มีการให้ข้อมูลบิดเบือนและชี้นำเกี่ยวกับกรณีการสวรรคตของในหลวง ร.8 จากหนังสือบางเล่มและนักวิชาการบางคน จนนำมาซึ่งคำกล่าวหาที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือ การกล่าวหาว่าในหลวง ร.9 ทรงอยู่เบื้องหลังการสวรรคต เพราะพระองค์ต้องการขึ้นสู่อำนาจ
และคำกล่าวหาทำนองนี้ จะถูกหยิบกลับมาชี้นำซ้ำๆ อยู่เสมอในช่วงนี้ของทุกๆ ปี
ซึ่งหากพิจารณาดูให้ดี จะพบว่า ข้อมูลบิดเบือนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนไม่มีหลักฐานอ้างอิงอะไรเลย หรือไม่ก็เป็นการเอาคำพูดของคนโน้นคนนี้ (ที่หาหลักฐานไม่ได้เช่นกัน) มาใส่สีตีไข่ ตีความตามธงที่ปักอยู่ในใจ เพื่อโยงไปสู่การกล่าวหาในหลวง ร.9
วันนี้ทีมงาน ฤๅ เลยอยากนำเสนอมุมมองจากหนังสือกรณีสวรรคตเล่มหนึ่ง ที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างมาก นั่นคือหนังสือ “เมื่อข้าพเจ้าไปเกี่ยวข้องกับคดีสวรรคต” โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียร หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ ผู้ชันสูตรพระบรมศพในหลวง ร.8
หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกของนายแพทย์สุดที่พูดถึงเหตุผลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสวรรคต และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการสอบสวนคดี รวมถึงหลักฐานต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่า ในหลวง ร.9 ทรงมีมุมมองและท่าทีอย่างไรในขณะนั้น
ข้อมูลในส่วนหลังสุดนี่แหละครับ ที่เป็นส่วนสำคัญซึ่งชี้ให้เห็นว่า ในหลวง ร.9 เป็นผู้ที่พยายามที่จะให้เกิดความสะดวกและความชัดเจนที่สุด ในขั้นตอนการชันสูตรพระบรมศพ
หนังสือของนายแพทย์สุด ยังพูดถึงท่าทีของบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคตด้วย โดยเฉพาะท่าทีของนายปรีดี พนมยงค์ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) หลังเกิดเหตุในวันสวรรคต อีกทั้งยังพูดถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับทีมแพทย์ในวันประชุมรายงานผลการชันสูตร
ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในคลิปวิดีโอนี้ อยากให้ลองชมและวิเคราะห์กันดูครับ เพราะบันทึกในหนังสือของนายแพทย์สุดถือเป็นข้อมูลสำคัญที่บอกอะไรได้หลายอย่างเกี่ยวกับกรณีสวรรคต
โดยเฉพาะท่าทีและความพยายามของในหลวง ร.9 ที่จะให้เกิดความถูกต้องที่สุดในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนและมีน้ำหนัก มากกว่าคำกล่าวหาเลื่อนลอยที่เชื่อตามๆ กันมาจากหนังสือและปากของนักวิชาการบางคนที่ไม่มีหลักฐานยืนยันอะไรเลย
#คดีสวรรคตของรัชกาลที่8 #เมื่อข้าพเจ้าไปเกี่ยวข้องกับคดีสวรรคต #สุดแสงวิเชียร