1️⃣ โรค PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) อาการของเขาก็จะเจอในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์นะครับ มาด้วยมีประจำเดือนที่มันผิดปกติไป มีน้อยหรือมีไม่สม่ำเสมอนะครับ ร่วมกับการมีสิวขึ้นแล้วก็มีขนเพิ่มขึ้นในบริเวณที่เราไม่อยากจะให้มันมี ยกตัวอย่างเช่น บริเวณหนวด ตรงเครา ขนหน้าอกบางคนก็จะมีขนที่รักแร้แล้วก็คนที่อวัยวะเพศเพิ่มขึ้นด้วย แล้วในบริเวณที่เราอยากจะให้มันมีมันจะไม่มีครับนั่นก็คือผมมันจะเริ่มร่วงด้วยครับแล้วก็มีสิวนะครับ นี่มันเป็นแค่อาการภายนอกที่เราไม่อยากจะให้มันเป็นก็คิดว่ามันอาจจะทำให้เราดูน่าเกลียดหรือเปล่าแต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะครับมันมีโรคอื่นๆซึ่งถ้าเราไม่ได้รักษาภาวะนี้ให้ดีโรคอื่นจะตามมา คือโรคอะไรบ้าง? 💢โรคอ้วนนะครับ อันนี้จะเจอได้บ่อยในคนที่เป็นโรค PCOS นะครับ 💢มีภาวะเบาหวานหรือภาวะดื้ออินซูลินได้นะครับ 💢มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจต่างๆขึ้นมาได้ 💢มีโอกาสที่จะมีคอเลสเตอรอลสูง 💢แล้วก็มีไขมันพอกตับได้ 💢นอกเหนือจากนี้ยังทำให้มีการเจริญพันธุ์ที่ลำบากมากขึ้นหรือบางคนก็มีบุตรยากนะครับนี้คือปัญหาของคนเหล่านี้ที่เกิดขึ้น 💢นอกเหนือจากนี้การนอนหลับของคนเหล่านี้ก็ยังไม่ค่อยปกติด้วยนะครับคือเขาจะมีปัญหาทางด้านการหยุดหายใจในขณะหลับนะครับเกือบครึ่งหนึ่งของคนที่เป็นโรค PCOS มีปัญหาทางด้านการหยุดหายใจในขณะหลับถ้าไม่ไปตรวจการนอนหลับก็จะไม่ทราบเลยนะครับ 💢ปัญหาทางด้านจิตใจเราก็จะเจอได้ว่าคนเหล่านี้นั้นมีปัญหาทางด้านของการวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคทางด้านการกินต่างๆอันนี้เราจะเจอได้บ่อยนะครับโรค Binge Eating Disorder (BED นะครับหมายความว่ามันจะมีการอยากจะกินขึ้นมาก็จะกินเข้าไปทีเดียวเยอะๆนะครับหรือเป็นโรค บูลิเมีย (Bulimia) ก็คือกินแล้วไปล้วงคอให้อ้วกก็จะเจอในคนเหล่านี้นะครับ

2️⃣ ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องตรวจโรคนี้แล้วรักษาตั้งแต่แรกๆก่อนที่จะเกิดปัญหาอื่นๆตามมานะครับ โรคนี้เราตรวจยังไงวินิจฉัยอย่างไร? ➡️ถ้าเรามีอาการประจำเดือนมาน้อยผิดปกตินะครับ มาไม่สม่ำเสมอร่วมกับการที่เรามีลักษณะอื่นๆเช่นเมื่อกี้ที่บอกไปมีสิวขึ้นนะครับ มีขนขึ้นในบริเวณที่เราไม่อยากจะขึ้นเช่นหนวดเครา ขนหน้าอกเพิ่มขึ้น อันนี้เราสามารถที่จะพอบอกได้เลยว่าน่าจะเป็นโรคนี้นะครับ แต่ถ้าเกิดว่าเราต้องการยืนยันมันก็จะต้องมีการทำอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตร้าซาวน์ผ่านทางช่องคลอดเพื่อที่จะดูว่ารังไข่ของเรามันมีซีสต์เยอะขึ้นหรือเปล่านะครับ โดยซีสต์เนี่ยมันจะมีขนาดประมาณสัก 4-9 มิลลิเมตรนะครับแล้วมันก็จะมีหลายอันด้วยนะครับ ส่วนใหญ่แล้วมันก็มีกันเยอะนะครับ 12 ซีสต์หรืออันบางทีอาจจะ 20 30 เลยก็ได้นะครับ ซีสต์พวกนี้จริงๆนะมันก็คือซีสต์สมควรที่จะต้องเกิดการตกไข่นะครับแต่ว่าในโรค PCOS นั้นเราไม่สามารถตกไข่ได้นะครับ เวลาไข่เรามันไม่ตกประจำเดือนเรามันก็จะมาไม่สม่ำเสมอ แล้วการที่ไข่ไม่ตกนั่นเองก็จะทำให้เรามีบุตรยากขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้เป็นโรคนี้ด้วยเช่นกันนะครับ นอกเหนือจากนี้มันยังมีการเจาะเลือดนะครับการเจาะเลือดเป็นไปเพื่อ 2 อย่างด้วยกันนะครับ 🌀อย่างแรกก็คือการยืนยันว่าเป็นโรค PCOS หรือไม่ 🌀และอย่างที่ 2 เป็นการวินิจฉัยว่ามันไม่ได้เป็นโรคอื่นนะครับ

3️⃣ เราต้องเจาะเลือดอะไรบ้าง? 🔺ข้อแรกคือเราอาจจะเจาะเลือดดูระดับฮอร์โมนเพศชายคือ Testosterone นะครับ อันนี้ก็จะมีค่าที่สูงกว่าปกตินะครับ แต่มันจะมีกรณีหนึ่งซึ่งในผู้หญิงที่ตอนแรกก็ดูปกติดีวันดีคืนดีขึ้นมานะครับหนวดเพิ่มขึ้นเยอะเลยเยอะมากๆเลยนะครับเป็นอย่างรวดเร็วแล้วก็เครา ขนหน้าอกเพิ่มขึ้น เสียงก็ใหญ่ขึ้นเหมือนผู้ชายนะครับ รู้สึกกล้ามเนื้อมันใหญ่ขึ้นภาวะนี้จะไม่ใช่โรค PCOS แล้วนะครับ ภาวะนี้จะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมนะครับเขาเรียกว่าเป็น Virilization คือมีลักษณะกลายเป็นเพศชายนะครับหรือกล้ามเนื้อที่มันใหญ่ขึ้น เสียงที่มันทุ้มลึกเหมือนผู้ชาย แล้วก็ขนตามที่ต่างๆมันเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ ผู้หญิงบางคนก็จะมีลักษณะคลิตอริส (Clitoris) ที่มันโตขึ้นด้วยอันนี้ไม่ปกตินะครับไม่ใช่โรคถุงน้ำรังไข่เยอะนะมันต้องระวังโรคที่มีการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ เช่น โรคเนื้องอกตามรังไข่หรือเนื้องอกต่อมหมวกไตนะครับ โรคนี้ถ้ามันเป็นอย่างรวดเร็วนะคือตอนแรกเราสบายดีอยู่แล้วอยู่ๆของพวกนี้มันเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หมอเขาจะต้องมีการตรวจฮอร์โมนแล้วตัวหนึ่งชื่อว่า DHEAs ร่วมกับ Testosterone ในคนที่มีภาวะ Virilization แบบนี้เนี่ยนะครับถ้า Testosterone ของเขามักจะสูงนะครับ สูงเกิน 150 นะครับแล้วถ้ามีค่า DHEAs สูงขึ้นนะครับ Dehydroepiandrosterone sulfate สูงขึ้นเกิน 800 เราต้องระวังเนื้องอกต่อมหมวกไตเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ พวกนี้อาจจะต้องมีการไปผ่าตัดหรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆตามมานะครับ ดังนั้น 2 อันนี้จะเป็นตัวที่หมอเขาพิจารณาว่าอาจจะต้องส่งนะครับ 🔺อื่นๆที่เราจะต้องมีการส่งตรวจอันแรกก็คือมันจะมีโรคๆหนึ่งซึ่งคนไทยอาจจะไม่ค่อยเจอเท่าไหร่โรคนี้คิดว่าไม่น่าจะต้องกังวลนะครับมันจะชื่อ Non-classic congenital adrenal hyperplasia (NCCAH ซึ่งมันเป็นความผิดปกติของเอนไซม์ตัวหนึ่งฮอร์โมนตัวหนึ่งนะครับที่อยู่ในต่อมหมวกไต แล้วอันนี้ถ้ามันผิดปกตินะครับมันจะทำให้มีความผิดปกติของระดับ 17-Hydroxyprogesterone (17-OHPG) ตัวนี้มันจะผิดปกติไปนะครับ ถ้ามันผิดปกติก็อาจจะเป็นโรคโรคนี้

4️⃣ ถามว่าทำไมเราถึงต้องตรวจนะครับ? ➡️มันก็เพราะว่าอาการของโรค PCOS กับโรคนี้มันเหมือนกันเปี๊ยบเลยแล้วก็เจอในคนกลุ่มเดียวกันด้วยแต่ถ้าเราวินิจฉัยไม่ได้แล้วเราปล่อยให้คนเหล่านี้มีลูกนะครับถ้าโชคร้ายลูกก็จะเป็น Congenital Adrenal Hyperplasia หรือต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติอย่างเต็มขั้นแล้วอันตรายมากถ้าเราไม่รู้ก่อนนะครับ ดังนั้นอันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราอาจจะต้องคิดไว้ เพียงแต่โชคดีอย่างนึงซึ่งมันไม่ค่อยเจอในคนไทยมันเจอในคนสเปนพวกนี้ซะมากกว่านะครับ แล้วก็คนยิวจะเจอพวกนี้มากกว่าแต่คนไทยเอเชียไม่ค่อยเจอโรคนี้ดังนั้นอาจจะไม่มีการส่งตรวจเรื่องพวกนี้ก็ได้นะครับ 🔺ทีนี้มันก็มีตัวเลือดอย่างอื่นที่เราอาจจะต้องตรวจเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น ตรวจเรื่องของฮอร์โมนไทรอยด์นะครับ ตรวจเรื่องของฮอร์โมนโปรแลคติน เพราะว่า 2 ตัวนี้มันอาจจะทำให้ประจำเดือนของเรามาผิดปกติโดยที่เราไม่ได้เป็นโรค PCOS ก็ได้นะครับ เมื่อเราตรวจเลือดครบแล้วนะครับแล้วก็ดูเรื่องของตรวจอัลตร้าซาวด์ของรังไข่เรียบร้อยแล้วนะครับหมอเขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคๆนี้เราจะทำยังไงกันดีนะครับ? 🔶ประการแรกสิ่งที่ควรจะต้องทำก็คือการลดน้ำหนักนะครับ เรารู้ว่าถ้าเราลดน้ำหนักลงมาได้โรคนี้อาการมันจะดีขึ้นนะครับ แต่ผมต้องขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าโรค PCOS นี้มันไม่สามารถที่จะหายขาดได้นะครับ แล้วต่อให้เราหมดประจำเดือนไปแล้วเข้าสู่วัยทองไปแล้วระดับฮอร์โมนเพศชายของผู้หญิงเหล่านี้มันก็จะสูงกว่าผู้หญิงวัยเดียวกันที่ไม่ได้เป็นโรคนี้นะครับ เขามีการศึกษาจนถึงอายุ 70 เลยก็พบว่าคนไข้เหล่านี้ยังมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงอยู่แล้วบางคนก็ยังมีหนวดมีเคราที่หลงเหลืออยู่ด้วยนะครับ แต่ยังไงก็ตามมันไม่ได้แปลว่าเราไม่ควรจะจัดการรักษานะครับ 🔸มาดูประการแรกกันหลังจากที่เราลดน้ำหนักนะครับ ยาที่เราใช้ในการรักษาก็แบ่งเป็น 2 ประเภทนะครับ 🔘ประเภทแรกสำหรับผู้หญิงที่ไม่ต้องการจะตั้งครรภ์ในตอนนี้ 🔘ประเภทที่ 2 คือผู้หญิงที่ต้องการจะมีลูกนะครับ

5️⃣ ✴️ถ้าเป็นในผู้หญิงที่ยังไม่ต้องการจะมีลูกนะครับเราจะใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมน 2 ตัวร่วมด้วยกันนะครับก็คือฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) อยู่ด้วยกันนะครับ อันนี้เนี่ยมันจะทำให้ประจำเดือนของเรามาปกติมากขึ้นนะครับ แต่เมื่อไหร่ที่เราหยุดยาประจำเดือนก็จะมาผิดปกติเพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าโรคนี้มันไม่สามารถที่จะหายขาดได้นะครับ ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องกินยาคุมตัวนี้ไว้ต่อเนื่องนะครับ ยาคุมพวกนี้ที่เป็นฮอร์โมน 2 ตัวร่วมกันเนี่ยมันมีประโยชน์หลายอย่าง ➰อย่างแรกก็คือมันจะสามารถลดพวกขนที่ขึ้นได้นะครับ พวกหนวดเคราพวกนี้จะสามารถช่วยได้นะครับ แล้วมันก็จะลดสิวที่เราเป็นนะครับ รวมทั้งทำให้ประจำเดือนของเรามาได้อย่างปกติด้วยนะครับ อันนี้ก็คือเป็นเหตุผลที่เราจะใช้ตัวนี้ ➰อีกอย่างนึงก็คือตัวโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งมันอยู่ในฮอร์โมนนี้มันจะช่วยทำให้จีงเยื่อบุโพรงมดลูกของเราไม่ได้โตจนเกินไปนะครับ เวลาที่เราไม่มีประจำเดือนมานานๆตัวเยื่อบุโพรงมดลูกของเรามันจะเจริญเติบโตแล้วก็หนาตัวไปเรื่อยๆทำให้เรามีความเสี่ยงต่อมะเร็งมดลูกนะครับ ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องให้เรามีประจำเดือนออกมาจะได้ไม่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งมดลูกนะครับ ดังนั้นการใช้ยาคุมกำเนิดนี้ก็เป็นตัวที่ช่วยอย่างหนึ่ง แต่บางคนก็มีความกังวลว่าถ้าเราได้เอสโตรเจนไปเรากินแล้วเราจะบวมเราจะมีปัญหาอะไรอย่างอื่นหรือเปล่านะครับ ก็อยากจะใช้ตัวโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวซึ่งก็จะใช้แบบนั้นก็ได้นะครับแต่ว่าข้อเสียของโปรเจสเตอโรนนี้คือมันจะไม่ได้ช่วยในเรื่องของการที่เรามีหนวดมีเคราขึ้นนะครับ มันจะช่วยทำให้ประจำเดือนของเรามาปกติสม่ำเสมอเท่านั้นเอง ไม่ได้ช่วยเรื่องของสิวนะครับ แล้วก็เรื่องของขนพวกนี้ก็ไม่ได้ช่วยนะครับ อันนี้ก็เป็นทางเรื่องของคนที่ไม่ต้องการกินยาคุมแบบ 2 ตัวร่วมกันนะครับ

จริงครับ

ดันนเม้นนี้ค่ะะ เพราะเป็นpcosเเละกินยาคุมมาหลายปีเเล้วค่ะ

ดันเม้นนี้ค่ะหนูเป็นชอคโกแลตซีสฉีดยาคุมได้เกือบ3ปีแล้วแล้วกลัวผลข้างเคียงเป็นลิ่มเลือดและมะเร็งคิดว่าจะเลิกฉีดยาคุมค่ะ

ไม่เคยรู้จักโรคนี้ หลังจากท้องลูกคนแรก ตอนนี้ลูก9 ขวบ รอลูกคนที่2 ไม่มา หาทุกวิถีทาง สุดท้ายเลยรู้ว่าที่แท้เราเป็นpcos แต่อยากฟังคุณหมอแทน พูดสุๆๆ

หาpcosหมอแทนมานาน หมอไม่เคยทำโรคนี้

รอมานานเหมือนกัน สำหรับ คลิป pcos

ดีละนี่ครับ

ใช่ครับ

มีครับ แต่ถ้าประโยชน์มันมากกว่าก็กินได้ครับ ตราบใดที่ตรวจติดตามกับหมอประจำก็ไม่มีปัญหาครับ

ไม่ได้เสี่ยงครับ แต่ก็มีปัญหาอื่นอย่างที่เล่าในคลิปครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ

ก็มีได้ครับ แต่ต้องถามหมอที่ดูแลอยู่ครับ

kzfaq.info/get/bejne/Z95kmbp-vJ-XeI0.htmlsi=0iJW7iVbpuq2Rt8x

มันไม่สามารถลดเฉพาะส่วนได้ครับ ยกเว้นจะไปดูดไขมันหน้าท้องครับ

1. ได้ครับ ลองไปฟังคลิปเรื่องการเพิ่มน้ำหนักของผมดูครับ 2. กินน้ำให้พอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ครับ

ใช้สิทธิ์ 30 บาทได้ครับ

@@DrTany เสียกี่บาทล่ะต้องไปติดต่อทางไหนคือแบบที่รพ.ใกล้ๆๆไม่มีสูติหรือตรวจภายในค่ะนอกจากที่ตัวจังหวัด ต้องส่งต่อพูดกับหมอยังไง

ต้องพูดไปตรงๆเหมือนที่ถามผมนึ่แหละครับ แล้วก็ถามจนเข้าใจทุกอย่างด้วยครับ

@@DrTany อ่ะเคค้าแล้วมีค่ารักษาอื่นๆนอกเหนือสิทธิ์กี่บาทคะ?ประมาณจะได้เตรียมเงินไปถูกถ้ามีเงินเก็บล่ะค่อยไปค่ะหมอเลยสอบถามคร่าวๆว่าค่าตรวจแรกค่าหมอแต่ล่ะครั้งประมาณเท่าไหร่ล่ะต้องไปหาหมอทุกเดือนตลอดชีวิตไหม

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้ารักษาตามสิทธิ์มันไม่ต้องจ่ายเพิ่มอะไรเลยครับ

ผมอยู่เวรตลอดเลยครับ ไม่ได้มีโอกาสเจอเลย

ไม่สามารถไปได้ ยกเว้นเราอึมันออกมาแล้วปนเปื้อนไปที่อวัยวะสืบพันธุ์ครับ

@@DrTany งั้นเป็นแค่การตลาดใช่ไหมคะ จะได้ไม่ซื้อต่อ 😅

ก็อาจจะพอช่วยลดอาการของ PCOS ได้ครับ แต่มันไม่ดีเท่ายาครับ

1. ไม่ควรครับ และมันไม่ได้ช่วยโรคนี้ครับ 2. ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ

@@DrTany ขอบคุณมากค่ะ

ยังไม่มีครับ โรคนั้นมีหลายสาเหตุ และถ้าเป็นจากเบาหวานมันจะไม่สามารถทำให้หายได้ครับ ได้แค่บรรเทาอาการเท่านั้นครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ

ไม่ต้องทำอะไรครับ สัญญาณพวกนั้นทำอะไรคนไม่ได้อยู่แล้วแต่แรก และคลิปนี้ไม่เกี่ยวกับสัญญาณโทรศัพท์อะไรนี่ครับ

มีอาการนอนหลับแล้วตื่นเหมือนหายใจไม่ออก นอนกรน ไขมันสูง ไมเกรน ภูมิแพ้ ไซนัส ดิฉันสงสัยว่าอาการเหล่านี้เป็นตัวที่ทำให้เป็นต้อหินมุมเปิดแบบความดันตาไม่สูงใช่มัยคะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตาไม่พอ สามารถทำให้ต้อหินแย่ลงได้โดยที่ความดันตายังปกติไม่สูงแต่ปัจจุบันก็มีแต่ยาหยอดลดความดันตา กับผ่าตาเปิดช่องระบายน้ำแต่ยังไม่มีการรักษาแบบยาหยอดเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตา แล้วต้องทำอย่างไรดีคะให้เลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตา

ถ้ายังมีมดลูกก็มีโอกาสเสมอครับ ถ้านอนหลับมีปัญหาแบบนั้นต้องไปรักษาแล้วครับ ตรวจเรื่องการนอนหลับกับหมอเฉพาะทางและใช้ CPAP รักษา ก็จะลดความเสี่ยงต่อโรคต้อหินได้บ้างครับ

@@DrTany ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคะ และคลิปดีๆๆให้ความเข้าใจได้ดีขึ้นคะ

เปล่าครับ แต่มันพบร่วมกันได้ครับ

ยาคุมก็คือโปรเจสเตอโรน +/- เอสโตรเจน เป็นการเลียนแบบฮอร์โมนในร่างกายครับ เอสโตรเจนอย่างเดียวจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว แต่ถ้ามีโปรเจสเตอโรนร่วมด้วย พอเราหยุดยาก็จะมี ปจด ครับ ยาคุมมีการกินสองแบบคือแบบต่อเนื่อง กับแบบกินเป็นรอบๆ แบบกินต่อเนื่องก็จะไม่มี ปจด แต่แบบกินเป็น รอบๆก็จะมีปจดครับ

ไม่ได้ช่วยครับ

ชอบ เม้น เหมียว เหมียว ค่ะ คุณกุ้ง

​@@Phanita999 😊💕🙏

อันนี้ถามหมอผิวหนังดีกว่าครับ YT Doctortangmow skin

อย่างที่เล่าครับ ไม่มีคนทราบครับ

น่าจะมีครับ แค่ผมไม่เคยมาเทียบครับ

เล่าในคลิปแล้วครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ

มีข้อดีข้อเสียต่างกัน และใช้ต่างกันด้วยครับ เรื่องนี้ตอนไปปรึกษาหมอที่ดูแล เขาจะเลือกที่เหมาะให้เองครับ

ลองไปตรวจกับหมอสูติดีกว่าครับ

อันนี้ผมก็ไม่ทราบ ต้องลองถามหมอที่ตรวจดูครับ

ถ้าไม่รักษาก็อันตรายได้ครับ

@@DrTany โห น่ากลัวจังค่ะ ถ้ามีแต่ถุงน้ำ แต่ไม่มีภาวะ อื่นๆ ตามที่กล่าวมาเลย เลย น่าจะสบายใจ ไประดับหนึ่งใช่ไหมคะ 😂😂😂

กินได้ครับ แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรครับ

เพราะอะรัยค่ะหมอ แล้วจะกินยาคุมดีรึกินวิตามินบำรุงไข่ดีค่ะ หนูเป็นสิวด้วยค่ะ แต่หนูไม่รู้ว่ากินยาคุมแล้วหนูจะกินไปถึงเมื่อรัย เพราะหนูไม่ได้กินยาคุม เพราะคุมกำเนิดนะค่ะหมอ หนูต้องกินไปถึงเมื่ิอรัย ช่วยบอกทีค่ะ

@@apinyawongchaipeng1388 กินตามที่หมอที่รักษาแนะนำครับ อะไรที่เราไปหามากินเองหรือกินตามคนอื่นๆ บอกไว้เลยว่ามันไม่มีประโยชน์เท่าที่โฆษณาหรอกครับ ถ้าเราไม่อยากกินยาคุม ก็กินตัวอื่นได้แต่ต้องไปคุยกับหมอเขาครับ เช่น spironolactone เป็นต้น

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถทำให้ไม่มีประจำเดือนได้ครับ มดลูกกับรังไข่ ถ้าไม่เคยตรวจแนะนำให้ตรวจดูสักครั้งครับ

อาจจะครับ ไม่ได้จำเป็นต้องเห็นเสมอไปครับ

ถ้าไม่มีสารอันตรายก็กินได้ครับ ส่วนคุณค่าทางโภชนาการมีแค่ไหนก็ตอบไม่ได้ครับ

ไม่หายครับ เล่าในคลิปไปแล้วครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ 🙏

ถ้าแบบนั้นคงมีอาการน้อย ไม่ต้องทำอะไรถ้าน้ำหนักปกตินะครับ

กรดไหลย้อนได้ครับ ไปฟังคลิปเรื่องนี้ผมเคยทำไปแล้วครับ