Рет қаралды 310,245
เรือบรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 3 ลำ ที่บรรทุกน้ำมัน 3 ล้าน 3 แสนลิตร หายจากหน่วยเก็บของกลางตำรวจน้ำ ที่ท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เรือของกลางที่หายไปประกอบด้วย เรือ เจ.พี. บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 8 หมื่นลิตร พร้อมลูกเรือ 7 คน เรือซีฮอต บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสน 5 หมื่นลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน และ เรือดาวรุ่งบรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสนลิตร พร้อมลูกเรือ 5 คน หายไปจากจุดที่ทิ้งสมอเรือ เหลือเพียงเรือ ช.โชคบุญชู 91 และเรือกำไลเงิน ซึ่งทั้ง 2 ลำไม่ได้บรรทุกน้ำมัน
คดีนี้ต้องย้อนกลับไปวันที่ 19 มี.ค.67 ตำรวจน้ำได้ตรวจยึดเรือทั้ง 5 ลำ มาจากนอกน่านน้ำไทย หลังตรวจสอบพบว่าเป็นเรือสัญชาติไทยที่ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ก่อนจะลากมาจอดที่หน่วยเก็บรักษาของกลาง ท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรทำเรื่องขายทอดตลาดน้ำมันดีเซลของกลาง
ส่วนผู้ต้องหาประจำเรือทั้งหมดหลังส่งตัวให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. แล้ว เมื่อได้ประกันตัว ตำรวจน้ำก็ให้ทุกคนกลับลงเรือของตัวเอง เพื่อคอยดูแลเรือของกลาง พร้อมจัดกำลังตำรวจเป็นเวรแต่ละผลัดมาเฝ้าเรือแต่ละลำ
แต่วันที่ 9 มิ.ย. รับแจ้งว่าจะมีพายุเข้ามา เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เรือเกิดความเสียหายได้จึงต้องให้นำเรือไปจอดทิ้งสมอห่างจากท่าเรือไปราว 100 เมตร
เมื่อ 11 มิ.ย. ราว 2 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ยังคงเห็นเรือเหล่านั้นเปิดไฟอยู่ แต่ 4 ทุ่ม เรือปิดไฟ แล้วมาเห็นอีกทีตอนเช้า เรือ 3 ลำ ที่บรรทุกน้ำมันได้หายไปแล้ว ตำรวจได้ระดมกำลังค้นหาทั้งทางน้ำและอากาศ แต่ไม่พบ
ขณะที่พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ นุชนารถ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า ขณะนี้เชื่อได้ว่าเรือทั้ง 3 ลำ ที่หายไปไม่อยู่ในน่านน้ำไทยแล้ว แต่ไปอยู่ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านทางด้านจังหวัดตราด และเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมีคนช่วย
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมลงพื้นที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ เพื่อตรวจสอบ เรือบรรทุก 2 ลำ จาก 5 ลำ ที่จอดอยู่ที่บริเวณท่าเทียบเรือ รวมถึงสอบสวนนายตำรวจที่เข้าเวรรักษาการณ์ ในคืนเกิดเหตุ ทั้ง 2 นาย นอกจากนี้ยังสั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำลูกเรือที่เหลืออยู่ทั้งหมด จำนวน 10 คนด้วย พร้อมบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายหรือเจ้าของเรือ มาแสดงตัวเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่เรือของกลางหาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เรือบรรทุกน้ำมันทั้งสามทั้ง 3 ลำ ไม่ได้จมทะเลตอนที่สภาพอากาศแปรปรวน แต่เชื่อว่ามีการนำพาไปโดยคนขับอาจจะมีความรู้เกี่ยวกับการนำแอพ หรือข้อมูลในเว็บไซต์ มาใช้เพื่อบังคับเรือ เนื่องจากตำรวจได้ตรวจยึด ถอดอุปกรณ์ เดินเรือและ Gps ออกจากตัวเรือแล้ว
เบื้องต้นเตรียมออกคำสั่งช่วยราชการตำรวจ 5 นาย ประกอบด้วย ตำรวจชั้นประทวน ที่เฝ้าเวรรักษาการในวันเกิดเหตุ 2 นาย ผู้บริหารสถานี 1 นาย และผู้บังคับบัญชา 2 คน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งเรื่องนี้มีนายตำรวจที่จะต้องถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 และมาตรา 148 อย่างแน่นอน พร้อมสั่งให้ตำรวจ ปอศ. และตำรวจ ปปป. เร่งคลี่คลายคดีแล้ว
สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป จากแนวทางการสืบสวนพบว่า เป็นของ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน ส่วนเส้นทางการหลบหนีของเรือ จากถ้าเทียบเรือสัตหีบ ไปยังน่านน้ำของกัมพูชา ระยะทางรวมประมาณ 240 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง กว่า 15 ชั่วโมง เนื่องจากเรือมีน้ำหนักมาก ทำความเร็วได้ไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมกับเชื่อว่า จะไม่มีการปล่อยทิ้งน้ำมันในทะเล เนื่องจากมีมูลค่า ดังนั้นต้องมีการนำไปจำหน่ายที่ประเทศกัมพูชา เพราะ กระแสข่าวทราบว่า "โจ้ ปัตตานี" ยัง อาศัยอยู่ที่นั่น
ด้านลูกเรือ "เรือกำไลเงิน" ที่เฝ้าเรืออยู่ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบยอมรับว่า วันเกิดเหตุ สภาพอากาศเลวร้าย ทางไต๋ก๋ง เลยสั่งให้เรือพร้อมกับลูกเรือ ไปจอดทอดสมอห่างจากท่าเทียบเรือโดยจอดห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยวันดังกล่าวตัวเองได้เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำตามปกติ ทำให้ไม่ทราบว่าเหตุการณ์วันดังกล่าวเกิดอะไรขึ้น พอตื่นเช้ามาก็พบว่าเรือหายไปแล้ว
ส่วนลูกเรือของเรือทั้ง 3 ลำ ที่สูญหาย อย่างไรก็ตามยอมรับว่ารู้จักกันทั้งหมด ซึ่งแต่ละลำจะมีลูกเรือประมาณ 4-5 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไทย พร้อมกับยืนยันว่าเรือไม่ได้ถูกคลื่นซัดจมทะเล แต่ว่าการขับเรือ โดยไม่มีเรดาร์ หรือ GPS
ขณะที่ใต๋เก๋ง ของเรือหนึ่งในสองลำที่ไม่ได้หลบหนี เล่าว่า เรือของตัวเองมีน้ำหนักเบา ไม่มีบรรทุกน้ำมัน จึงจอดอยู่บริเวณริมท่าเทียบเรือ ส่วนอีกสามลำ ที่สูญหาย บรรทุกน้ำมัน เมื่อเกิดลมพายุรุนแรง จึงถูกให้ย้ายไปทอดสมอ อยู่กลางทะเล ซึ่งตัวเองไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการ โดยยอมรับว่าหากเป็นสถานการณ์ปกติ หากมีสภาพอากาศแปรปรวนเลวร้าย เรือที่มีน้ำหนักก็จะถูกสั่งให้ไปทอดสมอห่างจากท่าเทียบเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกลับท่ากระแทกกับท่าเทียบเรือเสียหาย
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/crime/ruangd...
-------------------
เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 13 มิถุนายน 2567
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น.
#เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News )
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com
facebook : / 3plusnews
Twitter : / 3plusnews
KZfaq : / 3plusnews
Tiktok : www.tiktok.com/3plusnews