ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับ

เป็นกำลังใจให้มากๆครับ

ขอบคุณมากครับ

ความรู้สึกกลัว หรือ กังวลในใจในการพูด มีสาเหตุใหญ่ อยู่ 5 อย่าง 1) ภาพไม่ชัด ว่าเราจะพูดอะไร เลยกังวลว่าจะทำได้ไม่ดี -》แก้ด้วย ▪นิ่ง นึก(จินตนาการ) มองประเด็นที่จะพูด ให้เป็นเรื่องราว เรียงลำดับเหตุการณ์ หรือ ขั้นตอนในลักษณะ เชื่อมโยงกันเป็นจุดต้อจุด เช่น พูดเรื่องภัยที่เกิดจากความอ้วน ให้นึกถึงเหตุของความอ้วนมาจากอะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบที่สอดคล้อง แล้วค่อยเชื่อมไปที่ความรู้สึกว่า แล้วผลจากอ้วนเป็นอย่างไร.... ยังมีโรคทางกายอะไรบ้าง เป็นต้น แก้ได้เรื่องภาพไม่ชัด นั่นก็คือ ใส่ขั้นตอน หรือ ลำดับเรื่องราว ครับ 2) กังวลกับสายตาคนอื่นที่มองเรา รู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง เลยกลัวว่าจะพูดไม่ถูกใจคนฟัง -》แก้ด้วย▪ทำความรู้สึกว่า เรามาพูดนะ หน้าที่ก็คือพูด พูดตามเป้าหมายว่าผู้ฟังได้อะไร จุดประสงค์เรามีเท่านี้ ส่วนผู้ฟังเค้ามองก็เป็นเรื่องที่ดี เราก็มองกลับด้วยความรู้สึกสบายๆ เต็มเสียง เต็มอารมณ์ เต็มอาการ เต็มที่ ...ใช้มือประกอบการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยคลายความกังวลได้นะ 3) กังวลกับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น -》 แก้ด้วย ▪ อยู่กับปัจจุบัน ทำตอนนี้ ตรงนี้ ให้เต็มที่ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น มีสติรับรู้อยู่ทุกขณะลมหายใจ สบายๆครับ 4) ไม่คุ้นกับสถานที่ หรือ เหตุการณ์ใหม่ๆในการพูด บางทีทำตัวไม่ถูก -》แก้ด้วย ▪ทำความคุ้นเคยด้วยการมองแบบเสาะหา สำรวจบริเวณ ใช้สายตาสัมผัส บริเวณโดยรอบ รวมทั้งสายตาผู้คนในบริเวณนั้น แบบเป็นญาติของเรา ยิ้มเบาๆ เมื่อเกิดการสบสายตากับคนใหม่ๆ ถ่อมใจ ถ่อมตน และ น้อมรับกับสิ่งใหม่ เรื่องราวดีๆในครั้งนี้ให้เต็มที่แบบสุดใจ 5)ขณะพูดมีเรื่องแทรก แฟลชไอเดียใหม่ๆมาเรื่อย บางเรื่องก็ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายที่พูด หรือ มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นแบบฉับพลันแบบไม่ตั้งใจ ไม่รู้มาก่อน -》แก้ด้วย ▪ สติ ความรู้ตัวอยู่เสมอ ใจนิ่งๆดั่งหินผา ลีลาพริ้วไหวดุจสายน้ำ อะไรเกิดขึ้นล้วนดีเสมอ รู้สึกสำนึกขอบคุณกับสิ่งต่างๆ ทั้งคน เหตุการณ์ แม้อะไรที่เข้ามาให้หัวให้รับรู้ว่า มาแล้วนะ ถ้าเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กันก็แค่พูด ถ้ามองแล้วไม่สัมพันธ์กับเป้าหมาย กับประสบการณ์ผู้ฟัง ไม่ใช่เวลานี้ที่เหมาะสม ก็เพียงสคลิปข้ามไปก่อนครับ 》》มีปัญหาหรือกังวลใจเรื่องอื่นๆนอกจากนี้ ส่งเข้ามาได้ครับ ผมยินดีช่วยหาแนวทางแก้ไขให้ครับ สุดท้ายสิธิที่ดีที่สุด คือ ให้พูดบ่อยๆ พูดด้วยความสุข ยอมรับทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเปิดกว้าง และพร้อมปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ครับ

งดงามมากครับ ขอบคุณครับ

ยินดีมากๆครับ

ชอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ

คิดก่อนพูดครับ ฝึกให้ช้าลงสักนิด

5 ขั้นตอนง่ายๆ ลองปรับใช้ดูนะครับ 1.คำพูด หรือ ถ้อยคำ ที่เราพูดออกมาเป็นเพียง 10% เท่านั้นในการสื่อสารกับผู้อื่น 2.สิ่งที่เราทำอย่างแรกเลยคือ เราต้องมีความเชื่อที่ถูกต้อง และ งดงามกับตัวเองก่อนว่าฉันสามารถพูดได้ดีนะ ฉันพูดได้อย่างน่าสนใจ ฉันอยากพูดกับคนอื่นจริงๆ และ ฉันรูสึกดีทุกครั้งที่ได้พูดกับคนใหม่ๆ เพราะความเชื่อทีู่กต้อง จะส่งผลให้ความรู้สึกเราดีขึ้น มั่นใจขึ้น ส่งผลต่อความคิด หรือ จินตนาการที่ดีในการสร้างเรื่องราว หรือ ถ้อยคำในการพูดออกมา 3.เราไม่คิดแทนคนฟังว่าเขาจะชอบเราไหม จะสนใจในเรื่องที่เราพูดหรือเปล่า เขาจะฟังเรารู้เรื่องไหมเอ่ย เพราะคิดแทนเมื่อไหร่ เราก็ทุกข์ใจ อึดอัดใจ กังวลใจ ทำให้จินตนาการไม่ออก คิดไม่อออกจะมีคำพูดแบบไหนดี 4.เราปรารถนาดี เจตนาดี คิดดี กับผู้อื่นอย่างจริงใจ เราก็พูดจากข้างไหนที่กำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ พูดไม่เก่งก็บอกตรงว่า พี่คะหนูอยากรู้จักพี่นะ แต่หนูพูดไม่เก่ง "เดี๋ยวเเขาจะตั้งคำถามเอง น้องก็ตอบไป" เมื่อเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง เดี๋ยวบริบท สถานการณ์ จะนำพาให้น้องพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติเองครับ 5.เชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า ไม่มีใครชอบคนพูดเก่ง มีแต่คนชอบฟังคนที่พูดเป็น พูดพอเหมาะ พูดแล้วสบายใจ "พูดน้อยนั้นดีนะ ได้ฟังเยอะ" แล้วเราก็ค่อยเชื่อมโยงจากสิ่งที่เขาพูดนั่นแหระสู่การสนทนาต่อไป ณ ขณะนั้นครับ #ครูเด่นเชื่อมคน #อนุสรณ์หนองนา #การพูด #ฝึกพูด

, เรื่องเสืว

ขอบคุณครับ..เป็นกำลังใจมากๆครับ

ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจมากๆครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

เยี่ยมเลยครับ ขอบคุณครับ

เสียงเพราะไม่เพราะเราอาจจะรู้สึกไปเองครับ เป้าหมายการพูด ถ้าผู้ฟังโอเค เราโอเค ทุกอย่างก็จบครับ หากเพียงเรารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่เต็มที่กับการพูด หรือ รู้สึกไม่ดีกับการพูด ความคิดนี้ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเอง อารมณ์แสดงก็เช่นกัน ทั้งเราและเขาจะจับสัญญานความไม่โอเคนี้ได้ครับ ดับที่เหตุคือความเข้าใจถูกว่า เราจริงใจ ตั้งใจ และปรารถนาดีจริงๆกับผู้ฟัง ก็จงพูดออกมาครับ

ขอบคุณมากครับ

ຂອບໃຈ, ຂ້ອຍແຂງແຮງ