จริงค่ะ แค่รถโดยสารในจังหวัดตัวเองสภาพดีๆยังหาไม่ได้แล้วแถมบางคันก็สภาพตั้งแต่แม่เรียนมหาลัยจนเราจะเข้าปี1สภาพก็ยังเหมือนเดิมหรือบางครั้งก็ไม่มีรถเดินสายที่ต้องการเลยค่ะ

จริงครับ ทุกคนต้องมีมอไซคนละคันอะ ไม่งั้นไม่ได้จริงๆ รถโดยสารแทบไม่มีให้ใช้ บางที่มีวันละสองเที่ยว

จริงครับ ผมคนต่างจังหวัด จะเข้ากรุงเทพแต่ละที ไปกลับต่อรถเสียเป็นร้อยๆเลยครับ

ผมอยู่นราธิวาส จะเดินทางแค่ไปหาดใหญ่ ต้องใช้ขนส่งสาธารณะถึง 3 ต่อ

รถทัวร์ครับ

รถไฟฟ้า จบ หมดปัญหา มลูพิษ

ข้อเสียน่าจะเป็นมูลค่าการผลิตอุปโภคบริโภคอุตสาหกรรมรถยนต์ และ น้ำมันมีการบริโภคน้อยลงส่งผลโดยตรงต่อทั้งบริษัทข้ามชาติ และ รัฐวิสาหกิจในไทย แล้วก็พวก SME,ร้านซ่อมรถต่างๆ แต่แน่นอนการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลกระทบต่อทั้งสองด้าน ในความคิดผมสนับสนุนให้ใช้รถสาธารณะนะ แต่ก่อนอื่นก็อยากให้ modernise ระบบขนส่งให้ทันสมัยขึ้น และ มีความปลอดภัย

@@maidenhunter8363 ในอนาคตเราว่ารถพลังงานเชื้อเพลิงจะลดลงและรถพลังงานไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้น บริษัทน้ำมันก็ต้องวางแผนปรับตัวกันไป

ใช้รถไฟฟ้าค่ะ จบเลย ก็รู้อยู่ว่ารถที่ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง มันสร้างมลพิษ ทุกวันนี้เราต้องการลดโลกร้อน ลดฝุ่น pm2.5 การใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูงจึงตอบโจทย์ที่สุด

คือมันทำไม่ได้ เพราะคนไทยเห็นแก่ตีวครับ

เขาไม่สนใจเราเลยอ่ะ😢

แต่ภาษีที่เก็บได้ส่วนมากมาจากคนรวย

จริง รัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชนเลยย

@@jirayootch4286 คนจนก็จ่าย คนปานกลางก็จ่าย ไม่เกี่ยวหลอกจะได้เยอะได้น้อยจากใคร

เราเหมือนของตาย มีหน้าที่จ่ายภาษีไปวันๆ ไม่จ่ายก็ไม่ได้ เพราะอยู่ในทุกอย่างที่กินใช้ แต่ร้าบาลใช้ภาษีเราทำอะไร ตรวจสอบอะไรก็ไม่ได้ สงสัยอะไรก็ไม่ได้ บ้าบออ สิ่งพื้นๆที่สำคัญอย่างการเดินทางของประชาชน แต่กลับเพิกเฉยกับราคาค่าเดินทางรถสาธารณะ ส่วนรถสาธารณะที่ฟรี ก็เหมือนเศษเหล็กวิ่งได้ ความปลอดภัยก็ไม่มี

ใช่คือเน่ามากๆอะ ประเทศมันต้องพัฒนาจากภาษีกูได้แล้วอะไม่ใช่ เอกชน

หน้าที่ของ รัฐบาล คือการดูแล ประชาชน แต่ไทยมันสนแค่คนรสย

@III Random pro Democracy III แต่การจะได้เป็นจริงๆคงยากแหละ เพราะระบบมันขัดต่อผลประโยชน์ของนายทุนกับคนมีอิทธิพล

ปกติครับ อยากได้เยอะแบบประเทศที่ค่ารถถูกคุณก็ต้องเสียภาษีเยอะ จะเอาประเทศที่คนเสียภาษีแต่ขี้ประติว มาเทียบกับประเทศที่เก็บเยอะไม่ได้หรอก ยิ่งเสียน้อยรัฐก็ต้องช่วยตัวเองมากเท่านั้น คนเสีย tax แต่ 10% จะเอาสวัสดิแบบสแกดิเนียเวเลยก็ไม่ใช่

มาแล้ว1

ถ้าคิดตามความหนาแน่นประชากรกรุงเทพก็เยอะสุดนะ

@@ddayblue แต่ถ้ามองโดยภาพรวมก็คือมันเหมือนเอาไปพัฒนาแค่กรุงเทพไงครับ

โอเคในกรณีน่าคุยเหมือนกันนะคะ ที่จริงแล้วการขนส่งมวลชนควรกระจายและมีให้ทั่วประเทศใช่มั้ยล่ะคะ อย่างญี่ปุ่นก็มีชิงกันเซนที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศใช่มั้ยล่ะคะ ไม่ใช่แต่ให้อยู่ในเมืองหลวง นั่นสิคะทำในพวกรถไฟฟ้าต้องมีแค่ในกรุงเทพ จริงๆปัญหานี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง มีปัญหามาเป็นทอดๆ

@@imz2728 ครับ

@@playmyaugust ตอนนี้ก็มีการพยายามทำรถไฟฟ้า ทำขนส่งเชื่อมโยงไปต่างจังหวัดทั้งรถไฟรางคู่ต่างๆ แต่ผมว่า สถานที่ราชการสำคัญ ต่างๆก็ควรกระจายออกไป ถ้าจะให้ไม่กระจุกที่กรุงเทพ

แล้วทำไมถึงได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำละ

มองไม่เห็นอนาคตตัวเองในประเทศนี้เลยอะ รอเรียนจบจะไปอยู่ตปทละ

@@data2517 เซมค่ะ

หยุดแบมือ รอแต่รัฐบาล ละลงมือทำครับ พึ่งตัวเองดีสุด

@@KKK-gx1qx ทุกวันนี้ก็พึ่งตัวเองอยู่แล้วพูดอะไรตลก รบ.มันช่วยห่าอะไรได้ ประชาชนช่วยกันเองตลอด

เช่นกันค่ะ เฮ้อ อยากไปให้ได้เร็วๆเหมือนกันค่ะ

ใช่ครัย

ครับ

เหรอ ผมเฉยๆอะ เราไม่ได้สิ้นหวังอะไรเลยอะ 😑

@@crystallizem3197 แปลกมากค่ะ ประเทศเป็นขนาดนี้แล้ว ยังรู้สึกเฉยๆได้อีก55555

@@crystallizem3197 แล้วแต่ครับ

ใกล้เคียงสุดก็ประเทศลาว

เธอพูดภาษาของพระเจ้าอยู่ป่ะ?

@@angiestheangel.9528 เดี๋ยวแปลเป็นภาษามนุษย์เดินดินให้ฟังผมเป็นคนธรรมดาผมเห็นวิดีโอของพูดผมก็เข้ามาดูละผมก็ชอบเพลงแนวโลไฟที่เอามาเป็นแบ็คกราวด์ด้วยครับฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายดี

อเมริกาก้เป็นแบบนี้ไม่ต่างจากเราหรอกครับ เค้ายังเรียกร้องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำกันอยู่เลย ก้งี้แหล่ะครับ ประเทศที่นายทุนซื้อนักการเมืองได้ กฎหมาย/นโยบายอะไรเค้าก้เอื้อนายทุนที่จ่ายเค้าสิ ไม่สนชนชั้นกลาง/ชนชั้นแรงงานหรอก

@@tannietf2 ถ้าบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่นายทุนซื้อนักการเมืองได้ จริงๆทุกประเทศ ทุนกับการเมืองก็ตอบแทนซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วก็ตาม แต่ของเขาไม่ต้องทำแบบแอบๆ สามารถเปิดเผยได้เลยว่าสนับสนุนพรรคไหน เพียงแต่มีระบบดีที่กันไม่ให้ทหารมีอิทธิพล ไม่มีระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้ศาลต้องเอียงข้าง และมีวัฒนธรรมและกฎหมายที่ปล่อยให้สื่อและประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความรู้สึกแสดงออกได้เต็มที่ ถ้านโยบายไม่อิงกับประชาชนเลย ครั้งหน้าก็จะไม่ถูกเลือก ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำอเมริกาก็ยังเรียกร้องเพิ่ม ผมว่ามันเป็นอีกประเด็น ที่ไม่ว่าที่ไหนๆ คนก็ต้องการค่าแรงขึ้นต่ำเพิ่ม ไม่ได้หมายความว่าประเทศเราก็เหมือนๆกับอเมริกา มันต่างกันมากนะครับ ถ้าคนในไทยทำงานแบบคนอเมริกันในอเมริกา คนไทยส่วนใหญ่คงอดตายกันหมด เพราะชนชั้นแรงงานของเราทำงานหนักมาก แต่ได้ค่าแรงน้อย กลับกัน คนไทยที่ไปทำงานที่อเมริกาโดยทำแบบหนักเอาเบาสู้ เหมือนตอนที่ทำงานในไทย กลายเป็นมีฐานะขึ้นมาในอเมริกา โดยที่ใช้แรงงานปกติ ไม่ต้องมีความสามารถพิเศษอะไร พนักงานเสิร์ฟทำงานเสิร์ฟไม่กี่ปี เก็บเงินเป็นเจ้าของร้านได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นเมืองไทย พนักงานเสิร์ฟไม่มีทางเก็บเงินจากงานเสิร์ฟเพื่อเป็นเจ้าของร้านได้ จะเปลี่ยนรถทุก 1-2 ปีก็เป็นเรื่องปกติ เพราะค่าแรงสูง แต่รถถูก ไข่ไก่และวัตถุดิบอาหารกลับราคาถูกกว่าไทย ชนชั้นแรงงาน ทำงานทั่วไป ก็สามารถขับเบนซ์หรือบีเอ็มได้ คนยากจนหรือ homeless ก็มักจะเป็นคนที่ขี้เกียจมากหรือมีปัญหาทางจิตเท่านั้น กับเลือกงาน หรืออยู่ในรัฐที่บริหารจัดการแย่จริงๆ ซึ่งการย้ายไปรัฐอื่นที่มีกฎหมายดีกว่า ก็เป็นเรื่องปกติ มี 50 รัฐให้เลือก เมื่อกลับมามองบ้านเรา เราไม่มีทางเลือก ไม่ได้สบายแบบนั้นเลยนะครับ

@@AUSCarLover เรื่องทหารไม่ยุ่งการเมืองกับประชาชนวิจารณ์รัฐบาลได้อันนั้นผมเข้าใจ แต่ที่ว่าถ้านโยบายไม่อิงปชชแล้วครั้งหน้าไม่ถูกเลือกนี่ ผมเห็นทุกครั้งมันก็มีแค่ republican กะ democrat นั่นแหล่ะครับ เหมือนคนบางกลุ่มเค้าก็เลือกเพราะเชียร์พรรคนู้นพรรคนี้แบบไม่ลืมหูลืมตา แค่เลือกเพราะเป็นพรรคดัง/เก่าแก่ ส่วนเรื่องค่าแรง ผมว่าอาหารเค้าก้ราคาโอเคอยู่แหล่ะ แต่ว่าหนักพวกค่าเช่าบ้าน/apartment กะค่ารักษาพยาบาล/ประกันสุขภาพที่แพงหูฉี่ ทั้งๆที่เป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนควรจะเข้าถึงได้ด้วยซ้ำ อเมริกามีคน homeless เยอะอยู่นะครับ แล้วก็ยากับค่ารักษาพยาบาลก็แพงมากๆเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่พัฒนาแล้ว ปัญหาความเหลื่อมล้ำในอเมริกาก็เพิ่มขึ้นๆ ทุกปีอ่ะครับ ที่จะสื่อก็คืออเมริกาที่ดูเจริญแล้วเค้าก็มีปัญหาอยู่ไม่น้อยเหมือนกันล่ะ ผมว่าถ้าจะดูอันที่ดีๆหน่อย ดูแถบยุโรปตะวันตกกับสแกนดิเนเวียน่าจะดีกว่าครับ

@@tannietf2 จำนวนพรรคแบ่งออกตามลักษณะนิสัยของคนแบบนี้ถูกต้องแล้วครับ (อนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยม นิสัยหลักๆของคนเรามีแค่นี้) เราชินกับการเมืองไทยว่าต้องมีหลายพรรค เหมือนมีตัวเลือกเยอะแล้วดี แต่พรรคการเมืองไม่มีความเข้มแข็ง การบริหารถูกแทรกแซงจากมาเฟียประจำถิ่นได้ง่ายมาก และใครจะต้องถูกโบ้ยความผิด ก็ต้องเป็นพวกหน้าใหม่ใช่ไหมล่ะครับ ลองนึกตอนเราเข้าไปที่ทำงานใหม่ เข้าไปที่เรียนใหม่ เราต้องยอมเขาใช่ไหมครับ หลักฐานยืนยันว่าการมีสองพรรคคือเรื่องธรรมชาติ ก็คือในไทยก็มีเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงยังไงล่ะครับ การเปลี่ยนขั้วของ republican กับ democrat เป็นแต่ละยุคตามระบบเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้ประชาชนที่มีความเห็นต่างอยู่ร่วมกันได้ การแข่งนโยบายให้คนชื่นชอบเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งใจครั้งถัดไป เป็นเรื่องปกติ และต้องทำให้ได้ตามที่พูด มันเป็นเรื่องเบสิกแค่นี้ เป็นการปกครองในประเทศพัฒนาที่เรามองตามเหตุผลได้ ไม่มีเรื่องแปลกๆ ไม่มีมาเฟียคุม นี่คือข้อดีของพรรคการเมืองที่เข้มแข็งที่มาจากความต้องการของประชาชน ไม่ต้องเอาใจอำนาจพิเศษใดๆ เช่นต้องเทงบประมาณให้ทหารเพื่อให้ทหารยอมรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีปัญหาหลายๆประเทศ สมมติบ้านเรามีแค่เพื่อไทยกับประชาธิปัติ สิ่งที่ประชาธิปัติจะสู้ตามระบบให้เปลี่ยนขั้วได้โดยไม่มีปัญหา ก็คือการเอาชนะด้วยนโยบาย ที่จะทำให้คนหมู่มากชื่นชอบ ต่อสู้ด้วยนโยบายที่ดีกว่าและแข่งขันการบริหารว่าใครมีปัญหาน้อยที่สุด และระบบแบบนี้ไม่เคยทำสำเร็จในบ้านเรา และชนชั้นนำของเรานิยมโทษไปที่ประชาชน ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาเน้นแก้ไขระบบ เขาไม่ได้เน้นโทษที่ประะชาชน อเมริกาไม่ใช่ประเทศพัฒนาแล้วที่ดีที่สุด เขายังติดกับดักนายทุนในหลายๆเรื่อง เรื่องการรักษาพยาบาลคือเรื่องอันดับหนึ่ง เพราะมันคือท่อน้ำเลี้ยงของระบบการเมืองด้วย ถ้าเขาแก้ตรงนี้ได้ เขาก็จะพัฒนาได้ทัดเทียมกับประเทศพัฒนาอื่นๆ ความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เกิดขึ้นทั่วโลกส่วนหนึ่งเพราะโควิดครับ ที่ทำให้คนที่ทำมาหากินทั่วไปรายได้น้อยลง แต่คนที่เป็นเจ้าของแพล็ตฟอร์ม กับร้านรีเทลเจ้าใหญ่ ที่ยังคงอยู่รอดจากการใช้จ่ายที่ลดลงของประชาชน กลายเป็นกลุ่มที่ได้เงินเทไปตรงนั้น ประเทศที่มีปัญหาเหลื่อมล้ำน้อยก็จะมีปัญหาเหลื่อมล้ำมากขึ้น แต่ประเทศที่มีปัญหาเหลื่อมล้ำหนักอยู่แล้วอย่างบ้านเรา โควิดเป็นตัวเร่งให้ระเบิดเวลาตัวนี้ระเบิดให้พังได้เร็วขึ้น การบริหารจัดการในแต่ละรัฐ ในแต่ละพื้นที่ของอเมริกาก็เป็นตัวแปรหลัก ที่บ้านเมืองในรัฐไหนจะเสื่อมโทรมดุจประเทศด้อยพัฒนา หรือจะเจริญก้าวหน้ามาก ผู้คนร่ำรวย เพราะเขากระจายอำนาจให้ทั้ง 50 รัฐ การอพยพครั้งใหญ่ของคนจากรัฐที่การบริหารแย่ ไปยังรัฐที่มีการบริหารดีกว่าในแต่ละปีจึงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งระบบในประเทศของเขายังทำให้มีทางเลือก 50 ชอยส์ แต่ในบ้านเราไม่ใช่แบบนั้น และการมองไปที่การบริหารที่ล้มเหลวของรัฐใดรัฐหนึ่ง (จนเกิด homeless ล้น ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาคอรัปชัน) ไม่ใช่อเมริกาทั้งประเทศ และไม่สามารถบอกได้ว่า บ้านเขาก็แย่เหมือนๆกับบ้านเรา ยกเว้นต้องการมองแบบนั้นเพื่อให้ตัวเรารู้สึกสบายใจครับ ส่วนเรื่องของจำนวนปัญหา ก็ต้องเปรียบเทียบกับขนาดของประชากรด้วย เช่นสมมติ ถ้าทุกประเทศมีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นวันละเคส ถ้าอเมริกาจะมีปัญหาเกิดขึ้นวันละ 5-10 เคส แบบนี้ก็ยังถือว่าปกติ เพราะเปรียบเทียบกับอัตราส่วนต่อจำนวนประชากรยังถือว่าอยู่ในระดับปกติ อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่า อเมริกาคือประเทศพัฒนาแล้ว ที่อันดับความน่าอยู่โดยเฉลี่ยทั้งประเทศ อยู่ในระดับกลางๆลงมาข้างล่าง จากรัฐบางรัฐที่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ การคอรัปชัน ปัญหาพวกมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลต่างๆ ยาเสพติด นั่นเอง

เจ้าสัวรวยขึ้นปีนึงเป็นหมื่นๆล้านตั้งแต่ไอ้รัฐบาลเฮงซวยนี้อยู่แต่ภาษีและของกินของใช้กลับแพงขึ้นทุกอย่างกลับกันค่าแรงเท่าเดิมเพิ่มขึ้นแค่ปีล่ะไม่ถึง10บาทเวรกรรม

อย่างนี้คนจนยิ่งขี้เกียจสิจะรอของฟรีอย่างเดียว

คนรวยที่ไหนเขาอยากเสียภาษีให้คนรายได้น้อยได้สบายว่ะ ตรรกะในหัวมีไหม

They're Disgusting human being

ไม่ใช่แค่นั้น เศรษฐกิจจะสะพัดขึ้นด้วย คนจะอยากเดินทางกันมากขึ้น เงินส่วนค่าเดินทางเดิม จะถูกนำมาใช้จับจ่าบมากขึ้นด้วย

นักการเมืองขี้โกงมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต มีหน่วยงานคอยตรวจสอบ แต่ประชาชนขี้โกงหนีภาษี เลวไม่ต่างจากนักการเมืองขี้โกง โทษแค่ปรับกับเก็บย้อนหลัง ประเทศจะพัฒนาสะท้อนจากคุณภาพของประชาชน ไม่ใช่คุณภาพของรัฐบาลอย่างเดียว

ภาษี VAT ก็ต้องเสียทุกคนอยู่แล้วนะ

@@pataradit พวกพม่าลาวที่เข้ามาอยู่ไทยก็เสียVAT ด้วยเหมือนกันคับ ต่างกันยังไง

​@@earthtopeterparker3764 Vat อยู่ในทุกอย่าง แค่ซื้อของในราคาของก็มีVatแล้ว

@@sololotto5316 Vat คนจ่ายคือผู้ประกอบการ ตรรกะมรึงเพี้ยนแล้ว แรงงานต่างด้าวพม่าก็เสีย vat เหมือนกันไม่เห็นมาเคลมล่ะ