เพื่อนๆ ที่เข้ามาดูถ้าชอบคลิปที่พิชาทำ แล้วอยากให้ช่องอยู่ไปนานๆ รบกวนช่วยกด subscribe ช่องให้พิชาด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 🙏💖 ฝากติดตามร้านขายของจากญี่ปุ่นของช่องด้วยนะคะ shope.ee/20ZWWSNkaH 😍

มีฝรั่งเคยพูดกับประเทศไทยประมาณว่า .. “ ความโกลาหลที่มีระเบียบ ” 55555

ลูกพี่ชาวญี่ปุ่นทุกคน พอครบวาระต้องกลับญี่ปุ่น ร้องไห้ทุกคนตอนงานส่งทุกคน ผมถามว่าอยากกลับมาไทยไหม ทุกคนบอกอยากกลับมา ผมถามต่อว่าทำไมหล่ะเห็นบ่นเรื่องนิสัยคนไทยบ่อยมาก มีคนนึงตอบกลับมาว่าผมเป็นคนไทยไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ญี่ปุ่นได้หรือเปล่า 555

การถูกตำหนิกลางที่สาธารณะโดยเฉพาะกลางหมู่เพื่อนร่วมงาน มันเหมือนการประจานให้ได้อับอายนั่นแหละ ไม่คิดถึงใจเขาใจเรา คนที่ทนเป็นเรื่องปกติน่ะแหละแปลก

การพูด "ไม่เป็นไร" กับตัวเอง มีความหมายในเชิง ให้อภัยตัวเอง จิตแพทย์แนะนำให้ทำด้วยซ้ำ เช่น เราอาจทำงานพลาด ก็อาจจะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เริ่มต้นใหม่ได้ คือเป็นการไม่ทับถมตัวเอง ซ้ำเติมตัวเอง อีกอย่างการด่าทอคนอื่นต่อหน้าคนเยอะๆ มันทำให้คนอื่นเสีย Self-esteem เวลาทำโทษเด็ก ก็ห้ามทำต่อหน้าคนอื่น เอ้.... คนญี่ปุ่นเค้าไม่เข้าใจเรื่องจิตวิทยาแบบนี้หรือเปล่า คนญี่ปุ่นเค้าถึงฆ่าตัวตายเยอะ

1. ที่ญี่ปุ่น มี Life Long employment ทำให้คนญี่ปุ่นต้องอยู่กับบริษัทครับ หมายถึง สวัสดิการด้วย เช่นค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง หอพักพนักงาน ฯลฯ คิดว่านี่คือ ที่มาของการทำให้บริษัท // ที่ไทย นายจ้างไม่ได้ดูแลดีขนาดนั้น คนไทยจึงสามารถทำอะไรโดยไม่ต้องสนใจบริษัทมาก 2. ผู้หญิงไทยแข็งแกร่ง เพราะค่าเเรงเราไม่ได้มีโครงสร้างเงินเดือนแบบญี่ปุ่นที่คำนวณให้เลี้ยงภรรยากับลูกไว้ให้แล้วครับ ผู้หญิงไทยเลยต้องดิ้นรนกว่า จีดีพีไม่โต ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร

คำว่าไม่เป็นไร สำหรับชาติอื่นอาจจะเจาะจงเกินไปจนรู้สึก ได้ไงอ่ะ นี่มันคำที่ผลักความรับผิดชอบชัดๆ แต่คนไทยคำนี้คือยืดหยุ่นมากนะ ไม่เป็นไรบางทีแค่พูดปลอบใจตัวเอง ปลอบใจเพื่อน จริงๆมันก็เป็นแหละ แต่เป็นคำปลอบใจแบบที่มันเบาที่สุด ณ ตอนนั้นแล้ว แค่ให้รู้ว่าถ้าเพื่อนพูดคำนี้ พ่อแม่ครอบครัวพูดคำนี้ คือเขาพร้อมจะช่วยหรืออยู่กับคุณในวันที่แย่ด้วย

เจ้านายคนไทยเวลาดุจะไม่ตะโกนเสียงดังเหมือนเจ้านายต่างชาติจริงๆค่ะ คนไทยก็จะแบบ "คุยกันดีๆก็ได้ปะ พูดเบาๆก็เข้าใจเว้ย"🤣

7:50 จริงๆไม่ว่าจะชาติไหน ก็ไม่ควรจะด่าต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าคนหมู่มาก มันเป็นการหักหน้าไม่ให้เกียรติ และไร้มารยาทมาก ทุกชาติทุกประเทศทั่วโลก ควรจะเอานิสัยนี้ไปใช้ ด่าอะไรตำหนิอะไรให้รู้กันแค่สองคนพอ

แบ่งเป็น คนญี่ปุ่นที่ทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น กับ คนญี่ปุ่นที่ทำงานให้บริษัทไทย ถ้าบริษัทญี่ปุ่นก็จะเคร่งเครียดหน่อยค่ะ แต่ถ้าบริษัทไทยก็จะคนละสไตล์เลยค่ะ เจ้านายญี่ปุ่นเราจะชอบพูดกับเราว่า อย่าเครียด สบายๆ (พูดไทยสำเนียงญี่ปุ่น😅) แต่อันไหนด่วนเขาก็จะบอกเราดีๆ ไม่เคยขึ้นเสียงหรืออารมณ์เสียเลย ขณะที่เจ้านายออสเตรเลียน้านนนนน ด้วยความฝรั่งผิวขาวอ่ะเนอะ นางไม่กล้าพูดแต่นางโกรธหน้าแดง จนลูกน้องต้องบอก ยูใจเย็นๆ ไอเข้าใจ ไอกำลังตามงานให้ สนุกดีค่ะ

“ร้องเพลงเพี้ยน ร้องเพลงผิด คนไทยไม่ว่าอะไรเลย…” ใช่ครับ เพราะคนไทยเองก็ฟังไม่ออกว่าโน้ตไหนที่ผิด 5555 เราเป็นชาตินักดำน้ำที่เก่งที่สุดในโลกอยู่แล้ว 🤣🤣🤣

ที่หญิงไทยไม่ลาออกจากงานหลังคลอด เพราะค่าครองชีพสูง พ่อหาเงินคนเดียว ไม่พอ ถ้าแม่ลาออกแล้วจะเงินไม่พอใช้จร้า

"ทำงานเพื่อบริษัท"...แบบญี่ปุ่นมันเครียดและแคบมาก "ทำงานเพื่อตนเอง"...แบบไทยมันมีความหมายที่กว้างคือ บางคนทำเพื่อตนเองจริงๆแบบเห็นแก่ตัว แต่บางคนคือต้องทำให้บริษัทก้าวหน้าเพื่ออนาคตของตนเอง....เพราะชีวิตมันมีอะไรมากกว่าแค่งาน!!!

เรื่องกินนี่เรื่องจริง กินในเวลางานนี่ ประจำ พอจะเครียด ก็มีคนโยนมุขแป็กๆมาแล้ว กำลังจะเครียดๆ สรุป ฮาแตก ไม่ฮาก็ต้องฮา แต่งานก็ได้งานอยู่นะ แต่สิ่งหนึ๋งที่พวกเรามีคือ เออ ไม่เป็นไร ก้บ หยวนๆนะ อันนี้ มีทั้งข้อดี แล้วก็ข้อเสีย แล้วก็ชวนกินข้าวเก่งงงงงงงง

บ้านเค้าอะเเปลกอย่างนึง พอคนชมเเล้วห้ามยอมรับ ต้องพูดว่าไม่หรอก ไม่เก่ง ไม่ดีหรอก คือเราว่าอันนี้อะเเปลกมาก จะกดตัวเองไปทำไม ประเทศไทยใครชมก็ต้องขอบคุณเว้นเเค่ว่ายอมากเกินก็จะพูดว่าไม่ขนาดนั้น เเต่ง่ายๆคือเราต้องยอมรับคำชม ถ้าสนิทหน่อยก็พูดเเน่นอนไปเลย5555555 การบอกว่าตัวเองไม่ดี ไม่เก่งมันเหมือนจะทำให้ตัวเองไม่เก่งจริงๆ

แต่นิสัยง่ายๆเกินไปก็มีข้อเสียน่ะครับ คือมันคือ นิสัยมักง่าย ทิ้งขยะ ไปทั่ว ไม่เป็นที่ เป็นทาง ผมเคยทำร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นในไทยแห่งนึง พอดีมีคนนอกเข้ามาเยี่ยมชมงานแล้ว ดันไปทิ้งขยะมั่ว พนักงานญี่ปุ่นเห็นโวยวาย ยกใหญ่เลย คือโวยวายหนักมาก ผมเห็นก็เข้าใจเค้าน่ะ และก็อายแทนคนไทยด้วย แต่ไม่ว่ายังไงคนเรามันก็ต้องมีทั้งดีและเสีย เรียนรู้และปรับตัวกันไป นั่นล่ะชีวิต

ที่บรษัทแม่เรามีชาวญี่ปุ่นหลายคนนะ แต่ทุกคนล้วนบอกตรงกันว่าคัลเจอร์ช็อคหนักมากกับวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนี้ ทุกคนเรียกแระธานบริษัทว่าพี่ อ้อนขอให้ประธานเลี้ยงข้าวกันบ่อยๆ มาสายไม่โดนด่า แถมกล้าแกล้งลูกสาวแระธานด้วยการแอบเทน้ำปลาใส่ก๋วยเตี๋ยวอีกด้วย ที่พวกพี่แกช็อคหนักมากคือ พนักงานบริษัทนี้ตั้งหม้อกินชาบูกันในออฟฟิศ ้ขาบอกว่าแปลกใจมากที่บริษัทนี้มีกำไร😂😂😂

อาจารย์ที่เคารพของผมเป็นคนญี่ปุ่น อยู่ไทยมายี่สิบปีแล้ว ผมถามว่าอาจารย์ชอบอะไร แกบอกชอบหลายอย่าง แต่ที่ชอบที่สุดคือคำว่า”ไม่เป็นไร” แกบอกทำให้แกอยู่มาได้จนถึงวันนี้

ทำงานกับคนญี่ปุ่นค่ะ เป็นเลขา จะสื่อจะแจ้งอะไรนี่ต้องทำความเข้าใจกับตัวเองก่อน ต้องหาช่องโหว่ของสารที่จะสื่อ เตรียมตอบคำถามหากมีอะไรไม่ครบ คิดถึง worst case ที่เป็นไปได้ และต้องหาทางแก้ไว้ก่อน ห้ามแจ้งอะไรที่เรายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เด็ดขาดเลย ไม่งั้นเจอคำถาทเขาแล้วจะไปไม่ถูก ช่วงแรกๆ เหนื่อยมากกกกกกก แต่พอผ่านไปก็หล่อหลอมให้เราเป็นคนรอบคอบขึ้น ก็เป็นผลดีกับชีวิตนะคะ

ตรงทุกข้อเลยค่ะ55555555555 เราเพิ่งเรียนจบปีที่แล้วและได้เข้าทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นเป็นงานแรก(แต่ไม่ได้จบอักษรหรือศิลปศาสตร์มานะคะ…) เรื่องวัฒนธรรมการทำงานหรือนิสัยคนญี่ปุ่นนี่เราก็มั่นใจว่าตัวเองรู้มาเยอะและปรับตัวได้แน่นอน พอได้เข้าทำงานจริงก็ปรับตัวได้แหละค่ะ(แม้จะทำให้เครียดบ้างบางครั้ง) แต่คนไทยรอบตัวเรานี่สิ ทุกคนมองว่าเจ้านายเราเป็นคนเคร่งเครียดมาก(ทั้งที่แบบนี้ถือว่าปกติเลยค่ะ) กลัวจนไม่กล้าเปิดปากตอบคำถามด้วยซ้ำ แล้วความที่เราเป็นเด็ก บางทีการจะไปพูดปลอบใจหรือให้คำแนะนำคนแก่กว่ามากๆก็เป็นเรื่องไม่ควรเท่าไหร่ แต่ทุกคนคะ ยิ่งไม่ตอบเค้าจะยิ่งโกรธและถามคำถามจี้ไปยันหัวหน้าเราเลยนะคะ… ทุกวันนี้เราที่เป็นคนกลางก็เลยต้องช่วยทั้งสองฝ่ายด้วยการเรียนงานของแทบทุกแผนก เข้าทุกประชุมทั้งที่นายเข้าและไม่เข้าเพื่อให้ตัวเองมี Background knowledgeพอจะช่วยพี่ๆคนไทยตอบได้บ้างว่า “อ๋อพี่คะ เค้าหมายถึงความคืบหน้าของปัญหานั้นแน่เลยค่ะ ถ้าหนูจำไม่ผิดมันแบบนี้ๆหรือเปล่าคะ” ทีนี้บทสนทนาก็จะได้ไปต่อได้ค่ะ อยากจะฝากพี่ๆทุกคนที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นและกลัวนายญี่ปุ่นนะคะ ถ้างานเรามีปัญหา ต่อให้นายดุแค่ไหนเราก็ควรรีบวิเคราะห์สาเหตุ หาทางแก้ ถ้าแก้เองไม่ได้ให้รีบปรึกษากับผู้รู้ แต่ถ้าเกินความสามารถจริงๆก็ไม่เป็นไรค่ะ(บางปัญหามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ได้ในทันทีแต่ก็ควรรีบคิดจะแผนรับมือเฉพาะหน้าค่ะ)จากนั้นรีบนำไปบอกนายเลยค่ะ อย่าให้ช้าเกิน1วัน ทีนี้เจ้านายก็จะไม่โกรธหัวเหวี่ยงแล้วค่ะ เพราะเค้าจะเห็นแล้วว่าเรายอมรับความผิดของตัวเองและได้แสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการแก้ไขแล้ว ความกระตือรือร้นนี่เป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆๆๅๆๆๅในการทำงานกับคนญี่ปุ่นเลยค่ะ ขอให้ทุกท่านสู้ๆกับการทำงานนะคะ!

ญี่ปุ่น ตึงมาก ไทย หย่อนๆชิลล์​ๆ ถ้าเอามาผสมกัน มันจะพอดีๆเลยนะ

หลายๆอย่างก็ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นแบบญี่ปุ่นนะ อย่าลืมว่าเราทำงานไปเพื่ออะไร เคยอ่านงานวิจัยอ้างอิงมาจากknd studioช่องพี่บิ๊ก ในยุคนี้การทำงานที่มากไม่ได้หมายความว่าจะได้qualitiesงานที่มากตาม หลายองค์กรของญี่ปุ่นก็เริ่มปรับให้ลดชั่วโมงทำงานลง แต่วัฒนธรรมนี้มันฝังรากลึกจนเป็นcancerousซึ่งพูดยากแล้วว่ามันดีหรือป่าว มันต้องแลกมากับการที่เสียการมีมนุษย์สัมพันธ์กันคนรอบข้าง กับคนที่เรารัก ถ้าถามว่าอยากให้ประเทศไทยพัฒนาเรื่องการทำงานในแบบญี่ปุ่นไหม ส่วนตัวว่าไม่ สิ่งที่จะmoving forwardได้คือองค์กร แต่ตัวเราเองนั่นแหละคือคนที่ต้องเสียสละ ทั้งอายุที่มากขึ้นและปัญหาสุขภาพ ตอนที่มีแรง มีไฟ เราทำได้เต็มที่ก็เป็นเรื่องดีกอบโกยไปให้มากที่สุด แต่ถ้าวันเวลามันมาถึงเราต้องเปิดโอกาสให้คนรุ่นๆมาแทนที่เราด้วย ไม่ใช่ถวายชีวิตจนตัวตาย แบบนี้น่าจะดีกว่า

เอาจริงๆชอบวิถีการทำงานของไทยมากกว่า สุดท้ายการทำงานให้เสร็จก็คือผลที่ต้องการ เหมือนเคยได้ยินได้ทราบว่าบางทีญี่ปุ่นงานเสร็จแล้วแต่ก็ยังกลับไม่ได้เพราะคนอื่นยังไม่กลับ

ชอบค่ะ ส่วนใหญ่ถูกต้องเลย55555 แสดงว่าคนญี่ปุ่นคนนั้นรู้ลึกรู้จริง😂 แล้วก็อยากบอกคนญี่ปุ่นเหลือเกิน ว่าถ้าได้มาทำงานที่ไทยแล้ว ช่วยปรับเข้าหาสิ่งแวดล้อมบ้างเถอะ ไม่ใช่เอามาตรฐานญี่ปุ่นมาใช้ที่นี่ แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าต้องตามใจคนไทยนะ แค่หมายถึงควรจะปรับเข้าหากันคนละครึ่ง เข้าใจสังคมคนไทยหน่อย ในขณะเดียวกันคนไทยก็ต้องเข้าใจคนญี่ปุ่นด้วยว่าอันไหนได้ไม่ได้ บางทีเอากฏเกณฑ์มาใช้ตามใจ ทำเอาคนทำงานด้วยกันอึดอัดใจปล่าวๆค่ะ อยู่ไม่นานหรอก บอกเลย เราว่าสังคมการทำงานที่ไทยค่อนข้างครึ่งๆระหว่างเอเชียกับฝรั่งนะ ไม่ได้เข้มงวดจนเครียดมากเท่าญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมากเท่าฝรั่ง ซึ่งเราค่อนข้างจะชอบแบบนี้มากกว่า

ผู้หญิงไทย strong มาก อันนี้เห็นด้วย ยิ่งมีลูกยิ่งต้องแข็งแกร่ง เพราะพึ่งพาฝ่ายผู้ชายแทบไม่ได้ บ่อยครั้งที่มักโดนผัวนอกใจตอนตั้งครรภ์ ถ้ามัวมาเป็นแม่บ้านแล้วผัวมาทิ้งอีกจะเอาเงินที่ไหนไปคลอดลูก เลี้ยงลูกเลี้ยงตัวเอง

ใช้ชีวิตอย่างเป็นมนุษย์ เราไม่ใช่หุ่นยนต์ แค่ตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบในงานที่ทำและผ่อนคลายสร้างความทรงจำที่ดีไปด้วย ..... ดีกว่ามานึกเสียใจหลังแก่ตัวมา ที่เอาเวลาทั้งชีวิตไปทุ่มแต่กับงาน เหมือนเราเป็นแค่ทาส สัตว์เศรษฐกิจคอยขับเคลื่อนความมั่งคั่งให้คนรวย

เราเข้าใจคนญี่ปุ่นนะที่ทำเพื่อองค์กร แต่คุณต้อง work and balance of life นะคะ อย่าทุ่มเทเพื่อองค์กรจนตายแต่ควรทุ่มเทให้องค์กรเดินหน้าพัฒนาเพื่อองค์รวมและสมกับการทำงานของเรา มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ต่างตอบแทน มันก็ต้องให้สมกัน ส่วนเรื่องตำหนิต่อหน้าคนอื่น ไม่ว่าตำแหน่งไหนก็ควรรักษาหน้ากันบ้าง ส่วนคนไทยก็ควรยอมรับผิดและแก้ไขแค่นั้น

ผมเคยทำงานกับคนญี่ปุ่นที่ถูกส่งตัวมาให้ทำงานที่ไทย1-2ปีเพื่อมาคุมงาน พอถึงเวลาต้องกลับญี่ปุ่น แม่งดันร้องไห้ไม่อยากกลับ เพราะเค้าบอกว่าตัวเองใช้ชีวิตที่ไทยเหมือนเจ้าชายสบายสุดๆรถก็มีคนขับไปรับไปส่ง อาหารก็มีเตรียมให้แบบหรูหรา บ้านช่องก็สะอาดกว้างใหญ่ แม่บ้านก็มีให้ มิหนำซ้ำเทศกาลหยุดเที่ยวก็เยอะ ต่างจากที่เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นที่ต้องนั่งรถไฟไปทำงานแข่งขันกับเวลา

เรื่องกินขนมในเวลาทำงาน กินไปทำงานไป เราว่าไทยก็ไม่ได้ต้องกินอะไรขนาดนั้น แค่คนไทยมองว่าออฟฟิตที่กินขนมได้คนไทยจะ relax กับงานมากขึ้น

จริงนะ พอเราโดนว่าต่อหน้าคนอื่นเราก็ไม่มีความมั่นใจ

เคยมีคนญี่ปุ่นในออฟฟิต ตอนเที่ยงกินข้าวแล้วสูบบุหรี่1ตัวแล้วเดินมาทำงานต่อเลย ขยันมาก จะอยากบอกว่าพักบ้างอย่าขยันเกินไปทำงานหนักจนกูเริ่มละอายแล้วเนี้ย5555

จริงจังกับการจัดปาร์ตี้มากกว่าทำงานคือเรื่องจริงค่ะ แพลนร่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ธีมต้องมี อาหารต้องลิสต์มาพร้อม 😂😂

สำหรับเรา ไม่เป็นไรของเรา ไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ไม่เป็นไรของเราคือ ง่ายๆ ไม่ถือสา คนทำผิดอะไรที่มัน ไม่ได้ผิดกฏหมายน่ะค่ะ เราคิดว่า เขาไม่ได้ทำผิดกฏหมาย จะอะไร ให้มากมาย ไปถือสาคนอื่นมากๆ มันหนัก มันทำให้เราคิดมาก พอคิดมาก ก็ทำให้ตัวเองทุกข์เอง ก็จะทำไปทำเพื่ออะไรให้ตัวเองทุกข์ เลยบอกว่าไม่ป็นไร คือ ทำผิดเล็กน้อย ที่ไม่ได้ผิดกฏหมาย ก็ไม่ถือหละค่ะ

บางข้อก็อยากบอกว่า ญี่ปุ่นต่างหากที่แปลกจากชาวโลก 55

เรื่องตะคอกดุด่ากลางที่ทำงาน เราคิดว่าชาติไหนๆก็ไม่ควรค่ะ จากประสบการณ์ส่วนตัว เจ้านายไทยๆนี่ล่ะ หลังจากได้ใช้อารมณ์กับลูกน้องคนนึงจนสมใจ ก็ออกยกขบวนตามๆกันไปจริงๆ... มันหมายถึง ลูกน้องเห็นว่าเจ้านาย ใช้อารมณ์นำเหตุผล ไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งๆที่ก็ไม่ได้โดนกับตัว แต่ก็ทำให้คิดต่อได้ว่า ซักวันนึงก็ต้องโดนแบบนี้? ซึ่งเราก็รับไม่ได้อ่ะ อะไรแบบนั้นค่ะ

เคยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นในไทยแห่งหนึ่ง เปลี่ยนผู้บริหารมาหลายคนประจำสาขาไทย ส่วนใหญ่ก็สบายๆ เน้นแค่เรื่องวินัยการเข้าทำงาน และทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย ไม่ได้กดดันหรือจี้จนเกินไป บรรยากาศออฟฟิสก็คุยกันได้ กินขนมได้

คนไทยบางคนก็ไม่ชอบเที่ยวชอบดื่มชอบเม้ามอย ชอบทำอะไรให้เป็นเวลา ไม่ชอบพูดตอนกินข้าวไม่ชอบเล่นโทรศัพท์เวลากินข้าว โดยรวมทำอะไรให้มีแบบเเผน ก็มีเยอะยุนะ 🤭

ที่ห้ามด่าว่าตอนคนเยอะๆตามความรู้สึกผมนะคับ แบบไม่ต้องด่าให้ทุกคนรู้ก็ได้ปะ ถ้าจะมห้คนอื่นรู้ไปด่าตอนอยู่สองคนเดี๋ยวเราก็ไประบายให้เพื่อนที่สนิทก็ได้ มันจะรู้สึกสะดวกใจกว่า

จริงมาก การด่า หรือ ตำหนิ ต่อหน้าคนเยอะๆอับอายมาก แค่เราทำงานพลาด เราก็เฟลจะแย่ ยังมาประจานอีก ถ้ามีเจ้านายนิสัย ทัศนคติไม่ถูกจริตกับเรา เราก็พร้อมออก เพราะสวัสดิการ เงินเดือนประเทศไทยไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่มีเรื่องที่ต้องให้ลังเลเลย

เรื่องกินนี้เราขาดไม่ได้เลยค่ะ 55555 เวลาทำงานที่ต้องใช้ความคิดหนักๆแล้วมันจะหิวง่ายไม่มีแรง ต้องได้น้ำตาลค่ะ 555555

"ไม่เป็นไร" เป็นคำปลอบใจตัวเองที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องกินตอนทำงาน. เราชอบฟังเพลงตอนทำงาน. เพื่อไม่ให้เบื่อ🤗 ไม่งั้นหลับแน่ๆ😴😴

เรื่องกินข้าวเร็วนี่จริงมากครับ ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นมาได้ 2 ปีครึ่งแล้ว ผมยังไม่สามารถกินข้าวทันเพื่อนร่วมงานได้เลยครับ รู้สึกเลยครับว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขตอนพักกินข้าวมันหายไปครับ 5555 ข้าวแบบเซ็ตเหมือน Yayoi คนญี่ปุ่นกินหมดภายใน 5 นาที ทึ่งจริง ๆ ครับ คิดถึงตอนกินข้าวชิล ๆ ที่ไทยเลย

คือส่วนตัวเรามองว่าการด่าต่อหน้ามันแรงไปมากกว่าไม่ใช่เรื่องอีโก้อะไรหรอก ด่าแรงๆต่อหน้าคนอื่น คนโดนด่าเขาก็คงรู้สึกแย่อะและในเมื่อรู้สึกไม่ดี อยู่ไปก็ไม่มีความสุขก็ออกดีกว่า อยู่ไปทำไมอะ

การเลี้ยงอาหาร อันนี้ขึ้นอยู่กับสังคมจริงๆ ที่เคยทำงานมาถ้ากับคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอะไร อย่างมากแค่ซื้อขนมมาไว้กองกลางก็ยินดีแล้ว

เราทำงานองค์กรญี่ปุ่นในลอนดอน ภาพรวมดูคนญี่ปุ่นจะผ่อนคลายมากกว่า ซึ่งคนที่เคร่งครัดกลายเป็นคนอังกฤษซะเอง เค้าคงเห็นว่าเมื่อทำงานในองค์กรญี่ปุ่นก็ควรทำตามวิถีญี่ปุ่น ในขณะที่คนญี่ปุ่นถือว่าเค้าไม่ได้อยู่ประเทศตัวเองเลยผ่อนคลายดีกว่า ส่วนเราคนไทยนั้น เลยกลางๆ ไม่ตึงไป ไม่หย่อนเกิน ก็โอเคไปอีกแบบค่ะ

ฝรั่งเศสมีคำเรียกสำหรับการลาหยุดต่อวันหยุดค่ะ อย่างเช่นหยุดสุดสัปดาห์แล้ววันอังคารหยุดราชการ (หรืออาจจะเป็นวันพฤหัส) วันที่อยู่ตรงกลางเขาจะเรียกว่า faire le pont แปลตรงๆ ก็สร้างสะพานค่ะ ซึ่งบางคนใช้สิทธิลาพักร้อนยาวต่อโดยไม่รอคั่นกลางแบบนี้ ลาพักร้อนทีก็สองสัปดาห์ค่ะ ลาได้สองครั้ง ตอนแรกก็เอ๊ะ ยิ่งกว่าคนไทยอีกนี่นา แต่ที่นี่ฟ้องร้องกันโหดค่ะ โดนละเมิดสิทธิก็ประท้วงเลย

แสดงว่าหัวหน้าที่บริษัทไปอ่านตำรามาแน่เลย กำลังแบ่งขนม นั่งเม้า หัวหน้าเดินมา ไม่ว่าซักคำ ควักตังให้ไปซื้อเคเอฟซีเฉย ตอนนี้ก็ได้ใจพนักงานไปเต็มๆ

นิสัยคนไทย รักสบาย รักความสนุกสนาน ชอบงานรื่นเริงสังสรรค์ หาโอกาสสังสรรค ตลอดเวลา

ทำงานกับคนไทยไม่ต้องอะไรมากหรอก เพราะคนไทยเป็นคนง่ายๆ(จนกลายเป็นความมักง่าย) สบายๆ(จนกลายเป็นความไร้ระเบียบ) grand theft auto thailand

ผู้หญิงไทยท้องจนมีลูกแล้วก็ยังต้องทำงานก็เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจและระบบสวัสดิการรัฐแบบไทย ๆ นี่แหละ สำหรับคนทั่วไปสามีแบกรับการหารายได้คนเดียวไม่ไหวแน่นอน ต้องเป็นครอบครัวที่ฐานะทางการเงินดีมาก ๆ ถึงจะลาออกมาเป็นแม่บ้านได้

การให้ขนมของฝาก เป็นเรื่องปกติ ไหมคะ 1) คนญี่ปุ่นส่วนมากเวลามาพบในทางธุรกิจ จะซื้อขนมจากญี่ปุ่นมาฝาก 2) เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อนจะให้ขนม ให้ของขวัญเยอะมาก การให้ของขวัญ ขนม เป็นวัฒนธรรมที่นิยมไหมคะ หรือ แล้วแต่คน คะ ขอบคุณค่ะ

เวลาจัดกิจกรรมท่องเที่ยว หรือเตรียมงานปาร์ตี้ งานปีใหม่ เห็นเพื่อนร่วมงานขยันขันแข็งมีไอเดียออกมามากมายทำได้ดีมากๆ ได้ยินคนญี่ปุ่นพูดประจำว่างานปาร์ตี้ไทย สุโง่ยๆและเขาก็สนุกกันสุดเหวี่ยง เหมือนไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

สรุปง่ายๆอะไรที่ตรงข้ามกับญี่ปุ่นนั่นแหละควรทำในเมืองไทย

เรื่องตะโกนใส่เราว่ามันไม่ใช่เรื่องอีโก้ มันคือการให้เกียรติ เรายอมรับผิด แต่ก็ควรให้เกียรติกันในการพูดดีๆ ใช้เหตุและผล เราว่าคนไทยเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวหยาบคายใส่ แล้วพนักงานคนนั้นเขาคงไม่ลาออกเพราะโดนตะโกนใส่อย่างเดียวหรอกกกก

คนไทยบางคนชอบเสื... เรื่องของคนอื่น จนน่ารำคาญ คนไทยบางคนรู้ทุกอย่าง ไม่รู้อย่างเดียวเรื่องของตัวเอง คนไทยบางคนเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน แต่เวลารับเงินเดือนอยากได้มากกว่าเพื่อนร่วมงาน ผมมาอยู่ไทยตั้งแต่ปี 34 ปัจจุบัน 65 ก็ 30 ปีแล้ว ข้อสุดท้าย สามข้อข้างบน คนไทยบางคนจะไม่ยอมรับข้อเสียของตัวเอง แต่จะรับแต่ข้อดี หรือง่ายๆ ชอบคำชม เกลียดคำตำหนิ ใช้คำตำหนิเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวหน้าไม่เป็น ชอบดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ผู้ที่ด้อยกว่า หรือแม้แต่คนชาติเดียวกัน ถ้าคุณจะทำงานในไทย คุณต้องรับข้อบกพร่องอันร้ายแรงของคนไทยบางส่วนให้ได้

ความชอบส่วนตัว คืออยากไปเที่ยวญี่ปุ่น 🇹🇭🤝🇯🇵

จริงอย่างที่ว่าค่ะ ส่วนตัวมุมมองเราตัวเราเองค่อยไปทางญี่ปุ่นเลยไม่ชอบนิสัยคนไทยบางส่วนโดยเฉพาะสังคมการทำงานทุกรูปแบบ คือบางอย่างบ้านเราก็สบายเกินไปเหมือนกัน และเราขีดเส้นกับคนอื่นสูงมาก เพื่อนร่วมงานก็คือเพื่อนร่วมงานจริงๆคือคุณไม่มีสิทธิ์มารับรู้เรื่องส่วนตัวของเรา แล้วแต่มุมมองคนนะคะ มีทั้งชอบไม่ชอบ เฉยๆหรือรับไม่ได้ค่ะ

เรื่องตำหนิต่อหน้าผู้อื่นนี่คือจริงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าต่อให้เป็นใครก็ตามไม่จำเป็นต้องคนไทยก็ไม่ควรถูกตำหนิต่อหน้าผู้อื่นเขาอาจจะรู้สึกไม่ดีก็ได้ อาจจะเป็นความลับที่เขาไม่อยากให้ใครรู้ก็ได้ คิดว่าการไม่ตำหนิในะที่สาธารณะเนี่ยควรเป็นมารยาทพื้นฐานเลยด้วยซ้ำ แต่บางทีมันก็มีอะเนอะที่ฟิลส์ขาดเผลอพลั้งไป แต่ทางที่ดีอย่าทำอย่างนั้นจะดีกว่านะ *คหสต*

คลิปนี้ให้ร้อยไลค์เลย เพราะพื้นฐานทางวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ มันต่างกัน เป็นจริงที่สุด

สบาย อิสระจนงง มีบ่นบ้าง แต่ก็ไม่ยอมกลับนะ ต่อสัญญาในไทยหลายรอบแล้ว พอจะกลับจิงๆก็มาร่ำลา ปล.เราทำงานรพ.ส่วนที่ดูแลคนญี่ปุ่นนะ เจอกันบ่อย จำคนไข้แม่น

ญี่ปุ่นต้องเป๊ะๆ ไทยยืดหยุ่นได้

คนญี่ปุ่นเขาหาข้อมูลได้เปะ สุดๆไปเลย ตามที่บอกเลย

ฟังแล้วรู้สึกเอ็นดูคนญี่ปุ่นเขาจัง55555555 ขอบคุณสำหรับการทำคลิปมาให้ฟังนะคะ ยิ้มตลอดทั้งคลิปเลยค่ะ🤍

จริงจัง ตรงเวลา บ้างก็ดีนะ เบื่อการนัดแบบ Thai time มากกกกกก

เห็นด้วยหมดเลย ยกเว้นเรื่องปาร์ตี้บ่อย เราว่าชอบวันหยุด ชอบเทศกาล เพราะมันได้ผ่อนคลาย เจริญหูเจริญตา แต่ไม่ได้ชอบปาร์ตี้นะคะ เราไม่ได้นับการกินข้าวด้วยกันเป็นการปาร์ตี้ด้วยอะ (หรือว่านับด้วย เลยบอกว่าชอบปาร์ตี้ ถ้างั้นก็คงใช่) ปาร์ตี้คือมันต้องจัดงานต้องมีกิจกรรมใช่ป่าว? ก็ไม่ได้มีอะไรแบบนั้นบ่อยๆ นะ^^ เห็นมีคอมเมนต์เรื่องคนไทยชอบปาร์ตี้ อาจจะเป็นเพราะมุมมองสิ่งที่เรียกว่าปาร์ตี้แตกต่างกันมั้งคะ^^

นี่ว่าเจ้านายที่ดีคือเวลาชม ชมให้ดัง เวลาตำหนิตักเตือนให้เรียกมาคุยส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับอีโก้หรอก แค่ที่ญี่ปุ่นทำกันจนชินชาเพราะนึกว่าถูกควรแล้ว

เพื่่อนผม เคยใช้ระบบการทำงานและวิธีคิดแบบคนไทยที่ญี่ปุ่นแล้ว เช่น ใครอยากได้เงินเพิ่มก็ทำโอที แต่ญี่ปุ่นจะทำงานโอที เพื่อความสำเร็จของบริษัท หรือ พยายามผลักดันความสำเร็จให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน ซึ่งคิดกันคนละแบบจริงๆ สรุปคือ เขามองว่าเพื่อนผมที่ไปเป็นหัวหน้าเขา พยายามเอาเงินมาฟาดหัวเขา หรือเป็นการดูชังความขยันด้วยเงินตราอะไรสักอย่างนี่แหละ สุดท้ายเพื่อนผมต้องหางานใหม่ ก็ยังสงสัยนะว่า สรุปคือ เราทำงานหาเลี้ยงชีพ เพื่อความมั่งคั่ง เพื่อความเสถียรภาพทางการเงินและชีวิต หรือ เราทำงานหนักเพื่อตัวบริษัทให้อยู่รอด เพื่อให้บริษัทมีรายได้จ่ายภาษีรัฐบาล

ต้องยอมรับครับว่า เงินเดือนค่าแรงคนไทยต่ำ ไม่พอใช้จ่าย ทำให้คนไทยเครียดมากๆในเรื่องนี้ ถ้าหากทำงานแล้วเครียด เหมือนเครียดซ้ำซ้อน คนไทยก็ไม่ทนครับ อยากให้คนญี่ปุ่นมอง หรือ ลองคิดว่าตัวเองได้เงินน้อยมากๆแบบคนไทย จะเข้าใจเลยว่ามันเครียด แค่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงออกมา

ญี่ปุ่น ไม่เหมือนประเทศอื่นๆมากกว่าคับ พูดง่ายๆคือ ไม่มีประเทศอื่นเข้าใจญี่ปุ่นหรอกเพราะไม่เหมือนบ้านเหมือนเมืองเค้าคับ

ที่เคยเจอคนญี่ปุ่น(แต่คนละแผนก) เมื่อราวๆสิบปีก่อน คือห้องทำของแผนกผมจะเป็นห้องเล็กๆ อยู่ด้านนอกประตูออฟฟิศหลัก แล้วพวกห้องน้ำ ตู้กดน้ำ สาธารณูปโภคต่างๆจะอยู่ในห้องออฟฟิศหลัก แล้วแผนกผมคือทำงานเป็นกะ ในขณะที่ในออฟฟิศหลักเขาทำ จ-ศ(พ่วงเสาร์บางครั้ง) ทีนี้คนญี่ปุ่นนี่บางทีเข้ามาวัน ส-อ จะแสดงพฤติกรรมอย่างนึง คือล็อคประตูออฟฟิศหลัก ไม่ยอมให้แผนกผมเข้าไปเติมน้ำตื่น เข้าห้องน้ำ ฯลฯ ทำเหมือนคนอื่นเป็นหมาเป็นแมว

เรื่องดื่มกินที่โต๊ะทำงานเราไม่เห็นด้วยนะ มันทำให้เสียสุขภาพด้วย

ญี่ปุ่นจะเครียดมาก ทุกอย่างคือต้องเป็ะๆ แต่ไม่ใช่ว่า performance งานจะดีนะ เห็นว่าที่ ญป จะชอบประชุมเยอะ ทำท่าเหมือนทำงานหนัก จริงๆคนไทยทำงานสไตล์ฝรั่งมากกว่า เน้นงานเสร็จ อาจจะมีอู้บ้าง แต่ถ้าวัดมาจริงๆแล้ว คนไทยทำงานได้ดีกว่า อาจจะเพราะไม่เครียดมาก ทำบรรยากาศให้ออฟฟิศมันน่ามา ถามซาลาลี่มังดิ ไม่ค่อยมีใครอยากไปออฟฟิศหรอกยิ่งนานยิ่งห่อเหี่ยว ทุกอย่างก็ต้องโดนบังคับ กินเหล้าก็ต้องไป แล้วไทยย้ายงานง่าย ของ ญป ย้ายทีเรื่องใหญ่เลย เลยไม่แปลกใจว่าพอมีอะไรที่ไม่แฟร์ก็เลยลาออกกัน😂

สมัยดูทีมงานในไทยกับเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่น เคยปวดหัวกับการลาหยุดหลังวันหยุดยาว หรือเสาร์อาทิตย์มาก เคยคิดว่าเราน่าจะทำการขอลาหยุดเพิ่มอีกหนึ่งแบบ คือ Predictable Sick leave/Estimated Sick leave เนื่องจากงานที่ทำต้องจัดคนเข้า Shift

เจ้านายด่าผมต่อหน้าคนอื่นในที่สาธารณะใด้ตามสบายเลย แต่ผมขอกระทืบเจ้านายกลับแล้วกัน😁 ค่ารักษาพยาบาลและค่าปลอบขวัญเด๋วผมออกให้เอง

น่าสนใจมากมุมมองของชาติที่จริงจังที่สุดต่อชาติที่สบายๆ555

ก็แอบสังเกตุแอดอยู่เหมือนกันทำไมใส่แมสหลายสีจัง อ่อ 555 แอบโฆษณาได้น่ารักมากค่ะ 😂😂❤️

ไม่เป็นไร = อดทน,ชิลชิล จริงด้วยตรงที่คนไทยทำอะไรในเวลาเดียวกัน เช่น พูดไปด้วยยิ้มไปด้วย😊😊 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทำงานไปด้วยกินไปด้วย การทำงานของเราจะได้มีประสิทธิภาพ 😃😃 การทำงานของเราจะได้ =ความสุข

มีอีกข้อหนึ่งสำหรับผู้หญิงไทย คือ เวลาออกไปทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชายจะลืมเอากระเต๋าสตังค์ออกไปด้วยทุกครั้ง

ทำอะไรตามใจ ตามสบายคือไทยแท้..555..😁😁😁😁

เคยโดนตะคอกใส่หน้า ตอนนั้นอยู่บริษัทญี่ปุ่น รู้สึกหน้าชา แต่ก็ไม่ลาออกนะ เพราะจ่ายดี

อยากให้ทำเรื่อง ญี่ปุ่นขิงคนไทย ต่ออีกหลายๆๆๆๆๆ Ep. ค่ะ

ไม่แปลก คนญี่ปุ่นคือต้องทำงานในบริษัท ให้ยาวนานที่สุด แต่คนไทยเปลี่ยนงานกันบ่อย ยิ่งถ้าจบใหม่ ยิ่งเห็นชัด

คนญี่ปุ่้นเขามองออกอย่างมากจริงๆเลยนะ สุดยอดมากเลย

จริงมากมาก โดนเฉพาะเรื่องร้องเกะเพลงไทย รายชื่อเพลงตามนั้นเลย

จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆทุกข้อครับ แต่เรื่องเลี้ยงข้าวนี้ผมว่าไม่เสมอไปครับ

สบายใจคือไทยแท้.......ฮิๆๆๆ

นิสัยคนไทยคือชิลๆแล้วเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย,ชอบนิสัยคนญี่ปุ่นเรื่องตรงเวลา,คนไทยเองนัดกันรอจนหงุดหงิด

น่ารักอ่ะ

ณี่ปุ่นภาคบริการภายนอกดูสวยใสอารมณ์ดีแต่ภายในคนทำงานเครียดมาก ส่วนไทยก็ตามคลิป

ชอบรายการตะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้100000ไวๆ

Ep.นี้สนุกจังได้ฟังมุมมองคนญี่ปุ่น

คนไทย เน้นสายฮากับกิน ครับเลิกงานช่วงเย็น ชาบู หมูกระทะ ไม่ก็นั่งดื่มเบียร์ ชีวิดชื่นใจ ครับ

เออ จริงด้วยด้วยครับคำว่า "ไม่เป็นไร" คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมองในแง่ลบอาจจะเพราะเค้าไม่เข้าใจ culture เราเลยคิดไปแบบนั่น แต่ก็จริงอีกนั่นแหละที่ว่านไทยมีความยืดหยุ่นสูง 5555

ที่บริษัทตอนนี้ให้ความสำคัญกับเรื่อง harassment ทุกรูปแบบแล้วค่ะ เป็นกฏจากทางบริษัทแม่ที่ JP มีบทลงโทษชัดเจน คิดว่าตอนนี้เขาตระหนักเรื่องนี้มากขึ้นกว่าสมัยก่อนแล้วค่ะ

ทำไมความทรงจำในการทำงานกับคนญี่ปุ่นคือ ดื่มหลังเลิกงาน เอ็นเตอร์เทนลูกค้า ตีกอล์ฟ และ เมาค้าง 5555 ที่ตลกคือถึงเป็นผู้หญิงก็ต้องส่งผู้ชายทุกคนที่เมาแล้วกลับบ้านให้ปลอดภัย อ่อออ ผู้หญิงไทย strong 5555

ขอบคุณครับสำหรับคลิปดีๆ อยากให้ลงทุกวันเลยครับ😀

8:03 คนไทยมีวลีแบบ ตำหนิในที่ลับชมในที่แจ้ง

ยินดีที่ได้โฆษณาด้วยครับ หน้ากากอ่อนนุ่ม ^3^

ชอบๆค่ะ

ดีมาก เข้าใจคนไทยถูกต้องแล้ว อย่าบ้าจริงจังนักเลย ก็วันหยุดฉลองเยอะ เมา แฮ้งค์