ญี่ปุ่นยังคงมั่นใจ ตลาดใหญ่โลก รถสันดาป มองรถ อีวี แค่ตลาดเล็ก ...แต่เทคโนโลยี ไฟฟ้า อีเลคโทรนิค มันไปต่อไวมาก ประมาท อาจตามไม่ทัน

ตัวเร่งให้คนใช้รถ ev จีน 1. น้ำมันแพง 2. รถญี่ปุ่นตั้งราคาแพง 3. รถญี่ปุ่นกั๊กออฟชั่น 4. เทรนรักษาสิ่งแวดล้อมมาแรง😊

ผมคิดว่ารถยนต์evอายุการใช้งานคงพอๆกับโทรศัพย์มือถือ ส่วนรถกระบะบ้านผม11ปีแล้ว1.6แสนโล เปลี่ยนถ่ายของเหลวและสายพาน ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่เลย

ความเชื่อมั่นในสินค้าญี่ปุ่นมีมากกว่า แต่ก็ต้องมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆต่อไปด้วย ขอให้ญี่ปุ่นทุ่มเทกับเรื่องใหม่ด้วย เพราะอย่างไรก็มีฐานเดิม รอสนับสนุนอยู่นะ สู้ๆ 💪💪

ยังเชื่อมันแบรนด์ญี่ปุ่น กลับมาไวๆครับ

แต่ผมกลับมองเป็นด้านบวกว่า การที่ค่ายรถจีนเข้ามาเปิดโรงงานในไทย จะไปช่วยกระตุ้นการแข่งขัน พัฒนาเทคโนโลยีรถรุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะถ้ายังแบบเมื่อก่อนที่มีแต่รถค่ายญี่ปุ่น รถที่เปิดตัวออกมาก็แทบจะไม่มีการใส่เทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาในตัวรถเเลย แค่เอาไปปรับโฉมนิสหน่อย แล้วเข็นออกมาขายในราคาแพง กั๊กสเปคทุกอย่าง แบบนั้นก็ไม่ใหว ถึงรถญี่ปุ่นมันจะดี แต่ถ้ากั๊กสเปค กั๊กเทคโนโลยีที่จะใส่ให้ ก็ไม่ใหว ความรู้สึกเหมือนโดนรถญี่ปุ่นย้อมแมวขายรถตลอด แบบเอารถรุ่นเดียวกันมาแต่งหน้า แต่งตาใหม่ แล้วขายในราคาแพงเหมือนเดิม

มันมีหลายประเด็น คนบ่นเรื่องรถญี่ปุ่นที่ชอบกั๊กออฟชั่น ญี่ปุ่นควรปรับเรื่องนี้ก่อน กระแสEVมาแรง แต่ราคามันไม่เหมือนมือถือ 6-7แสนแต่ขายต่อลำบากหรือราคาตกมาก คนซื้อก็ต้องชั่งใจ เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนเรื่อยๆ มันอยู่ในช่วงปรับตัว ความคุ้มค่าของแต่ละก็คนไม่เหมือนกัน แต่รถญี่ปุ่นต้องปรับตัวเรื่องก็เป็นความจริง

สินค้าจีนพังแล้วทิ้งเลย ซ่อมไปก็ไม่คุ้มเท่าที่เคยใช้มา

ผมยังคงสนับสนุน ญี่ปุ่นคับ เพราะถ้ามาจากญี่ปุ่น=ของแท้ มีคุณภาพสูง 🇹🇭🤝🇯🇵

รักญี่ปุ่นครับ❤❤❤

ยังรอดูรถ EV จากค่ายญี่ปุ่นอยู่ ไม่รู้ว่าจะมาตอนไหนกันละนะ แต่ช่วงนี้รถไฮบริดก็มาแรงไม่น้อยเช่นกัน 🤔🤔

เชื่อมั่นแบรนด์ญี่ปุ่นครับ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยนะ ยังคาดหวังในรถญี่ปุ่นอยู่ 😊

เมื่อญี่ปุ่นไม่เลือกไทยเป็นฐานประกอบ EV แต่จีนเลือกไทยเป็นฐานประกอบ EV . เราคนไทยขอสนับสนุน EV และรถยนต์ไฮบริดที่ประกอบในไทย แต่ต้องไม่บวกกำไรเกินสมควรด้วยครับ😊

รัฐบาลต้องนึกถึงประโยชน์ของผู้บริโภค และสภาพอากาศบ้านเราให้มากๆ

ญี่ปุ่นก็ผลิตรถไฟฟ้ามานาน เป๋น 10 ปีแต่ขายแพงมาก นิสสัน ลีฟ ผลิตขายต่างประเทศมานาน แต่มาขายในไทย ราคา 1.9 ล้าน ขายไม่ออก ญี่ปุ่นขายรถแพง เพราะไม่มีคู่แข่ง พอมาเจอจีน ญี่ปุ่นก็ไปไม่เป็น น้ำมันแพงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนไทยหันไปใช้รถไฟฟ้า ประกอบกับรถญี่ปุ่นแพงเกินคุณภาพ

จะซื้อโตโยต้า..ตลอดไป...ญี่ปุ่น..เป็นมิตรที่ดี

ส่วนตัวก็เชื่อมั่นว่า ev ต้องมาแทนน้ำมันแน่ ๆ และมันต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปอาจจะราคาถูกจนไม่ต้องขายมือ 2 ขายเป็นเศษเหล็กไปเลย

ไทยควรสร้างแบรนเองได้เเล้ว คนในชาติควรช่วยกันสนับสนุนแบรนไทย จะได้ส่งออกเพิ่มจีดีพี แถมจ้างงานยั่งยืน อะไหล่ต่างๆก็ได้จ้างงานเพิ่ม อยากเป็นประเทศค่าแรง1500฿ก็ต้องผลิตเองให้ได้ทุกอย่าง

ยังไงญี่ปุ่นก็ที่1ในใจ❤

คนไทยหนีน้ำมันราคาแพง หันไปลองใช้รถไฟฟ้ากันเยอะขึ้น พอรถน้ำมันขายไม่ได้ โรงงานผลิตในไทนก็ขาดทุน เตรียมย้ายโรงงานหนี คนไทยก็ตกงานมากขึ้น พอคนตกงานก็หันไปขายของมากขึ้น ทุกวันนี้ ในตลาดคนขายมากกว่าคนซื้อไปแล้ว ถ้าตราบใดที่ราคาน้ำมันยังแพงแบบนี้ อย่าหวังว่าเศษรฐกิจไทยจะดีขึ้น เพราะจะทำอะไร ต้นทุนก็มากขึ้น มีแต่จะปิดโรงงาน คนตกงานมากขึ้นเรื่อยๆ

ญี่ปุ่นต้องอดทนครับ คนไทยรักญี่ปุ่น ตอนนี้ต้องรอให้คนไทยรู้สึกถึงการยึดประเทศแบบเนียนๆจากจีนก่อน คนจีนไม่สามารถยึดประเทศแบบลาว/เหมนได้ ไม่กล้าทำโฉ่งฉ่างแบบนั้น คนไทยหลายคนเริ่มกลัวจีนและเห็นสัญญาณอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ การทุ่มตลาดของรถจีน ไม่สามารถทำได้ตลอดไป กระแสรถไฟฟ้าหลายคนเริ่มตระหนัก ว่าในเวลานี้ยังไม่ใช่ คงต้องรอสักพัก พลเมืองจีนเทา จีนพันธุ์ใหม่(ไม่ใช่คนไทยเชื้อสายจีน ที่รักในหลวง รักสถาบัน)เริ่มยึดไทยหละ ถึงเวลานั้น สินค้าจีน/สินค้าญี่ปุ่น คนไทยจะไม่ลังเลที่จะเลือก ญี่ปุ่นแน่นอน 😅 คนไทยรู้สึกช้าไปหน่อย จีนใช้ทฤษฎีต้มกบ เพื่อยึดไทย สวนทุเรียนแถวจันทบุรี ระยอง คนจีนกำลังกว้านซื้อ ร้านแถวเยาวราชคนจีนมีนอมินี อาคารสูง ผืนแผ่นดิน จีนกำลังรุกคืบ แต่ไม่เคยได้ยินข่าวแบบนี้จากญี่ปุ่น😊

ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงมากนะครับ อย่าประมาทจีนนะครับ จีนคือคู่แข่งขันทางการค้า ชนิดมหันตภัย สำหรับคู่แข่งขัน รวมทั้งอันตรายต่อประเทศที่เขาไปทำตลาดด้วย (ไม่พูดเกินจริง ดูแค่เรือดำน้ำไทยที่ขอซื้อจากจีน ขนาดระดับกองทัพรัฐบาลเจรจา ยังมีปัญหาตุกติก) คือ ญี่ปุ่นยังแก้ได้ครับ แต่ต้องใช้เวลา ในการปรับตัวครับช่วงแรกบาดเจ็บบ้าง แต่ถ้าใจจะสู้ต่อ ต้องอาศัยภาครัฐ รัฐบาลไทยต้องช่วยด้วยนะครับคือ (จะเอาจีน หรือ ญี่ปุ่น) จีนทำลายตลาดด้วยการทุ่มสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่งขันส่งผลเสียถึงเศรษฐกิจไทย (จีนถนัดมาก ฉลาด เล่ห์เหลี่ยมการค้าสุดยอด) แค่รถไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดไม่นาน ยังทำ ค่ายรถญี่ปุ่น ปิดกิจการ 2 ค่ายแล้ว อันตรายไหมละ (ผมอยากบอกเตือนไปยังรัฐบาลไทย จะเอาจีนรวย หรือ เอารถสัญชาติญี่ปุ่นและบรรดาโรงงานอาหลั่ยชิ้นส่วนอีกมากมายในไทย รวมทั้งแรงงานไทยมากมายที่มีผลต่อเศรษฐกิจในไทย ถ้าจีนทำตลาดแบบลดราคาสินค้าถล่มทลาย ลดแล้วลดอีก ดีต่อผู้ซื้อ แต่มันทำลายระบบเศรษฐกิจทางอ้อมประเทศไทย จะเลือกอะไรดีครับ

รถญี่ปุ่นยังไงก็ดีกว่า มาตรฐานและการรับผิดชอบ ราคา รอวันที่ญี่ปุ่นมุ่งหน้าสู่รถยนต์รุ่นใหม่

เราควรสนับสนุนEV เพื่ออากาศสะอาด และอิสระภาพทางพลังงาน เราเลือกแหล่งกำเนิดไฟฟ้าได้ แต่เราเลือกแหล่งน้ำมันไม่ได้ ราคาก็ถูกกว่าด้วย

ถ้าคนยุ่นรู้ว่า รถญี่ปุ่นผลิตไทยขายแพงแบบไร้เหตุผล น้ำมันแพง เขาจะไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยหันไป EV เพราะฟังจากคอมเม้น รถยนต์คนญี่ปุ่นคงไม่รู้ว่า รถญี่ปุ่นผลิตไทย ส่งขายญี่ปุ่น จัดออฟชั่นเยอะกว่ามากแต่ขายถูกกว่าในไทย😮 ในขณะที่รถจีน ขายทั่วโลก เสป็คเดียวกันหมด

คิดเอง เออเอง เหมือนโนเกีย การทึ่จะเปลี่ยนรถทีไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนทันที อายุ7-12ปีถึงจะเปลี่ยน กว่าที่ค่ายญี่ปุ่นจะรู้ตัว อาจะโดน ค่ายจีนกลืนจนทำอะไรไม่ได้เหมือน โนเกีย

รัฐบาล ต้องช่วยรักษาค่ายรถญี่ปุ่นไว้ในไทยนะครับ ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลง พอมีทิศทางชัดเจน ผมยังเชื่อมั่นทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่นมากกว่าจีนครับ โดยเฉพาะมิตรภาพกับความจริงใจ

"นิ่งและสงบ"จะสยบความเคลือนใหวได้ทุกสิ่ง,แต่สงบเกินไปโดยก้าวไม่ทันโลก"ถอย"คือทางเลือกอีกสถานะหนึ่งที่ควรนำมาวิเคราะห์ในยุค"Disrupt."แต่หาใช่หนทางที่จะก้าวเดินอย่างมั่นใจเกิน 100%ไม่,ควรเดินตามทางที่โลกเปลี่ยนด้วยการ"ปรับตัว"อย่างมีสติจะดีที่สุดของชีวิต.🤒.

คิดว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังนิยมรถของ ญี่ปุ่น นะ คงต้องใช้เวลาหลายปีที่เป็นรถที่นิยม หรือ คนไทยยอมรับ..

คนไทยจะตกงานมากขึ้นเรื่อยๆ

มันก็แค่อยู่ในช่วงทดลองครับ ขอให้ญี่ปุ่นทำต่อไปครับ รถไฟฟ้าคนไทยงานมีน้อยส่วนมากเปนคนจีน สู้ครับญี่ปุ่น

คนไทยรอรถ EV ญี่ปุ่น ที่ราคาจับต้องได้ครับ ถ้าญี่ปุ่นทำได้เมื่อไหร่คนไทยพร้อมซื้อครับ แต่ไม่รู้จะมีวันนั้นในชาติไหน

รถไฟฟ้าจีน.จะไปได้ซักกี่น้ำ.ใช้รถไฮล์บลิดร์.ดีกว่ามากๆ

ดีมากๆครับ เข้ามากันเยอะๆ คนไทยจะได้มีทางเลือกและได้รับประโยชน์มากขึ้นครับ รถญี่ปุ่นดีแต่ก็กั๊กออฟชั่นทำกำไรกับคนไทยมาพอสมควรแล้ว ต่อไปนี้รถรุ่นใหม่ๆจะได้ทั้งความทนทานและออฟชั่นคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วระยะเวลากับการใช้งานและหลังการขายจะเป็นสิ่งพิสูจน์เองว่าสุดท้ายคนไทยควรเลือกซื้อสินค้ายี่ห้อตัวไหนดี นอกจากถ้าคุณร่ำรวยยี่ห้อไหนก็ซื้อๆไปเถอะ

ญี่ปุ่นประมาท ไปนิด เพราะไม่เชื่อ เทคโนโลยีแบต ev ซึ่งก็มีเหตุผล แต่ จีนไม่สน เค้าคิดว่า ถ้าทำให้ญี่ปุ่น แพ้ได้ กว่าจะลุกขึ้นมาได้ เค้าก็ควบคุมคลาด ได้หละ

ใช้รถญี่ปุ่นดีทน

คิดเยอะ คิดโน้น คิดนี่ จนช้า 😅😅กว่าจะรู้สึกก็ล่มสลายไปทีล่ะน้อย ของลดราคามันหอมหวาน evก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

รักและชื่นชอบค่ายญี่ปุ่น...มีมาตรฐานกว่ามาก

ผมเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะไม่ค่อยฮิตกันเท่าไหล่ๆค่าซ่อมแพงกว่าตัวรถขี่รถลุยฝนลุยน้ำก็ยาก ส่วนตัวผมชอบรถยนต์เครื่องสันดาบดีกว่า

ฉันขับ BYD อยู่ ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ประหยัดได้เดือนละ3หมื่นบาท

คุณภาพของญี่ปุ่นดีกว่าแน่นอน😊

น้ำมันลิตรละเกือบ 40 บาท ไม่ใช้รถ ev ยังไงไหว?

ให้กำลังครับ รถไฟฟ้ามันก็มีปัญหาในตัวของมันอยู่ พัฒนาในส่วนที่ตนถนัดดีที่สุดครับ

โนเกียมีให้เห็นอยู่แล้วอย่าช้านะญี่ปุ่น

เกิดทันกันไหม เช้าโก้ เย็นแก้ เวลาจะช่วยการพัฒนาให้ดีขึ้น ส่วนการซ่อมช่างไทยเก่ง การแก้ไขดัดแปลงได้ดีกว่าการคิดหรือสร้างเอง

ค่ายญี่ปุ่นก็ต้องปรับตัว นิ่งมานานแล้วด้าน AV

คนไทยจะได้ขายชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่รถยนต์ไฟฟ้าให้กับBYDบ้างหรือเปล่าเนี่ย

หลายคนอาจจะยังรู้ รถไฟฟ้าจะต้องใช้ยางล้อพิเศษเพื่อรับน้ำหนักของแบตเตอรี่ ถ้ารถไฟฟ้าซื้อมาสะสมหรือไม่ได้ใช้งาน เปลี่ยนแบตเปลี่ยนยาง ตามระยะเวลา

ดีแล้วครับ สนับสนุนให้มีการแข่งขันระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ส่งผลให้รัฐบาลกับประชาชนมีอำนาจการต่อรองและมีทางเลือกเพิ่มขี้น ตอนนี้ประเทศไทยไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์สำหรับค่ายรถญี่ปุ่นอีกต่อไป

เมกา ยุโรป ตั้งกำแพงภาษีกับ EV ที่ผลิตในจีน ยิ่งจะทำให้ โรงงานผลิต EV ในไทยต้องขยายกำลังขึ้นไปอีก

เจ๊กก็คือเจ๊กอยู่วันยังค่ำ ความรับผิดชอบสูงสู้ญี่ปุ่นไม่ได้หรอก

มันมีกรณีไฟไหม้บ่อยเกิน เสียวๆ😂😂

ญี่ปุ่นต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ต่อโลกอนาคต ถึงอย่างไรวันข้างหน้าทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนเป็น EV อยู่ดี

เรื่องนี้มันเป็นปัญหาซ้อน 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 "รถน้ำมัน + Hybrid" หรือ "รถไฟฟ้า + plug-in Hybrid " ดี ตรงนี้ ถ้ามองในหลักเศรษฐศาสตร์และวิศวกรรม "รถไฟฟ้า + plug-in Hybrid" กินขาด แต่ถ้ามองในด้าน Infrastructure "รถน้ำมัน + Hybrid" น่าจะเป็นต่อ แต่ Infrastructure มันเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ถ้าพิจารณาจะเห็นว่ามันลู่เข้าหา รถไฟฟ้า + plug-in Hybrid เพราะเป็นตลาดใหม่ มีโอกาสทางธุรกิจมากกว่าเดิมๆ เลยเป็นคำถามว่า รถน้ำมัน + Hybrid จะเป็นต่อไปได้อีกนานแค่ไหน การชลอตัวของยอดขายรถไฟฟ้าในช่วงนี้ มันไม่ใช่ความต้องของรถไฟฟ้าหมดลงหรอก มันเป็นแค่การชลอตัวทางการตลาด เพราะเมื่อมีสินค้าชนิดนึงทลักเข้ามามากในตลาด มันก็จะเกิดการชลอตัวเนื่องจากคนซื้อจะรอดูว่า จะมีผู้เล่นคนไหนเข้ามาอีก และจะมีอะไรดีกว่าผู้เล่นในตลาดปัจจุบันหรือไม่ พอตลาดตัดสินใจได้แล้ว มันก็จะกลับมาเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม ไม่เชื่อรอดูปีหน้าสิ เมื่อแบตรุ่นใหม่เข้ามา(ซึ่งราคาถูกกว่าปัจจุบันเกือบครึ่ง) กับรถไฟฟ้าจีนเข้าไทยกันหมดแล้ว คราวนี้แหละ ตลาดมันจะเป็นไปตามธรรมชาติของมัน ประเด็นที่ 2 "รถญี่ปุ่น" หรือ "รถจีน" ดี ตรงนี้ ถ้าถามคนไทย ยังงัยก็ว่า รถญี่ปุ่นน่าจะดีกว่า ทั้งคุณภาพ และความคล่องตัวในการหาอะไหล่ เพราะบริษัทผลิตอะไหล่ ที่ต้องผลิตเพื่อป้องโรงงานประกอบอยู่ในไทยค่อนข้างเยอะ นำให้ราคาอะไหล่ มีราคาถูก อีกทั้งรถญี่ปุ่นครองตลาดไทยมานาน ช่างซ่อมก็เยอะ แต่ถ้าสังเกต ความได้เปรียบพวกนี้ มันเกิดจากการมาตั้งโรงงานผลิตรถที่ไทย แต่ตอนนี้ จีนก็เริ่มมาตั้งโรงงานผลิตรถที่ไทยแล้ว เรื่องจะเป็นโรงงาน 0 เหรียญเหมือนที่หลายๆคนกลัวกันรึเปล่า ผมว่าไม่ เพราะของที่ผลิตในไทย ดีกว่า ถูกกว่า ในหลายๆชิ้นส่วน แน่นอน เค้าคงไม่มาผลิตในไทยทุกชิ้นหรอก เพราะมันเป็นไปตามหลัก economy of scale อยู่แล้ว แต่ก็จะมีหลายส่วน ที่มาผลิตที่ไทย คุ้มกว่าเอาเข้ามาจากจีน แล้วประเด็นนี้ โรงงานของญี่ปุ่นก็เป็นเหมือนกัน คราวนี้ ถ้าจีนมาตั้งโรงงานที่ไทย และมีการใช้รถของจีนมากขึ้น ข้อได้เปรียบตรงนี้ก็จะน้อยลง ก็จะเหลือแค่คุณภาพการออกแบบเท่านั้นที่จะเป็นข้อได้เปรียบ ต้องดูว่าจีนจะพัฒนาเทคโนโลยีให้การออกแบบดีเท่าญี่ปุ่นได้ไวแค่ไหน แล้วญี่ปุ่นจะพัฒนารถไฟฟ้าออกมาในมาตราฐานญี่ปุ่นได้เร็วแค่ไหน ที่ผมสรุปมานี้ ผู้บริหารทั้งจีนและญี่ปุ่นรู้ดี ก็ต้องแข่งกันว่า ใครจะพัฒนากลบจุดด้อยของตนเองได้ก่อน รอติดตามตอนต่อไปครับ

ดีครับน้ำมันจะได้ถูกลง

รถยนต์ญี่ปุ่น ต้องพัฒนาและครองตลาดกระบะ re ev เครื่องยนต์ปั่นไฟ คือทางออก เพราะไทยมีพลังงานฟรีคือแสงแดดมาก แต่คนไทยก็ไม่อยากรอการชาร์ตระหว่างทาง ส่วนไทยมีวัตถุดิบคือเกลือมาก ควรพัฒนาแบ็ตเกลือไปด้วยกันกับลิเที่ยม ไทยคือเมืองเกษตร รถปิคอัพยังจำเป็นของทุกๆครัวเรือนต่างจังหวัด

ผมยังใช้รถญี่ปุ่น ครับ....สู้ได้สบาย...

ไดโนเสาร์กำลังจะสูญพันธุ์

ถ้าจ้างคนเยอะคือดี แต่ถ้าจ้างแต่คนจีน กับเอไอ คนไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ ญี่ปุ่นเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ร่วม จ้างคนไทยสร้างงานมาครึ่งศตวรรษ ตอนปี40 ทุกประเทศปล่อยมือ แต่ญี่ปุ่นกลับลงทุนเพิ่ม กลับกัน จีนดูท่าจะขาดทุนจะไม่อุ้ม ดูสีหนุวิว เป็นแบบอย่าง อนึ่งไทยต้องจัดการอย่าให้จีนทุ่มตลาด ข้อเสียจีนคือ ทำธุรกิจอะไรชอบทุ่มตลาด กะให้คู่แข่งล้ม จนเหลือตัวเองลำพังนั่นค่อยโกย ทำไมสิงคโปร ์ ขึ้นภาษีรรถหรูคนจีน คอนโดจีน เพื่อผลประโยชน์ประเทศป้องกันการทุ่มตลาดและโกยเม็ดเงินกลับประเทศ เราอาจเห็นอเมริกาว่าร้ายกาจมาก กีดกันจีนเสมอ กลับกันถ้าปล่อยให้จีนทุ่มตลาด ทั้งสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ หรือรถยนต์ ธุรกิจในประเทศตนเองอาจมีปัญหาได้ และผลอาจร้ายแรง แต่ไทยดูเหมือนโปรจีนจะปลื้มปริ่ม แต่ตอนนี้ จีนเริ่มทุ่มโรงงานเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ และเข้าครอบครองธุรกิจต่างๆ อนึ่งโรงเหล็กใหญ่สุดในไทยตอนนี้คือจีน เครื่องจักรปลอดภาษี แต่การถลุงสูตรประหยัดนี้ จะเพิ่มมลพิษทางอากาศ เพราะแม้แต่จีนก็ห้ามถลุงแบบนี้ แล้วต่อไปคนไทยได้ อะไร ผู้รับเหมาได้ของถูกกำไรมาก แล้วชาวบ้านได้อะไร บ้านถูกลงเหรอ ไม่ ผู้รับเหมารับเต็มแต่ถ้าผปก.ไทยล้ม นั่นแหละความบันเทิงจึงบังเกิด หลายคนบอกไม่แฟร์ที่เหมือนใส่ร้ายจีน แต่ดูทุกประเทศที่จีนเข้าไปสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น ศรีลังกา ลาว กัมพูชา หรือแอฟริกา ซึ่งตอนนี้คนเริ่มต่อต้านกันแล้ว หล่ยคนมองว่าไทยฉลาดกว่าประเทศพวกนั้น แต่จงดูนโยบายรัฐบาล99ปี แล้วจะฉลาดหรือไม่ ผลประโยชน์ไปอยู่ที่ใคร ผู้กำหนดนโยบายและกฎหมายไม่ใช่ชาวบ้านแบบเราท่าน แต่กลับเป็นนักการเมืองและรัฐบาล นี่ขนาดจีนไม่เข้ามาแบบเต็มระบบไทยยังขาดดุลเกือบ1ล้านล้านบาท คิดเถอะอนาคตจะขนาดไหน เพราะธุรกิจจีนเริ่มคืบคลานเข้ามาแบบเงียบๆ อย่าให้เหมือนไม่สบาย ที่ รู้อีกที รักษาไม่ได้แล้ว

เทคโนโลยีรถไฟฟ้าไปไวมาก หากใช้ไป 5 ปี จำเป็นต้องเปลี่ยนแบต เราจะเอาแบตที่ไหนเปลี่ยน? บริษัทจะยังมีแบตให้เปลี่ยนรึเปล่า? หรือต้องซื้อคันใหม่ สรุป มันประหยัดกว่ารถน้ำจริงๆใช่มั๊ย?

ถ้าญี่ปุ่นพัฒนารถใช้น้ำมันให้ดีขึ้น มีออฟชั่นมากขึ้น มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ราคาจับต้องได้ ก็สามารถยืนอยู่ได้เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมั่นใจความปลอดภัยของรถไฟฟ้าเท่าไหร่ ค่าซ่อมก็โคตรแพง ถ้าทำรถไฟฟ้ามาแข่งก็ต้องเน้นเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยต้องมาอันดับหนึ่ง ถ้าทำได้ก็อยู่ในวงการตลาดรถยนต์ไทยได้อยู่ครับ

ต่อให้รถจีนราคา 500k รถญุี่ปุ่น 1m ผมก็ยังจะใช้รถญี่ปุ่นต่อไป ในฐานะเคยทำงานอู่บอกตรงๆเลยไม่ไว้ใจจีนอ่ะ 🙄🙄

ผมมั่นใจญี่ปุ่น เพราะรถBYDเวลาซ้อมแพ้แถมแบตมีโอกาสระเบิดเวลาชนหรือขับลุยน้ำรถไฟฟ้าดีประหยัดแต่ถ้ารักษาดูแลไม่เป็นหรือตรวจดูไม่รถไม่เป็นมันจะอันตรายกว่า

เข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นเสือปืนไว แต่การลดก็จะทำให้ค่ายอื่นต้องทบทวนราคาเพื่อการแข่งขันของตลาด และที่สำคัญคือการพัฒนาคุณภาพเพื่อสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดขณะนี้

ผมเลือกแบรนด์ญี่ปุ่นครับ มีมาตรฐานสูง ของจีนผมไม่ค่อยเชื่อมั่น ญี่ปุ่นไม่ต้องห่วงครับ🇹🇭❤️🇯🇵

อดทนครับ อย่าซ้ำเติมตัวเองทางอ้อมด้วยการสั่งพาร์ทอะไหล่จากจีน พอๆๆๆหยุด

ญี่ปุ่นสู้ๆ ไทยเป็นกำลังใจให้ รออุดหนุนรถยนต์ญี่ปุ่นอยู่ คุณกลับมาได้แน่

ไทยจำเป็นต้องใช้พลังงานสะอาดครับ เพราะค่าปรับสินทรัพย์ในการปรับคาบอนสูง ดังนั้นญี่ปุ่นถ้าอยากให้ไทยใช้ ต้องเร่งพัฒนายานยนต์สะอาดครับ

นาฬิกาไขลานก็ย่อมต้องหลีกทางให้นาฬิกาดิจิตอล กล้องฟิล์มก็ต้องหลีกทางให้กล้องดิจิตอล

ยังไงๆก็ญี่ปุ่นครับ Love Japan

คนญี่ปุ่นส่วนมากก็คล้ายๆเกาหลี...ประเมินคนไทยและศักยภาพของประเทศไทยไม่ตรงเป้า...😁😁😁..เพราะไทย " เอาแน่เอานอนไม่ได้จรืงๆ" แต่ที่แน่ๆยังไงรถไฟฟ้าก็คืออนาคต...ค่ายญีปุ่นหัวชักจะปวดเหมือนกัน..😎

รอรถไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นอยู่นะ...แต่รถสันดาบของญี่ปุ่นไม่ต้องกลัวว่า...จะโดนส่วนแบ่งการตลาดเพราะคนไทยส่วนมากใช้รถสันดาบทำงานหารายได้เป็นหลักอยู่แล้ว

เสียงจิ้งหรีด เข้ามาเต็มเลยครับ

ผมต้องญี่ปุ่นเท่านั้นครับ

รถสันดาบและไฮบริสญี่ปุ่นยังเป็นที่นิยมในไทยและในตลาด รถEVเข้ามาในก็เป็นไปตามกลไกลโลกเศรษฐกิจๆๆยังไงรถญี่ปุ่นก็เป็นอันดับ1ในใจคนไทยเสมอๆๆๆ

คนไทยกำลังเหอรถ​ ev รอเกิดปัญหาหรือแบตระเบิด​ ก็น่าจะซาลง​ ส่วนตัวผมชอบรถน้ำมันครับ

ไปเถอะถ้ามีโรงงานประกอบในไทยแล้วยังเอาเปรียบคนไทย ขายแพงกว่าความเป็นจริง ถ้ารถจีนไม่เข้ามาก็คงไม่ดีขึ้นอย่างนี้ 😊

ผมรักและรอรถevญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ผมซื้อรถจีนมาใช้เพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่เหมาะกับผม ผมติดตั้งโซล่าเซลไฟเหลือจากชาร์จแบตเอามาชาร์จรถไฟฟ้า แต่ยังรอพี่ยุ่นอยู่นะ

จะรอใช้รถญี่ปุ่นครับ ไม่เคยสนับสนุนสินค้าจีนแดงครับไม่ชอบ

เปิดโรงงานในไทยใช่ว่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยต่างชาติก็ต้องเข้ามาอยู่ตาม ไม่เหมือนญี่ปุ่นโรงงานเยอะคนญี่ปุ่นมาแต่ผู้บริหาร

สำหรับ Toyota honda isuzu ไปต่อได้สบายเลย 3 ค่ายนี้ ส่วนที่หน้ากังวลพวกค่ายเล็กๆอะ

ถึงเวลาญี่ปุ่นควรร่วมมือกัน ส่วนค่ายไหนเฉื่อยชาขายแต่นุ่มเดิมๆ ไม่คิดเอารุ่นใหม่ๆมาขายก็ควรยุติบทบาทไปเถอะเพราะมันเดาได้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

ผมว่าคนไทยยังมั่นใจรถญี่ปุ่น

แข่งขันกันแบบนี้ดีกว่าเปิดสงครามด้วยอาวุธ อย่าหนีอย่ามีข้ออ้าง ชนไปเลยครับ เชียร์ญีปุ่น

อยากให้ญี่ปุ่นตั้ง.รง.ผลิตรถอีวีเลยครับ❤❤❤

ยังไงผมก้อสนับสนุนสินค้าญี่ปุ่น ที่สินค้ามีคุนภาพสูงกว่าประเทฬอื่นๆ

ยังไงๆผมก็ยังซับพอร์ตรถญี่ปุ่นอยู่ดี ในความรู้สึกของผมๆไม่เคยไว้วางใจสินค้าจากจีนเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าผมจะซื้อรถอีวีผมจะซื้อของญี่ปุ่นหรือไม่ก็อเมริกาเท่านั้น ปัจจุบันผมก็ใช้รถฮอนด้าอยู่

ที่ญี่ปุ่นไม่ขายรถไฟฟ้าเพราะมีการวิจัยแล้วว่ามีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติในด้านอื่นแทน ญี่ปุ่นเลยไปทุ่มการวิจัยพลังงานไฮโดรเจน แต่มันระเบิดง่ายถ้ามีการชน ตอนนี้ทุกคนก็เห็นแล้วหนิ ความทนทานใช้งานระยาวก็ยังคงเป็นรถน้ำมันเหมือนเดิมท้ายที่สุดแบตเตอรี่ก็จะมลพิษชิ้นใหม่ของโลก

ภัยพิบัติ​ของโลกมีหลายอย่าง​ แต่มีแค่ภัยทางค่าเงินกับทางพลังงานเท่านั้นที่โจมตีไทยได้​ ดังนั้นรถใช้น้ำมันคือความไม่มั่นคงของชาติอย่างหนึ่งนะครับ

สิ่งที่น่ากังวลสำหรับรถEV.ก็คือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จะยาวนานได้แค่ไหน? และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เจ้าของรถจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายตรงนั้นมากน้อยแค่ไหน? ถ้าถคงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน แต่แบตเตอรี่ยังใช้ได้ดีอยู่ และเจ้าของยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยน จะมีปัญหาอะไรกับตัวรถมั๊ย? และที่สำคัญคือ แบตเตอรี่เก่าที่เปลี่ยนออก จะเอาไปไหน? มันจะทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่? สิ่งต่างๆเหล่านี้ เมื่อคำณวนกับอายุการใช้งานของรถ และค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว รถยนต์EV. มันประหยัดจริงหรือเปล่า?

ยังเชื่อมั่นเทคโนโลยีญี่ปุ่น ที่สำคัญคือความตรงไปตรงมาไม่ตุกติกไม่เอาเปรียบยัดใส้เรื่องธรรมาภิบาลที่ญี่ปุ่นได้รับความเชื่อมั่นในระดับต้นๆของโลก“ขอสนับสนุนญี่ปุ่นครับ”

ยังสนับสนุนรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ

สิ่งที่เขาวิเคราะห์ก่อนเปิดฐานการผลิตในไทยคือ คนไทยชอบรถญี่ปุ่น แต่ก็ชอบของราคาถูก จีนจะขายรถEV ในไทยต่ำกว่าทุนเพื่อเปิดตลาดให้ใด้ก่อน ยอมขาดทุนเพื่อแย่งตลาดครับ ผมทำงานในบ.จีน เขาขายอะไหล่ให้บ.รถยนต์ในไทยยิ่งขายเยอะยิ่งขาดทุนนะ แต่เขาทำเพื่อตีตลาด เขาวางแผรการตลาดใว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเราคนไทยว่างัยถ้ารถEVราคาแต่สามสี่แสน ต่อคัน แถมมีอะไหร่เปลี่ยนให้ฟรี เพราะเขาผลิตในไทย80%

เสือนอนกินไม่มีคู่แข่งขายแพงอ้อฟชั่นไม่มี เชียร่กัน

ยังไงก็แซงรถน้ำมันยี่ปุ่นไม่ได้หรอกเพราะคนไทยใช้งานหนัก ยิ่งความทนกับความแรงไทยก็ต้องเลือกรถน้ำมันอยู่ดี ไทยชอบความสะดวกเหมาะแก่การใช้งานระยะยาว

รถEVมันเป็นของใหม่ ที่ใครหลายคนก็แค่อยากทดลอง แต่เชื่อเถอะ ในอนาคตอีกไม่นาน ความนิยมจะลดน้อยถอยลงแน่นอน

ยังชอบระบบรถของญี่ปุ่น ที่ใช้เครื่องเบนซินหรือดีเซลปั่นไฟ แล้วขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คือเครื่องจะไม่ยุ่งกับระบบขับเคลื่อน ไม่เปลืองน้ำมัน แต่ได้อารมณ์รถไฟฟ้า

รอดูกันยาวๆ ครับ ปัญหาจริงๆ ไม่ใช่ตัวรถว่าจะเป็น EV หรือน้ำมันครับ ปัญหาจริงๆ คือ รายได้ กับค่าใช้จ่ายในเรื่องพลังงาน มากกว่า ถ้ารถ EV มันแย่ ค่าเชื้อเพลิงแพง ดูแลรักษาแพง เดี๋ยวสัก 2-3 ก็ซาไปเอง แต่ถ้ามันดีจริง มันต้องตีตลาดได้ 2-3 ปีนี้แหละครับ ไม่ต้องรอยาวๆ ภาพเศรษฐกิจ การตลาดที่ดี ควรมีการแข่งขัน ไม่ผูกขาด หรือฮั้วกันเองครับ ตอนนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ชอบมากกว่าเกลียดครับ เพราะ นายทุน 2 ประเภท ชัดเจน EV vs น้ำมัน ต้องแข่งขันกันทำตลาดมากกว่าเดิม

ไม่นานหรอก เดี๋ยวคนก็จะได้เห็นข้อเสียรถEVมากขึ้นเรื่อยๆ พอมันมากจนจุกจิกเกินไปสุดท้ายแล้วคนก็จะหันกลับไปใช้รถสันดาปเหมือนเดิม เพราะสะดวก ดูแลง่าย ขายต่อมือสองได้ง่าย ต่างกับรถEVที่ไม่มีใครคิดจะซื้อรถมือสอง เปลี่ยนแบตทีซื้อรถใหม่ยังดีกว่า ค่าซ่อมแพง ไปไหนมาไหนต้องคอยห่วงเรื่องสถานีชาร์ต แล้วกว่าจะชาร์ตเสร็จอีก หากมีธุระด่วนแต่ใช้รถEVแล้วแบตไกล้หมดนี่จบเลย

มั่นใจคุณภาพของญี่ปุ่น