📌พยาบาลรัฐ VS เอกชน
จากที่มีน้องๆสอบถามเข้ามากันเยอะมากๆ ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี
คำตอบของพี่นุช คือ #เลือกให้เหมาะสมกับตัวเรา
.
🔥คำเตือน : เป็นความคิดเห็นและมุมมองส่วนตัวจากประสบการณ์ตนเอง
ขอพูดในภาพรวม ไม่ได้หมายถึงที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
👉ทำความเข้าใจก่อน
พยาบาลรัฐ ≠ ข้าราชการ
น้องๆบางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าทำงานรัฐแล้วจะเป็นข้าราชการ
ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำงานรัฐแล้วจะได้ตำแหน่งข้าราชการ
บางคนยิ่งเข้าใจผิดว่าสอบใบประกอบวิชาชีพได้ = ข้าราชการ
😅จริงๆไม่ใช่น้า....
.
👉ตำแหน่งข้าราชการจะได้ต่อเมื่อ ....น้องทำงานที่ของรัฐ เช่น รพสต. รพช. รพ.รัฐต่างๆๆ
👉เมื่อมีตำแหน่งข้าราชการมา น้องจะได้สอบเป็นราชการ แล้วก็บรรจุตามลำดับ
👉ซึ่งปกติก็แล้วแต่รพ.นั้นๆ...ว่าจะมีตำแหน่งมาให้ตอนไหน อย่างเพื่อนพี่ บางคนก็ทำงาน 2-3ปี
บางคนก็เลือกไปสอบเข้ารพ.ที่เปิดสอบพร้อมให้ตำแหน่งราชการเลย
.
พี่นุชขอพูดถึงพยาบาลรัฐ (ที่เป็นข้าราชการ) VS เอกชนนะคะ
.
#พยาบาลรัฐ (ข้าราชการ)
👉มีเกียรติ ศักดิ์ศรี (คุณพ่อคุณแม่ หลายๆคนอยากให้เป็น)
.
👉งานหนัก เงินน้อย
เงินเดือน+ใบประกอบ+โอที ราวๆ 18,000-25,000 บาท
เคยเห็นพี่ที่อายุงานมากหน่อย ขยันขึ้นเวรเยอะๆ ก็ราวๆ 30,000 กว่าบาท
👉แม้เงินจะน้อยแต่เราก็สามารถหาเงินเพิ่มได้โดยทำ Parttime เพิ่ม เช่น ละแวกกรุงเทพสามารถไป Parttime เอกชน, เฝ้าไข้, นั่งโรงงาน หรือบางคนไปรับจ๊อบเพิ่มที่รพ.ภูเก็ต ไปออกหน่วยกับรพ.ต่างๆ เป็นต้น
แต่คนที่อยู่ต่างอำเภอ อาจจะมีข้อจำกัดในการทำ Parttime อาจจะใช้วิธีการขายของออนไลน์เพิ่มแทน เป็นต้น
.
******แต่เอาจริงๆนะ งานรัฐ แค่ขึ้นเวรก็จะตายละ เพราะงานในวอร์ดมันเยอะ มันดูดพลังเยอะมาก!!!!!! อาจจะหมดแรงไปทำอย่างอื่นซะก่อน*****
.
👉คนไข้ส่วนใหญ่ เป็นชาวบ้าน พูดคุยง่าย ทำงานแล้วสบายใจกว่า
แต่ก็มีคนไข้บางคนที่เรื่องมาก ซึ่งเป็นธรรมดา แต่ภาพรวมแล้ว ถ้าเทียบกับเอกชน คือก็สบายใจกว่า
.
👉สวัสดิการการรักษาตนเอง พ่อแม่ ลูก และคู่สมรส สามารถใช้สิทธิรักษาราชการของเราได้
ข้อดี คือ ถ้าไปรักษารพ.รัฐใหญ่ ที่เราคิดว่าเครื่องมือดี หมอเก่ง เราก็ใช้สิทธิราชการได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเอง
.
👉เรื่องอบรมและเรียนต่อ : จากที่สังเกต จะได้ไปอบรมบ่อยกว่าเอกชน ได้เรียนต่อค่อนข้างเร็วกว่าเอกชน
.
👉สำหรับใครที่วางแผนจะกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ
สิทธิราชการ จะกู้ได้ง่ายกว่าเอกชน และมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า แต่อย่าลืมว่า...
**หนี้ยังไงก็คือหนี้**
เอกชนถ้าวางแผนการเงินดีๆ ก็กู้บ้าน และเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำได้เช่นกัน และอาจผ่อนหมดไวกว่า เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่า
.
👉บำนาญ : เมื่อเกษียณอายุ ข้าราชการจะมีเงินเดือนใช้ไปตลอดชีพ ต่างกับเอกชน ที่ไม่มีเงินบำนาญให้ตอนเกษียณ
.
👉อื่นๆ : ข้าราชการ บางที่มีสวัสดิการ ที่พัก ตั๋วเครื่องบินราคาถูกกว่าคนปกติทั่วไป
.
.
.
#พยาบาลเอกชน
👉เงินเดือนเยอะกว่า เงินเดือนประมาณ 18,000-20,000+ใบประกอบ 4,000-5,000+โอที+ค่าอื่นๆ
👉สรุปคร่าวๆ ก็เดือนละ 25,000-40,000 บาท
บางคนมีค่าเฉพาะทาง นู้นนี้นั้น ขยันมากๆ ก็แตะ 50,000 บาท (หรืออาจจะมากกว่านั้น)
และยิ่งถ้าทำพาทไทม์เฝ้าไข้ นั่งโรงงาน ขายออนไลน์เพิ่ม ยิ่งเพิ่มรายได้เข้าไปอีก
.
👉สวัสดิการการรักษาของพ่อแม่ ลูก และคู่สมรส
ปกติแล้ว....ถ้าคุณพ่อแม่เกษียณ จะใช้สิทธิ 30 บาท ของรพ.ที่ตัวเองมีสิทธิ เช่น พ่อมีสิทธิรพ. A ก็ต้องไปรักษารพ. A
ถ้าเรารู้สึกว่าหมอไม่เก่ง เครื่องมือไม่พร้อม อยากพาพ่อไปรักษาที่อื่น ก็ต้องจ่ายเงินรักษาเอง ต่างกับราชการ พาไปรพ.รัฐใหญ่ๆ ที่มีหมอเฉพาะทางก็ใช้สิทธิราชการได้เลย
วิธีแก้ คือ การวางแผนทำประกันให้พ่อแม่
.
👉จริงๆ แล้ว รพ.เอกชนจะมีสวัสดิการการรักษาให้พ่อแม่ ลูก และคู่สมรสด้วยนะ เช่น ส่วนลดการรักษา หรือ วงเงินการรักษา แต่พี่นุชมองว่า #ไม่พอหรอก ค่ารักษารพ.เอกชนสูงมาก ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น เป็นมะเร็ง ไม่พอแน่นอน
ดังนั้น การทำประกัน เป็นสิ่งที่สำคัญ “เว้นแต่ว่าจะพอใจใช้สิทธิ 30 บาท ของรพ.ที่มี”
.
👉ลักษณะคนไข้+จำนวนคนไข้
จากประสบการณ์ ถ้าเป็นเอกชนใหญ่ๆที่รับเฉพาะเคสเงินสด ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้ที่มีฐานะ และจะมีความคาดหวังสูง การบริการต้องดี ยิ้มแย้มแจ่มใส การทำหัตถการก็ต้องเป้ะ บางครั้งถ้าแทงเข็มไม่ได้รอบแรก อาจจะโดนเหวี่ยงได้ T^T
แต่คนไข้บางคนก็น่ารักมากๆ นอกจากนี้ เรามักจะได้ของฝากจากคนไข้บ่อยมาก ขนม อาหารต่างๆ ไม่ขาดสาย (กินจนอ้วน) แต่รพ.รัฐก็ได้นะ ชาวบ้านก็ชอบมีของมาฝากพยาบาล
.
👉เรื่องเรียน และ อบรม : จริงๆเอกชนก็ส่งเรียนต่อนะ พวกเฉพาะทาง หรือ ไปอบรมต่างๆ แต่อาจจะไม่บ่อยเท่ารัฐ
ยิ่งเอกชนบางที่ (เอกชนที่แบบ Top ใหญ่ๆ) จะเน้นความรู้ และก็ต้องคอยสอบ level / ภาษาอังกฤษเรื่อยๆ
ยิ่ง level สูง ก็จะได้ตังเพิ่มด้วยน้า
.
👉เงินเกษียณ : ไม่มีเงินบำนาญเหมือนราชการ คนที่ทำเอกชน จะต้องวางแผนเกษียณอายุด้วยตัวเอง เช่น ซื้อกองทุน RMF / ประกัน
หรือ บางที่ที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พูดง่ายๆ เป็นกองทุนที่บริษัทไปลงทุนให้เรา และเขาจะคืนเราตอนแก่ เขาจะเก็บเงินส่วนนึงของเราแต่ละเดือน และบริษัทจะออกสมทบลงทุนให้ด้วย พอเกษียณมา เขาก็จะให้เงินเรามาเป็นก้อนตอนแก่ พี่นุชแนะนำว่าให้ลงทุนไปเยอะๆเลย
.
.
..
#รพ.มหาลัย
รพ.มหาลัย
👉ไม่มีบำนาญ เหมือน ราชการ
👉เงินเดือนดีพอๆกับเอกชน
พูดง่ายๆ เหมือนเอกชนผสมกับรัฐบาล จากที่ถามเพื่อน พ่อแม่ก็ใช้สิทธิรักษาที่รพ.ได้ ถ้ามีลูก ก็สอบเข้าสาธิตได้ มีส่วนลดค่าเทอมให้ด้วย
.
สุดท้าย การจะตัดสินใจเลือกอันไหน ให้ดูว่าอันไหนเหมาะสมกับเราที่สุด
และอย่าลืมคำนึงถึงความสุขตัวเองด้วยน้า
.
.
.
.
Page : st.nurse
IG: st.nursenotebook