แด๊กซ์ยังเรียกสี่คนนี้ว่า"เพื่อน" สี่คนนี้ก็ยังเรียกแด๊กซ์ว่า"เพื่อน" แค่นี้ก็ถือว่ารียูเนี่ยนแล้วล่ะ เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แค่ทำให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่ก็พอ

สรุปต่างคนต่างรักเพื่อน กลัวพูดแล้วเพื่อนเสียใจกลัวเพื่อนโกรธ ก็เลยสะสมไปเรื่อยๆ ความรู้สึกนี้แม่งโคตรอึดอัด

เป็นอีกหนึ่ง EP ที่ผมดูซ้ำมากที่สุด เอาไว้ใช้สอนตัวเองได้อยู่เสมอ ขอบคุณพวกพี่ๆมากครับ

ดูทั้งสองฝั่งจบแล้ว ดีนะ ทุกคนพูดไปในทางเดียวกัน เรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่กลับไปฟัง big ass แล้ว รู้สึกดีเท่านี้ หวังว่าจะได้กลับมา ร้องเล่นด้วยกันให้ฟังอีกครั้งครับ

พี่พูดความจริงและยอมรับในข้อเสียตัวเอง นี่แหละ วงลูกผู้ชายตัวจริง ทั้งพี่แด็ก พี่กบ พี่อ๊อฟ

จริงนะ การที่คนที่คุ้นเคยกันมาเเตกหักกันเพราะ เเม่งไม่คุยกันนี่ละ ผมโคตรเห็นด้วยกับพี่กบเลย

อยู่ทีมพี่กบ พี่ออฟ พูดมีเหตุผลมาก ส่วนตัวเราคิดว่าการทำงานต้องมีระเบียบวินัย ต้องให้เกียรติแฟนเพลง ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมเสมอ เสียงพัง ทำอะไรตามอารมณ์ คนแบบนี้ถ้าเป็นเราเราก็หนักใจ ยิ่งเป็นเพื่อนยิ่งหนักใจ ไม่รู้จะพูดยังไงต่างคนต่างมองคนละมุม เป็นกำลังใจให้นะคะ

การทำงานกับคนไม่มีวินัย มันก็ลำบากนะ ทุกอย่างสร้างมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน เตือนกันไม่ฟัง แล้วต้องทำไง ต้องจมไปด้วยกันเหรอถึงเรียกว่าเพื่อนแท้

พี่อ๊อฟ อยู่ไป อยู่มา จะคล้ายๆกับ พี่ป๋อง แล้ว 55555

คนวัย สามสิบปลายๆ ที่โตมากับเพลงbig ass ดูแล้วมีความสุข....

เคยเหมือนกัน มีกันสามคน เลือกไปส่งอีกคนที่บ้าน แล้วแอบไปกินเหล้ากันแค่สองคน เพราะบ้านมันคนละทางและขี้เกียจอัดสามขี่มอไซด์ ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย

ทำไมผมฟังทั้งสองฝ่ายแล้วผมรู้สึกชื่นชม พี่กบ และพี่อ๊อฟ มาก ฟังจากเสียงและภาษากาย ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความอดทนอดกลั้นสูง ไม่ขายเพื่อน ดูจากแววตา เขามีความอัดอั้น ตันใจอยากจะเล่าความจริงบางอย่าง แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ ไม่พูดยอมถูกคนด่า ดีกว่า ขายเพื่อน ในขณะที่อีกฝ่ายกลับทำตรงกันข้าม เพื่อนที่ดีดีแบบนี้ นับว่าหายากมาก ผมเชื่อว่า คนทำดีก็จะได้ดี คนทำไม่ดี ก็จะได้ไม่ดี แม้ว่าคนอื่นไม่รู้ไม่เห็น ฉะนั้นวันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง.. โลกนี้ ยังมีสิ่งดีๆ อีกมากมาย ซ่อนอยู่หากเราทำใจให้สบายและสงบ ก็จะมองเห็น สิ่งสวยงาม ในโลกนี้ได้เสมอ

แค่กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมก็ดีใจเเล้วครับ ยังไม่ต้องถึงเรื่องกลับมารวมวงกันใหม่หรอก เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เสียดายความเป็นเพื่อนมากกว่าเรื่องของวง

เป็นการสัมฯ ที่ดีที่สุดในรายการป๋าเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ

ถ้าเปลี่ยนจากยุบวง มาเป็นการประกาศพักวง ให้พี่แด๊กได้พัก แล้วจับเข่าคุยกัน ความสัมพันธ์ของวง น่าจะยังคงอยู่ แอบเสียดายนะคะ เข้าใจทั้งพี่กบ พี่ออฟ แต่ไม่ควรหาคนอื่นมารอ สงสารพี่แด๊กนะคะ ที่เหมือนหมดความสำคัญ ทั้งๆ ที่ฝ่าฟันมาด้วยกันแต่แรก

ผิดทั้งคู่ ทั้งพี่แด๊กซ์ และเพื่อนทั้ง 4คน เหตุผลอย่างเดียวเลย คือเพราะ ไม่เปิดใจคุยกัน ถ้าคุยกันไม่เป็นงี้แน่นอน

ป๊าเต็ดรับบทเหมือนบาทหลวง ที่คอยรับฟังคนมาสารภาพบาปในห้องล็กๆเลย คนพูดจบก็น่าจะรู้สึกสบายใจ ไม่มีอะไรค้างคา

ของ Silly Fools จบเหมือนหนังอินดี้ ของ Big Ass คือจบแบบหนังฟิลกู๊ดเลยหว่ะ เป็นรายการที่ดูแล้วอิ่มมากครับ

ฟังทั้ง2ฝ่ายละ เรารู้สึกว่า แด้กเปนคนไม่มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ทำอะไรตามใจตัวเอง ส่วนอีก4คนในวงก็ไม่จริงใจ ทำอะไรลับหลังเพื่อน ทั้ง2ฝ่ายต่างก็ไม่พูดไม่สื่อสาร นั่นคือจุดจบ...เศร้า T.T

ตอนแรกคิดกันอยู่แค่ 4 ว่าอยากยุบวง แด๊กคงคิดว่าวงยุบเหมือนที่กบบอกรึเปล่า แต่สุดท้ายก็ดันเป็นคนเดียวที่ต้องเซนอะไรๆ แล้วอยู่ๆก็มีนักร้องใหม่ จุดนี้มันน่าเจ็บปวดจริงๆ สุดท้ายแค่แด๊กออกไป ความคิดยุบวงก็หยุดไปเฉยๆ เหมือนอะไรๆก็มูฟออนต่อไปได้ ไม่ได้บอกว่าแด๊กไม่ผิดที่ทำตัวไม่น่ารักนะ แต่ไม่มีใครพูดตรงๆกับเค้าเลย ไม่อยากพูดแม่งด่ากันยังดีกว่าแบบนี้

อ๊อปยังตามดู แด๊กอยู่ นี่แหละเขาเรียกว่าเพื่อน แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ มันยังไม่ถึงเวลาที่จะรียูเนี่ยนเพราะ Big Ass ก็มีนักร้องนำอยู่

นี้เป็น Ep แรกจริงๆ ที่ความลับของรอยร้าวของ Big ass ได้เปิดเผยหมดเปลือก ถ้าไม่ใช้ป๊าเต็ด คงไม่มีวันได้ฟังคำตอบแบบนี้ เหมือนฟังรุ่นน้องระบายความในใจที่คางค้ามานานให้พี่ที่เคารพรักคนหนึ่ง

เพิ่งดู ดองไว้ซะนาน น้ำตาไหล ขอบคุณประสบการณ์ของพวกพี่ๆ และเพลงของพวกพราๆมากค่ะ ตอนที่พวกพี่ยังอยู่ด้วยกันมันทำให้หนู้ค้นหาตัวตนของตัวเองจนเจอเลยะว่าจะโตไปเป็นคนแบบไหน รักนะ ทั้ง2วงเลย

บทสรุปคำพูดของทุกคนช่วงท้าย...คมคายมากๆเลยครับ ได้ข้อคิดและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตมากๆ ขอบคุณป๋าเต็ดครับ ดูแล้วมีความสุขจริงๆ ทั้งซิลลี่ฟูลส์ และบิ๊กแอส รวมทั้งแด็ก คือศิลปินในดวงใจเลย ดูแล้วหายคิดถึงครับ

ดูทั้งสามคนคุยถึงกัน มันแค่มุมที่ต่างเท่านั้น แฟนบางคนก้อินว่าแด๊กติสเกินไม่สนใจวงไม่สนเพื่อน ณ เวลานั้น ถ้าเปนคุณๆจะทำยังไงเส้นเสียงกำลังพังเพื่อนกดดัน ทุกอย่างลงที่นักร้องไม่ใช่วง ดันต่อร้องเพี้ยนคนก้ด่าแด๊ก แต่ก้ไม่ใช่แด๊กถูกทั้งหมดบางมุมกบกับอ๊อฟก้พยายามแล้ว ทุกอย่างมันแค่มุมตอนนั้นที่คิดไม่เหมือนกันเท่านั้น ส่วนตัวผมรักในแก่นของบิ๊กแอสชอบทุกอย่างที่เปน

เมื่อคืนผมได้ไปดูพี่ แด๊กซ์มาเล่นสดกับพี่ๆชิลี่ฟูที่ภูเก็ต บอกตรงๆว่า คิดถึง บิ๊กแอสสมัยก่อนมาก

ป๋าเอาเรื่องราววงบิ๊กแอสออกมาสู่สังคม เป็นอะไรที่ดีต่อสังคมมากๆ อย่าปล่อยให้เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับ องค์กรของท่าน กลุ่มของท่าน ครอบครัวของท่าน รับฟัง วิเคราะห์ จดจำ นำไปใช้

ซึ้งมากๆอะค่ะ...เชื่อว่าหลังจากนี้เค้าก็คงจะไม่คุยกันเหมือนเดิมแหละ และเค้าก็จะยังรัก และผูกพันกันเหมือนเดิมเช่นกัน

ใครว่าพี่กบยังไงไม่รู้ แต่พี่แกรู้สึกผิดและยอมรับผิดแบบแมนมาก ๆ พี่แกสามารถบอกว่าในอดีตนั้นพี่แกพลาดตรงที่ไปกดดันและผสมเรื่องราวเละเทะจนความกดดันนั้นไปตกที่พี่แด๊กซ์ แกไม่ได้โทษพี่แด๊กซ์หรือพูดว่าพี่แด๊กซ์ผิดอะไรเลย แกพูดเกี่ยวกับความผิดของแกล้วน ๆ โคตรแมน

เคลียร์หมดทุกๆเรื่องที่ติดอยู่ในหัวผมมาตลอด ขอบคุณมากๆครับที่ทำ EP แบบนี้มาให้ชม

ผมนอนฟังน้ำตาซึมตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องราวที่ผมอยากรู้มาตลอด ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับ จะเป็นเรื่องราวที่จะสอนให้ผมได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ผมได้ก้าวผ่านทุกๆเรื่องราวนับจากนี้ไป

พอฟังแล้ว เข้าใจพี่แด๊กเลยว่าช่วงเวลานั้นคงรู้สึกโดดเดี่ยวน่าดู

ตอบเคลียร์กว่า SF เยอะเลย ชัดทุกประเด็นเลย ฟังแล้วเข้าใจ เพื่อนมันมีทะเลาะกันแบบนี้จริงๆ

พี่กบกับพี่อ๊อฟเปิดใจแบบหมดเปลือก ขอคารวะในความกล้าหาญ เข้าใจอารมณ์ตอนแยกทางกันเลย

มุมผมนะ ด้วยความสนิทเลยลืมมองสิ่งที่สำคัญที่ทำรวมกันมา สุดท้ายเลือกปลอยมือเพราะ และเดินต่อไปไม่ได้ จุดที่ทำให้วงแตก คือพวกคุณไปกัน4คน และเลือกตัด1และแอบไปกัน นั้นละจุดเริ่มต้น เป็นผมก็น้อยใจมาก และก็จะคิดไปว่า ไม่เอากันแล้ว มาเจอปัญหาอีกยิ่งทำให้เขาคิดไปเอง 4คน เลือกปิดไม่บอก 1 ทุกคนคิดว่าแด๊กคนง่ายๆ แต่ไม่รู้เลย ว่าใจคิดไร เชื่อปะพอกลับมานั่งคุยกันจริงๆ มีน้ำตาแตกแน่นอน ไม่มีใครกล้าเกิดไปคุยแบบเปิดใจสักคน แปลกนะทำไมสนิทกันถึงคิดว่าไม่ต้องคุยก็ได้

ผมว่านะ นี่แหละที่เรียกว่ารับรู้ด้วยใจ สำหรับ Big Ass ถึงแม้ไม่ได้พูดกันห่างกันแต่มันคิดถึงกันตลอด เรื่องที่พลาดก็พลาดไป แต่ก็ยังรับรู้ได้เมื่อถึงเวลาที่สมควร ขอบคุณ ป๋าเต็ด ที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดมันคลี่คลายในทางที่ดี

ตั้งแต่ฟังมา แด็ก เป็นคนที่นึกถึงแต่ความรู้สึกตัวเอง และเอาอีโก้ตัวเองไปวางไว้สูงกว่าคนอื่นๆ สูงกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมของวง ในขณะที่คนอื่นๆทำทุกอย่างเพื่อวงได้ ดีแล้วแหละที่แยกกัน วงจะได้ไปต่อได้

รอป๊าสัมภาษณ์ - โอ่งเก่ง abnormal - วิน potato - LOSO - daboyway thaitanium - บี crescendo - wanyai - กะลา - โจ๊ก So cool - กบ Taxi - เป้ Slur - วงฟลาย - เภา ละอ่อน - โฟร์มด - gavind 321 - พรู - sqweez animal ดันหน่อยครับถ้าอยากดูเหมือนกัน

เราดู ep.ของเจ๋ง ไล่มาของแด๊ก จนมาดูจบ ep.นี้ เข้าใจทุกคนเลย ว่าทุกคนต่างมีมุมของตัวเอง มีทางของตัวเอง ไม่มีใครผิดทั้งนั้น .. เวลาทำหน้าที่ของมัน จนตกผลึกความคิดอะไรบางอย่างที่ตอนนั้นต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน มาวันนี้แม้จะกลับไปเป็นในแบบเดิมไม่ได้แล้ว แต่ Bigass ในในความรู้สึกของเราก็ยังเป็นแบบเดิม หนึ่งในวง Rock อีกวงที่อยู่ในใจเสมอ และยิ่งรักมากขึ้นไปอีก เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ❤️

ตอนช่วงท้ายผมฮา น้ำตาไหล เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อนด้วยกันที่รักกันมาก ครับ ผมยังจำได้ดีสมัยโดนเรียนไปดูวง big ass campus ทัวที่โรงเรียนผม อัลบั้ล my world รักและติดตาม big ass ตลอดไปครับ

นั่งฟังพวกพี่ให้สัมภาษณ์ อารมณ์ผมเหมือนคนอกหักเลย มันจุกอกจุกคอ น้ำตาจะไหล ซึ่งใจในความเป็นเพื่อนของพวกพี่ เห็นแววตาเหมือนน้ำตาคลอ

ขอบคุณ​ป๋าเต็ดที่รัก​ ทีเป็นที่พึ่งในการทำให้ผมซึ่งเป็นเด็กในยุคนั้น​ ได้เข้าใจในทุกเรื่องที่สงสัยมาตลอด​ อบอุ่นกับทุกคำตอบจริงๆ​ ขอบคุณ​ครับ

ต่างคนต้องต่างปรับ หันหน้าเข้าหากัน คุยกันให้มาก มีเรื่องไม่เข้าในต้องเคลียร์ ♥️

ชอบบทสัมภาษณ์นี้มาก ดูไปยิ้มไปตลอด ข่าวก่อนหน้านี้เขียนเหมือนว่าคนในวงโกรธแทบจะแกงกัน แท้ที่จริงมันไม่ได้มีอะไร ขอบคุณป๋าเต็ดครับ

พอผมได้ฟังทั้งสองฝ่ายผมยิ่งเข้าใจเหตุผลของพวกพี่ครับ รักบิ๊กแอสเสมอครับ

เป็นเทปสัมภาษณ์ที่ จุกอก น้ำตาคลอ ตื้นตัน หลากหลายอารมณ์ มันทำผมย้อนไปเห็นตัวเองสมัยวัยรุ่นที่เคยมีวงดนตรีกัน ประกวดเวทีจีบ๊อบ ประกวดตามวิทยาลัย เล่นตามร้านอาหาร พยายามแต่งเพลงตัวเองเพื่อส่งค่ายเพลง ผมคล้ายพี่กบเลยครับ มีความเอาแต่ใจในช่วงเวลานั้น ปลดมือเบสออกดื้อๆไปเลย และน้องมือกลองเคยขอซ้อมดนตรีแต่ผมกลับดื้อบอกไม่เอาๆ และน้องก็หมดความอดทน หาฟอร์มวงใหม่และตอนนี้ก็ไปได้ไกลมากๆจนปัจจุบัน ตอนนี้ทุกอย่างปกติทักทายพูดคุย ยินดี แต่ถ้าห้วงอารมณ์ในตอนนั้นต้องบอกว่า เหมือนคนอกหัก งอนน้องมันไปเลย ฮ่าๆๆๆ ปัจจุบันนี้ต่างคนต่างใช้ชีวิตตามเส้นทางตนเองแล้วครับ มีแต่น้องมือกลองที่ยังเดินอยุ่บนเส้นทางดนตรีอยู่ เป็นมือกลอง🤗

ฟังมาทั้ง2ฝั่ง เข้าใจพี่4คนเลย ฝั่งนึงทำงานตามอารมณ์ไม่อยากทำก็ไม่ทำ หย่อนเกินไป อีกฝั่งอยากได้ความมั่นคง อยากเก็บเกี่ยวให้มากที่สุด จนกลายเป็นตึงเกินไป สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ ส่วนตัวชอบความคิดของพี่กบ ผิดก็ยอมรับว่าผิด มืออาชีพ งานคืองาน ถ้าจะทำแล้วไม่เต็มร้อยก็บายเหอะ ส่วนตัวคิดว่าพี่ๆที่เหลือผิดแค่จุดใหญ่จุดเดียวคือไม่พูดให้เคลียร์และไม่พูดตรงๆ แต่ส่วนอื่นคิดว่าเหมาะสมแล้วกับพฤติกรรมแบบนั้น แต่ก็ยังว่าสักวันจะได้เห็นพี่ๆกลับมาร่วมงานกันได้อีกครั้ง

กลับมาดูซ้ำๆหลายรอบมาก สำหรับbigassปัญหาคือ คำว่าวุฒิภาวะ และเวลากับการรับความเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เหมือนกัน ชื่นชมว่าแด็กซ์เก่งมากที่ผ่านมันมาได้โดยลำพัง และลึกๆคือ คำว่า "เพื่อน" และ "ลูกผู้ชาย" อยากให้กลับมากอดกัน ไม่ใช่แค่พวกคุณ เพราะพวกเราก็มีน้ำตาไปด้วยกัน❤

จบสวย “เพราะไม่ยอมที่จะทะเลาะกัน” นั่นละคำตอบ

"เพื่อนคือคนที่เราปรึกษาได้ทุกเรื่อง แต่ ไม่ใช่ทุกคน เพราะเพื่อนทุกคนไม่ได้เข้าใจเราทุกเรื่อง ดั้งนั้นเราจึงต้องปรึกษาให้ถูกเรื่องและถูกคน แต่ยังไงทุกคนก็คือเพื่อน"

หนูรู้ค่ะ ว่าพวกพี่รักกันอยู่ และยังห่วงใยกันและกันเสมอ ❤️ ความทรงจำที่สวยงามของกันและกัน❤️

วันที่พวกคุณทิ้งแด๊ก ผมเข้าใจและยอมรับเหตุผลนะ เออว่ะ มันจริง แต่ผิดอย่างเดียวคือไม่ได้บอกตรงๆแค่นั้นเอง ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เปิดใจกับเจ๋ง แต่ผมก็ยังรักวงบิ๊กแอสทุกคน ในยุคเก่า

เหมือนคนรักกันแล้วอยู่ดีๆ ก็เลิกกัน แต่ไม่เคยคุยกันว่าเลิกกันเพราะอะไร ปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างคิดกันไปเองว่าเลิกกันเพราะอะไร วันเวลาผ่านไป ต่างคนต่างมีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิต ต่างคนต่างใช้ชีวิต ในแบบของตัวเอง ในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยที่ยังคงเป็นห่วงอีกฝ่ายกันทั้งคู่ ช่วงจังหวะดี มีคนยื่นมาเป็นสื่อกลางเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจ ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น แต่ตอนจบ ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ที่จะอยู่ด้วยกัน เพราะต่างฝ่ายต่างเจอทางที่ดีของตัวเองแล้ว

พี่หรั่งยังโทรมาบอกพวกพี่เลยว่าจะขอแด๊กไปอยู่ด้วยทั้งที่แด๊กไม่เกี่ยวข้องแล้ว นั่นแหล่ะวิถีลูกผู้ชายนักเลงที่ต้องมีความเคารพกัน นับถือพี่หรั่งครับ

ผมอายุ 42 แล้ว เพิ่งมาดูมาฟัง big ass อย่างจริงๆ จังๆ รวมถึงบทสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้วชอบมากเลย รู้สึกพี่ๆ เค้าตอบเป็นผู้ใหญ่มาก ทั้งกบและออฟ แต่ก่อนก็เป็นเพียงแฟนเพลง ตอนนี้เริ่มจะเป็นแฟนคลับแล้วล่ะ เสียดายที่สมาชิกไม่ครบเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าสักวันนึงคงได้มารวมตัวกันอีกครั้ง จะรอชมครับ

ทำไม ผมดูแล้ว น้ำตาไหลคับ การให้สัมภาษณ์ ผมรู้สึกได้เลย ทุกคนยังรักกันเหมือนเดิม บางที คนบนฟ้า ขีดเส้นไว้แล้ว แต่ทุกคนยังรักกันเหมือนเดิม ความสุข ของ ทุกคน กาลเวลา มัน ต้องผ่านไป เราไม่อาจะรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น สู้ๆคับ รวมถึงพี่แดร๊กด้วยคับ

เห็นใจพี่กบมาก..เหตุผลทั่งหมดเข้าใจสักทีเอ้ย...มิตรภาพ ความหวัง ความสำเร็จและเพื่อนรัก ♥️♥️♥️

เป็นการสัมภาษณ์ที่ดีมาก ได้แง่คิดให้กับหลายๆคนรวมถึงผม ว่า *การคุยกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด* 😊

ถ้าวันนึง Big Ass มีคอนเสิร์ตใหญ่ แล้วมีพี่แด๊กไปเป็นแขกรับเชิญร่วมในคอนเสิร์ต ร่วมร้องเพลงของวงที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา คงจะเป็นอะไรที่ดีต่อใจแฟนครับตัวเล็กๆอย่างผมมากๆครับ ถึงจุดนี้ผมฝันอยากเห็นภาพนั้นจริงๆ

มีดมันมีคมเดียว แต่ดาบมันมีสองคม แต่ทั้งมีดทั้งดาบ ก็ฆ่าตนเอ็งและคนอื่นได้ทั้งคู่ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ขอบคุณ​ป๋า เป็นการคุยที่มีคุณค่า​มาก​ สำหรับคนที่โตมากับ 2 วงนี้ นึกไม่ออกเลย ถ้าไม่ใช่ป๋าแล้ว ใครจะทำมันออกมาดีแบบนี้ได้

เมื่อวานพี่แด็กพูดบนเวทีที่เซ็นทรัล ภูเก็ตว่า อิจฉาพวกน้องวัยรุ่นนะบางที่ก็ไม่อยากโต คิดถึงความสนุกอะไรประมาณนี้ผมจำไม่ได้แต่ผมได้เห็นแววตาพี่แกผมอยากจะร้องเลย แววตาแกดูเศร้าแล้วคิดถึงเพื่อนๆมากก

ผมเพิ่งมีโอกาสติดตามรายการครับ ฟังจาก 2 ฝ่าย แล้วรู้สึกดีแล้วครับ คนเราอยู่ด้วยกันได้ต้องศีลเสมอกัน

ตั้งแต่ชมรายการในช่องยูทูปมา คงประเมินค่าไม่ได้ว่าในชีวืตของผม ได้ความรู้ ได้ทางออกในการแก้ปัญหาหลายๆเรื่อง ได้แนวคิดลอจิค ซึ่งเป็นจิ๊กซอตัวสุดท้าย มามากเหลือเกิน ... ผมอ้านหนังสือมานับเล่มไม่ถ้วนในชีวิต และยังอ่านอยู่เสมอในสื่อทุกๆรูปแบบ ... มีมากมายเหลือเกินครับ ที่ข้อมูลเหล่านั้น ที่ตกตะกอนกันกองอยู่ในสมองของผม แต่ปัญาของผมยังตีความหมายที่แท้จริงไม่ออก ... ผมมาได้จิ๊กซอส่วนนั้นที่ผมมองไม่เห็น จากคำพูดลึกซึ้งๆจากพี่ๆ มากประสบการณ์ และแต่ละท่านล้วนไม่ธรรมดา ที่พี่เชิญมานั่นเอง... ช่องรายการของป๋า สำหรับผม คือช่องที่ให้ผมเก็บเกี่ยว และกรองสิ่งดีๆ วิธีคิด และประสบการณ์ล้ำค่า ซึ่งล้วนกว่าจะได้คำนั้นมา ต้องแลกจากความล้มเหลวและความสำเร็จในชีวิตจริงของพี่ๆ เหล่านั้นทั้งสิ้น ซึ่งเก็บเกี่ยวมาทั้งชีวืต .... แต่ผมได้สิ่งอันประเมินค่าเหล่านั้นมา จากการชมช่องของป๋า...แค่เพียงชั่วโมง ... ผมไม่อาจหาคำนิยม และ คำขอบคุณคำไหน ที่มีค่าเพียงพอให้ป๋าได้ ... แต่ไม่ขอบคุณ ยิ่งทำไม่ได้ "ขอบคุณนะครับป๋า"

ชอบเทปวงบิ๊กแอสนะคับ รู้สึกพูดตรงกัน ไม่เฟค เรื่องที่ฟังทั้งหมดเพิ่งรู้ว่าแค่ไม่คุยไม่เคลียกันแค่นี้เอง เห็นใจทั้งคู่นะคับ น่าจะจบแบบแฮปปี้เสียดายวง

อยากให้ทำซัพอ่านด้านล่างด้วยอ่าครับ มีบางคำพูดหหรือบางประโยคฟังไม่ได้ยินก็ต้ งเร่งเสียง พอตอนที่ดังก็ดังลั่น ติดตามอยู่นะครับ

ฟังแล้วพอเข้าใจได้ว่า พี่แด๊กซ์ เป็นคนสบายๆอะไรก็ได้ยังไงก็ได้ แบบเป็นกันเอง แต่เพื่อนสมาชิกวงเหมือนคนนึง(พี่กบ)ตึงเกินไปมองที่ผลลัพธ์วงตามที่ตนต้องกันให้ไปโดยปรึกษาสมาชิกคนอื่น ยกเว้นแด๊กซ์(นักร้องนำ) แม้แต่แด๊กซ์มีปัญหาเส้นเสียง คุณก็ไม่ได้ทักให้เขาเพลาๆเพื่อรักษาเสียง แต่กลับเงียบและคุยกันแค่ สี่คน ยกเว้น แด๊กซ์ เสมือนเป็นเพื่อนกันห้าคน แต่สี่คนรู้เรื่องแต่อีกคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดวงจะยุบ แด๊กซ์ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพื่อนกันจริงๆเขาไม่ทำแบบนี้หรอกครับ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเพื่อนครับ การกระทำแบบนี้คือการกระทำของคนที่ไม่รู้จักกันมากกว่า ผมเข้าใจเลยว่าที่ตอนให้ แด๊กซ์ เซ็นสัญญาตอนยุบวงที่แด๊กซ์ ไม่พูดอะไรนั้นเขาเจ็บปวดกว่าเยอะ เพราะตลอดระยะเวลาที่เริ่มต้นจากที่ไปไหนมาไหนแล้วไม่ชวนแด๊กซ์ ไปไหนไปกันสี่คน ยกเว้น แด๊กซ์ แล้วเขามารู้ว่าเขาเจ็บปวดกว่าเยอะ แบบนี้เขาเรียกว่าเพื่อนกันจริงๆหรอ? ถึงแม้แด๊กซ์จะมีปัญหากับคนอื่นก็ว่าแย่แล้วสิ่งที่คนสี่คนทำต่อแด๊กซ์ มันเจ็บกว่าอีก สำหรับผมแล้วถ้าผมเป็นแด๊กซ์ คนแบบนี้ผมจะไม่มีทางเรียกว่าเพื่อนของผม

ดูแล้วได้ข้อคิดมาก ๆ ค่ะ การสื่อสารสำคัญต่อทุกความสัมพันธ์ ทุกเรื่องจริง ๆ

ดู ครบทุกตอนแล้ว ฉันได้ข้อคิด พวกพี่แค่ลืมคำว่าเพื่อน กดดันตัวเองและเพื่อน เพื่อสิ่งที่ตัวเองโหยหาย ความหิวชื่อเสียง หรืออะไรต่างๆนาๆ คนฟังเสียดายพวกบิ๊กแอสเสียใจ (มองข้ามกันและกัน)

ปัญหามันอยู่ที่ “ใจ “ ใช่ความรู้สึก ฟังจาก 2 ฝ่ายแล้วจริงๆเค้าก็รักกันน่ะ..

เรื่องราวแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ในกลุ่มเพื่อนทุกกลุ่ม เข้าใจทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างอึดอัด ต่างคนต่างน้อยใจ ไม่เข้าใจกัน แล้วก็ไม่ยอมคุยกัน จนเรื่องทุกอย่างมันต้องจบแบบนี้ แต่เชื่อเถอะเมื่อเวลาผ่านไปสักวันนึงพวกพี่จะกลับมาเป็นเพื่อนที่นั่งคุยกัน กินเที่ยวกด้วยกันอีกครั้ง บางทีการแยกกันไปทำงานของตัวเองแล้วยังคงความเป็นเพื่อนกัน มีความสุขกันเหมือนเดิม มันอาจจะดีกว่าต้องมานั่งทำงานด้วยกันโดยต่างคนต่างมีแต่ความอึดอัด ไม่มีความสุขเหมือนก่อนๆ แต่ก็อย่างว่าแหละเรื่องมันผ่านมาแล้ว มันกลับไปแก้ตรงนั้นไม่ได้แล้ว ที่ทำได้ก็คือให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมันแล้วผมเชื่อนะว่าความเป็นเพื่อนของพวกพี่มันยังคงอยู่เสมอ และผมหวังว่าพวกพี่จะกลับมาเป็นเพื่อนกันมีความสุขด้วยกันอีกครั้งนะครับ ❤️

เท่าที่ผมดูและฟัง ทั้งพี่แด็ก และ พี่กบพี่อ็อฟ ต่างลึกๆแล้ว ก็ยังรุ้สึกดีต่อกัน ยังเป็นเพื่อนกัน ผมกับ รุ้สึกดีนะ เหมือนมีโอกาสได้ เห็นพี่ๆ มาเจอกัน ในจังหวะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ผมจะรอ เพราะผมไม่ได้ มีปัญญาอะไร ก็ยังฟัง bigass ปกติ เพียงแต่แค่เสียดาย ที่รุปแบบของ bigass เป็นแปลงไป แต่ไม่ได้ ผิดหวังอะไร ยังงัยก้อขอให้ เวลานั้นมีจริงๆและมาถึงไวๆ คงเป็นอะไรที่ ดี

ไม่ต้องกลับมาอยู่ในวงเดียวกันหรอก อยู่ให้เป็นตำนานแบบนี้ล่ะ มีเสน่ห์ดี!! แค่ติดตามผลงาน ส่งกำลังใจให้กันจนตาย ก้อพอแล้ว

อ่ะ.. มีพูดถึงพี่หรั่งด้วย โดยส่วนตัวผมว่าพี่หรั่งแกเป็นคนจิตใจดีน่ะครับ แบบว่าถ้าอยู่ด้วยแล้วสบายใจน่ะครับ..

ผมเคยสงสัยตัวเองว่า เพราะอะไรผมถึงชอบ bigass และตั้งแต่พี่แด๊กแยกวง ผมถึงได้รู้ว่า ผมไม่ได้ชอบ bigass แต่สิ่งที่ผมชอบคือ เสียง พี่แด๊ก ต่างหาก

ตอนไล่แด๊กออก เคยคิดถึงว่าแด๊กเค้าจะมีอาชีพอะไรหรือป่าว. แต่ก็เข้าใจนะครับ มันคงสุดจริงๆ สุดแบบไม่อยากจะพูดด้วยเลย

ฟังจากสัมภาษณ์ทัั้งหมดความรู้สึกวงนี้ คือ ครอบครัว อาจจะหย่า เลิกลากัน แต่ความรู้สึกในรัก ยังคงอยู่ . .

ตอนนั้นยังไม่รู้ก็คิดเอาว่าพวกพี่ทะเลาะกันเว่ย มาวันนี้พอพวกพี่มาพูดถึงได้รู้ว่า ที่แยกทางกันเพราะพวกพี่ "ไม่ยอมทะเลาะกัน"

เป็นวงร๊อควงแรกที่ซื้อเทป ชอบฟิลแสดงสดมาก จำได้ว่าพี่แด๊กมัดเปีย พี่อ๊อฟผมยาวท่านี่เหมือนมือกีต้าร์limpเลย พอซื้อเทปมาเพื่อนแม่งเอาเทปไปอัดทับเลย เหลือไว้3เพลงแรกเพื่อนบอกเพลงเหี้ยชิบหายฟังได้3เพลง. แต่ก็คิดในใจจริงของมันหวะ แต่ทาดมอมเช็ดเป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดนะ พี่ก็ไม่ค่อยเล่นกันด้วยสิ

เพลงทำด้วยคำว่าเพื่อนคือ ความสุข แต่เพลงที่ทำด้วยอาชีพมันคือระเบียบวินัย วงที่เริ่มจากคำว่าเพื่อน แล้วก้าวไปสู่จุดที่เป็นอาชีพได้ คนในวงจะทำยังไงให้ความสุขความสนุกและระเบียบวินัยไปด้วยกันได้

นี้ละครับ เรายังไม่รู้ลึกจริงอย่าเพิ่งไปว่า ผมเห็นเยอะมาก ที่พากันด่าพี่กบ ทั้งที่ความจริงมันเป่นยังไงเราก้ไม่รู้ แต่ถึงยังไงพวกเขาทั้ง5คน ก็ยังเป่นเพื่อนกันครับ

ดู ep นี้แล้วน้ำตาไหลอะ เพิ่งได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจากที่สงสัยมาตลอดว่าวงแตกเพราะอะไร อยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม นักร้องสองคนก็ได้😆 #รัก Bigass #โตกับวง Big ass

"คงเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆเลย" ดูสัมภาษณ์ 2 ฝั่งแล้วจริงใจกันมากต่างฝ่ายต่างยอมรับผิด สุดยอดๆจริง แต่ว่าโมเม้นเพลงตอนนี้พี่เจ๋งลงตัวมาก จะมาบอกว่าอะไรก็แด๊กซ์ๆ แ ม่งโคตรทำร้ายนักร้องนำคนปัจจุบันเลย

เพื่อนก็คือเพื่อนนั้นแหล่ะ สั้นๆเลย แค่เลือกเดินไปคนละทาง แต่สุดท้ายก็คือเพื่อน อนาคตเจอกันก็ทักทาย น้ำตาก็ไหลบ้างกอดกัน เป็นกำลังใจให้พี่ๆนะคะ

ช่วงที่คุณกบ พูดถึงคุณหรั่ง ผมต้องฟังเปิดฟัง 3 รอบ ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกดีที่ได้ฟัง

ขอบคุณมากๆนะป๋า ที่ทำให้ผมและแฟนๆรู้สึกโล้งมาก เหมือนเอาความทุกออกไปจากใจจนหมด

รัก Big Ass Big Ass เป็นชื่อวง ไม่ได้เป็นชื่อคนใดคนหนึ่ง ต่อให้เปลี่ยนแปลงอะไรยังไง ความเป็นBig Ass กลิ่นของแนวเพลงยังเหมือนเดิมเสมอ ทุกวันนี้ เจ๋งก็ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว

คิดว่าเรื่องเงินเป็นสำคัญ คือทุกคนนึกถึงอนาคตและครอบครัวของตัวเองก้อเลยต้องจิงจังกับงานเพื่อเงินและได้งานทำต่อไปเลยๆ จนไม่นึกถึงความรู้สึกของคำว่าเพื่อน

ขอบคุณป๋าเต๊ดและทีมงานมาก หนูประทับใจepนี้มาก มันคลายปมทุกอย่างเลยนะ พี่เค้าเคลียชัดมากๆ

การสัมภาษณ์​วงตำนานกับพวกนักร้องปัจจุบัน​มันคนละเรื่องเลยชอบตำนานการพูดการคุยน่าฟังกว่าพวกนักร้องปัจจุบัน​

ดูรอบที่สามแล้วค่ะ ชอบฟังเวลาพี่กบพูด 🤩

ป้าอายุ 63 แล้วนะ แต่ป้าฟังเพลงทุกประเภท และป้าก็ชอบพวกคุณๆด้วยค่ะ

ขอบคุณที่พยายามรักษาวงไว้นะคะ พี่กบ พี่อ๊อฟ #รักวงนี้ที่สุด♥️

ชอบพี่กบมาก"แมน" แถวบ้านผมเรียกใจนักเลง

พี่โต : ไม่รู้มึงจะสนุกอะไรกันนักกันหนาวะ พี่แด๊ก : ทำไม มึงซีเรียสกันจังวะเห้ย

ผมไม่ใช่แฟนเพลงบิ๊กแอสนะครับ แต่ชอบงานเขาหลายเพลง เรื่องราวภายในวงที่ต้องแยกทางกัน มันเป็นเรื่องปกติครับ คือ วงบิ๊กแอส เอาเฉพาะเรื่องราวของแด๊กจริงๆแล้วมาคบหากันเป็นเพื่อนก็จริง แต่เมนหลักที่ทำให้คบได้ยืดยาวจนมาถึงวันนั้นของวงก็มาจากการเล่นดนตรี ดนตรีมันผูกพันใจให้คนอยู่ด้วยกัน ผมเคยฟังแด๊กสัมภาษณ์ เมื่อหลายปีก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟังตั้งแต่ครั้งนั้นก็รู้แล้วว่ามันเกิดจากอะไร วงดนตรีที่ไม่ได้ไปด้วยกัน 4 คนนั่งรถตู้ไปด้วยกัน 1 คนเลือกที่จะไปต่างหากที่สำคัญเป็นฟรอนต์ด้วย มันก็ยากที่จะไปต่อแล้วครับ ทีมฟุตบอลผู้เล่นมากกว่ากันตั้งเยอะ ยังต้องไปพร้อมกันเลย ส่วนการที่ว่าทำไมไม่คุยกัน คุยกันก็ทะเลาะกันครับ... และสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จุดจบอาจจะเหมือนเดิมคือ แยกทาง ผมนึกภาพตามออกเลยว่าจะเป็นยังไง ผมเข้าใจที่กบว่ามานะว่าทำไมไม่คุยกันให้มากกว่านี้ มันเป็นเรื่องปกติครับกับการตัดสินใจว่าจะคุยหรือไม่คุย เราเป็นคนนอกยากที่จะเข้าใจสถานการณ์ที่ชัดเจน กับเพื่อนฝูงบางคนเวลามีปัญหาเรายังไม่คุยอะไรมากเลย บางทีก็แค่ห่างๆกันไปก็พอ... และบางทีมันก็มีเส้นบางๆที่กั้นระหว่างเพื่อนกับคำว่ามืออาชีพ สำหรับผมเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่า 4 คนอยากจะไปทางนั้น แต่อีกคนไม่ได้อยากไปด้วย คนหนึ่งทำเพราะสนุกและมีความสุข แต่อีก 4 คนนี่คือเส้นทางอาชีพของเขาเขาอยากไปต่ออีกทาง แถวบ้านเรียกว่าศีลไม่เสมอกันครับ ไปด้วยกันยาก เคยอ่านบทสัมภาษณ์วงไมโครตอนวงแตก ก็แบบนี้แหละครับ อำพลอยากทำงานแบบหนึ่ง แต่ที่เหลือคิดอีกแบบ... ก็ไปด้วยกันไม่ได้ มันเรื่องธรรมดาครับ ฟังดูแล้วมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำ เป็นเรื่องของเส้นทางอาชีพ แต่ถามว่าที่คนในวงทำกับแด๊กแบบนั้นโอเคมั้ย ก็ไม่โอเคนะ เช่นกัน ที่แด๊กทำกับคนในวงแบบนั้นก็ไม่โอเคเหมือนกัน เลิกกันก็ดีแล้ว ดีกว่าต่อยกันปากแตก กบอาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีสำหรับแด๊กก็ได้นะ แต่อีก 3 คนที่เหลืออาจจะคิดอีกอย่าง เพื่อนคบได้ ก็ห่างหายกันไปได้ครับ เรื่องปกติ

กูนึกว่าป๋าเต๊ดโดนหิ้ว อัพคลิปช้ามาก หลังจากที่แกมาทวิตเมื่อวันก่อน5555555

พอได้ดูEPนี่ กลายเป็นว่าเปลี่ยนความคิดเราไปเลย คือไม่ต้องกลับมารวมวงกันอะดีแล้ว✌️🙏❤️

วงนี้มีเรื่องราวน่าสนใจมาก ลำบาก สุข สมหวัง พัง และเรื่องราวระหว่างเพื่อน ฟังแล้วได้อะไรเยอะเลย

พี่แด็กซ์เป็นคนง่ายๆ ไม่มีวาระซ่อนเร้น เก็บเค้าไว้ข้างๆตัวเราดีที่สุด มันทำให้เค้าเคว้ง! รักพวกพี่ๆทุกคนครับ โตมากับเพลงพี่ๆ ดั้นด้นหาบัตรเข้างาน Fat ที่โกดังโรงงานยาสูบเก่าที่เจริญกรุงก็เพื่อจะไปโดดกับเพื่อนๆในเพลงก่อนตาย มีโชว์ที่ไหนก็ไปจองโต๊ะตั้งแต่หัวค่ำ รักพวกพี่ๆมากๆนะครับ ความเป็นเพื่อนมันงดงามและคงอยู่เสมอแม้ไม่ได้กล่าวถึง