ฟังคุณทริช่าแล้วเข้าใจมากขึ้นค่ะ ขอบคุณคนถามด้วยนะคะ พอทุกข์เกิดต้องอดทน คนใกล้ตัวเป็นคนที่ให้เราได้เดินมรรคบ่อยที่สุด คำว่าอดทนสำคัญมากทักอารมณ์ไปด้วย ต้องเห็นทุกข์อดทนต่อทุกข์ให้ได้โดยการทักอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น จนกว่าทุกข์ดับต้องเห็นนิโรธก็คือการดับไปของทุกข์ เมื่อเห็นการเกิดดับของทุกข์ ของเหตุให้เกิดทุกข์ ทำบ่อยคือทางให้พ้นทุกข์ ขอบคุณคุณทริช่ามากๆค่ะ น้องวนิด้วยนะคะ น้องวนิคือจุดเริ่มต้นที่ให้ได้มาเจอ พระอาจารย์ต้น เจอในคลิปนะคะยังไม่เคยเจอตัวจริงๆค่ะ แล้วก๋็ได้มาฟังหลายคลิปมากๆ❤❤❤❤

ผู้ที่จะเห็นว่ากายไม่ใช่เรานั้น ไม่ใช่เห็นข้างนอก แต่เป็นเห็นเข้ามาในกายตนที่แยกออกอย่างชัดเจนเป็นปัจจุบันขณะ เมื่อจิตตั้งมั่นจนเกิดจิตผู้รู้ จึงจะสามารถละสักกายะทิฏฐิได้จริงๆ ไม่ใช่ไปเห็นมโนภาพนอกกายที่จิตสร้างขึ้นเพราะเราเจตนาไปยัดเยียดจิตที่ย้ำๆซ้ำ จนสัญญาลึกเข้าไปในจิต จนจิตสร้างภาพให้เห็นตามที่ตัวกูต้องการ

นึกถึงพระอาจารย์สมภพเลยครับ พอมาปฏิบัติธรรมแล้วดูเหมือนซวย.พอเริ่มมีบุญเจ้ากรรมนายเวรก็จะเริ่มมาทวง เผลอๆถ้าเขารู้นี่เขาวิ่งมาเลยนะ🤣เขารู้นี่ว่าเราจะออกจากสังสารวัฏแล้ว ไม่ขยันให้มันก็จะป่วนๆหน่อยนะ🤫อย่าหาว่าผมงมงายเลยนะครับ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านรู้ครับ😅สาธุๆ🙏🙏🙏

คนมีปัญญาระดับทริช่า ถ้าได้ฟังธรรมะแบบกระชับ ชัดๆ เชื่อว่าสามารถลัดตรงสู่ปลายทางคือวิมุตติได้เลย ...เพราะการบรรลุโสดาบันนั้น มิใช่เรื่องยากเย็นอะไร ดูอย่างในครั้งพุทธกาล เด็ก ๗ ขวบ.. นางทาสีไม่เคยเข้าวัด..หญิงโสเภณีหัวหน้าซ่องไม่เคยนั่งหลับตาทำสมาธิ ก็สามารถเข้าถึงกระแสธรรมเป็นโดาบันได้ ...เพียงแค่ เข้าใจสิ่งที่เรียกว่า "ขันธ์ห้า" ถ้ามีสติ-สัมปชัญญะจะเห็นว่า มันมิได้มีอยู่พร้อมกันทั้งห้าขันธ์ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น แต่ละขันธ์ มันเกิดเป็นขณะๆ มีการกระทบทางอายตนะ หรือมี"ผัสสะ" มันจึงเกิด ผัสสะดับ มันก็ดับ ขันธ์ห้ามันจึงเป็นเพียงภาพมายา ...เข้าใจตรงนี้ เห็นตรงนี้ เรียกว่ามี "สัมมาทิฏฐิ" หรือเห็นถูกต้อง เมื่อเห็นถูกต้อง ก็จะละ "สักกายทิฏฐิ" คือความเห็นผิดว่า ขันธ์ห้าเป็นตนได้ ผู้ใดก็ตาม ที่ละสักกายทิฏฐิได้ นั่นคือ "โสดาบัน" ผู้เข้าสู่กระแสนิพพานการสิ้นทุกข์...// เทียบกับการเดินทางจะเข้าใจง่าย... / โสดาบัน เดินทางมาถึงหลักกิโลเมตรที่ ๒๕ /..สกิทา เดินมาถึง กม. ที่ ๕๐ /อนาคามี เดินมาถึง กม.ที่ ๗๕ / ส่วนอรหันต์ เดินทางมาถึงกม. ที่ ๑๐๐ สิ้นสุดการเดิินทาง //// เท่าที่ฟังทริช่าเล่ามา ทำให้รู้ว่า การแสวงหามรรคผลนิพพาน ทริช่า ทำมาแล้ว หลากหลายวิธี..// วันนี้ใคร่จะนำเสนอ "วิธิตามหาอรหันต์" แบบลัดสั้นให้ ทริช่าฟัง เผือ่ผู้มีปัญญอย่างทริช่าจะโชคดี เหมือนหลายคนที่เขาพบเจออรหันต์ตัวจริง ...// ฟังนะ ! ทุกคราที่...ตา กระทบรูป ใจไม่วูบไปกับตัณหา / หู กระทบเสียง ใจไม่เอียงไปกับตัณหา / จมูก กระทบกลิ่น ใจไม่ดิ้นไปกับตัณหา / ลิ้นกระทบรส ใจไม่ระทวยระทดไปกับตัณหา / ผิวกาย กระทบเย็นร้อนอ่อนแข็ง ใจไม่แกว่งไปกับตัณหา / ใจ กระทบธรรมารมณ์ ใจไม่จมไปกับตัณหา..นั่นแหละ อรหันต์ เพราะอรหันต์ คือ "ผู้ไม่หันไปกับตัณหา" ...จงตราไว้ในดวงใจว่า "หาอรหันต์ข้างนอก จะถูกหลอกร่ำไป หาอรหันต์ที่ใจ ไม่เท่าไรก็จะเจอ...// ฟังนะ ทริช่า วันนี้หลักกม. ที่๑๐๐ รอเธออยู่ ..//ขออนุโมทนากับ "ทริช่าพุทธสาวิกา คนล่าสุด" ! ! !

🙏🙏🙏ขออนุโมทนา สาธุ กับคุณทริช่า เป็นการฟังธรรม ที่เข้าใจง่าย

เก่งมากค่ะ อธิบายเข้าใจ มากละเอียดดี ขอบคุณ และอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

โสดาบัน .. จะมีกระบวนการตัดสังโยชน์ เหมือนที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้จริงๆ ไม่ใช่คิดเอา เบื้องต้นใช้ได้แล้ว ..

ฟังคุณทิช่าแล้วเข้าใจง่ายค่ะขอบคุณมากๆค่ะ

กำลังทำตามค่ะ

You are one of the best❤

ไม่มีโสดาบันในโลกนี้ ที่จะมาบอกว่าตนเองสำเร็จโสดาบัน เพราะอริยะบุคคลแตกต่างจากบุคคลธรรมดา ในความสำรวมตน และอายที่จะพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง คนที่บอกว่าตนเป็นโสดาบัน หรือคนอื่นบอกว่าตนเป็นโสดาบันนั้น เป็นโสดาบันปลอมทั้งหมด เพราะธรรมชาติโลกียะนั้นชอบโอ้อวด อวดอ้าง แต่โลกุตระนั้น มีแต่การถ่อมตนและทำตัวเล็กที่สุดในสังคม เพื่อเป็นการชะล้างกิเลสตัวเองให้มากที่สุด อนาคตโลกียะคงมีโสดาบันปลอมอีกเยอะ

จริงๆชอบสไตล์ที่คุณลิซ่าพูดนะ.. ครูเงาะด้วย พระ อ.ต้นด้วย แต่คนละแบบ สรุป ชอบหมดเลยทุกท่าน55555

สัญญากับปัญญาระวังจะเขาาใจผิดว่าเหมือนกันไม่ใช่นะ สาธุ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

ขอบคุณคุนติซ่ามากค่ะ ได้ประโยชน์มากๆๆ ค่ะ

ขอร่วมอนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ สาธุๆ

ขนลุกน่ะ พระศาสดาท่านค้นหาคำตอบนี้อย่างสาหัสกว่าจะเจออ่ะ และหาคนเดียวด้วยอ่ะครับ แต่ก่อนไม่เคยสนเรื่องศาสนาเลยเพราะมันเลอะเถอะ แต่ทุกวันนี้แม่งไม่ฟังธรรมมะไม่ปฎิบัติไม่ได้ว่ะนอนไม่หลับ ต้องนั่งสมาธิให้ได้เหนื่อยไหนไม่สน เป็นแบบนี้ไปสะแล้ว 555+ 😊

Wonderful

🙏🏻🙏🏻🙏🏻

ปฏิบัติได้ก็ดีแล้วครับ

❤❤❤

❤❤❤ขอบคุณมากค่ะคุณออกมีแนวทางให้ค่ะ❤❤❤สาธุเจ้าค่ะ

เนื่องจากผมใช้เครื่องมือในการเข้าถึงความจริงคนละแบบ...วิธีการปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์มีสภาวะสว่างอันเกิดจากการรู้จักรู้จำรู้แจ้ง อย่างไร เช่นการถอดถอนความคิด จากกายในกาย แล้วเกิดสภาวะทางกายเมื่อเกิดความหลุดพ้นอะไรสักอย่างหนึ่ง...เช่นได้เคยเดินจงกรมเพื่อดูสภาวะทางจิตเป็นเวลานานๆ ทานข้าวมื้อเดี ยว นอนสี่ทุ่ม ตื่นตี 2 มาเดินจงกลม เช้ายันเย็นไม่หยุดไม่นั่ง สัก 10 วันต่อเนื่อง บ้าง 30 วันบ้างเพื่อเรียนรู้สู้นิวรณ์ 5 รู้รอบในกองสังขาร อันจะทำให้เห็นและเข้าใจทุกข์ในอริยสัจย์ ระดับ DNA ในทางจงกลมหรือไม่ครับ..เราเคยคุ้ยซื้อเสื้อผ้าตัวละยี่สิบมาใส่ทั้งๆในความเป็นจริงมีเงินเดือนเป็นแสน..ทำตัวจนเสมือนคนตายแล้ว หรือเหมือนไม่มีตัวตน หรือทำนาม กาย ให้หายจากตาเนื้อ ได้ไหม .....เท่าที่ตามฟังมาเหมือนว่าเรากำลังท่องธาตุอันเป็นการสร้างสัญญาความจำล๊อค หรือการสร้างรูปฌานในการภาวนา เพื่อดับอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นในสถานะการณ์หนึ่งๆขณะนั้น ระวังนะครับจะติดรูปภพชนิดหนึ่ง เหลืออรูปภพที่จะต้องดับอีก จะกลายเป็นทางตันของคนที่จะไปอนาคมี ที่ยังมีอารมณ์ทางเพศ หากจะต้องเดินไปถึงจุดที่ดับอารมณ์นี้ ถึงจะพ้นการเกิด..มันต้องต่างเก่าล้วงภาวะเดิมเปลี่ยนแปลง การใช่ชีวิตทางโลกครับ ตั้งแต่ กิน ดื่ม ทำ พูด คิด..อันนี้คือแค่ขอแชร์สั้นๆครับ จากมุมต่างที่จุดหมายเดียวกัน ที่มีความเข้าใจจากครูบาอาจารย์แค่ห่างอึ่ง ..เอวัง ด้วยประการ ฉะนี้... ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆมาให้ชมได้ทำให้คนมาสนใจการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์เยอะขึ้นครับ ขอให้ผู้นำเสนอได้ไปถึงที่สุดทุกข์ในชาติปัจจุบันนี้ครับ

อนุโมทนาสาธุกับการแชร์ประสบการณ์นะค่ะ❤

"กรรมฐานเก่าๆ" คือคำพูดของคุณ ทริช่า คือวิธีปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นพระธรรม และส่งต่อเผยแผ่โดยพระสงฆ์ สิ่งนี้คือพระรัตนตรัย แต่คุณพูดถึงกรรมฐานที่เป็นคุณของพระรัตนไตรแบบไม่เคารพ แล้วคุณมาอ้างว่ามีพระรัตนตรัยแนบจิต ถ้าคุณมีพระรัตนตรัยแนบจิตจริง คุณจะไม่พูดด้อยค่าพระรัตนตรัยแบบนี้ เพราะกรรมฐานเก่าๆที่คุณพูด คือ วิธีปฏิบัติที่ทำให้มีพระอริยะสงฆ์มากมาย เป็นการพูดไม่เคารพคุณพระรัตนตรัยโดยแท้ สัมมาวาจาที่พูดถึงพระรัตนตรัยยังไม่มี อย่าว่าแต่โสดาเลย สติที่ยับยั้งชั่งใจในการพูด ให้มีเสียก่อน เพราะอริยะมรรค ในวิธีใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ของพระพุทธองค์นั้น ไม่สามารถเข้าถึงอริยะมรรคได้เลย

สาธุๆๆคะทริชาอนุโมทนาบุญคะได้ความรู้มากเลยคะ

ใครอดทนเก่งได้เป็น โสดาบัน พระพุทธองค์ไม่เคยสอน อย่าหลงว่ายาแก้ปวด รักษามะเร็งได้นะ จะปิดทางนิพพาน ทุกข์มีไว้ให้รู้ ไม่ใช่มีไว้ให้ทน มีมหาสติ(ตัวรู้) ไม่ต้องทนทุกข์เห็นเมื่อไรดับทันทีไม่ต้องทน เพราะการทนคือตัวกูทน

ทราบหรือไม่ พระพุทธเจ้า ไม่เคยสอนคำบริกรรม (ทั้งชีวิต) พุทธวจน คือ คำตอบสุดท้าย. รักศรัทธาคำสอนตถาคต สาธุ.🙏❤️

ให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงขออนุโมทนาสาธุครับ