Рет қаралды 426,742
ขั้นตอนในการใส่บาตรมีดังนี้
1. ขณะรอใส่บาตร ต้องทำจิตให้สงบ โดยไม่เจาะจงว่าจะใส่พระรูปนั้นรูปนี้ ให้ใส่บาตรตามลำดับ การใส่บาตรโดยไม่เจาะจงนี้ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่ามีผลานิสงค์มากกว่าการใส่บาตรโดยเจาะจง
2. เมื่อพระสงฆ์เดินมาใกล้ๆ พึ่งอธิษฐานจิต โดยให้นั่งกระหย่งถืออาหารที่จะใส่บาตรเสมอหน้าผาก กล่าวคำว่าอธิษฐานว่า สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขยาวะหัง โหตุ แปลว่า ทานที่ข้าพเจ้าให้ดีแล้ว ขอจงเป็นเครื่องนำมาซึ่งความสิ้น ไปแห่งอาสวะกิเลส เทอญ
3. หลังจากอธิษฐานเสร็จให้ลุกขึ้นยืน ถอดรองเท้า เพราะการถอดรองเท้าถือว่าเป็นการยืนสูงกว่าพระซ่งเป็นการไม่สมควร ยืนบนที่ต่ำกว่าพระสงฆ์ ด้วยอาการสำรวม เพื่อเป็นการเคารพต่อพระสงฆ์ ยกเว้นเช่นเท้าเจ็บหรือเป็นที่น้ำขังเฉอะแฉะเป็นต้น
แต่ที่ไม่ควรก็คือบางคนถอดจริงแต่กลับไปยืนอยู่บนรองเท้าเสียอีก ทำให้ยิ่งสูงไปกันใหญ่ดังนั้นถ้าตั้งใจจะไม่ใส่รองเท้าก็จัดที่ให้พระสงฆ์ยืนสูงกว่า
4. ใส่อาหารลงในบาตรพระ ด้วยอาการสำรวมระมัดระวัง โดยวางเบาๆ ไม่โยนให้ ระวังอย่าให้ทัพพีหรือภาชนะของเรากระทบบาตรพระ เพื่อเป็นการเคารพในการให้ทาน และไม่ควรชวนพระสนทนาขณะใส่บาต
5. เมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วถ้ามีโต๊ะรองอาหารหรือรถยนต์จอดอยู่ด้วยให้วางขันข้าวบนนั้นยืนตรงน้อมตัวลงไว้พระสงฆ์แต่ถ้าตักบาตรรอยู่ริมทางควรนั่งแล้ววางขันข้าวไว้ข้างตัวยกมือไว้พระสงฆ์จนกว่าท่านจะเดินจากไปพร้อมกับอธิษฐานว่า
“นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ขอให้ข้าพเจ้าเจริญในพระศาสนาของศาสดา”
นั่งกระหย่ง แล้วยกมือไหว้พระสงฆ์ จนกว่าท่านจะเดินจากไป
6. หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้ว ควรอุทิศบุญกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยการกรวดน้ำ จะกรวดขณะนั้น หรือกรวดที่บ้านก็ได้ โดยการอธิษฐานกล่าวว่า อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย แปลว่า ขอบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุข ๆ เถิด