Рет қаралды 13,221
🔸ช่องทางการติดต่อครับ🔸
☘Line
lin.ee/t1Q4P9t
------------------------
หลวงปู่สีฝากศพไว้กับหลวงพ่อวัดท่าซุง
...ต้นปีเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๐ หลวงปู่สีท่านมีอาการอ่อนเพลีย อาพาธด้วยโรคชรา และต่อมลูกหมากโต ได้รับการดูแลรักษา ญาครูจันทร์ (พระอาจารย์จันทร์ หลานหลวงปู่ คนสุรินทร์) ก็อยู่ดูแล
ตอนที่หลวงปู่อาพาธที่วัดเขาถ้ำฯ ก็มีพระอาจารย์สมบูรณ์ ปริสมปุณโณ เจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำบุญนาค พระอาจารย์รักษ์ เตธธัมโม พระอาจารย์ประเทือง พุ่ทธธมโม พระอาจารย์สุพจน์ ฉนทชาโต
ส่วนหมอที่ดูแลอาการป่วยของหลวงปู่..คุณหมอโอ๊ด หมอโอ๊ดจะหนักใจเพราะหลวงปู่ไม่ยอมให้ฉีดยา ถ้าท่านไม่ยอมก็จะฉีดไม่เข้า เข็มจะหักหมด
นอกจากท่านอนุญาต จึงจะฉีดยารักษาไข้ได้ ลูกศิษย์ที่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ ก็จะได้ยินหลวงปู่พูดว่า
"รักษาอย่างไร เดือน ๔ ข้าก็จะไปแล้ว !!"
ด้วยคุณวิเศษนานับประการของหลวงปู่สี จึงมีพระอาจารย์ดัง ๆ มากมายแห่งยุคให้การยอมรับ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) ผู้เด่นดังมีลูกศิษย์มากมายเกือบทั้งประเทศ ให้การเคารพยอมรับหลวงปู่สี ฉันทสิริ
ว่าเป็นครูบาอาจารย์ที่สุดยอดแห่งยุคองค์หนึ่ง หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ไปมาหาสู่หลวงปู่สีอยู่เป็นนิจ
เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๐ หลวงปู่สีท่านอาพาธมีอาการหนักมาก พระอาจารย์สมบูรณ์ เจ้าอายวาสวัดเขาถ้ำฯ ก็คลานเข้าไปถามหลวงปู่ว่า...
"หลวงปู่ครับ ถ้าหลวงปู่จะจากไป จะให้ทางวัดจัดพิธีศพหลวงปู่อย่างไร ?"
หลวงปู่สีถึงท่านจะอาพาธหนักปานใด แต่ท่านก็ควบคุมสติได้อย่างมั่นคง ท่านจึงตอบให้ทุกคนในที่นั้นได้ยินกันอย่างทั่วถึงว่า
"หากข้ามรณภาพเมื่อใด ท่านฤาษีลิงดำจะมาเป็นผู้จัดการศพของข้าเอง ขอทุกคนอย่าได้เป็นห่วง"
และแล้วต่อมาเวลาประมาณตี ๓.๔๕ นาที ของวันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๐ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง หลวงปู่ก็มรณภาพลงด้วยอากาสงบ สิริรวมอายุของหลวงปู่สี ได้ ๑๒๘ ปี
ท่ามกลางสายลมพัดผ่านที่เย็นยะเยียบ แต่ความเย็นของอากาศยังไม่ยะเยียบ เท่ากับเหล่าลูกศิษย์ได้ทราบข่าวการจากไปของหลวงปู่ อย่างไม่มีวันที่จะกลับคืนมาอีกได้
ทุกคนเงียบน้ำตาล้วนไหลพราก ต่างสะอื้นไห้ด้วยความอาลัยหลวงปู่ ท่านจากมวลลูกศิษย์ไปท่ามกลางลมหนาวแล้ว
อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดประมาณตี ๕ กว่าของคืนวันนั้น "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ก็ปรากฏกายขึ้น โดยไม่ได้รับการติดต่อแจ้งข่าวจากผู้ใดในวัดเขาถ้ำบุญนาค
แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มาถึงอย่างมหัศจรรย์ ตรงตามคำพูดของหลวงปู่สี ที่ท่านกล่าวไว้ ท่ามกลางลูกศิษย์ ก่อนที่จะถึงกาลมรณะ
เมื่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาถึงวัดเขาถ้ำบุญนาค ก็ได้ขอให้เก็บศพของหลวงปู่ไว้ เสมือนหลวงปู่สีท่านนอนจำวัด และท่านจำวัดหลับสนิท ด้วยอาการปกติสงบเรียบร้อยมาตราบเท่าทุกวันนี้
ที่น่าอัศจรรย์คือร่างกายของหลวงปู่สีไม่มีน้ำเหลือง ไม่เน่าไม่เหม็น ไม่เปื่อยอยางเช่นซากศพทั่วไป
จากวันนั้นถึงวันนี้ กลิ่นซากศพของท่านไม่มีเลย แต่กลิ่นกายท่านกลับเสมือนหนึ่งกลิ่นธูปหรือกลิ่นกำยาน..."
ที่มา - คัดลอกบางตอนจากหนังสือวัตถุมงคล หลวงปู่สี ฉันทสิริ หน้า ๖๖-๖๘
-------------------
หลวงปู่สีเจิมรถ (๑)
เล่าโดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป
"...ข้าพเจ้าจึงได้นำรถวอลโว่คันใหม่ของข้าพเจ้าไปให้หลงปู่สีช่วยเจิมให้อีกด้วยคิดว่า
“แม้หลวงพ่อเจิมให้แล้วก็ตาม หากได้หลวงปู่สีช่วยเจิมทับลงไปอีกก็คงจะเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น”
เมื่อหลวงปู่สีได้ทราบความประสงค์ว่า ข้าพเจ้าขอให้ช่วยเจิมรถให้ก็ทำพิธีเสกแป้ง แล้วถือแป้งเสกลงกุฏิไปหยุดยืนบริกรรมอยู่หน้ารถวอลโว่ โดยมีข้าพเจ้า ภรรยาและลูกน้องอีก ๓-๔ คนยืนพนมมือรถให้หลวงปู่เจิมรถ
แต่การณ์กลับปรากฏว่าหลวงปู่สีเกิดเปลี่ยนใจ วางถ้วยแป้งเสกไว้ที่กระโปรงรถด้านหน้า โดยไม่ยอมเจิมให้เสียเฉยๆ มิหนำซ้ำเดินขึ้นบันไดไปบนกุฏิ แล้วนั่งทำน้ำมนต์อยู่พักหนึ่ง
ก็ให้ พ.อ.อ.สัมฤทธิ์ กลั่นดี ลูกน้องคนหนึ่งของข้าพเจ้าถือบาตรน้ำมนต์ลงบันไดตามหลวงปู่มาหยุดยืนอยู่ทางด้านท้ายรถวอลโว่ของข้าพเจ้า แล้วก็ประพรมน้ำมนต์ไปทางด้านกระโปรงหลังรถ อีกทั้งมีการสวดให้ศีลให้พรอีกด้วย
ต่อเมื่อประพรมน้ำมนต์เสร็จ หลวงปู่จึงเดินไปด้านหน้ารอหยิบถ้วยแป้งเสก แล้วเจิมรถให้ข้าพเจ้าจนเสร็จ ซึ่งก่อให้เกิดความฉงนสนเท่ห์ใจกับทุกผู้คนในที่นั้น เพราะตามปกติแล้ว หลวงปู่จะเจิมให้โดยไม่มีการรดน้ำมนต์เช่นนี้
สำหรับเรื่องนี้ หลวงปู่สีได้เมตตาอธิบายให้ทุกคนหายข้องใจว่า
“รถวอลโว่คันนี้ มีพระระดับสูงที่ญาณบารมีแก่กล้าได้ทำพิธีเจิมไว้ให้แล้วอีกทั้งได้จัดเทพถึง ๔ องค์ อยู่คอยพิทักษ์รถคันนี้
เมื่อสักครู่พอจะเจิมรถให้เทพทั้ง ๔ ก็มาขอให้หลวงปู่รถน้ำมนต์ให้ก่อน จึงต้องให้น้ำมนต์เขาก่อนแล้วจึงเจิมรถให้ทีหลัง”
ข้าพเจ้าได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกปลื้มปิติยินดี และซึ้งในเมตตาของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาเมตตาส่งเทพมาคอยให้ความคุ้มครองป้องกันภัยให้ข้าพเจ้าตลอดเวลาถึง ๔ องค์ เช่นนี้
ดังนั้นลูกหลานของหลวงพ่อผู้ใดก็ตาม ที่ได้เข้าพิธีต่างๆ กับหลวงพ่อแล้วก็พึงอุ่นใจได้ว่าหลวงพ่อจะช่วยขจัดปัดเป่าภัยพิบัติต่างๆ ให้โดยไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน.."