๐ สนเกรวิลเลีย
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Grevillea pteridifolia ชื่อพ้อง Grevillea chrysodendrum
ชื่อสกุล 'Grevillea' ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ Charles Francis Greville, ผู้ร่วมก่อตั้ง The Royal Horticultural Society
ชื่อชนิดพันธุ์ 'pteridifolia' เป็นคำภาษาละติน 'pteris' หมายถึง 'เฟินชนิดหนึ่ง' และ 'folium' หมายถึง 'ใบ' แสดงสัณฐานของใบที่มีลักษณะคล้ายเฟิน
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Fern-leaf Grevillea; Golden Tree
๐ ชนิด (Type): ไม้พุ่มสูง (Large evergreen shrub) ไม้ยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ (Small evergreen tree)
๐ วงศ์ (Family): Proteaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : ออสเตรเลีย ในรัฐควีนสแลนด์ ทางด้านตอนเหนือและตะวันตกของออสเตรเลีย
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 2.0-10.0 เมตร (บางชนิดพันธุ์อาจมีขนาดเล็กกว่านี้มาก)
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 2.5-6.0 เมตร (บางชนิดพันธุ์อาจมีขนาดเล็กกว่านี้มาก)
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ตลอดทั้งปี (ประเทศไทยต้องอาศัยภูมิอากาศหนาวเย็น) ออกดอกแบบช่อเชิงลด (spike) ช่อดอกที่คล้ายช่อกระจะ ดอกย่อยไม่มีก้านดอกย่อย ติดกับช่อดอกรวมเลย ทั้งนี้มีสีดอกแตกต่างกันไปตามละสายพันธุ์ ดอกที่จะบานก่อนเกิดอยู่ด้านล่างของช่อดอก ดอกเป็นแหล่งน้ำหวานชั้นดีสําหรับผึ้ง ผีเสื้อ นกและสัตว์อื่น ๆ ชาวอะบอริจินยังใช้น้ําหวานที่นํามาจากดอกไม้โดยตรงหรือเป็นเครื่องดื่มหวานที่ผลิตโดยการแช่ดอกไม้ในน้ํา
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวัน สำหรับในประเทศไทยสามารถปลูกในพื้นที่รับแสงแดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวันได้ดี
๐ ความต้องการน้ำ (Water): น้อยถึงปานกลาง
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ มีการทยอยทิ้งใบอยู่เป็นประจำ ในบางช่วงจะมีการทิ้งใบจำนวนมาก อาจส่งผลให้ต้องทำการเก็บกวาดเศษใบที่ทิ้งอยู่ใต้ต้น การตัดแต่งกิ่งเดิมออกก่อนช่วงฤดูการออกดอก จะส่งเสริมให้โอกาสการออกดอกมีมากยิ่งขึ้นเนื่องจากการออกดอกจะปรากฏขึ้นบริเวณยอดอ่อน หรือยอดใหม่ อีกทั้งการตัดแต่งทรงพุ่มโดยการตัดกิ่งเดิมออกให้ได้มากที่สุดจะเป็นการควบคุมทรงพุ่มให้อยู่ในระดับความสูงและขนาดที่ต้องการ
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ปลูกเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นกลางแจ้ง ปลูกเป็นพืชกันลมในพื้นที่ลมแรง อย่างไรก็ตามในไทยเป็นพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนมากในบางฤดู แนะนำให้ปลูกเป็นไม้กระถาง เพื่อง่ายต่อการควบคุมปริมาณความชื้นในวัสดุปลูก
๐ ใบไม้ (Leaf): ใบเดี่ยวสีเขียวอมฟ้า ใบรูปเข็มมีปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบหนา มีขนาดเล็ก ใบเรียงซ้อนกันสลับทับกันไปตลอดตามความยาวของกิ่ง ทั้งนี้แต่ละสายพันธุ์มีรูปใบแตกต่างกันไป
๐ การเพาะปลูก (Culture)
เติบโตได้ในเขตร้อนชื้นบางส่วน แต่เติบโตได้ดีในพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น จัดเป็นต้นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วพอสมควร เป็นต้นไม้ที่ไม่ทนทานต่อลมแรง ถึงแม้ในธรรมชาติพบในพื้นที่มีน้ำท่วมขัง หรือน้ำท่วมถึงบ้างบางระยะเวลา แต่มักมีความลาดเอียงของพื้นที่ สามารถเติบโตได้ในดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์นัก แต่การปลูกพื้นที่สวนควรปลูกในดินที่มีอินทรีย์วัตถุสูง มีการระบายน้ำดี ถ่ายเทอากาศได้ดี ใการขยายพันธุ์นิยมใช้การเพาะเมล็ด แต่จะมีอัตราการงอกต่ำเนื่องจากมีสารเคลือบผิวเมล็ดไว้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้การปักชำกิ่งได้เช่นกัน แต่จะมีการงอกของรากช้ากว่าพืชชนิดอื่น ๆ
๐ ปัญหา (Problems)
ในพื้นที่ถิ่นกำเนิด บางสายพันธุ์ที่พบในธรรมชาติมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วมากจนคุกคามต้นไม้อื่น
๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง
๐ Muuyehn Studio หรือ มือเย็น สตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะครับผม