคุณค่า... ขอให้อาจารย์มีความสุขจากการแบ่งปันความรู้... ครับ

เป็นครั้งแรกที่มีความตั้งใจฟังโดยจ้องไปที่คนพูดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่นาทีแรกจนจบ...ขอบคุณนะคะ (ดีอ่ะ)😊

ขอบคุณครับ ที่มอบความรู้ ที่ผมไม่มีโอกาสได้รู้ ได้รับฟัง (จะตามอาจารย์ทุกๆคลิป)ขออนุญาตแชร์นะครับ ปล.นิสนึงครับ ประโยคที่อาจารย์ถ่อมตัว ว่าแค่อายุ40ไม่กล้าอาจหาร... จารย์ครับ ข้งเบ้งไปอยู่กลับเล่าปี่ตอน ยี่สิบกว่า ในขณะเล่าปี่สี่สิบกว่า...นั่นหมายถึง อายุเป็นเพียงตัวเลขครับ วิชั่น ต่างหากที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน......แต่อาจารย์มี....

ชีวิดปะกอบมี, กายและใจ แม่นบ่อ จิดเฮัดให้ดีแล้วกายจะดี จิดดีแล้วเฮัดให้เถีงนีบพาน

ขอบคุณอาจารย์

ทำเลื่อยๆนะครับผมเป็นกำลังใจ

สวัสดีค่ะเทปนี้คือดีงามค่ะอจ.