๐ ปริกน้ำค้าง
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Asparagus densiflorus 'sprengeri'
ชื่อสกุล 'Asparagus' คำภาษาละติน ที่เรียกต้นไม้ในสกุลนี้
ชื่อชนิดพันธุ์ 'densiflorus' คำภาษาละติน หมายถึง 'การมีดอก กิ่ง หรือใบแน่น’
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Sprengeri Fern
๐ ชนิด (Type): ไม้เนื้ออ่อนที่มีอายุอยู่ได้หลายปี (Herbaceous perennial)
๐ วงศ์ (Family): Asparagaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : แอฟริกาใต้ ถึง นามิเบีย
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) :60-90 เซนติเมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 90-120 เซนติเมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกในช่วงฤดูร้อน โดยต้องเป็นต้นที่โตเต็มที่แล้ว ดอกอกเป็นช่อกระจะ (Raceme) ดอกย่อยสีขาวมีก้านดอกย่อยยาวไล่เลี่ยกัน ดอกเกิดสลับสองข้างของแกนกลาง ดอกล่างที่เกิดก่อนจะบานก่อนไล่ไปสุดที่ด้านปลายยอดของช่อดอก ติดผลกลมสีแดงสด
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดบางส่วนของวัน (Part shade) ได้รับแสงโดยตรง 4 ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน ควรจะเป็นแดดอ่อน (Cool sun) ในช่วงเช้า พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดเข้มในช่วงบ่าย ทั้งนี้หากต้องการปลูกในร่มโดยวางไว้ในพื้นที่ร่มรำไรตลอดทั้งวันก็สามารถปลูกเลี้ยงได้ และจัดเป็นพืชทนร่มได้ดีชนิดหนึ่ง
๐ ความต้องการน้ำ (Water):
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ เพื่อให้ส่งต้นมีความสวยงามและส่งเสริมการเจริญเติบโตให้เพิ่มมากขึ้นควรมีการตัดพุ่มใบที่แน่นออกบ้าง ในทำนองกลับกันหากต้นมีทรงพุ่มที่ไม่สวยงามให้ตัดกิ่งใบที่ไม่สวยงามนั้นออกจะทำให้เกิดการงอกจริงใหม่ได้ง่ายขึ้น
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ปลูกเป็นไม้กระถาง และไม้แขวนในพื้นที่ได้รับแดดเช้า เป็นต้นไม้ประดับในพื้นที่สวนหิน หรือการตกแต่งสวนในพื้นที่ได้รับแดดอ่อนยามเช้า
๐ ใบไม้ (Leaf): ส่วนที่โผล่พ้นขึ้นมาบนดินมองเห็นเป็นพุ่มใบนั้นคือส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินโดยจะมีลำต้นหรือหัวที่อยู่ในดินและถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบราก หัว (Tuber) เหล่านี้ทำหน้าที่เก็บสะสมอาหาร งอกกระจายออกเป็นรัศมีรอบต้น จะเจริญเติบโตยอดอ่อนแทงโผล่พ้นเหนือดิน ออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินมีการแตกกิ่งทำหน้าที่คล้ายใบเป็นรูปแหลมสั้น ๆ หมุนวนบริเวณก้านกิ่ง แผ่กระจาย ลำต้นที่ทำหน้าที่คล้ายใบนี้มีสีเขียวสว่างหรือเขียวอ่อน โดยมีใบจริงเกิดขึ้นบริเวณโคนของกิ่งเล็กที่ติดอยู่กับกิ่งใหญ่
๐ การเพาะปลูก (Culture)
ในธรรมชาติพบขึ้นในดินในดินทราย ในพื้นที่แห้งแล้งของแอฟริกาใต้ จึงควรปลูกในดินที่มีคุณสมบัติมีอินทรีย์วัตถุสูงสามารถระบายน้ำ มีโครงสร้างของดินถ่ายเทอากาศได้ดี การขยายพันธุ์สามารถใช้วิธีการเพาะเมล็ด และวิธีการที่นิยมมากที่สุดคือการ แบ่งแยกกอโดยมีสะสมอาหาร (Tuber) ติดไปด้วย
๐ ปัญหา (Problems)
ระมัดระวังการเข้าทำลายโดยทาก ไรแดง เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยอ่อน น้องจากนี้อาจมีอาการใบจุด ใบเหลืองร่วง และรากเน่าเกิดขึ้นได้จากกรณีรดน้ำมาก
๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง
๐ Muuyehn Studio หรือ มือเย็น สตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะครับผม