Рет қаралды 3,123
00:00 INTRO
00:29 ตอนที่ 2
พวกเราซื้อทัวร์หมู่เกาะอ่างทอง จากร้านที่เดินเจอโดยบังเอิญแถวถนนเลียบชายหาดบ่อผุด
ชื่อร้าน Meeboone ครับ
โดยทัวร์ที่ซื้อเป็นทัวร์เต็มวัน ของ My Samui Island เดินทางโดยสปีดโบ๊ท ราคาประมาณ 1 พันกลางๆ ไม่รวมค่าเข้าอุทยานครับ (คนไทย 40 บาท ,ต่างชาติ 300 บาท)
ในวันรุ่งขึ้น ประมาณ 7.50 น. จะมีรถตู้มารับที่โรงแรม เพื่อพาไปส่งที่ท่าเรือครับ
ที่ท่าเรือจะมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และพาลงทะเบียนก่อนครับ
จะมีขนมและเครื่องดื่มให้ทานฟรี ระหว่างรอสมาชิกในทัวร์ให้ครบครับ
เมื่อสมาชิกในทัวร์มาครบแล้ว(ประมาณ 8.30 น.)
ไกด์จะอธิบายโปรแกรมทัวร์คร่าวๆ เป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจาก 90 % เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เมื่ออธิบายเสร็จก็ถึงเวลาขึ้นเรือ วันนี้นักท่องเที่ยวประมาณ 30 คนครับ
จากท่าเรือ จะมุ่งตรงไปจุดที่ไกลที่สุด คือเกาะว่าวใหญ่ก่อน ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
บริเวณเกาะว่าวใหญ่ จะเป็นจุดสำหรับดำน้ำตื้นชมสภาพใต้ทะเล
น้ำใส สีเขียวมรกต สวยมากๆ
แต่ถ้าไม่สะดวกลงน้ำ จะถ่ายภาพเล่นบนเรือก็ได้
ในวันนั้นเมฆสวยมากๆ
เรือจะจอดอยู่ที่จุดนี้ไม่เกิน 40 นาที ก็เดินทางไปยังจุดถัดไปครับ
ระหว่างทางจะผ่านภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างและลวดลายแตกต่างกันไปจำนวนมาก
ที่ดูหน้าตาน่าสนใจคือ เกาะลิง ซึ่งมีหน้าตาเหมือนลิงหันข้าง ที่กำลังพนมมืออยู่ครับ
หลังจากผ่านเกาะลิงมาได้ประมาณ 15 นาที ก็มาถึงเกาะสามเส้า
ซึ่งจะมีกิจกรรมพายเรือพายัคกันที่นี่ครับ
ใจจริงผมก็ไม่ค่อยมั่นใจกับการพายเรือคายัคเท่าไหร่
เพราะครั้งแรกที่เคยพายคือผ่านมา 8 ปีแล้ว
ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของคนอื่นๆในครอบครัวครับ
ก่อนจะพายจริงๆ ไกด์ก็จะสอนวิธีควบคุมทิศทางด้วยพาย ซึ่งก็ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่บ้าง ว่าพอถึงเวลาพายจริงๆ พวกเราจะเอาตัวรอดกันได้เองมั้ยนะ
การพายเรือคายัค เท่าที่พอจับจุดได้ก็คือ ต้องประสานจังหวะการพายกับคู่ของตัวเองให้เข้ากัน แล้วจะควบคุมทิศทางได้ค่อนข้างราบรื่นครับ
หลังจากปรับตัวกับการพายเรือคายัคได้แล้ว พอได้เห็นวิวโดยรอบ ก็รู้สึกว่าคิดถูกมากๆที่ได้พายมาที่นี่ วิวที่ได้เห็นด้วยตาคือสวยมากๆครับ
วันนี้มีลมค่อนข้างแรง ขากลับจะต้องออกแรงพายมากกว่าเดิมหน่อย ถือว่าเหนื่อยใช้ได้
นับเป็นสองความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหนึ่งช่วงเวลา คือทั้งเหนื่อยจากการพาย ทั้งฟินจากความสวยของวิว
ในที่สุดเราก็สามารถกลับเข้าฝั่งมาได้ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกกว่าที่คิดครับ
จุดถัดไป ห่างจากเกาะสามเส้านิดเดียว นั่งเรือแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงเกาะแม่เกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลใน
โดยการชมทะเลในนั้น จะต้องขึ้นบันไดเหล็กไปประมาณ 150 เมตรครับ
ตัวบันไดดูค่อนข้างชัน เหมือนจะน่ากลัว แต่ที่จริงปีนค่อนข้างง่าย ใช้เวลาแค่ไม่เกิน 10นาที สำหรับผมคือไม่เหนื่อยเลยครับ
เมื่อขึ้นบันไดไปถึงชั้นบนสุด จะได้พบกับทะเลใน ซึ่งมีลักษณะคล้ายทะเลสาบที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา
ที่จริงแล้วสภาพที่เป็นแอ่งนี้เกิดจากการยุบตัวของแอ่งหินปูน ทำให้น้ำทะเลจากภายนอกสามารถไหลเข้าออกได้ จึงเกิดภาพที่สวยงามแปลกตาอย่างที่เห็นครับ
หันไปอีกทาง ก็สามารถเห็นวิวทะเลจากฝั่งที่เราเดินขึ้นบันไดมาได้ครับ
ช่วงที่เรามา ใกล้เคียงกับเวลาที่ทัวร์เรือใหญ่มาพอดี คนก็อาจจะเยอะหน่อยครับ
จริงๆจะมีทางลงไปชมทะเลในแบบใกล้ๆด้วย แต่พวกเราไม่ได้ลงไปชม เพราะลงไปแล้ว ก็ต้องเดินย้อนกลับขึ้นมาที่นี่ใหม่ครับ
ไกด์จะให้เวลาอยู่ที่เกาะแม่เกาะอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะเดินทางไปทานอาหารกลางวันที่เกาะพะลวยครับ
แต่ไม่มีใครคาดเดาธรรมชาติได้ ระหว่างเดินทางไปเกาะพะลวย ฝนก็ตกลงมาหนักมากๆ อย่างคาดไม่ถึง
เมื่อไปถึงร้านอาหาร(พะลวย ซีฟู้ด) ฝนก็ยังคงตกอยู่
มันก็ดี ในแง่ได้ทานอาหารแบบอากาศเย็นสบาย แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าฝนตกหนักขนาดนี้ แล้วโปรแกรมทัวร์ที่เหลือของเราล่ะ ?
อาหารจะเป็นแบบบุฟเฟต์ รวมอยู่ในค่าทัวร์อยู่แล้ว โดยรวมผมว่าอาหารก็พอใช้ได้ครับ
วันที่เราไป จะมีกุ้งชุบแป้งทอดร้อนๆ มาเสิร์ฟตอนท้ายสุดครับ
ในที่สุดฝนก็หยุดตก โปรแกรมทัวร์ก็ยังดำเนินต่อไป
จุดต่อไป ได้แวะชมเกาะหลัก หน้าตาคล้ายๆ เกาะตะปูที่พังงาครับ
แต่พอมองจากอีกมุม ไม่เหมือนแล้วครับ
แล้วก็มาถึงจุดสุดท้าย คือ เกาะวัวตาหลับ
ซึ่งตอนที่เรามา ที่นี่ไม่มีฝนตกเลย แต่ก็ไม่มีแดดด้วยเช่นกัน
ถ้ามองในแง่นั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ ก็ถือว่าดี เพราะอากาศเย็นสบาย
แต่เราก็มีเป้าหมายในใจอยู่ ว่าอยากขึ้นไปจุดชมวิวผาจันทร์จรัส ซึ่งต้องเดินขึ้นประมาณ 500 เมตร
ในสภาพอากาศแบบนี้ โอกาสที่เดินขึ้นไปแล้วจะได้เห็นวิวในเวอร์ชั่นที่สวยที่สุด ก็คงเป็นไปได้น้อย
แต่เรามายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าจะถอดใจไม่เดินตั้งแต่แรก ก็คงไม่สมกับเป็นเราเท่าไหร่
การเดินขึ้นครั้งนี้ ค่อนข้างยากกว่าตอนเดินขึ้นทะเลในค่อนข้างเยอะ
จะมีจุดให้พักเป็นช่วงๆ จุดแรกเดินขึ้นมาแค่ 150 เมตร
จุดนี้ก็ถือว่าวิวทะเลค่อนข้างสวยแล้วครับ ใครคิดว่าสภาพร่างกายไม่พร้อมกับการเดินขึ้นไปจุดสูงสุด ผมขอแนะนำว่าขึ้นมาแค่นี้ก็พอครับ
ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่มีจุดแวะไหนสวยเท่าจุดที่ 1 แล้วครับ ผมเลยเดิน เดิน เดิน พุ่งไปข้างบนสุดเลย
มีสัตว์ป่า ไม่แน่ใจตัวอะไรครับ
นี่คือจุดที่ 5 แล้ว ใกล้ความจริงแล้วครับ
จุดชมวิวผาจันทร์จรัสที่เป็นจุดสูงสุด ต้องเดินขึ้นอีก 50 เมตร
ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่เมื่อได้เห็นวิวที่อยู่ตรงหน้า ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับที่เหนื่อยครับ
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนก็มีแดดออก รู้สึกขอบคุณตัวเองมากๆ ที่ไม่ถอดใจตั้งแต่เห็นสภาพอากาศตอนแรกครับ
รวมระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเดินขึ้นมา จนถึงจุดสูงสุด ผมใช้เวลาทั้งหมด 20 นาที อาจแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคนนะครับ
ชมวิวด้านบนได้สักพัก ก็ถึงเวลาเดินลง เพื่อขึ้นเรือกลับเกาะสมุยครับ
ส่วนตัว ผมรู้สึกประทับใจกับทัวร์นี้ เพราะมีกิจกรรมที่หลากหลาย และไกด์ดูแลดีครับ
และแล้วก็กลับมาถึงเกาะสมุย ประมาณ 17:20 น.
ก็จะมีรถตู้มาส่งถึงที่โรงแรม จบทัวร์ด้วยความประทับใจครับ
Gopro 11 hero black