อายุ60 ขวบค่ะ เลิกวัดเลิกศาสนาเลิกมูตั้งแต่35 ขวบค่ะ แต่ยังถือมีเมตตากรุณาอุเบกขามุทิตาสายกลางต่างๆนานาค่ะ ไม่บริจาคสร้างวัด แต่บริจาคจับหมาทำหมันค่ะ ขอบคุณรวยสดความลำบากของน้องหมา กับช่วยส่งเด็กเรียนหนังสือค่ะ

กุศโลบาย ไว้ควบคุมสังคม

เราไม่มีศาสนา ไม่นับถืออะไร ไม่ซื้อไอเดียของศาสนาใดๆเลย เพราะรู้สึกว่าศาสนาก่อเกิดความขัดแย้ง เกิดความเชื่อแบบรุนแรง และทำให้การใช้ชีวิตยากลำบากขึ้น

ผมก็ไม่มีศาสนา เพราะชอบทุกศาสนาจนเลือกไม่ได้ เลยเอาคำสอนดีๆของแต่ละศาสนามาไช้

ผมไม่มีศาสนา แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านคนมีความเชื่อความศรัทธาต่างๆนะ เพราะเราทุกคนต่างแสวงหาความสุขต่างรูปแบบ และถ้าเขามองหาความสุข แสดงว่าเขาน่ะมีทุกข์เช่นกัน

ยินดีกับคนที่บอกว่าไม่มีศาสนาด้วยนะครับ คุณเก่งมาก เพราะหลายคนยังต้องพึ่งความเชื่อคำสอนของศาสดา เพื่อเอาตัวรอดจากความทุกข์ที่มันเกิดขึ้นบนโลก ส่วนตัวนับถือแต่ไม่ได้เคร่ง และยังรู้สึกขอบคุณที่ให้คำสอนดีๆมากมาย ทั้งที่คนได้ประโยช์นก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว และเชื่อว่าหลายคนได้ประโยช์น และผมมีความสุขที่เห็นหลายๆคน รอดพ้นจากความทุกข์ได้ไม่มาก็น้อย

ผมว่าผมก็ไม่มีศาสนานะ แค่ทำตามสังคม ไม่ให้เสียมารยาทบางโอกาสเฉยๆ

มีประโยชน์มากครับ ทั้งมุมมอง 🎉

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล ผมคิดว่าเทคโนโลยีและการพัฒนา ทำให้พิสูจน์อะไรต่างๆ ทำให้คนนับถือน้อยลง

ไม่นับถือศาสนาแล้ว รู้สึกโล่งงงง ความรู้สึกเหมือนไม่ต้องแบกอะไรไว้บนบ่าอีกแล้ว รู้สึกดีเป็นบ้า !!! 55555555

ไม่มีมานานแล้วครับ ตอนเด็กยังตั้งคำถามตลอดว่าทำไมต้องมีต้องนับถือ ทั้งๆที่คนก็ไม่เคยทำตามจุดประสงค์ของศาสนา รอแต่คนมาช่วย ไม่ลงมือ แต่ภาวนา บางสิ่งที่ขอก็เป็นผลจากการกระทำทั้งนั้น แต่ก็ยังมีอีกผลตามมาแล้วก็บอกว่าเวรกรรม

เป็นพุทธตามพ่อแม่ ตามโรงเรียนมานาน แต่มีคำถามตลอดเวลา ไม่เชื่อเรื่องหลังความตาย เรื่องผี เรื่องปาฏิหาร์ย์ เมื่อก่อนก็แอบคิดเราไปทางไหนดี พอมารู้จักกลุ่มคนไม่นับถือศาสนาก็ปลดล็อคเลยง่ายๆแค่นี้เอง ศาสนาไม่ได้จำเป็นในสังคมมานานแล้ว

พระเจ้าหรือธรรมชาติ มีอยู่ แต่เราไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก เข้าไม่ถึง การมีอยู่ของพระเจ้า พระเจ้ามีหนึ่งเดียว แต่เรียกไม่เหมือนกัน เมื่อคนรุ่นปัจจุบันฉลาดเกินไป.. ไม่เชื่อว่า..การเกิดการตายคืออะไร โลกนี้จะวุ่นวายมากขึ้น เมื่อมนุษย์เริ่มควบคุมกันเองไม่ได้..พระเจ้าก็จะทำหน้าที่โดยอัตโนมัติ.. ไม่ว่าเราจะเชื่อว่ามีพระเจ้า หรือไม่มีพระเจ้า แต่..สิ่งนั้นก็ยังมีอยู่ และยังทำหน้าที่ต่อไป

การมีศาสนาก็ไม่ต่างจากการเอาปลอกคอมารัดสวมคอตัวเองไว้ แล้วให้คนอื่นลากจูงไปมา อยากเดินไปที่อื่นก็ทำไม่ได้ แถมมีแต่เสี่ยงจะเกิดบาดแผลที่คอเวลาเดินไปเดินมา

ไม่ได้ฟังนาน คิดถึงตะวันเลยค่ะ

ส่วนตัวรู้สึกนับถือศาสนาน้อยลง เหลือแค่เฉพาะ พิธีกรรม บางอย่างตามสังคมเท่านั้น ...การ ไม่นับถือทำให้รู้สึกโล่ง เหมือนกัน ไม่ต้องยึดติด หรือถูกผูกมัด

โดยส่วนตัว เคยคิดว่าตัวเองไม่นับศาสนา จนกระทั่งได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่มีแนวการสอนแตกต่างจากรูปอื่นๆ ไม่มีความเชื่อเรื่องของปลุกเสก หรืออะไรเลย ท่านสอนให้เข้าใจธรรมชาติของชีวิต และอยู่กับสิ่งต่างๆให้ได้ เตรียมพร้อมเสมอ หากต้องจากโลกนี้ไป ใช้ชีวิตให้ดี ไม่เบียดเบียนคนอื่น และรู้จักแบ่งปัน ท่านไม่ได้บอกให้เราทำบุญด้วยเงินเพื่อให้ได้ไปสวรรค์ แต่ท่านลงมือทำ ลงมือช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย ให้เจ็บป่วยน้อยลง ท่านดูแลผู้ป่วยมากมาย จนเป็นแบบอย่าง และสิ่งเหล่านั้นประทับอยู่ในใจเรา และเราเพิ่งรู้ตัวว่า ศาสนาพุทธ แท้จริงเป็นอย่างนี้ แต่เราไม่เชื่อเรื่องชาตินี้ ชาติหน้า และการเวียนว่ายตายเกิด ผีสาง เทวดา อภินิหารเหนือธรรมชาติ สำหรับเราหากมีภิกษุที่อ้างตนเป็นผู้วิเศษ เห็นอนาคต เห็นอดีต เห็นวิญญาณ เราถือว่าเขาเป็น 🥕 ไม่ใช่ภิกษุ เราเชื่อเรื่องการทำทุกๆวันให้ดี และมีความสุข 🧡

คนไม่มีศาสนากันมากขึ้น บ่งบอกถึงค่านิยมเก่าๆที่ใช้ศาสนาในการปกครองเริ่มลดลงไป การใช้พระผู้สร้าง เพื่อดึงคนจำนวนมาก ให้เชื่อฟัง ซึ่งคนรุ่นใหม่ตอนนี้รู้ทันกันหมดแล้ว ผมมีความเชื่อว่ายิ่งคนเลือกที่จะไม่มีศาสนามากขึ้นเท่าไหร่ คนๆนั้นย่อมมีความเข้าใกล้พุทธะมากขึ้นเท่านั้น คือรู้จักการคิดโดยใช้ปัญญานำความเชื่อ

ใช่เลย ง่ายๆ คือ คนไม่มีศาสนา จึงไม่ต้องมาถกเภียงเรื่องของศาสนา แต่ก็คนมีศาสนา ย่อมจะมีเรื่องมาภกเภียงกันในองค์ประกอบของศาสนา (ไม่ทะเลาะกัน ไม่ขัดแย้งกัน หรือก็จะมีเหมือนกันอีกแหละ)

ผมดูหนังเรื่อง P.K.เป็นหนังอินเดียว่าด้วยความเชื่อของศาสนาดูแล้วเข้าใจเลยว่าศาสนาทุกวันนี้มันปรุงแต่งทั้งนั้นแต่ เดิมดังเดิมเป็นไงไม่รู้แต่ทุกวันนี้งมงายลงทุกที

คนที่ไม่ถือศาสนามีอยู่จริง มีมานานแล้ว และยุคต่อไปจะมีจำนวนมากกว่านี้อีก

การนับถือ หรือไม่ มันไม่มีจริงอ่ะ มันคือ การฟังๆ แนวคิดของการไม่มีศาสนา มันลามมาจากทางตะวันตก มาจากคำว่า Atheist หรือ เรียกง่ายๆว่า non-believers ใช่กับคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (Christian) เพราะทางนั้น เค้าเน้นเชื่อ จริงๆ แล้ว องค์ความรู้แบบ พุทธ นั่นแหล่ะคือ Atheist ของแท้ เพระา หาเหตุผลให้ทุกสิ่ง และแนวคำสอนที่ viral มากทีุ่ดก็คือ อริยสัจ 4 แนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การทำให้ชีวิตเจริญ มรรคมีองค์ 8 และ การประสบความสำเร็จในชีวิต อิธิบาท 4 การปล่อยวาง สร้างเมตา ความผาสุข สังคหวัตถุ 4 ปัจจัย 4 เป็นแนวคิดที่ Categories สิ่งต่างๆ ถึงรากและต้นตอ ส่วนไอเรื่อง อภินิหาร เกาะพชรเจ็ดสี ไหว้พระขอหวย บนบาลศาลกล่าว บูชาวัตถุมงคล หรือ พวกSupernatural พวกนั้น ก็คือ ความพยายามที่จะ claim คำสอนอันเป็น Tautology เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง ไม่ว่าจะ ฮินดูเอย ศาสนาผีเอย ศาสนาพีระมิดเอย ศาสนาบลาๆๆๆ มั่วซั่ว ไหนจะ ทางจีน ญี่ปุ่นมี Zen เต๋า ขงจื้ออีก แต่ที่ viral ที่สุด คือ การควบรวมกับ ศาสนาวิทยาศาสตร์ ใช่ วิทยาศาสตร์ คือ ศาสนา จะมองมุมนั้นก็ได้ มัน แต่ถ้ามองว่า องค์ประกอบของ ศาสนา ต้องมีการ กราบไหว้ เค้ารพบูชา และ ห้ามตั้งคำถาม ก็ต้อง re consider ว่า พุทธ นั้น ไม่ใช่ ศานา นั่นแหล่ะ สุดท้ายนี้ ถ้า ประชากรของ ผู้อ้างตัวว่าไม่นับถือ ศาสนา ก็อยากให้ คนเหล่านั้น อ้างแบบนั้นเพาะ เหตุผลที่ว่า ตัวเองมีเหตุผลมากพอที่จะไม่เชื่องมงายใน เทวนิยม ไม่เชื่องมงายในเรื่องที่ ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่ขอล่ะ อย่าๆๆๆๆ อย่า claim ว่าเป็น Atheist เพียงเพราะ ต้องการทำในสิ่งที่ หลายๆ ศานาห้ามไว้ โดยเฉพาะ ศีล 5 ของทางพุทธ เพราะ ถ้าเป็ฯงั้น ฉิบหายแน่นอน สังคม

ความอิสระ ไม่บังคับบัญชาการ ให้เชื่อศาสนาใดใด แล้วก็หลุดพ้นจาก เครื่องผูกพันธนาการ การครอบงำต่างๆ สัจจะธรรมแห่งชีวิต

เมื่อโลกพัฒนามากขึ้น มนุษย์มีความรู้ด้านต่างๆมากขึ้น มันจึงเกิดตั้งคำถามตามมาว่าแล้วทุกวันนี้พระเจ้าหรือเหล่าเทพเจ้าต่างๆอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มีคนเห็น แล้วในเมื่อพระเจ้ามีอำนาจสร้างทุกสิ่งในจักวาลนี้ขึ้นมาได้ กำหนดทุกอย่างเอาไว้ได้ ทำไมไม่กำหนดให้ทุกคนเป็นคนดี ทำให้โลกสงบสุข หรือถ้าพระเจ้ามีเมตตาทำไมต้องทำลายล้างโลกแล้วเลือกเอาไว้แค่คนที่ตนเองรัก หรือในเมื่อมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง ทำไมไม่ทำให้คนชั่วหายไปเลยหรือทำให้เปลี่ยนมาเป็นคนดี หลายๆอย่างมันขัดแย้งอยู่ในตัวมันเองแล้วจะเชื่อเรื่องพระเจ้าไปทำไม จริงๆแล้วศาสนาต่างๆเป็นแค่เครื่องมือทางสังคมที่เอาไว้เป็นอำนาจในการปกครองโดยใช้คำว่าศรัทธามาเป็นเครื่องมือ

งั้นผมอยากรู้คับว่า จริงๆพวงพิธีทั้งหลายที่เกี่ยวพุทธในไทย เช่น พิธีแต่งงาน ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญครบรอบ100วันของคนตาย พิธีตามโรงเรียนหรืราชการอะไรทั้งหลาย นับเป็นเรื่องของ cult หรือ ศาสนาหรอคับ ตอนยังเป็นเด็กๆ ผมเข้าใจว่ามันเป็นหนึ่งในเรื่องศาสนา แต่ปัจจุบันผมคิดว่ามันไม่ใช้ศาสนาแล้ว

แต่ก่อนผมก็ไม่นับถือศาสนาคีบ แต่พอศึกษาศาสนาพุทธที่เป็นแก่นจริง บอกเลยเสียดายศึกษาช้าไป

ประเทศไทยมาถึงจุดที่คนชอบตั้งคำถามแต่ไม่หาคำตอบ(มันหาคนละอย่าง เช่น มันอยากเป็นช่างแต่มันไม่ยอมเป็นกรรมกร ถ้ามันไม่อยากมันก็จบแล้วแต่ถ้ามันอยากก็ทำเองซิ )จุดเริมคือเราอยากก็ทำไม่อยากก็จบในแต่ละเรื่องนั้นๆ ถ้าไม่จบมันจะไปเข้าพวกเจตนาทำเรื่องนั้นแบบไม่รู้ตัว

คนที่ศึกษาศาสนาต่างๆและเลือกที่จะไม่มีศาสนา ต่างจาก คนไม่รู้ไม่สนไม่เอาเอี้ยอะไรเลย สนแต่อะไรก็ได้ที่ให้เลขหวย // อนาคตควรมีคัมภีร์แบบเรียนสำหรับคนไม่มีศาสนามาบ้าง สอนศีลธรรมจริยธรรมที่เข้ายุคสมัยไม่ใช่เมื่อ2พันปีที่แล้ว // ในชั้นที่ลึกของจิตใต้สำนึกบางทีสู้คนมีศาสนาไม่ได้ เช่น เวลาเมาไม่มีสติหรือจิตตก ทำร้ายคนอื่นหรือทำร้ายตนเอง ความเชื่อจะมาเตือนฆ่าตัวตายแล้วจะทรมานเป็นบาป

สายมู ถือเป็นคนมีศาสนาไหมครับ

ผมเลิกมีศาสนา เพราะว่าผม ป่วยเป็นมะเร็ง เหนื่อยมากๆกับการรักษา ผ่านอะไรมามากช่วงที่ผ่านมา รู้สึกว่าไม่มีอะไร พึ่งได้เลย ศาสนาที่ไหว้มาตั้งแต่เด็กรู้สึกไม่ได้ช่วยอะไรเลย พึ่งพาต้วเองเท่านั้น

คุณจะไม่นับถืออะไรเลย แล้วไม่ได้เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ชีวิตสัตว์ไม่มีทางสู้ สังคม คุณทำไปเลยครับ ผมสนับสนุนเต็มที่ ถ้ามันทำให้ชีวิตพวกคุณมีพลัง มีความมั่นใจในการมีชีวิตต่อไป แต่อย่ามากลายเป็นไอ้พวกวิปริตตามข่าวให้เห็นเลยครับ ต่อให้คุณไม่มีศาสนา แต่กรรมก็ไม่สนศาสนาเช่นกันครับ ด้วยความเคารพทุกท่าน

ไข่เจียว😊

อยากเป็นคนไม่มีศาสนา

ถ้าไม่มีศาสนาเวลาเสียชีวิตทำยังไงต่อเหรอครับ ฝังหลังบ้านได้มั้ยครับ

เหมือนกลายเป็นไม่มีศาสนา รึศาสนาในตัวหายไป แต่จริงๆละมันพูดไม่ได้เพราะมันเลยมันก้าวพ้นกรอบอะไรเดิมๆ ด้วยเวลาของโลกที่มันผ่านไป

อันนี้เทปเก่าป่ะครับ เหมือนเคยฟังแล้ว

ตั้งแต่ขึ้นมหาลัย ประมาณปี2009 ผมก็หลุดจากศาสนาเลยครับ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระสังคม หรือว่าทำตัวแย่อะไรขนาดนั้นนะครับ แค่ทำตามกฎหมาย ให้เกียรติคนอื่น มีมารยาทในสังคม มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็น พ่อแม่ เพลง เกมส์ หนัง ที่ตัวเองชอบ ก็อยู่ได้โดยไม่ต้องนับศาสดาใดๆครับ ส่วนคนที่ยังศรัทธาในศาสนาอยู่ ผมก็ไม่ติดอะไรเค้านะ แต่ทางเค้านี่แหละ เหมือนจะมีปัญหาบางอย่างกับผม

มนุษย์สร้างพระเจ้า หรือ พระเจ้าสร้างมนุษย์ ส่วนศาสนาเริ่มต้นจากการที่มนุษย์ทุกอารยธรรมเกิดขึ้นมาพร้อมกับอำนาจและสงคราม ส่วนในปัจจุบันทุกๆศาสนาจะค่อยๆ เสื่อมลงจนไม่มีความสำคัญเหลืออยู่ วิทยาศาสตร์จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ทั้งหมดเรารู้ที่มาที่ไปของ สสารและพลังงานทั้งหมดในจักรวาลนี้ พระเจ้าที่มีเรื่องราวต่างส่วนใหญ่เกิดจากการจินตนาการของมนุษย์ทั้งนั้นไม่ได้มีอยู่จริง

ดีนะผมเกิดในยุคนี้ ไม่งั้นคงกลายเป็นกระหังแน่เลย

ยืนยันตนเองเรื่องนี้มาตลอดว่าตอนนั้ตัวเองน่าจะอยู่ในกลุ่มไม่นับถือศาสนา แต่เนื่องจากเป็นพุทธมาแต่กำเนิด เลยมองว่าหลักธรรมในพุทธดูใกล้เคียงกับหลักในการใช้ชีวิตประจำวันในสังคมที่สุดแล้ว และดูไม่ได้ขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์เท่าศาสนาอื่นๆ **ประเทศไทยไปได้ไกลกว่านี้ถ้าเปลี่ยนความหมายของสีบนธงชาติ

มีทางหากิน

ไม่มีศาสนามานานละ เคารพกฎหมายและเชื่อในการกระทำ และยึดในหลักมนุษยธรรม 🧡

ปอบกับการล่าแม่มดไม่น่าเหมือนกันนะ คือปอบมันมีผลต่อผลร้ายของสังคมด้วยอะ และอีกอย่างนะ การล่าปอบหรือ "ไล่ปอบ" มันก็ไม่ได้ทำโดยพระเสียทั้งหมด แต่มันทำโดยผี(หมอผี)ด้วยกันนั่นแหละ

การไม่มีศาสนาเลย คือการไม่นับถือศาสนาใดๆ จะมีพระเจ้าหรือไม่มีไม่สำคัญ จะนับถือพระเจ้าหรือไม่นับถือไม่สำคัญ เมื่อไม่มีความเชื่อไม่ความศรัทธากับศาสนาใดๆแล้ว

ไม่ชอบศาสนาตรงที่ว่า อะไรเกือบทุกอย่างของศาสนามันถูกเขียนขึ้นเมื่อ1000-2000ปีที่แล้วและถูกfixedไว้แทบจะถาวรโดยที่การค้นพบความจริงใหม่ๆปรัชญาใหม่ๆไม่สามารถหักล้างได้ เราไม่ได้อยู่ในโลก1000-2000ปีที่แล้ว ทำไมเราจะยอมให้สิ่งที่เกิดขึ้น1000-2000ปีที่แล้วมากำหนดชีวิตเรา

เราโตมาแบบไทยจีนเลย ตามครอบครัวไปทั้งโรงเจวัดจีนทั้งวัดไทย รายล้อมไปด้วยผู้คนที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ แม่สวดมนต์นั่งสมาธิ ฯลฯ แต่พอโตมา ออกเดินทาง ได้เปิดโลก เปิดกะลา พิจารณาความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลก มันเอ๊ะเลยว่าศาสนาทั้งหลายมันก็แค่เครื่องมือของคนยุคโบราณในการควบคุม ปกครอง สร้างอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้แก่เพศชาย พอคิดเยอะๆแล้วมันปลดแอกศาสนาได้เลย ไม่มีความจำเป็นต้องนับถือศาสนาอีกต่อไป เมื่อก่อนเคยคิดว่าพุทธอาจจะเป็นทางเลือกที่โอเค แต่มาวันนี้แม้แต่พุทธเราก็ไม่เห็นด้วยกับวิถีของมัน ไม่เห็นด้วยกับลัทธิบุญบาป ความย้อนแย้งเต็มไปหมด ฯลฯ และยิ่งพุทธแบบไทยๆแบบจีนๆคือดูก็รู้ว่าธุรกิจล้วนๆ ไม่ได้สนใจธรรมะอะไรหรอก สรุปนะ ไม่มีศาสนาก็อยู่ได้อย่างมีความสุขจริงๆ

จิตตุงแป่ง

คนไม่มีศาสนา ชีวิตต่างดาวมาใกล้ เรียนรู้วิถีชีวิตมนุษย์ต่างดาว ตรงจริงเรื่องราวนอกโลกไร้ศาสนา ฝันนั้นทำคนมีศาสนาอยู่ดี -ศาสนามนุษย์ต่างดาว 1ถ้ามันมีฤทธิ์ 2ถ้ามันเหนือเรา 3ถ้ามันมีอารยธรรมเก่ากว่าเรา

ฉันนับถือตั่ง 3 ศาสนายากจะเล่าเรื่องของตัวเองให้คุณฝังจังเลย🙏

Religion is man made all about imagination. Believe doing good things

เราก็ไม่มีศาสนา คิดว่าศาสนาเป็นเพียงสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์จากปลายยุคทาสเท่านั้นเอง

ลงซ้ำหรือเปล่าครับ? เหมือนเคยฟังเรื่องนี้แล้ว 😅

แดดออก ฝนตก แผ่นดินไหว ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ อากาศ ลมพัด ใครสร้าง..!! ธรรมชาติ? ธรรมชาติคือใคร คืออะไร!?

ชาวเขาไหมที่นับถือคลิสกันมาก

ผมเชื่อว่ามีผู้สร้าง ผู้สร้างมาจากไหนผมไม่รู้ แต่ผู้สร้างบอกว่า ..เขาไม่มีจุดเริ่มตันและไม่มีจุดจบ ...มนุษย์จินตนาการยังไงก็ไม่ออก --แต่ถ้าให้มาเชื่อว่าอยู่ดีดี มนุษย์เกิดขึ้นมาเองจากการระเบิด ของบิกแบงและวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไม่ได้เลย ที่เราจะมายืนอยู่ตรงนี้

THE SAME IS LAME ✌️

ผึ้งรู้ว่าคนไม่มีศาสนาก็มีนี้และค่ะ

ศาสนาก็แค่กฎหมายของคนโบราณ ทำให้ปกครองผู้คนได้ง่ายขึ้น

มีศาสนาครับ แต่ไม่มีแฟน

นิยามของศาสนาแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คุยกันจนโลกแตกก็ไม่จบ

คนนึงไม่มีศาสนา แต่เชื่อพระเจ้า cosmic religion แบบ ไอสไตน์ 🙂

เอาข้อมูลจากไหนมาคะที่บอกว่าเรื่องในพระคำภีร์ใบเบิ้ลมันไม่จริง มันย้อนแย้งเพราะวิทยาศาตร์ยังไม่สามารถพิสูทธิ์ได้ทุกอย่างเลยและพอหาคำตอบไม่ได้ก็ใช้คำว่าสัญนิตฐานว่าจะเป็นแบบนั้นแแบบนี้ และในใบเบิ้ลบอกว่าโลกกลมนะคะ พระเจ้าไม่ได้บอกว่าโลกแบนแบบที่คุณพูด

นัยสาเหตุในเมื่องไทยล้วนแต่เทาๆ และพวกเทาทั้งหลายแตะต้องไม่ได้.

พูดจำนวน ไม่บอก เปอร์เซ็นต์ อืมมมม เยี่ยม

เชื่อตัวเองทุกวันนี้

ผมว่าศาสนาพุทธดีที่สุด เพราะทำให้คนไทยเป็นคนไทยในทุกวันนี้ มีนํ้าใจ มีเมตตา ผมว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องมีศาสนาทุกคนโคตรสำคัญเลย ไม่งั้นแม่งเละเทะ 😅

เราต้องปฏิรูป​ศาสนา​ให้เป็นวิทยศาสตร์​ ทุกวันนี้​ศาสนา​เป็นเหมือนละครที่ขายความสวยงาม​จอมปลอม​

ยกมือ ไม่นับถือศาสนาอีก 1 เสียง

พุทธศาสนา​อ้างตัว​ว่าเป็น​วิทยาศาสตร์​ จริงๆ​แล้ว วิทยาศาสตร์​คือเ​ศร​ษฐศาสตร์​ ศาสนจักร​ก็แค่หาผลประโยชน์​เข้าตัวเหมือนคนทั่วๆไป