Рет қаралды 462
รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 2 ครั้ง
ครั้งแรก วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2453 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร เนื่องจากยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้งดการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครและการรื่นเริง, ครั้งที่ 2 วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2454 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง และให้นานาประเทศที่มีสัมพันธ์ทางพระราชไมตรีมาร่วมงานในพระราชพิธี
ณ 1 ปีให้หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 1 (พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เรียกว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช”
เหตุที่ต้องเว้นระยะห่างถึง 1 ปี ผู้เขียน (ผศ.ดร.ชัชพล ไชยพร) อธิบายว่า “การคมนาคมติดต่อไปมาในครั้งนั้นยังไม่สะดวกสบายเหมือนเช่นทุกวันนี้ และต้องทรงกำกับการตระเตรียมงานอย่างละเอียดลออโดยใกล้ชิด เพื่อมิให้เป็นที่ครหาในหมู่อารยประเทศได้ งานพระบรมราชาภิเษกสมโภชจึงต้องรอเวลาห่างออกไป พอที่จะเชื้อเชิญผู้แทนจากนานาชาติมาร่วมงานได้”
มีการเตรียมงานโดยละเอียดจำแนกเป็นส่วนๆ อย่างเรียบร้อย เช่น การรับแขกเมือง, การบรมราชาภิเษก, การเลียบพระนคร, การพระราชทานเลี้ยงลุกขุน และการเลี้ยงฉลองสมโภช
เจ้านายที่รับหน้าที่ในเรื่องนี้ คือ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ โดยทรงเป็นผู้แทนพิเศษที่เสด็จไปยังพระราชสำนักต่างๆ เพื่อทูลเชิญเสด็จเจ้านายจากชาตินั้นๆ มาร่วมพระราชพิธีด้วยพระองค์เองจาก 14 ประเทศ เช่น อังกฤษ, เดนมาร์ก, รัสเซีย, สวีเดน, ญี่ปุ่น ฯลฯ
นับเป็นครั้งแรกที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีการเชิญผู้แทนประมุขนานาชาติและราชทูตพิเศษมาร่วมพระราชพิธีนอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงขอให้สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอหลายพระองค์มาทรงเป็นผู้อำนวยการและจัดการรับเสด็จบรรดาพระราชวงศ์ฝ่ายในและสตรีผู้มีเกียรติจากนานาประเทศ ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่เกียรติของสยามให้ปรากฏแก่สายตาชาวโลก