การใส่ปุ๋ยให้ยางออกดีต้องใส่ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกอัตร ถูกวิธี ในคลิปนี้เป็นคลิปที่ 2ซึ่งจะเป็นเรื่องถูกอัตรา ในที่นี้ถูกอัตรสำหรับยางพาราหมายถึง 1.ถูกสูตร คือสูตรที่ใส่ต้องตรงกับความต้องการของยาง 2.ถูกประมาณ คือปริมาณที่ใส่ต้องเพียงพอต่อความต้องการของยาง โดยไม่มากเกินไปด้วยเพราะถ้ามากเกินไปมันก็จะสูญเปล่าเพราะยางนำไปใช้ไม่ทัน
สำหรับสูตรปุ๋ยที่ผมแนะนำได้มาจาก งานวิจัยของ ท่าน ศ.ดร.สุนทรีย์ ยิ่งชัชาลย์ และ รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม
ซึ่งได้ทำการทดลองโดยทำการวิเคราะห์ ธาตุอาหารในต้นยางพาราพันธุ์ RRIM600 ทั้งหมด 37 ต้น โดยเป็นต้นยางอายุ 1-25 ปี จำนวน 33 ต้น และต้นกล้ายาง 4 ต้น ผลจาการวิเคราะห์ ทำให้ทราบว่าธาตุอาหารที่ยางพาราต้องการ เลียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1.แคลเซียม(Ca) 2.ไนโตรเจน(N) 3.โพแทสเซียม(K) 4.แม็กนีเซียม(Mg) 5.ฟอสฟอรัส(P)
จึงสรุปปุ๋ยที่เหมาะสมกับยางพารา คือ สูตร 20-5-15 เมื่อวิเคราะปริมาณความต้องการธาตุอาหารยางยางพาราที่กรีดแล้วเป็นดังนี้ ถ้ายางพาราให้ผลผลิตยางแห้งอยูที่ 400 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี หรือคิดเป็นน้ำยางสด 1000 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อปี เราควรใส่ปุ๋ย เป็นปริมาณ 600 กรัม ต่อต้นต่อปี และถ้า ยางนั้นให้ผลผลิตมากกว่านี้ก็ต้องมีการใส่ปุ๋ยเพิ่มมากขึ้นด้วยเพื่อเป็นการชดเชยส่วนที่ยางนั้นสูญเสียไปในการสร้างน้ำยาง
และนอกจากนี้ ท่านอาจารยังได้แนะนำให้เราใส่ โดโลไมท์ จำนวน 400 กรัมต่อต้นต่อปีอีกด้วย เพราะอย่างที่ทราบว่ายางพารานั้นต้องการใช้แคลเซี่ยมในปริมาณที่สูงมาก และโดยปกติเราไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งโดโลไมท์ นี้ให้ธาตุแคลเซียม 30%แม็กนีเซียม20% และโดโลไมท์ยังมีค่าค่อนข้างเป็นกลางดั้งนั้นเราสามารถใส่ได้ทุกสภาพดิน และควรใส่โบรอน สังกระสีเพิ่มด้วยเช่นกัน
ถึงอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะใส่ปุ๋ยสูตรนี้แล้วยางก็อาจจะยังไม่ออกดีก็ได้ เพราะปั๗จัยที่เกี่ยวข้องนั้นมีมากมายโดยเฉเพาะปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ดั้งนั้นเราควรต้องให้ความสำคัญเรื่องการใส่ให้ถูกที่ ถูกเวลา และวิธีการใส่ไม่แพ้กัน อีกทั้งต้องดูแลดินให้มีอินทรีย์วัตถุเพื่อให้ดินโปร่งร่วนซุย สรุปต้องดูแลให้ครบทุกองค์ประกอบนั้นเอง