ตำนานเทวนิยาย เรื่องนารายณ์สิบปาง “ปางทุลกีวตาร” @เหมันต์สุขศรี สุนทรีย์สังคีต ครั้งที่ ๔
เนื้อเรื่องการแสดง 'ปางทุลกีวตาร'
ในไตรดายุคหนึ่ง ยังมีพรหมองค์หนึ่งนามว่า "อังคุฐพรหม" เห็นพระพรหมธาดา
ทรงหงส์ทองเป็นพาหนะ ก็มีจิตริษยาจึงสำแดงฤทธิ์เหาะขึ้นไปยังสุทธาวาสมหาพรหมเที่ยวย่ำยี
หมู่พรหมธรรมทั้งหลายมิให้สำรวมฌานได้เป็นสุข แม้พรหมธรรมจะช่วยกันต่อสู้ขัดขวาง
แต่ก็ไม่อาจต้านฤทธิ์อังคุฐพรหมได้ จึงหนีไปทูลพระอิศวรพระเป็นเจ้า จึงเสด็จไปยังชั้นสุทธาวาส
มหาพรหมทำสงครามต่อยุทธกับอังคุฐพรหม เมื่อได้ทีก็กระทำเทวฤทธิ์ขึ้นเหยียบบ่า
อังคุฐพรหมแล้วถอดเอากุณฑลขว้างใส่ศีรษะอสูรพรหมแตกตาย แล้วพระอิศวรก็เสด็จกลับคืน
ไปสู่พิมานไกรลาส แม้ชีวิตอังคุฐพรหมจะสูญลับแล้ว แต่ดวงจิตยังอาฆาตแค้นพระอิศวร จึงจุติ
ลงมายังโลกมนุษย์เป็นอสูรม้าชื่อ "กัณฐะกะ" มีจิตหยาบช้าและมีพลังฤทธิ์มาก เที่ยวเบียดเบียน
ตรีโลกทั้งหลายได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ด้วยจิตพยาบาทมุ่งจะล้างแค้นพระอิศวรจึงเผ่นโผน
โจนไปเขาไกรลาส ครั้นพระอิศวรทราบข่าวจึงมีเทวะโองการให้จิตุบทและจิตุบาท ไปเชิญ
พระนารายณ์จากเกษียรสมุทรมายังเขาไกรลาส แล้วมีเทวะโองการให้อวตารเป็นมนุษย์หนุ่ม
รูปงามนามว่า "ทุลกี" พระกรซ้ายถือร่มทิพย์ พระกรขวาถือไม้แส้ ไปปราบอสูรม้ากัณฐะกะ
ฝ่ายอสูรกัณฐะกะอาชา เมื่อควบทะยานมาถึงริมฝั่งแม่น้ำสินธุขณะนั้น
มีพระมหาดาบสตนหนึ่งชื่อว่า "สัจนาไลย" สร้างพรตอยู่ในถ้ำเขารัตนประพาฬริมฝั่งมหาสาคร
ออกมาเที่ยวแสวงหาน้ำและผลไม้ พออสูรกัณฐะกะมาพบ ด้วยสันดานหยาบช้าก็โดดตรงเข้าไป
ขบกัด พระดาบสวิ่งหนีไม่พ้น ถูกกัดศีรษะขาดถึงกาลมรณาอยู่ ณ ที่นั้น แล้วอสูรกัณฐะกะก็รีบมุ่ง
ไปสู่เชิงเขาไกรลาส จนได้มาพบกับทุลกีบุรุษหนุ่มที่ยืนดักรออยู่ ทั้งสองเกิดการต่อยุทธ์กันอย่าง
สามารถ ทุลกีใช้แส้ฟาดถูกอสูรกัณฐะกะสิ้นฤทธิ์ล้มลง แล้วกระทำเทวฤทธิ์กลายร่าง
กลับเป็นพระนารายณ์ ตัดศีรษะอสูรอาชากัณฐะกะมาต่อศีรษะพระฤษีสัชนาไลยให้ฟื้นคืนชีพ
ขึ้นมาด้วยพระวิษณุมนต์ พระดาบสจึงมีหน้าเป็นม้า พระนารายณ์ได้ทรงประสิทธิ์พระเวทสำหรับ
ปราบหมู่ม้าพยศร้ายทั้งหลาย และให้พรว่า แม้ปรารถนากระทำการสิ่งใดให้สัมฤทธิ์
ดังต้องการแล้วให้พระฤษีสัชนาไลยเป็นครูสอนกุลบุตรในโลกให้กระทำการอัศวกรรมนั้นสืบไป
เบื้องหน้า เสร็จแล้วเสด็จกลับไวกูณฐ์ทิพย์พิมานในเกษียรสมุทร
จรัญ พูลลาภ จัดทำคำบรรยาย
---------------------------------
รายนามผู้แสดง ตำนานเทวนิยาย เรื่องนารายณ์สิบปาง 'ปางทุลกีวตาร'
พระอิศวร จิรพัทธ์ พานพุด
พระนารายณ์ พงษ์ศักดิ์ บุญล้น
ทุลกีบุรุษ เอก อรุณพันธ์
อังคุฐพรหม สุทธิ สุทธิรักษ์
ม้ากัณฐะกะอสูร (ม้าดำ) อรรถพล อ่อนสุวรรณ
พระมหาฤษีสัชนาไลย เกริกชัย ใหญ่ยิ่ง
พรหมธรรม ๔ องค์ สุเมธ พิสัยพันธ์ ไอศูรย์ ทิพย์ประชาบาล
ปริญเมศร์ จูไหล เกื้อกูล คุมมานนท์
เทวดาตลก จรัญ พูลลาภ สุรเดช เดชอุดม
รัฐพร เคหา ศิลปิน ทองอร่าม
พากย์ - เจรจา
ศิริพงษ์ ทวีทรัพย์ หัสดินทร์ ปานประสิทธิ์
สุรเดช เดชอุดม ศักดิ์ คชเสนีย์
------------------------------------
รายนามผู้บรรเลง - ขับร้อง ประกอบการแสดง
หัวหน้าวง พงษ์พันธ์ เพชรทอง
ปี่ พรชัย ตรีเนตร
ระนาดเอก ภูธิชย์ พึ่งสัตย์
ระนาดทุ้ม สุรสิทธิ์ เขาสถิตย์
ฆ้องวงใหญ่ ภูดินันท์ ยินดี
ฆ้องวงเล็ก โสรัฐ ม่วงท้วม
เครื่องหนัง จตุพร ดำนิล เมธา จันทร์แก้ว
ฉิ่ง อัญชิษฐา บุญเพ็ง
เครื่องประกอบจังหวะ วิศรุต แซ่จุ่ง นลินนิภา ดีทุม
ขับร้อง (ประกอบการแสดง) สุภางค์พักตร์ แก้วกระหนก รณชัย ผาสุขกิจ
ภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ วันเพ็ญ จิตตรง
สุภาภรณ์ ลาสอาด สรรพวิทย์ พงศ์จันทรเสถียร
วันเฉลิม ปู่ซึ้ง
กำกับการแสดง สมชาย อยู่เกิด
ช่วยฝึกซ้อมการแสดง ธีรเดช กลิ่นจันทร์ กฤษกร สืบสายพรหม
อนุชา สุมามาลย์ สุชาดา ศรีสุระ
อำนวยการซ้อม พงษ์พิศ จารุจินดา วันทนีย์ ม่วงบุญ
ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ศิริพงษ์ ทวีทรัพย์
สมชาย อยู่เกิด
อำนวยการฝึกซ้อมการบรรเลง - ขับร้อง
สมชาย ทับพร ศิลปินแห่งชาติ
ปี๊บ คงลายทอง ศิลปินแห่งชาติ
ไชยยะ ทางมีศรี บุญช่วย แสงอนันต์
อุทัย ปานประยูร เสรี สินธุชัยภาคเสรี
พิธีกร / ผู้ประกาศ ธัญนัฏกร กล่ำแดง
ควบคุมฉาก ฉลาด เมืองจันทร์
ควบคุมเครื่องแต่งกาย น้ำทิพย์ ศิริมงคล
จัดทำบท / คำบรรยาย จรัญ พูลลาภ สุกิตติ์ ทำบุญ
เทคนิคแสง สี เสียง กลุ่มโรงละครแห่งชาติ
จัดทำสูจิบัตร กลุ่มวิจัยและพัฒนาการสังคีต
บริหารงานทั่วไป พัชรินทร์ เหลืองเอี่ยม
ควบคุมงานโรงละครแห่งชาติ วีรชาติ แพทย์รัตน์
ควบคุมงานวิชาการ อัมไพวรรณ เดชะชาติ
ควบคุมงานดุริยางค์ไทย เลอเกียรติ มหาวินิจฉัยมนตรี
ควบคุมงานนาฏศิลป์ สิริวรรณ อาจมังกร
ที่ปรึกษา บุญตา เขียนทองกุล
สมชาย อยู่เกิด
ศิริพงษ์ ทวีทรัพย์
วันทนีย์ ม่วงบุญ
ปกรณ์ พรพิสุทธิ์
อำนวยการแสดง ลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา
------------------------------
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
ขอเชิญชม
โครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๗
“เหมันต์สุขศรี สุนทรีย์สังคีต”
ครั้งที่ ๔
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เวลา ๑๗.๓๐ น.
ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
รายการแสดง
๑. การบรรเลง - ขับร้องวงเครื่องสาย เพลงทวิชาวตาร เถา
๒. การแสดงตำนานเทวะนิยาย เรื่องนารายณ์สิบปาง “ทุลกีวตาร” และ “ทวิชาวตาร”
นำแสดงโดย ศิลปินสำนักการสังคีต
กำกับการแสดงโดย สมชาย อยู่เกิด
อำนวยการแสดงโดย ลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต
บัตรราคา ๒๐ บาท (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ ชั่วโมง)
ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (วันและเวลาราชการ) โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒ และ โทร. ๐๒๒๒๑ ๐๑๗๑