ๅๅๅ111ๅ1ๅๅๅๅๅใบ

แสดงว่าในอดีตชาติมาจนปัจจุบัน สันตติมหาอำมาตย์ ฝึก สติ สมาธิ ฌาน เพื่อทำงานทางโลกเรียกว่า"อปิลาปณาลักขณาสติ"🤹‍♂️🤹‍♂️🤹‍♂️🤹‍♀️ แต่ขณะเดียวก็ไม่ทิ้งงานวิปัสสนา โดยพิจารณาเห็นความเกิดดับของจิตไปด้วยหรือเห็น"สันตติขาด"ตลอดเวลา 🔎🔍🔍🔍🔍 ทำให้แม้ขณะทำการงานทางโลกหรือเสวยโลกสมบัติ แต่ก็ไม่ยึดติดจนเกินไป เรียกการปรับ สติ-สมาธิ-ฌานที่ใช้ในทางโลก--เข้ามาสู่ทางธรรมจนเห็นอนิจจลักษณา หรือทุกขลักษณะนี้ว่า "อุคัณหณาลักขณาสติ" ✔✔✔✔ ดูภายนอกจึงเสมือนว่า มหาอำมาตย์หลงระเริงไปกับการฉลอง..🎈🎈. แต่แท้จริงแล้วมีแต่พระผู้มีพระภาคเท่านั้นที่รู้ว่า ในใจยังคงเห็นสันตติหรือความเกิดดับของจิต ตลอดเวลา 🔍❤🔍💕🔍💛 ท่านจึงได้ชื่อว่าสันตติมหาอำมาตย์🔍✔🔍✔🔍✔🔍สมชื่อ เมื่อนางรำหัวใจวายตาย จึงตัดใจยุติการฉลองทั้งปวง🖐🖐 เข้าไปหาพระพุทธเจ้า ๆทรงสรุปให้เห็นโทษของความเสื่อมไป...สั้นๆ สันตติมหาอำมาตย์ก็บรรลุพระอรหันต์ทันทีเพราะเห็นความเกิดดับๆๆๆอยู่ในใจตลอดเวลาอยู่แล้ว 👍👍👍👍👍

ข้อมูลจากพระไตรปิฎก

เรื่องจริงครับ... ศึกษาดูส่วนที่บรรลุเร็วก็เป็นวาสนาแต่ละท่านที่สะสมมาพร้อมพอแค่ฟังธรรมไม่กี่ประโยคก็บรรลุธรรมได้...

อุปนิสัยบุญบารมีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแทบไม่ได้ไปเดินป่าวิเวก หลุดพ้นคาวัดก็มี! พระบางรูปบรรลุธรรมระหว่างเทศนาอยู่ก็มี บางคนบรรลุธรรมขณะบิณฑบาตตามหมู่บ้านก็มี เราอย่าไปคิดว่าครต้องเป็นเหมือนๆกันหมด ......ให้พิจารณาที่เนื้อหาครับ อะไรๆก็หาว่าเป็นเรื่องแต่ง อันนี้เหมือนอวดรู้ แต่ไม่ได้รู้จริง...

เป็นเช่นนั้น..

สร่างเมาแล้ว เมื่อฟังธรรม จึง บรรลุอรหันต์

สมัยก่อนยังไม่มีข้อห้าม

โพทิลกคือใครค่ะ

สร่างเมาแล้ว ไป ฟัง ธรรม จึงบรรลุอรหันต์