คุณมโนเป็นคนจริง!แกพูดว่าผม รักความถูกต้อง,ผมอยู่ความถูกต้อง!ดีและขอให้เป็นเช่นนี้ต่อไป การกราบไหว้พระมีมนทิล!ไม่ได้บุญ!ได้บาปกลับบ้าน,และยังทรยศต่อพระศาสดา!ทรยศต่อ พระธรรม!ดูหมิ่นพระศาสดา! มิน่าเล่า,คนต่างชาติ,จึงเอาพระพุทธรูปมานั่ง,เหมือนเป็นของเล่น,เพราะพอกพูนกิเลศ!ไม่ปล่อยวางดั่งคำสอน,เอาเงินสะสมที่ดิน!สะสมพวกพ้อง! เข้าข้างพระมีคดี!ถวายเงินมากมายแค่ไหน,ก็ได้บาป! หรือไม่ได้เลยอะไร!เพราะที่ตนกราบหาใช่ผู้ตั้งมั่นสะอาดศีล!

ถูกจัดฉากเก็บ เพราะผลประโยชน์ ทับซ้อน และ เชื่อมโยงเบื้องลึก หลายคน

สรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าล้วนมีพุทธจิตในตน เพราะฉะนั้นผมจึงมีความเคารพ พุทธจิตที่มีในหมู่สัตว์อย่างใม่มีที่สุดใม่มีประมาณ😁

🙏ถ้าเราไม่มีครูบาอาจารย์ดีๆ ก็คงทำให้ไม่มีคนดีๆในวันนี้(ธรรมะคือแรงบันดาลใจของเรา)🙏

ปฏิรูปศาสนาตามแบบพระพุทธเจ้า “การเอาชนะความโลภและความโกรธนั้นเป็นคุณค่าสามัญของทุกศาสนา” ถ้าเราไปศึกษาคำสอนในคัมภีร์ศาสนาต่างๆก็จะเห็นจริงตามนี้ เป็นผลให้รักผู้อื่นโดยสมบูรณ์ ส่วนผู้ร้ายตัวฉกาจสร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองมาตลอดก็พวก"เก่งแต่โกง"ต้องอย่าให้มีที่ยืน ไม่ว่าที่ไหน สงฆ์ควรอยู่ส่วนสงฆ์ถ้าอยากมีตำแหน่งก็ควรถอนตัวออกมาเป็นคนปกติใช้ชีวิตอย่างคนปกติแต่ถ้าอยากสืบทอดพระศาสนาก็ควรอยู่อย่างสงฆ์ปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัย ( ปล่อยวางสุขในโลกธรรม๘ ) ว่าด้วย กินกามเกียรติ เมื่อกุลบุตรมีศรัทธาเลื่อมใสในตถาคตอยากจะบวชเป็นภิกษุก็จงบวชเถิด เพื่อจะตัดกามเกียรติออก จะได้ไม่มีภาระให้ต้องหนัก มนุษย์ส่วนใหญ่มัววุ่นวายอยู่กับเรื่องกาม เรื่องกิน และเรื่องเกียรติ จนลืมนึกถึงสิ่งหนึ่ง ซึ่งสามารถให้ความสุขแก่ตนได้ทุกเวลา สิ่งนั้นคือ ดวงจิตที่ผ่องแผ้ว เรื่องกามเป็นเรื่องที่ต้องดิ้นรน เรื่องกินเป็นเรื่องที่ต้องแสวงหา และเรื่องเกียรติเป็นเรื่องที่ต้องแบกไว้ เมื่อมีเกียรติมากขึ้นภาระที่ต้องแบกเกียรติเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งของมนุษย์ผู้หลงตนว่าเจริญแล้ว ในหมู่ชนที่เพ่งมองแต่ความแต่เจริญทางด้านวัตถุนั้นจิตใจของเขาเร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยประสพความสงบเย็นเลยเขายินดีที่จะมอบตัวให้จมอยู่ในคาวของโลกอย่างหลับหูหลับตาเขาพากันบ่นว่าหนักและเหน็ดเหนื่อย พร้อมๆกันนั้นเขาได้แบกก้อนหินวิ่งไปบนถนนแห่งชีวิตอย่างไม่รู้จักวาง”แล้วก็ให้ศึกษาจตุตถปาราชิกแลบริโภคสองนั้นให้เข้าใจแล้ววางสุขในโลกีย์ก็จักได้ประสพสุขแท้จริงโดยไม่ต้องสงสัย พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ แม้แต่สิ่งที่จำเป็นก็ให้พึงระงับดับกิเลส โดยการให้ระงับบริโภค ๒ ประการให้เบาบางลง บริโภค ๒ นั้น คือ จีวรปัจจัยแลเสนาสนปัจจัย สองอย่างนี้ชื่อว่าบริโภคภายนอก นับเป็นอยางหนึ่ง บิณฑบาตปัจจัยแลคิลานปัจจัย สองอย่างนี้ชื่อว่าบริโภคภายใน นับเป็นอยางหนึ่ง คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผลเป็นเช่นใด? โลกมีที่สุดเพียงใด ( วางซึ่งสุขในโลกธรรม๘ )พระนิพพานก็ตั้งอยู่ในที่สุดนั้น ภูเขาแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะแรงลมฉันใด บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในนินทาและสรรเสริญ ฉันนั้น “ นั่นคือบัณฑิตมีคุณลักษณะของภูเขา คือมีความหนักแน่น มั่นคง, บัณฑิต คือผู้มีปัญญาในธรรม ผู้ได้ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม ได้ผลแห่งธรรมปฏิบัติ จิตนั้นมีคุณลักษณะเปรียบได้ดั่งภูเขาหินแท่งทึบ ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งฝ่ายชอบและฝ่ายชั่ง คือทั้งลาภ เสื่อมลาภ ยศ ความเสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ แม้ต้องเผชิญโลกธรรมทั้ง ๘ นี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าฝ่ายชอบหรือฝ่ายชัง ย่อมมีใจตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว…ภูเขาศิลาล้วน ย่อมตั้งมั่นไม่หวั่นเพราะแรงลมฉันใด ผู้ที่ทำพระนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่นไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น คนทั้งโลกมองไม่เห็นไตรลักษณ์ จึงลุ่มหลงมัวเมายินดียินร้ายหวั่นไหวในโลกธรรม ต้องตกอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดมา ผู้ที่ทำพระนิพพานให้แจ้งแล้ว ท่านมีธรรมเป็นกาย เข้าถึงพระนิพพานแล้ว พ้นการเวียนว่ายตายเกิด จึงไม่ไยดีในโลกธรรม ไม่ขุ่นมัว ไม่หลงใหล ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ซึ่งเป็นของไม่เที่ยงยังอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ปริญญาๆ หรือ ความรอบรู้ในพระพุทธศาสนานี้ คือ ความสิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ" เพราะว่า ความรู้ของมนุษย์เราน่ะ สูงสุดอยู่ที่ความสิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ เมื่อได้รู้ความสิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ นั่นแหละคือ ความรู้ที่แท้จริง หรือเรียกว่า ปริญญาๆ; ไม่ต้องรับด้วยแผ่นกระดาษ หรือมอบให้ ทุกคนทำให้ปรากฏขึ้นมาว่า มันหมดไฟแห่งราคะ หมดไฟแห่งโทสะ หมดไฟแห่งโมหะ, รู้ประจักษ์ชัดอยู่ในใจนั่นคือ ปริญญา. ปริญญาแปลว่า ความรอบรู้. ปริ แปลว่า รอบ, ญา แปลว่า รู้; ปริญญา แปลว่า รอบรู้ รู้รอบ รู้หมดจด รู้ถึงที่สุด ไม่มีอะไรที่ต้องรู้อีกต่อไป; นั่นคือ ความรู้ ว่า สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ. ขอให้ทุกคนได้รับปริญญาของพระพุทธองค์เถิด, ถ้าเป็นพุทธบริษัทแล้ว จงดิ้นรนพยายามให้ได้รับปริญญาของพระพุทธเจ้า คือ สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ; ปริญญานี้ มีไว้สำหรับทุกคน รออยู่เบื้องหน้า รออยู่เบื้องหน้า. ขอให้มีพระนิพพานเป็นที่ไป ลุถึงบรรลุถึงในเบื้องหน้าคือการรับปริญญา โดยยืนยันอีกทีหนึ่งว่า นิพพานเป็นของทุกคน เป็นของสำหรับทุกคน ขอให้ทุกคนได้บรรลุถึงวัตถุประสงค์อันนี้ โดยถือว่า พระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางของสิ่งที่เรียกว่า ชีวิต เมื่อถามว่า ชีวิตนี้จะไปไหนกันโว้ย? ก็ต้องบอกว่า ไปสู่ที่สิ้นสุดของความร้อน คือ นิพพาน มีสติปัญญารอบรู้ ดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นไปสู่ทิศทางของจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน อย่าให้โง่จนถึงกับไม่รู้ว่า เกิดมาทำไมและอะไรจะพาไป ขอให้เป็นที่แน่นอนว่า สติปัญญา จะพาไป จะพาไปสู่จุดหมายปลายทางคือความสิ้นสุดแห่งกิเลส ไปรับปริญญาของพระพุทธเจ้า คือ หมดราคะ หมดโทสะ หมดโมหะ, ลุถึงนิพพาน สิ้นสุดแห่งการว่ายเวียน

ศาสนาพุทธ มีพระพุทธเจ้าเพียงองค์เดียว คำสั่งสอนของท่าน หรือแม้แต่สิ่งที่ท่านวางกฏเกณฑ์การที่จะมาบวช หรือแม้กระทั้งลูกศิษย์ที่จะนำคำของท่านออกไปเผยแพร่ แก่คนทั่วไป น่าจะเป็นแบบเดียวกันหมด สมัยที่พระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยบู่ไม่ทราบว่าศาสนาพุทธมีหลายสายหรือเปล่าและแต่ละสายพระพุทธเจ้าท่านเป็นคนจัดการแบ่งเองไหม เพราะแต่ละสายมักจะปฏิบัติไม่ค่อยจะเหมือนกัน แล้วอย่างนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าของแท้จริงๆนั้นคืออะไร แสดงว่าต้องมีสายหนึ่งสายใดที่ละเมิดต่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มาตั้งกฏเกณฑ์เป็นของตัวเอง แต่ยังอิงอยู่กับคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ อย่าบอกนะครับว่าต้องประยุกต์ไปตามสมัย ถ้าเราไม่รักษาของแท้ แล้วเราจะเจอของแท้ได้ที่ไหนเล่าครับ ทุกวันนี้เราเจอแต่ของเทียมเป็นส่วนมาก มันถึงไดเสื่อมลงไปเรื่อยๆ ถ้าคนมีหน้าที่ดูแลไม่รักษาอีกหน่อยก็หาของจริงไม่เจอแน่นอนครับ เพราะมีแต่คำว่าต้องทันโลก คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอมตะครับไม่มีวันล้าหลังโลก มีแต่พวกที่มันละกิเลศตัวเองไม่ได้ถึงชอบพูดต้องทันโลกเอามาแอบอ้างเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

ฟังเรื้องนี้แล้วหลายคนอาจจะบอกว่าศาสนาพุทธของเราเสื่อม ตามที่ผู้จัดรายการต้องการให้คิด แต่ถ้าตั้งใจฟังให้ดี ไม่มีอะไรเกี่ยวกับศาสนาหรือคำสอนของพระพุทธเจ้าเลย ทั้งหลายทั้งปวง ตัวบุคคลล่วนๆ ไม่เกียวศาสนา

...ไม่น่าถามว่า...เพราะอะไร..เพราะกิเลสอย่างไรเล่า....ถ้าบวชแล้ว...ต่างก็ตั้งหน้าที่จะห้ำหั่นกิเลส...ไม่ว่าจะเป็นกิเลสประเภทใดก็ตาม...โผล่มาฆ่าทิ้งหมด...แล้วจะมีปัญหาอะไร...ก็ร่มเย็นกันทั่วหน้า...

ควรปฏิวัติวงการสงฆ์โดยด่วน อย่าให้คนหยิบมือเดียมีอำนาจถาวร เงินวัดควรมีกฏหมายควบคุม เอาเงินมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคม

ขอตำแหน่งเด็กวัดพอ

ท่านเจ้าคุณเป็นโรคscezoprenia ครับ ใด้ยินเสียงบอกให้ทำตามเสียงบอกครับ คุณหมอมโนน่าจะทราบครับ

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คนดีตายผู้คนร้องไห้อาลัยเสียดาย คนชั่วตายมีแต่คนสมน้ำหน้า

คนๆนี้ .. เชื่อถือได้แค่ไหน เรื่องของพระ ทำไมถึงมาถามโยม "I don't under stand ..... โน้ววววว"

อะไรพูดข้อมูลผิดเพี้ยน 3 สมเด็จที่เรียนมาด้วยกัน สมเด็จเกี่ยว นิยม ช่วง ต่างหาก

จอมเนรคุณแห่งรัตนโกสินทร์

ปล่อยให้พระยุ่งกับเงิน.... พระพุทธเจ้าท่านชี้เงินเหมือนงูพิษ​ พระไม่เห็นเชื่อกันเลย

เนื่องจากการบวช ไม่ได้ตั้งใจลดละกามคุณ๕ โลกธรรม๘ และโลกอัตตาตัวตน ที่พระพุทธเจ้าท่านหมาย แต่กลับไปเพิ่มพอกพูน ในที่สุดจึงต้องมีจุดจบเข่นนี้

พิธีกรจะถามยํ้าอะไรนักหนาฟังแล้วไม่ลื่นไหลเลย

เรื้องวัดสะเกษ ก็เหมือน เรื้อง ทัตตชีโว&มโน ทำไมไม่อธิบายแบบนี้จะได้เข้าใจง่าย คือศึกชิงตำแหน่ง

ยมบาลบอกยิ้มเลยครับแบบนี้ ไม่เหนื่อยตามตัวมารับกรรม พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสเอาไว้ว่า การฆ่าตัวตายเป็นกรรมหนัก คนเราหนีอะไรหนีใด้ แต่หนีเวรกรรมที่ตนก่อไม่ใด้ ยิ่งหนี ก็ยิ่งเจอเร็วมากกว่าเดิม สิ่งเดียวที่จะหยุดกรรมใด้ คือการหมั่นสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อมาผลักเวรกรรมให้มันห่างออกไป เวรกรรมไม่สามารถลบล้างใด้ แต่เราหยุดสร้างกรรมใด้

ผา.าา.แม้.อ.ส.สส.อด.ไว..แล้ว คิด.กรัว..อคคค

เป็นโรค scezppainia สกดไม่ถูกครับ

ลาภยศนี้ละวิบากกรรมไช่มโนผิดหวังมโนเลยแฉพอดีเหล็กกำลังรอ้นเข้าทางนโมพอดีเลยตีใหญ่เลย

พระก็มรณะภาพไปแล้ว เอาฝ่ายตรงข้ามาวิจารณ์ ไม่แฟร์เลย ดนัยถามว่าตนจะตกนรกมั้ย ? แง๋แซะอยู่แล้น ให้ดูคู่สนทนาดิ อย่างงี้เค้าเรียก..."นรกกินหัว"งั้ย... ดูไว้ 555

วัดธรรมกายประสพความสำเร็จในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ

เชียร์พวกเดียวกัน

มโนสมชื่อจริงๆ

อืมมม....

พระสมัยนี้บางองไหว้ไม่ลงอ่ะ (บางอง)

ความลับของนายมโน ที่คนทั่วไปยังไม่ทราบ นายมโน คนนี้เป็นคนพูดเก่ง ลีลาการพูดไม่ธรรมดา สามารถพูดขาวให้เป็นดำ หรือพูดดำให้เป็นขาวได้อย่างสบายๆ ถ้าสังเกตุดู สิ่งที่แกพูดกล่าวหาวัดพระธรรมกายต่างๆนั้น ไม่มีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง มีเพียงความที่เคยเป็นพระวัดพระธรรมกายมาก่อนเท่านั้น และคนที่ไม่ทราบเบื้องหลังแห่งความเนรคุณและพฤติกรรมสุดแสบของนายคนนี้ พอฟังแล้วก็จะให้ความเชื่อถือ ถ้าไปถามคนวัดพระธรรมกายรุ่นเก่าๆ ทั้งหลาย จะสามารถบรรยายความเลวของบุคคลผุ้นี้ได้มากมาย หรือจะไปลองสอบถามเจ้าอาวาสวัดวัดนาคปรก และ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม องค์ปัจจุบันทั้งสองดูก็ได้ว่า เจ้าหมอนี่เลวระยำแค่ไหน เพราะหลังจากโดนไล่ออกจากวัดพระธรรมกายแล้ว ได้ไปขออาศัยอยู่วัดราชโอรสาราม ก็ไปสร้างความปั่นป่วน วุ่นวายในวัด จนถูกขับไล่ออกจากวัด หลังจากนั้นก็ไปขออาศัยอยู่ที่วัดนาคปรก ก็มีพฤติกรรมสุดแสบเหมือนเดิม ก็ถูกไล่ออกจากวัดนาคปรกอีก หาวัดอยู่ไม่ได้ ไม่มีวัดไหนกล้ารับไว้ วัดต่างๆทราบถึงพฤติกรรมเป็นอย่างดี ในที่สุดก็ต้องลาสิกขา ออกมาเล่นการเมืองแต่ก็ไปไม่รอด เนื่องจากมีนิสัยหลงตัวเองอย่างมาก ชอบโอ้อวด คิดว่าตนเองฉลาดเหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย มีอีโก้แบบสุดโต่ง มักชอบดูถูกคนอื่น เป็นคนเจ้าเล่ห์ เพราะความที่เรียนเก่ง ได้ทุนเรียนจบหมอเป็นนายแพทย์ และเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ต ประเทศอังกฤษ แถมยังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศอเมริกาอีกด้วย แต่สิ่งที่นายคนนี้ไม่เคยบอกให้ใครทราบเลย ก็คือ หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นี่แหละ ที่เป็นผู้ช่วยใช้ทุนให้เพื่อจะไม่ต้องไปทำงานใช้ทุนหลวง ทำให้ให้ได้มีโอกาสเข้ามาบวชพระที่วัดพระธรรมกาย นอกจากนั้น ท่านยังส่งเสียให้เรียนจนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลกทั้ง 2 แห่ง จนได้เป็นด๊อกเตอร์ ช่วงที่นายคนนี้จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ต ประเทศอังกฤษ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายถึงขนาดไปส่งถึงประเทศอังกฤษ เพราะท่านให้ความรักความเมตตาเอ็นดูเสมือนลูกชายคนหนึ่งของท่าน แต่สิ่งที่นายคนนี้ตอบแทนกับครูบาอาจารย์ผุ้มีพระคุณนั้น คงไม่มีมนุษย์คนใดจะสามารถทำได้เท่าแล้ว การใช้คำว่าเนรคุณสักล้านครั้งกับบุคคลผู้นี้ ก็ยังไม่เพียงพอ การกระทำของบุคคลผู้นี้น่าจะเปรียบได้กับพระเทวทัตในครั้งพุทธกาล เป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง ใครก็ตามที่กำลังคบหาหรือเอามาใช้งานหรือร่วมทำกิจกรรมใดๆกับนายคนนี้ ขอเตือนให้ระวังเป็นพิเศษ ประดุจกำลังเกี่ยวข้องกับอสรพิษที่มีพิษร้ายแรง หากวันหนึ่งปราศจากผลประโยชน์ที่ตนจะได้แล้ว จะสามารถสร้างความเสื่อมเสียหายหรือเนรคุณกับผู้มีอุปการะคุณทุกๆคนได้ทันที โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปบุญคุณโทษใดๆ ไม่เคยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ มีความคิดเห็นที่ผิดเพี้ยนรุนแรงกว่าบุคคลทั่วๆไป จัดเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิสุดโต่ง ถ้าเป็นในสมัยพุทธกาลนายคนนี้น่าจะถูกแผ่นดินสูบไปแล้ว ยังไงก็ตามด้วยกรรมที่ก่อไว้มากมายนี้ ตายไป คงมีเพียงสถานที่เดียวที่จะรองรับบุคคลคนนี้ ได้ นั่นคือ โลกันตมหานรกเท่านั้น

"ปริยัติวิบัติ" บวชเข้ามาไม่ประพฤติปฏิบัติเพื่อจะลดละกิเลสอย่างแท้จริงทำดีเฉพาะต่อหน้าญาติโยมหรือทำดีเอาใจผู้ใหญ่เพื่อหวังผลแล้วก็ไปเน้นเรื่องเรียน เรียนเพื่อจะมีวุฒิบัตรเหนือผู้อื่นเพื่อจะได้มาซึ่งยศศักดิ์ เมื่อมียศก็หลงในอำนาจที่ตนมี แต่วันหนึ่งยศอำนาจที่ตนมีได้เสื่อมลงไป ก็ยอมรับทำใจไม่ได้เพราะไม่เคยปฏิบัติฝึกจิตไม่รู้จักควบคุมหรือเอาชนะใจตน จึงส่งผลให้กิเลสภายในจิตใจฟุ้งสั่งการให้สังขารทำในสิ่งที่ไม่สมควรหรือผิดวินัยผิดศีลธรรมในที่สุด! "สาธุ ปาเปนะ ทุกกะรัง" ความดี อันคนชั่วทำได้ยาก.

รู้ไม่จริง...

🤪

ตกนรกคนมากมายครับ

ยศช้างขุนนางพระ.5555555

เกิดมาแล้วพบเจอพระแล้ว โชคดีทำให้เราเลือก ได้ว่าจะเอาบุญหรือบาปไปใช้ รู้กันเอาเองตอนตาย แล้วไม่ต้องกลับมาบอกนะกลัวผี

เรียน ชาวพุทธ ขอพวกท่านใจเย็นๆ และทบทวนข้อความที่ข้าพเจ้า เขียน ว่าจริงหรือเท็จ? ๑ สมมติว่า มีการเวียนว่ายตายเกิด อัลเลาะห์จะให้ใครเกิด ผู้นั้นก็ต้องเกิด ยังไงคนที่อ้างว่าตนเองนิพพานแล้วนั้นก็ต้องเกิดอีก ๒ สมมติว่า มีนิพพาน พวกเทวดาก็ควรจะนิพพานก่อนมนุษย์ เพราะพวกเขามีคุณธรรม มีศีลธรรมมากกว่ามนุษย์ ๓ เป็นแค่มนุษย์ควรรู้จักที่ต่ำที่สูง แค่นั่งสมาธิได้ แล้วมาอวดเก่ง อวดดี ยกตนว่าดีเลิศประเสริฐสุด ว่าตนเองดีเลิศกว่าเทวดานั้น มันไม่สมควรเลย ๔ เมื่อไม่อยากเกิด ไม่อยากมีตัวตน ณ ที่แห่งใดเลย เมื่อรับโทษในนรกหมดแล้ว อัลเลาะห์ก็จะให้ผู้นั้นไม่มีตัวตนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนิพพาน ๕ แต่ถ้าให้เรา มีตัวตนแบบเทวดา มีสุขนิัรันดร นั่นมันไม่ดีกว่านิพพานหรือ? ๖ แท้จริงนิพพานคือฝันลมแล้งๆมโนขึ้นเองของคนอินเดียชื่อ นาย สิทธัตถะ ๗ ผู้ที่ให้เกิดให้ตายคืออัลเลาะห์พระผู้สูงสุด พระผู้ควบคุมสรรพสิ่ง ๘ อัลเลาะห์คือ พระผู้เป็นเจ้าของเราที่แท้จริง เราอย่าตั้งผู้ใดในหมู่มนุษย์ขึ้นเทียบเคียง

หน้าตาพิธีกร กวนตีนมาก ขอบอก

ศาสนาพุทธ มีพระพุทธเจ้าเพียงองค์เดียว คำสั่งสอนของท่าน หรือแม้แต่สิ่งที่ท่านวางกฏเกณฑ์การที่จะมาบวช หรือแม้กระทั้งลูกศิษย์ที่จะนำคำของท่านออกไปเผยแพร่ แก่คนทั่วไป น่าจะเป็นแบบเดียวกันหมด สมัยที่พระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยบู่ไม่ทราบว่าศาสนาพุทธมีหลายสายหรือเปล่าและแต่ละสายพระพุทธเจ้าท่านเป็นคนจัดการแบ่งเองไหม เพราะแต่ละสายมักจะปฏิบัติไม่ค่อยจะเหมือนกัน แล้วอย่างนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าของแท้จริงๆนั้นคืออะไร แสดงว่าต้องมีสายหนึ่งสายใดที่ละเมิดต่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มาตั้งกฏเกณฑ์เป็นของตัวเอง แต่ยังอิงอยู่กับคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ อย่าบอกนะครับว่าต้องประยุกต์ไปตามสมัย ถ้าเราไม่รักษาของแท้ แล้วเราจะเจอของแท้ได้ที่ไหนเล่าครับ ทุกวันนี้เราเจอแต่ของเทียมเป็นส่วนมาก มันถึงไดเสื่อมลงไปเรื่อยๆ ถ้าคนมีหน้าที่ดูแลไม่รักษาอีกหน่อยก็หาของจริงไม่เจอแน่นอนครับ เพราะมีแต่คำว่าต้องทันโลก คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอมตะครับไม่มีวันล้าหลังโลก มีแต่พวกที่มันละกิเลศตัวเองไม่ได้ถึงชอบพูดต้องทันโลกเอามาแอบอ้างเพื่อประโยชน์ของตัวเอง