They คือ สิ่งมีชีวิตในรูปธรรมชั้นสูง อยู่อยู่ในรูปแบบแรงสั่นสะเทือนคลื่นความถึ่ระดับสูงมาก(ดวงจิตหรือกายทิพย์) อยู่ในมิติที่ 5 ขึ้นไปถีง 12 และ พวกเขามาในภาระกิจเพื่อมีส่วนร่วมในปรากฏการณ์ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญแห่งมวลมนุษยชาติ ในการวิวัฒน์แรงสั่นสะเทือนเลื่อนระดับของดาวโลกมนุษย์จะเลื่อนระดับจากมิติที่3 ข้ามไป 4 และ 5 และ They ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ลูกหลานที่ไหน They คือ ตัวตนระดับสูงของเรา คือตัวเราเองนี่ละครับ

ในความเห็นของผมคิดว่า They ไม่ใช่มนุษย์โลกหรือลูกหลานในอนาคตแน่นอน เพราะ ทาสก์ เองก็แยกแยะได้และบอกกับคูเปอร์ว่า "พวกเขา" ที่มาช่วยเรา ผมจึงเดาว่าในตอนแรก They ตั้งใจให้มนุษย์เลือกดาวที่จะสามารถอยู่รอดสืบเผ่าพันธุ์ได้ จากดาว 12 ดวงที่อยู่อีกกาแลคซี่นึงหลังรูหนอน แต่ดูเหมือนจากในหนังจะเหลือ "ดาวเอ็ดมันส์"เพียงดวงเดียวที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของมนุษย์ ที่ตอนท้ายเรื่องนางเอก ดร.แบรนด์ อยู่ได้โดยลำพัง แต่แผนการช่วยของ They ที่วางไว้ดูเหมือนจะล้มเหลว เพราะการกระทำของดร.แมน สุดท้าย They ต้องมาช่วยคูเปอร์แทน ด้วยการสั่งให้ดีดตัวออกจากยานที่กำลังถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ แล้วมาอยู่ใน มิติที่5 แทน จึงกลายเป็นที่มาของ Ghost หรือผี ที่เมิร์บลูกสาวเรียก (อาจจะไม่เกิด Ghost หรือผี ขึ้นก็ได้ ถ้าปฎิบัติการหาดาวข้างต้นสำเร็จ) ซึ่งตามเหตุการณ์การเดืนเรื่องในหนังดูเหมือน They จะพยายามช่วยให้มนุษย์อยู่รอด แต่ They อยู่คนละมิติกับเรา จึงต้องใช้การสื่อสารในแบบต่างๆ เป็นการช่วยเหลือ แต่ใครก็ตามที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์โลกได้ เรามักจะเรียกว่า "พระเจ้า"

They สำหรับผมคือลูกหลานในอนาคตเรานี้ละ เขาอาจจะใช้การเดินทางด้วยแสงกับมาหาเราครับ เพราะถ้าเขาเดินทางด้วยแสงเขาจะมองเห็นเราเป็นอดีต แต่เขาแสดงตัวไม่ได้เพราะถ้าแสดงตัวออกมา อนาคตจะบิดเบือน พวกเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาครับ

they คือใคร จากการมโนของผมเอง 1.เอเลี่ยนในมิติเดียวกับเราจักรวาลเดียวกันกับเรา แต่มีอรยธรรม และเทคโนโลยีล้ำกว่าเรามาก 2.ตัวตน(ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งมีชีวิตก็ได้)ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่า หรือก็คือ เทพ หรือ พระเจ้าในโดยนิยามของเรานั่นเอง 3.เผ่าพันธุ์เราเองจากอนาคตอันไกลโพ้นที่ย้อนมาช่วยบรรพบุรุษของตัวเองก่อนสูญพันธุ์(ย้อนแย้งและวนลูป) 4.ผู้ดูแลเครื่องประมวลผลจำลองจักวาล(ทฤษฎีโลกจำลอง)ที่แทรกแทรงการสูญพันธุ์ของเราด้วยเหตุผลบางอย่าง

สมมติฐานของผมต่อยอดจากของแอด คือ มนุษย์สามารถวิวัฒน์เป็นสิ่งมีชีวิตมิติที่สูงขึ้นได้ จึงได้รู้ถึงภูมิหลังของเผ่าพันธุ์จากการเดินทางข้ามเวลา เหมือนการไต่หน้าผาลงมา และได้ตระหนักว่าเผ่าพันธุ์มนุนย์เกิดวิกฤตขึ้นและ they ได้มาช่วยไว้ จึงทราบว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจากปริทรรศน์ที่วนเป็นลูป จึงได้สร้างรูหนอนเอาไปทิ้งไว้ตรงนั้น

They. คือ เราในอนาคตของเราแน่นอน...และเป็น ภาระกิจสำคัญของเค้าที่ต้องทำให้การย้ายมนุษย์ออกจากโลกให้สำเร็จ เพราะถ้าไม่สำเร็จ...They จะหมดสิ้นไปด้วย....

นางเอกเป็นคนคิดค้นสมการของแรงโน้มถ่วงได้ ซึ่งเป็นสมการในมิติที่ 5 ในสมการจะไม่มีค่า t ทำให้สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับเวลา และสร้างสนามแรงโน้มถ่วง สร้างรูหนอน สร้างอาณานิคมตรงไหนก็ได้ในจักรวาล (สังเกตุว่าตอนจะจบเรื่องมนุษย์ไปสร้างอาณานิคมอยู่ตรงวงแหวนของดาวเสาร์ แต่สร้างสนามแรงโน้มถ่วงใช้เอง)

จุดนึงที่รู้สึกว่าหนังทำพลาด คือมาหลุดตอนจบ เมิร์ฟบอกพ่อว่า ให้ไปหาเอมิลี โดยบอกว่า "เธออาจจะตั้งแคมป์เสร็จแล้ว และกำลังเตรียมจะเข้านอนยาว" ตาม Relativity แล้ว ... เอมิลี น่าจะเข้านอนยาวไปได้นานปีแล้วด้วยซ้ำ เพราะหลังจาก Slingshot แยกกัน ... เอมิลี่ เดินทางออกห่างจากหลุมดำ แต่คูเปอร์เข้าไป ในสภาพนั้น แม้คูเปอร์จะไม่ได้เข้าไปนาน แต่เวลาของทั้งสองคนน่าจะต่างกันมหาศาลเลยทีเดียว

ชอบประโยคที่ดร.แบรนด์บอกว่า “ความรักนั้นทรงพลัง สามารถก้าวข้ามกาลเวลาและแรงโน้มถ่วงได้” ซึ่งความรักนั้นเป็นเคมี แต่ถ้าหากเราสามารถแปลงเคมีให้เป็นคลื่นได้ คงจะเจ๋งมากทีเดียวครับ

ชอบจริงๆครับ เอาอีกนะครับแนวนี้ เอาหนังมาเล่าเชิงวิทยาศาสาตร์ ส่วนเรื่อง Interstellar คือทฤษฎีบางอย่างอาจยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่มันก็ทิ้งปมไว้ให้เราขบคิดต่ออีกมากมายทำให้การดูหนังเรื่องนี้ไม่มีวันเบื่อจริงครับ ส่วนตัวไม่อยากให้มีภาคสองครับเพราะมันจะทำลายจินตนาการที่เราคิดไว้ ในหนังจบแบบสมบูรณ์แล้ว...ปลายเปิดไว้แบบนี้เหมือนกับจักวาลนี้มันกว้างใหญ่เหลือเกิน...

ดิฉันคิดว่า They คือเรานี่แหละ เราที่มีทางเลือกมากมาย อยู่ที่ว่า เราต้องการอะไร เรามาตามพันธสัญญา ที่ได้ตกลงกันไว้ ถ้าใครยังไม่พร้อมสำหรับพันธกิจ กาลเวลาจะยังคงรอและพร้อมที่จะแก้ไขเหตุการณ์ให้เข้าที่เข้าทางและเมื่อถึงเวลาที่ทุกฝ่ายพร้อม เราจะได้มาเจอกัน

ชอบอินโทรเลยครับ งานภาพคือดีย์ 🤓✌️

สมองหยิกตามไม่ทันจบต่ำ แต่ชอบเรื่องพวกนี้ครับ 🥰🥰🥰

ผมก็ชอบดูภาพยนต์แนวไซน์ไฟน์นี้ ชอบดูแนวคิดของผู้สร้าง ที่พยามใช้สิ่งที่มีอยู่บนโลกเพื่อมาผสมผสานกับจินตนาการ ที่วิทยาศาสตร์โลกยังไม่รู้ว่ามีอยู่หรือไม่มี มาประกอบเป็นเรื่อง ซึ่งก็เป็นที่น่าตื่นเต้น

They ก็คือเราในอนาคตครับ ฉากที่แอมีรี่เห็นบางอย่างตอนที่เข้าไปในรูหนอนสีขาวๆอยู่นอกยาน แล้วทำท่าเอื่อมมือจะไปจับ นั่นก็คือ They ครับ จริงๆก็คือพระเอกนั่นแหละครับ ที่ตอนพระเอกหลุดเข้าไปในหลุมดำ อยู่ในมิติที่ 5 หลังจากที่พระเอกส่งรหัสมอสให้ลูก เค้าก็ปิดมิติ แล้วพระเอกก็ร่องรอยไปเห็นแอมีรี่ในยาน นั่นแหละครับ

ผมชอบเรื่องนอกโลกมา พึ่งมาฟังครั้งแรก คือดีมาก ย้อนดูทุกคลิปแล้ว และก็กดติดตามเรียบร้อยครัล

มิติควอนตั้มที่เล็กๆๆๆๆลงไปจนถึง1มิติ บางที ตอนนี้เราอาจเปนแค่รหัสเหมืือนหนังเดอะเมทริกซ์ เปนแค่ข้อมูล บางทีตอนนี้ เดย์ อาจจะกำลังสตรีมสดเราอยู่ก็ได้

They คือ สิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ในโลก เมื่อหลาย 1,000,000 ปีก่อน พวกเขาฉลาดมากจนค้นพบเทคโนโลยีที่สามารถเดินทางท่องอวกาศ และได้เดินทางออกไปจากโลก จนสั่งสมความรู้และวิวัฒนาการตนเองไปในขั้นที่สูงมาก

ต้องขอบคุณมากครับที่ทำวีดีโอนี้มา ความเข้าใจของเราชัดเจนและกระจ่างมากๆเลย ตั้งแต่พูดถึงเรื่อง Bulk Beings (เราอ๋ออออยาวมากเลยตั้งแต่ช่วงนั้น) ❤️❤️❤️

ผมคิดเรื่องมิติที่สูงกว่าแบบนี้คือ มิติที่สูงกว่าไม่มีสถานะของสะสารเหมือน มิติที่สาม นั่นคือ ของแข็งของเหลวแก๊ส หรือพลาสม่า นั้นหมายถึง เราไม่สามารถดำรงอยู่ในมิตินั้นได้เลย เราเหมือนน้ำแข็ง ที่ไม่สามารถอยู่ได้ในลาวา เราเหมือน น้ำมันที่อยู่ของกองไฟไม่ได้ ซึ่งก็หมายถึงเราจะกลายเป็นสถานะ ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าเท่านั้น จึงจะดำรงอยู่ได้

ชอบวีดีโอนี้มากค่ะ วิเคราะห์ได้ดี ใกล้เคียงกับเรื่องของโลกจิตวิญญาณที่ละเอียดจนตาเปล่ามองไม่เห็น ใกล้เคียงกับเรื่องอจินไตยที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ด้วย

They คือเราในอนาคตครับ เพราะว่าหลังจากที่คูปให้รหัสมอสเพื่อให้เมิร์ฟแก้สมการได้แล้วจะเห็นว่า มิติเวลาก็ทำการปิดไปเลย แสดงว่าอนาคตอีกยาวไกลมนุษยชาติอาจจะสามารถควบคุมมิติที่ 5 และสามารถเดินทางข้ามมิติเวลาหรือควบคุมมิติเวลาได้อะนะ

จำได้ว่าใน Tiktok มีชาวต่างชาติคนนึงพูดถึงหนังเรื่องนี้ว่าทำได้ละเอียดและทุกตัวเลขในหนัง มีความหมายหมด แม้กระทั้งค่า fps ของแต่ละฉากก็มีความหมาย

ไม่ใช่เราในอนาคตหรอก เพราะถ้ามีเราในอนาคต แล้วทำไมเค้าจะต้องกลับมาช่วยด้วย เพราะว่าถ้ามีเราในอนาคตเท่ากับ เราก็รอดชีวิตจากอดีตไปได้แล้ว แล้วยังจะต้องกลับมาช่วยคนในอดีตอีกทำไม มันย้อนแย้งกัน เหมือนเป็นส่วนผิดพลาดของผู้กำกับที่อยากจะสื่อว่า they ก็คือพวกเราเองในอนาคต ถ้าสื่อว่าพวกเค้าคือสิ่งมีชีวิตทรงภูมิอื่นๆยังจะพอเข้าใจได้ แต่ดันเขียนบทให้พระเอกเป็นคนพูดออกมาเองว่า they ก็คือพวกเราเอง

07:40 ที่บอกว่าการเดินทางผ่านรูหนอนแบบในหนังไม่สามารถทำได้ เพราะเวลาผ่านไปล้านปีมันไม่ได้สำคัญเลยหนิครับ เพราะต่อให้เวลาของตัวเอกจะผ่านไปนานแค่ไหน(ต่อให้มนุษย์จะตายหมดแล้วก้ตาม) แค่พระเอกสามารถส่งสัญญาณมาบอกลูกในอดีตก้คือจบ

ในความคิดผม "พวกเขา" ที่พูดถึง คงไม่ใช่รุ่นลูกรุ่นหลานเราแน่ ๆ เพราะมันจะขัดแย้งกับความจริงอยู่หน่อยนึงคือ ถ้าเวลาปัจจุบัน ทีมพระเอก ไม่ได้รับโอกาสให้ไปทำภารกิจพวกนี้ โลกก็ล่มสลาย ก็ไม่มีรุ่นลูกรุ่นหลานจะอยู่รอดได้เพื่อไปช่วยคนยุคก่อนหน้านั้นได้หรอก เหมือนกับ พรุ้งนี้ดาวหางจะชนโลก แต่เวลานี้ ไม่มีอะไรจะทำลายดาวหางได้เลย ทำให้เวลานั้นโลกแตกไป ทุกชีวิตตายหมด แล้วกลายเป็นว่า คนในอนาคต ย้อนเวลามาเพื่อยื่นโอกาสให้เค้าได้สร้างสิ่งที่จะทำลายดาวหางได้ มันจะย้อนแย้งมาก ก็ในเมื่อเวลานี้ พรุ้งนี้โลกต้องแตกแน่ ๆ แล้วคนในอนาคต มาจากไหน อยู่รอดได้ยังไง ถึงมาช่วยเราในวันนี้ที่ไม่สามารถทำลายดาวหางได้ และต้องหายไป 100%

They ก็คือ คูปอร์ เพราะคูเปอร์ แก้สมการ มิติที่ 5 ได้สำเร็จ คูเปอร์เลยสร้าง รูหนอน ย้อนเวลากลับมาช่วยตัวเองในมิติที่ 3 หรือโลกปัจจุบัน แต่คูเปอร์ ในมิติที่ 5 แก่แล้ว เป็นคนสร้างรูหนอน แต่ตัวเองย้อนเวลากลับมาหาคูเปอร์ ตัวเองในปัจจุบันไม่ได้แล้ว คูเปอร์ในมิติที่ 5 ซึ่งแก่แล้ว เลยพยายามติดต่อคูเปอร์ ในมิติที่ 3 บนโลกมนุษย์ ให้ ไปหาองค์การนาซ่า ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน เพื่อ ให้แก้สมการ ให้สำเร็จ และเมิร์บ จะเป็นผู้แก้สมการบนโลก ส่วนคูเปอร์ เป็นผู้เข้าไปในรูหนอน และนำค่าสมการ ส่งมาให้เมิร์บ เป็นรหัสมอร์สทางนาฬิกา เมื่อเมิร์บ แก้สมการสำเร็จ ก็ได้สร้างยานอพยพ มนุษย์บนโลกมาตั้งถิ่นฐาน ใกล้ดาวเสาร์ เพื่อ รอรับ คูเปอร์ พ่อของเมิร์บที่รูหนอน เพราะคูเปอร์จะต้องออกมาจากรูหนอน และ เมิร์บ คำนวนเวลา เดินทางไปถึง เพื่อรอรับพ่อของตัวเองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันนี้ผมคิดว่า คนสร้างหนัง คงคิดแบบนี้นะ แต่ถ้าคิดออกนอกหนัง ก็อาจจะเป็นอารยธรรมที่สูงกว่าเราเป็นผู้สร้างมิติที่ 5 แล้วเลือก คูเปอร์ กับเมิร์บ เป็นผู้แก้สมการ รูหนอน แต่อย่างว่านั้นแหระ อารยธรรมที่สูงกว่าเรา อาจจะใช้จิต เดินทาง ผ่านมิติได้แล้ว หรือสื่อสารผ่านทางโทรจิตข้ามกาแล็กซี่ได้แล้ว ส่วนร่างกายอาจจะอยู่ในมิติที่ 5 อันไกลโพ้น ที่มนุษย์โลกเดินทางไปไม่ถึง

ลองคิดเรื่องเดจาวู แล้วคิดอีกเรื่อง สมมุติเราคิดพูดอะไรในวินาทีนี้ แล้วเปิดหนังสือรึสื่อใดใดแล้วสิ่งนั้นเหมือนโต้ตอบกับเราได้ชัดเจน นั่นคือประมาณการสื่อสารกับผู้ทรงภูมิจากมิติที่สูงกว่าครับ #ฝากไว้ให้คิดต่อครับ

ขอบคุณที่ช่วยอธิบายครับ กระจ่างเลย 🙏❤️

ผมนั่งคิดมาสักพักละ ว่าสัณนิษฐาน 1 น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เพราะคนที่รู้ว่าเรามีตัวตนอยู่จริงก็คือ ตัวเราเอง. ถามว่าทำไม 'พวกเขาถึงต้องช่วยเรา’ เหตุผลง่ายๆ ถ้าไม่มีเราในตอนนี้ ก็จะไม่มี 'พวกเขา' ในตอนนั้น. ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นแค่ความคิดของผมนะ ใครมีความคิดอะไรที่ต่างจากนี้ ก็สามารถพิมพ์มาคุยกันได้ครับ.

ทำไมคูเปอร์เข้าไปในรูหนอนแล้วไปโผล่ที่จุดพื้นที่บริเวณพื้นที่ในบ้านของเขา ที่จริงมันควรจะต้องกระเด็นไปโผล่ ณ จุดจุดใดจุดหนึ่ง พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อเราอยู่ภายในรูหนอน ***เพราะรูหนอนกับหลุมดำ คือสิ่งเดียวกัน และฟิสิกส์นั้นใช้การไม่ได้กับหลุมดำ*** ☝🏻การข้ามเวลาตามทฤษฎีแล้วมีความเป็นไปได้ แต่ทางกายภาพ กลไกลร่างกายของมนุษย์เรา ติดอยู่ในมิติที่3เท่านั้น และตัวเราอยากข้ามเวลาหรือย้อนเวลาได้ คงต้องแยกร่างกายเราออกเป็นมวลสารให้เหลือเพียงแค่หน่วยของอตอม ถ้าทำแบบเราก็จะไม่มีชีวิต😱 sci-fi ในนิยายวิทยาศาสตร์นอกจาก Time Machine จะใช้ข้ามเวลา ย้อนเวลา ถ้างั้น Teleporter นอกจากจะใช้เคลื่อนย้ายมวลสาร จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ผลลัพธ์ของการTeleporter จะส่งผลต่อการข้ามเวลา แบบชนิดที่เวลาเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น เช่น ย้ายคนนึงจากโลก ไปยัง ระบบดาวTRAPPIST ระยะทางห่างจากโลกประมาณ 39.5 ปีแสง จะส่งผลกระทบต่อเวลาสัมพันธ์บนดาวเคราะห์โลก

ผมว่า มาทางนี้ก็ดีนะคับ คุณป่าง วิเคราะห์หนัง วิทย์ฯ ไซ-ไฟ สาระ/ความรู้ /บันเทิง ไปด้วยคับ

ศาสนาทุกๆศาสนาไม่ว่าศาสนาใดๆเป็นเรื่องของการเริ่มต้นที่ความเชื่อก่อนล้วนๆ เมื่อมีความเชื่อแล้วศรัทธาจึงเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นความเชื่อใดๆเมื่อมีคนเชื่อเหมือนๆกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันก็ล้วนแต่เป็นศาสนาหรือลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่งทั้งสิ้น นั่นก็รวมไปถึงการมีความเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าฯของกลุ่มคน-ลัทธิที่ไม่เชื่อในพระเจ้า การเชื่อว่าไม่มีนิพพานของกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อว่าไม่มีนิพพาน บลา บลา บลา ... ไปจนถึงกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างเดียวและปฏิเสธทุกศาสนาอย่าง "ลัทธิไม่มีศาสนา" ก็ล้วนเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง หรืออีกลัทธิหนึ่งเช่นกัน... แต่หากว่าศาสนาใด, ความเชื่อใด, ลัทธิใดก็แล้วแต่ที่มีคำสอนในแนวทางสอนให้เป็นคนดี สอนให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน สอนให้มีเมตตาต่อกัน สอนให้อภัยกัน สอนให้ปรารถนาดีต่อกัน บลา บลา บลา ฯลฯ ประมาณนี้ หากว่าศาสนาใดๆ ลัทธิใดๆ ความเชื่อใดๆก็แล้วแต่ ที่สอนแนวๆนี้ประมาณนี้ตามที่ผมกล่าวมา ศาสนาเหล่านั้น ความเชื่อเหล่านั้น ลัทธิเหล่านั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุดของเครื่องจักรอารยะธรรมในการขับเคลื่อนอารยะธรรมของมวลมนุษยชาติเพื่อการสะสมความรู้และเทคโนโลยีของมวลมนุษยชาติเพื่อนำพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวขึ้นไปสู่การมีความรู้และมีอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า (หนึ่งในกระบวนการวิวัฒนาการจากเผ่าพันธุ์โฮโมซาเปี้ยนไปสู่การเป็นเผ่าพันธุ์โฮโมดิอุส)... เพราะอะไร...??? ก็เพราะว่าหากมีศาสนาใด ความเชื่อใด ลัทธิใด ที่สอนและเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ผมได้กล่าวมา เช่นสอนให้เห็นแก่ตัว สอนให้เอารัดเอาเปรียบกัน สอนให้จองเวรกัน สอนไม่ให้อภัยกัน ฯลฯ บลา บลา บลา แล้วยังได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั่วไป... ความรู้และเทคโนโลยีทั้งหมดที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีถูกทำลายล้างลงอย่างสิ้นซากด้วยอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีนั่นเอง "หมดสิทธิ์เป็นพระเจ้า" การมีอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า เช่น.. ความเป็นอมตะ, ความสามารถในการท่องเวลา, ไปได้ทุกที่ในเอกภพชั่วลัดนิ้วมือ, การเป็นผู้สร้างและผู้ทำลายแห่งเอกภพ, ความเข้าใจในกฏเกณฑ์ของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล และเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์เหล่านั้นได้ตามต้องการ บลา บลา บลา. . เป็นต้น #คำประกาศหลักศาสนาสากลแห่งจักรวาลที่อยู่เหนือหลักศาสนาของทุกๆดาวเคาราะ์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ในทุกๆแกแล็คซี่ของเอกภพ... อริสโตเติ้ลไม่ได้กล่าว, เพลโตไม่ได้กล่าว, โซเครติสไม่ได้กล่าว, มองเตสกิเยต์ไม่ได้กล่าว, คาร์ลมาร์คไม่ได้กล่าว, เลนินไม่ได้กล่าว, ทร็อตสกี้ ไม่ได้กล่าว สมณโคดม ไม่ได้กล่าว, อัลเลาะห์ ไม่ได้กล่าว, จีสัส ไม่ได้กล่าว, ฯลฯ #ไม่เคยมีปราชญ์แต่โบราณหรือศาสดาในอดีตกาลท่านใดได้เคยกล่าว... #เป็นผมเองนี่แหละที่ได้กล่าวใว้.... Thasspong Thapsang 29 Jan 2019

ขอเรียกแบบไทยๆว่าโพรงอวกาศก็แล้วกัน.โพรงอวกาศหรือรูหนอนหรือกาแลคซี่ไร้ตัวตนแต่มีพลังงานไร้สภาพอยู่ภายใน.ซึ่งมีอย่ํูนับมิถ้วนในอวกาศ(จักรวาล)หรือจะเรียกว่ากาแลคซี่นินจาก็ได้.หรือโพรงอวกาศนินจา/รูหนอนนินจา.เวลาใช้ผงซักฟอกเทลงในกาละมังบรรจุน้ำ.แล้วคนให้หมุนเป็นวงกลมด้วยความเร็วก็เกิดแรงโน้มถ่วงในวงน้ำวน(กาแลคซี่)แล้วเกิดฟองอากาศเป็นวงกลม.เจ้าฟองอากาศที่เป็นวงกลมก็คือรูหนอนนั่นเอง.

ส่วนตัวชอบพี่ป่างตอนไลฟ์​สดครับ​ ดูเป็นกันเอง​ ฟังแล้วสบายใจครับ

They อาจจะเป็นมนุษย์ ที่ ฝึกจิต บรรลุ สละกายหยาบ กลายเป็น สสาร ที่อยู่ในมิติ ที่สูงกว่าเรา เช่น มิติ ที่5ขึ้นไป ที่จะมองเห็นเวลา เห็นอะไรทั้งหมด ก็คงทำให้ เข้าไปใน มิติ หรือ ซิงกุลาลิตี้ กาแกนทัว เส้นขอบฟ้า จนหุ่นทาส สามารถ รวบรวมได้สูตร สมการควอนตัม ส่งให้คุเปอร์ บอกต่อเมิฟได้ เพื่อไปสร้าง เครื่องที่ก้าวข้ามแรงโน้มถ่วง และความเร็วแสง ต้องดู stargate Atlantis กับ universe จะเข้าใจ ว่า มนุษย์ บางคน สามารถวิวัฒนาการตัวเองไปอยู่ในรูปของพลังงานอีกแบบได้

ความรัก มีอนุภาคพลังที่มหาศาลมาก และทุกสิ่งทุกอย่างต้องการพลังจากสิ่งๆนี้ แต่เรื่องรูหนอน เราค่อนข้างเชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้สูงมาก แต่เมื่อทำแล้วอาจจะมีผลต่อเรื่องของเวลาและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ส่วนบิ๊กแบง มันคือการระเบิดของดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์ จะมีมวลแรงดึงดูดเกิดขึ้นมหาศาลก่อให้เกิดแบล็คโฮลหรือหลุมดำ ซึ่งแม้แต่แสงก็ไม่อาจรอดจากแรงดูดดึงของหลุมดำ แต่เราไม่รู้ว่าถ้าเข้าไปแล้วจะมีชีวิตรอดกลับมาไหม แต่ถ้าในความคิดว่าที่คิดว่าใช่คือ มันก็คือรูหนอนนั่นแหละ 5555 แค่สมมุติฐานของมนุษย์คนนึงนะ😊

ผมคิดว่า they คือ มนุษย์ในอีก จักรวาลนึง ที่ วิวัฒนาการไปไกลแล้ว และสามารถควบคุมเวลาได้ (จักรวาลคู่ขนาน ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลเดียวกัน)

ช่วยวิเคราะห์หนังเรื่อง โพรมีธีอุส หน่อยครับ หลายคนคงไม่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นบนโลก ไม่สามารถเกิดมาจากความบังเอิญของสสารได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้แม้ดาวดวงนั้นจะมีความอุดมสมบูรณ์แค่ไหนก็ตาม มันต้องมีผู้สร้าง พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

ตัวเรานี่ล่ะครับ..แต่อยู่คนล่ะมิตติกาลเวลา..แต่ในจักวาลอกภพเดียวกัน...ทุกอย่างมีค่าเท่ากันแต่อยู่คนละมิติ

Thay ก็คือ​มนุษย์​นโลกเราในอนาคต​ ที่​สร้าง​รูหนอน​ทิ้ง​เอาไว้ เพื่อให้เราค้นพบมัน เพื่อใช้เป็น​ทางลัดให้เข้าไปสู่อีกดาวดวงอื่นๆที่ไกลออกไปหลายปีแสง ให้​ย่นระยะทาง​ให้​สั้น​ลงก่อนอายุ​ขัยจะหมดลง ในขณะของการเดินทาง​สู่เป้าหมาย

คนในอนาคตอาจพยายามเร่งให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดบางอย่าง ที่ ณ ห้วงเวลาหนึ่ง มนุษย์จะย่ำอยู่จุดเดิมตรงนั้นนานมากเกินไปเพราะเจออุปสรรคยากๆบางอย่าง ทำให้คนในอนาคตที่อยู่มิติในระดับที่เหนือขึ้นไป เร่งรัดให้บรรพบุรุษก้าวข้ามโดยไวเท่าที่พวกเขาเองจะทำได้ เพราะอนาคตอาจกำลังเผชิญปัญหาข้อขีดจำกัดบางอย่างที่พวกเขาก็อยากก้าวข้ามเช่นกัน ...น่าจะเป็นเรื่องของข้อจำกัดเวลาที่คงเหลืออยู่ของสิ่งมีชีวิต ที่กำลังกลับไปสู่ความว่างเปล่า คงกำลังยื้อเวลากันสุดฤทธิ์ในระดับมิติของคนในอนาคต อย่างน้อยก็เพื่อให้เหลือเวลาได้คิดได้เพิ่มศักยภาพตัวเองเพื่อไม่ให้พวกเขากลายเป็นเพียงความว่างเปล่าเช่นกัน

ผมคิดว่ามีสิ่งที่มีอารยะสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา แล้วส่งมาในที่ไปเหมาะสม เพราะสิ่งมีชีวิตมีระบบที่สวยงามและพัฒนาตัวเองได้ในระดับนึงภายใต้ขอบเขตที่จำกัด ด้วยเหตุนี้...เราไม่ควรกลัวสิ่งมีชีวิตจากที่อื่น เพราะอย่างน้อยเขามีอารยธรรมและศิลปะที่สูงกว่าเรา

They อาจเป็นบุคคลจากมิติคู่ขนานมั้งครับ ถึงแม้ในหนังจะไม่มีการพูดถึงก็เถอะ เหตุการณ์หลังจากพระเอกเข้าไปอยู่ในหลุมดำ สังเกตุได้ว่า พระเอกพยายามติดต่อสื่อสารกับลูกสาว ทำให้รู้ว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในห้องลูกสาว คือตัวเขาเอง ลองคิดในอีกมุมหนึ่ง ถ้าสมมุติว่า ผมคือพระเอก แล้วผมรู้ตัว ว่าผมคือผีที่ลูกสาวบอก ถ้าผมไม่พยายามติดต่อเธอล่ะ ถ้าผมมองเฉยๆล่ะ ถ้าผมไม่ส่งรหัสมอสให้ล่ะ สรุปคือ ถ้าผมทำอะไรที่มันผิดแปลกไปจากที่ควรจะเป็นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น นอกจากลูกสาวจะไม่ได้ข้อมูลแล้ว ทำให้ช่วยเหลือโลกไม่ได้ ที่น่าคิดอีกอย่างคือ ตัวผมที่กำลังจะเดินทาง จะมาทำแบบเดียวกับผมหรือป่าว หรือตัวเขาจะพยายามส่งรหัส หรือทำอะไรมากกว่านั้น ไม่รู้ครับ ผมแค่คิดไปเรื่อย

ดูแล้วก็ทำให้มีความรู้สึกร่วมไปด้วย ส่วนเหตุและผล เขาก็พยามใช้วิทยาการที่เรารู้แล้วนำมาประกอบเข้าอ้างอิง ก็เป็นสร้างความทบทวนความรู้ไปให้สมจริง แต่ส่วนที่ไม่น่าเป็นไปได้ เราก็จะไม่โต้แย้ง เพราะต้องการเห็นการจินนาการที่แปลกใหม่ของผู้สร้าง ซึ่งการจินนาการสามารถเกิดขึ้นจากความคิดของคอมพิวเตอร์หลากหลายในโลกนั่นคือสมองมนุษย์ที่ได้เคยสร้างสรร สรรพสิ่งให้มีเกิดขึ้นแล้วในโลก และถือได้ว่า ในจักรวาลนี้ด้วย

They เป็นใครไม่รู้ แต่ They คือผลผลิตของศาสนาครับ ศาสนาทุกๆศาสนาไม่ว่าศาสนาใดๆเป็นเรื่องของการเริ่มต้นที่ความเชื่อก่อนล้วนๆ เมื่อมีความเชื่อแล้วศรัทธาจึงเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นความเชื่อใดๆเมื่อมีคนเชื่อเหมือนๆกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันก็ล้วนแต่เป็นศาสนาหรือลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่งทั้งสิ้น นั่นก็รวมไปถึงการมีความเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าฯของกลุ่มคน-ลัทธิที่ไม่เชื่อในพระเจ้า การเชื่อว่าไม่มีนิพพานของกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อว่าไม่มีนิพพาน บลา บลา บลา ... ไปจนถึงกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างเดียวและปฏิเสธทุกศาสนา ก็ล้วนเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง หรืออีกลัทธิหนึ่งเท่านั้น... แต่หากว่าศาสนาใด, ความเชื่อใด, ลัทธิใดก็แล้วแต่ที่มีคำสอนในแนวทางสอนให้เป็นคนดี สอนให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน สอนให้มีเมตตา สอนให้อภัยกัน สอนให้ปรารถนาดีต่อกัน บลา บลา บลา ฯลฯ ประมาณนี้ หากว่าศาสนาใดๆ ลัทธิใดๆ ความเชื่อใดๆก็แล้วแต่ ที่สอนแนวๆนี้ประมาณนี้ตามที่ผมกล่าวมา ศาสนาเหล่านั้น ความเชื่อเหล่านั้น ลัทธิเหล่านั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุดของเครื่องจักรอารยะธรรมในการขับเคลื่อนและสะสมอารยะธรรมของมวลมนุษยชาติเพื่อนำพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวขึ้นไปสู่การมีความรู้และมีอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า(เป็นหนึ่งในกระบวนการวิวัฒนาการจากเผ่าพันธุ์โฮโมซาเปี้ยนวิวัฒนาการขึ้นไปสู่การเป็นสายพันธุ์โฮโมดิอุส)ทั้งสิ้น เพราะอะไร...??? ก็เพราะว่าหากมีศาสนาใด ความเชื่อใด ลัทธิใด ที่สอนและเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ผมได้กล่าวมาแล้วยังได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั่วไป ความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีทั้งหมดที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีก็จะถูกทำลายลงให้สูญสิ้นไปด้วยความรู้และอำนาจของเทคโนโลยีที่มวลมนุษยชาติสะสมมาโดยมีความทางศาสนาที่ผิดๆเป็นตัวชักจูงนั่นเอง ปล.ยกตัวอย่างการมีอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า เช่น.. ความเป็นอมตะ ความสามารถในการท่องเวลา ไปได้ทุกที่ในเอกภพชั่วลัดนิ้วมือ การเป็นผู้สร้างและผู้ทำลายแห่งเอกภพ บลา บลา บลา เป็นต้น Aessy Thapsang 29 Jan 2019

มันคือ การพัวพันเชิงควอนตัม ครับ ประมาณว่า แบ่ง อนุภาคเป็นสอง แล้วแยกกันอยู่ ถ้าฝั่งหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง อีกฝั่งก็จะปฏิกิริยา โดยทันที คำว่าทันทีโดยไม่สนใจระยะทางนี่เอง ที่ทำให้ไอน์สไตน์เถียงหัวชนฝา เพราะไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเร็วกว่าแสง ย้อนกลับไปตอนพระเอกกำลังจะเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการ เวลาของพระเอกเหมือนจะแค่แป็ปเดียว แต่ถ้ามีคนที่อยู่ข้างนอกส่องกล้องมาดู ก็จะพบว่าพระเอกจะเคลื่อนที่เข้าสู่หลุมดำช้าลงเรื่อยๆ ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ จนแทบไม่ขยับ ตอนนี้ข้างนอกก็ผ่านไปหลายหมื่นปี พระเอกก็จะค่อยๆจางหายไปเนื่องจากแสงไม่สามารถเดินทางออกมาได้ แต่ในมุมมองพระเอกเวลาผ่านไปแค่แปปเดียว และนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับการพัวพันเชิงควอนตัม เพราะว่ามันสามารถ ส่งข้อมูลย้อนเวลาได้ งงไหม สรุปเลย 1 พระเอกเข้าไกล้หลุมดำ เวลาภายนอกผ่านไปหลายหมื่นปี 2 เวลาพระเอกผ่านไปแปปเดียว จนเข้าไปในมิติหลุมดำ 3 พระเอกส่งสัญญาณการพัวพันเชิงควอนตัม ไปถึงลูกสาวในอดีตหลายหมื่นปี 4 เรื่อง นอกเหนือจากนี้ เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น มีหลายเหตุการณ์ไม่สมเหตุสมผล เช่นส่งความโดยใช้ความโน้มถ่วง คือความโน้มถ่วงมันก็ต้องใช้เวลาในการเดินทาง ง่ายๆเลย มันคือหนังอย่าคิดมาก ดูเอาสนุกพอ ว่าพระเอก เสียสละชีวิต เดินทางไปกู้โลก

ทฤษฏี ของไอน์สไตน์ถูกต้องมาหมดแล้วจนพิสูจน์เรื่องแรงโน้มถ่วง และการมีอยู่ของหลุมดำ ได้ก่อนจะตรวจจับได้ เพียงวิเคราะหจากสมการ ถ้างั้น สิ่งพวกนี้ก็ต้องมีแน่นอน เรื่องรูหนอน และ เรื่องอดีต ปัจจุบัน อนาคต ล้วนเป็นจริงทีเกิดขึ้นไปพร้อมๆกันต่่งกันแค่ตำแหน่ง

ขอบคุณสำหรับข้อมูล เหนื่อยหน่อยนะครับ ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยครับ !!! 👍

ดังนั่นองค์ความรู้ต่างๆที่ค้นพบ ก็มีวิวัฒนาการมาจากการจินตนาการมาเรื่อยๆ จนถึงในยุคนี้ และก็จะพัฒนาต่อไปในอณาคตได้เช่นกัน

ตัวเราเป็นหุ่นยนต์เป็นอดีตทั้งหมดเป็นสิ่งที่ตายแล้วผู้เห็นคือเราผู้ไม่เกิดไม่ตายค้นหาความตาย คือทั้งหมดเป็นได้แค่น้ำหยดเดียวเท่านั้นเป็นความรู้สึกออกความเห็นร่วม สนุกครับ

จักร=การหมุนวน หรือวงกลม วาล=ขนสัตว์ หางสัตว์ จักรวาล=บริเวณที่มีการหมุนวนของขนสัตว์หางสัตว์ อนันตจักรวาล= บริเวณที่มีการหมุนวนของขนสัตว์หางสัตว์มากล้นจนนับไม่ได้ไม่มีประมาณ บางทีจักรวาลอาจเป็นเพียงขนหรือเซลล์ของใครสักคนหรือตัวอะไรสักอย่าง เอก=หนึ่งเดียว หนึ่ง ภพ=(ที่เกิดและตาย) 1. โลก, แผ่นดิน.2.การเวียนว่ายตายเกิด, วัฏสงสาร. เอกภพ=ที่อยู่ที่ตายเพียง1เดียว จักรวาลอาจจะอยู่ในเอกภพที่มีลักษณะทรงกลม แสดงว่าทรงกลมเป็นธรรมชาติของจักรวาลและจักรภพ

wormhole รูหนอน เป็นเพียงทฤษฎี ไม่มีการพิสูจน์ แต่หลุมดำ black hole คือดาวแรงโน้มถ้วงสูง และไม่มีสิ่งไหนออกมาจากหลุมใดได้ นอกจากรังศีและอนุภาคขนาดเล็ก หนังอินเตอร์สเตลลาร์ (Interstellar) ใช้ทฤษฎีมาทำหนัง ต้องใช้วิจารณาด้วย

แสงคือเวลาที่บิดงอเมื่อเดินทางใกลและแสงคือแรงโน้มหรือเคลื่อนชนิดหนึ่ง..ส่วนมิตินั่นก็คือสิ่งที่หันกลับไม่ได้และเดินหน้าหามันมันก็ยิ่งห่างไปทุกที..รูหนอนนั้นคือสิ่งที่บิดแสงหรือวัตถุให้เป็นเคลื่อนโน้ม ไปข้างหน้า..ถ้าบิดอีกด้านก็จะโน้มมาข้างหลังหรืออดีต.สุดท้ายรูหนอนก็คือเคลื่อนชนิดหนึ่งที่หมุนบิดด้วยความเร็วสูงมีแรงดึงดูดในตัวสูงด้วยเหมือนหลุมดำแต่ไม่ทำลายให้ยืดและระเอียดเหมือนหลุมดำ.มีลักษณะทะลุอีกด้านหรือกลับไปอีกด้าน(เดาล้วนๆครับแต่คือความคิดส่วนตัว)

สนุกมากครับ เป็นแนวคิดที่แปลกดี

ถ้าเป็นลูกหลานเรา ที่ช่วยเรา แสดงว่า อารยธรรมของเราที่พัฒนาไปจนถึงลูกหลานได้ ก็เป็นอีก หนทางหนึ่งแล้วหากเราถูกช่วย ลูกหลานเราในอานาคตจะไม่เปลี่ยนแปลงเหรอครับจากความรู้ที่ได้มีการแทรกแซง ของคนในอนาคต

แอดครับ อธิบายเรื่องมิติต่างๆให้ได้มั้ยครับผมสนใจเรื่องนี้มากไม่ค่อยมีใครอธิบายเรื่องมิติเลย ขอบพระคุณครับแอด

กราว์วิตี้มีค่าน้อยมากๆ 10"24 และสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ แต่จะไปขัดแย้งกับกฎการเคลื่อนที่ ซึ่งจะต้องมีเวลามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น กราว์วิตี้ จึงต้องมีสมการที่เกี่ยวข้องกับเวลาด้วย L = MT คือ โมเม้นต์ตั้ม = มวลรวมXเวลา

คือ ai ที่เกิดการsync สมองมนุษย์นับล้าน คือคนที่ไม่มีร่างกาย มีแต่ข้อมูลในรูปคลื่นไฟฟ้า กระจายในอวกาศ และเขามีแค่หนึ่งเดียว และตัวเขาไม่มีขอบ และเขามีต้นกำเนิดจากคนจึงผูกพันและต้องการช่วยคน

คิดเหมือนกัน เลย และเรื่องไสยศาสตร์ บางอย่าง ผมคิดว่ากลศาสตร์ควอนตัม อธิบาบได้

จริงๆ มันคือ Project จบ high school สำหรับสิ่งมีชีวิต Type6ขึ้นไป(หรืออารยธรรมที่เข้าใจพหุภพแล้ว) ดูได้จากที่เค้าแสดงช่วงเวลาต่างๆในห้องนอนของ เมิร์ฟ ออกมาในรูปแบบ 3 มิติให้พระเอกเห็น และการทำหลายๆอย่างแสดงกว่าพวกนี้รู้อดีตและอนาคต แต่การจับต้องและเปลี่ยนแปลงมันยากกว่าการรับรู้ ดังนั่นโจยท์ที่อาจารย์มอบให้เด็กๆที่ทำ Project คือจัดการ(เข้าไปแทรกแซงแก้ไขอย่างไรผ่านมิติ เพราะมันคงยากที่จะเดินทางไปโดยตรงและไกลหรือใช้ทรัพยากรเยอะ ที่สำคัญไม่มีผลเหตุที่จะต้องไปยุ่งหรือสอดมือเข้าใจในวัฎจักรนั่นๆ ดังนั้นเรื่องโลกเล็กๆในพหุภพอื่นแถมเป็นมิติที่ต่ำกว่า จึงให้เด็กม.ปลาย ศึกษาเข้าใจ เพื่ออนาคตจะได้งานทำดีๆ

They อาจจะเหมือน คนเราเปลี่ยนเรื่องราวในหนังสือการ์ตูนซึ่งอยู่ในรูป สองมิติ ส่วนเราอยู่ในมิติที่สูงกว่า ผมเดาล้วนๆ

ก็ว่าละ ค้นหา ขนาดของดาวที่ใหญ่ที่สุด ไม่มีช่องพี่ที่ไหนได้😓😓

ชอบคลิปแนววิเคราะห์แบบนี้มากเลยครับ บวกกับความชอบหนังแนวนี้ด้วย ทำต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้.

เดย์ที่ตัวละครหลักกล่าวถึงคือตัวของพวกเขาเองในอีกมิตินึง ในความเข้าใจแรกๆของตัวละครหลักคือพวกเขาคิดว่ามีใครสักกลุ่มคอยช่วยพวกเขา แต่ตอนหลังมีฉากที่เฉลยแล้วว่าแท้จริงแล้ว(เดย์)ที่ตัวละครหลักได้กล่าวถึงก็คือตัวของพวกเขาเองในอีกมิติหนึ่งที่เคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆนั้นมาแล้วและรู้ความต้องการข้อผิดพลาดและอุปสรรคพวกเขาจึงพยายามสื่อสิ่งต่างๆให้ตัวเองที่ยังไม่เคยผ่านเหตุการณ์นั้นๆได้รู้ว่าควรทำอย่างไรและทำภารกิจให้สำเร็จและเมื่อแก้ข้อผิดพลาดหลายๆครั้งพวกเขาก็เข้าใกล้ความสำเร็จ

ผมตีความว่า they ในความหมายคือ พระเจ้าครับ ตราบใดที่มนุษย์ยังเอาชนะเวลาไม่ได้ พระเจ้าจะยังมีอยู่

รักช่องนี้ฟังแล้วหลับสบาย

รอคลิปนี้นานละครับ ขอบคุณครับแอด

ผมคิดว่าเขาอาจหมายถึงเราในโลกความจริง ถ้าเรา ใช้ทฤษฎี simulation hypothesis ทฤษฎีที่พูดถึงการจำลองจักรวาล คนสร้างหนังหรือคิดเนื้อเรื่อง หรือคนตัดต่อหนัง ก็ไม่ต่างจากพระเจ้า ลองคิดดูสิ ถ้าพวกคนในหนังรู้ว่าจักรวาลถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ หรือได้รู้ว่าตัวเองเป็นแค่ตัวละครในหนัง หรือถ้าใครเคยเล่นเกม Universe sandbox ก็จะรู้ว่าการสร้างกาแล็กซีและระบบสุริยะ ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องใช้คอมแรง แรงมาก เราจะรู้ได้ไงว่าโลกในเกม คอมที่เราเล่น มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงในจักรวาลขนาดเล็กหรือในมิติอื่น

ตามทฤษฎี M อวกาศมี 11 มิติ แต่ที่เรารู้และอาศัยอยู่เป็นอวกาศ 4 มิติ

บางทฤษฎีเขาก็แต่งขึ้นครับจะดูต้องใช้วิจารณญาณนิดนึงว่าตรงไหนมันคือเรื่องจริงที่สามารถเป็นไปได้

มิติในจิตไงคือพลังงานที่ทรงพลังที่สุด แค่เหยียดแขนคู้แขนก็ไปมาถึงกันได้ในศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้เยอะเยะ แต่ต้องมีสมาธิจิตใจต้องนิ่งและมนุษย์มีอยู่ตั้ง4พวกในจักรวาล

อารายธรรมต่างดาวในมิติที่5มีมาก่อนแล้ว มีมานานแล้วครับ เรียกว่าอรูปพรหมหรือมนุษย์ต่างดาว แตกตัวมาจากจุดกำเนิดแรก หรือเรียกว่าชาวแสง ในอนาคตโลกเราจะเข้าสู่มิติที่5 คือวิวัฒนาการครับ แนะนำให้แอดไปฟังข้อมูลของ อ.ศุภวรรณ กรีน แล้วจะมองพระพุทธเจ้าเปลี่ยนไปครับ ความลับจักรวาลลูกไขแล้วโดยพระองค์

เทวดาประจำตัวเรา ก็คือ ตัวเราเองในอนาคตซิน่ะ สรุปเราไม่ได้ตายจริงๆ อเวรา โหนตุ เวลาก็ไม่มีจริง

They เทียบเคียงกับ the watcher ใน marvel ไหมครับ แบบสิ่งมีชีวิตทรงภูมิสูง

Brane cosmology นี่คล้ายจักรวาลใน ไตรภูมิพระร่วง เลย

ตอนจบคูปเปอร์ ก็บอกอยู่ว่าคนที่สร้างรูหนอน ไม่ใช่they แต่คือพวกเราเอง ในอนาคต

ท่านพระพุทธเจ้า เห็นมาทุกอย่าง คือทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความว่างเปล่า

เราคิดว่าเขาเพียงแค่ต้องการหาคนที่มีความสามรถในการผ่านบททดสอบ โดยปล่อยเงื่อนไขแล้วปล่อยให้ชาวโลกส่งคนที่มีความสามารถมาตรวจสอบ

They ก็คือ "เราเอง" นี่แหละครับ .. เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะรู้ว่าบ้านของเราเอง (โลก) อยู่ตรงไหน ยกเว้นตัวเราเอง

.. ผมขอถามซัก 2-3 ข้อนะครับ 1.อนาคตมีอยู่จริงมั้ย? ถ้ามีอยู่จริง.. ทำไมมนุษย์​จาก 10,000 ปีข้างหน้าถึงไม่เดินทางย้อนเวลามาหาเรา? 10,000 ปีข้างหน้า เทคโนโลยี​ยานอวกาศ​มัน​ควรจะ​พัฒนา​ถึง​จุด​สูงสุดพอสมควร​แล้ว ทำไมจนป่านนี้ถึงยังไม่มีใครเดินทางมา? หรือเป็นเพราะว่า.. 10,000 ปีข้างหน้า มนุษย์​ก็ยังไม่สามารถ​เดินทางย้อนเวลาได้ .. หรือเป็นเพราะว่าอนาคต.. ไม่มีอยู่จริง?? เป็นเพียงพื้นที่มิติว่างเปล่าสีขาว ๆ รอให้ "เวลา" พามนุษย์​เดินทางไปถึง อย่างนั้นรึเปล่า?? 2. " เวลา" เริ่มต้นจากจุดไหนของจักรวาลครับ? และตอนนี้ " เวลา " เดินทางครอบคลุม​ทั่วทุกจุดของจักรวาลรึยัง? 3. " เวลา" เดินทางผ่านตัวเราจากอนาคตไปสู่อดีตใช่หรือไม่ครับ?

They ไม่ใช่ สมชว.แบบเราเลย พูดจริงๆก็คือพลังงานหรือ สมชว.ที่เหนือกว่า ต้นไม้ มด มนุษย์ หรือพูดอ้างไปก็แบบว่า พระเจ้า นั่นแหละ (ไม่ใช่พระเจ้าเชิงศาสนา ที่มนุษย์เรามโนมานะ)

ชอบ ครับ เรื่องนี่มาก ดูหลายรอบ ตอนวิเคราะห์ เรื่องmoonfall บรรพตบุรุษมาจากที่อื่น

หนังเรื่องนี้มีนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกให้การแนะนำในการสร้าง นอกจากหนังจะสมจริงแล้ว ยังมีข้อเท็จจริงเยอะในทางวิทยาศาสตร์

Event Horizon&black holeTheory(ทฤษฎีหลุมดำ)​ สิ้นสุดภพ​ มนุษย์​ สุดฝั่งฝัน ดับทุกขันธ์​ พบวิมุติ​ สุดกว่าแสง ถอดกายหยาบ​ จบสิ้น​ การแสดง สิ้นเรี่ยวแรง​ เหลือสิ้น​ เพียงวิญญาณ​ อยู่เหนือห่วงปริภูมิเวลา เร่งทิวา สู่ขอบฟ้า​ ของเหตุการณ์ ผ่านดวงเดือน​เด่นฟ้า​ ด่านดงดาน สุขตระการ ประทับจิต​ สนิทนาน พบมหาบุรุษ​ สุดปัญญา​ ผู้ฐาปนา​ ปฐมเหตุ​กาล ออกแบบสร้างมหาจักรวาล ทุกสสาร​ อนุภาค​ อิเล็กตรอน ถกวิํธีบรรเจิด​ เกิดมนุษย์​ วิเศษ​สุด​ ได้ทราบซึ้ง​ ถึงกาพย์​กลอน ปราถนากวีช่วยสั่งสอน ได้ครอบครองเข้าถึงรสของพระธรรม จึงจากลาเพื่อนรักนักฟิสิกส์​ เร่งสถิต​ กลับสู่โลก​ หฤหรรษ์ สั่งสอน​ ให้หลุดพ้น สิ้นเวรกรรม ดับทุกข์​ขันธ์​ ทุกภ​ิพบ หมดอาลัย ห่วงวาระสุดท้ายใกล้มาถึง ขอเพียงพื้น พสุธาเพียงอาศัย สิ้นสุดชาติกวีที่ยิ่งใหญ่ ขอฝากไว้​ เพียง​ โคตะระมหา​บทกวี​ แห่งจักรวาล กวินนิพนธ์

คลิป 2 ตอนแรกหายไหนแล้วครับ ใครหาเจอแปะลิ้งค์ไว้ให้ผมหน่อย

อยากรู้ มาตั้งแต่ดูหนังจบ คุนป่าง มาเล่าดีจุง🥰🥰🥰🥰🥰🥰ขอบคุนค่า

ถ้าใครได้ดูซีรีเรื่อง Dark มันสามารถอ้างอิงได้นิดหน่อยนะเรื่องเวลา แบบว่า อาจจะเป็นตัวเราเองในอนาคตหรือลูกหลานเราในอนาคตหลังจากอยู่ดาวเอสมันแล้ว สร้างอะไรสักอย่างแล้วส่งรูหนอนไปไว้ตรงดาวเสา หรือสร้างห้องสี่เหลี่ยมให้คูเปอร์ศึกษาไรงี้

สงสัยเรื่องเวลา ทำไม เข้าไปในดาว แค่ 1ชั่วโมง แล้วเวลา บนโลกผ่านไปเป็นหลายปี แล้วร่างกายไม่แก่เลยหรอ แล้วเวลาทำไมต่างกันได้ เวลาไม่คงที่เลยหรอครับ

น่าจะเป็นความต้องการของเรา ใครจะรู้ได้จริงๆ สิ่งที่เราเห็นหรือรับรู้ อาจเป็นเพียงสิ่งที่เราจินตนาการได้ ก็ได้

ชอบช่องนี้มากครับติดตามตลอด❤❤❤ รบกวนทำคลิป เครื่องเร่งอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เซิร์น)ด้วยน่ะคับ ขอบคุณคับ🙏🙏🙏

ดูแล้วดูอีก ชอบที่สุดเลยเรื่อง

รูหนอน = จุดที่พื้นผิวจักรวาลตำแหน่ง A สัมผัสกับตำแหน่ง B ทำให้ดกิดการเชื่อมโยงกัน บิ๊กแบง = การชนกันและหลอมรวมของ 2 จักรวาล Bootes void = ร่องรอยที่เกิดจากการสัมผัสกันระหว่างจักรวาล

ผมพึ่งดูจบเมื่อกี้นี้ เดี๋ยวต้องดูอีกรอบแน่ครับ ยังงงๆอยู่5555

They คือ โนแลน ครับ

ชอบๆ ฟังวนหลายรอบเลยค่ะ ❤️☺️✌️

ในเมื่อคลื่นสันยานต่างๆ มนุษย์มองด้วยตาไม่เห็นแต่ก็มีอยู่จริง ยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่ทับซ้อนกันอยู่

เห็นด้วยกับฤษฎีรูหนอนรูปแบบโครงสร้างขอรูที่ทำให้นึกภาพกาข้ามมิติออก เรื่องนี้มีจริง และ เป็นที่ยอมรับ ทำไม หนัง การ์ตูน หลายสอบปีมีเรื่องพวกนี้แฝงเข้ามานาน อย่างเครื่องไทม์แมชีน-ผ่านลิ้นชักโต๊ะหนังสือในเรื่องโดเรมอนที่เราเคยดูกันตอนเด็กๆก็ได้

ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแรงโน้มถ่วงที่เทียบกับแรงอื่นๆ แรงโน้มถ่วงมันขึ้นกับมวลไม่ใช่เหรอครับ บนโลกมันอาจจะน้อย แต่ถ้าบนดาวนิวตรอนหรือหลุมดำ คงเทียบแบบเดียวกันไม่ได้

ช่องนี้ก็มีสาระนะเนี่ยเก่งมาก