1️⃣ ผมขอเริ่มต้นเรื่องที่ว่าวัคซีน AstraZeneca มันทำงานยังไงก่อนนะครับวัคซีน AstraZeneca นี้เป็น Adenoviral Vector Vaccine นะครับหมายความว่ามันทำมาจากเชื้อไวรัสตัวหนึ่งเรียกว่า Adenovirus ไวรัสตัวนี้โดยทั่วไปมันก่อให้เกิดอาการหวัดแล้วก็ตาแดงนะครับ แต่เราไปเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมของมันเพื่อที่จะให้มันไม่สามารถแบ่งตัวได้แล้วก็มันสามารถที่จะบอกร่างกายให้สร้างภูมิต้านทานต่อโปรตีนหนามได้นะครับ เวลาที่เราฉีดเข้าไปนะครับตัวไวรัสตัวนี้มันก็จะเข้าไปสู่เซลล์กล้ามเนื้อของบริเวณที่เราฉีดนะครับ แล้วก็จะส่งสาร DNA ที่เราเปลี่ยนแปลงเข้าไปสู่นิวเคลียส (Nucleus) ของเซลล์เรานะครับ พอเข้าไปถึงตรงนั้นปุ๊บ DNA ก็จะถูกแปลงสารมาเป็น mRNA อีกทอดนึง mRNA ก็จะถูกอ่านให้ร่างกายของเราสร้างโปรตีนหนามขึ้นมาชั่วคราวและหลังจากนั้นมันก็จะสลายหายไปจากร่างกายในประมาณสัก 1-2 อาทิตย์นะครับไม่ได้อยู่ยาวอย่างที่บางคนบอกนะครับ ที่สำคัญก็อยู่เฉพาะกล้ามเนื้อนั่นแหละครับ

2️⃣ บางคนอาจจะกังวลว่ามันเข้าไปในนิวเคลียสจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรของเราหรือเปล่า เปลี่ยนแปลงโครโมโซมทำให้เราเป็นมะเร็งหรือเป็นโรคอื่นๆไหมนะครับ? ➡️ก็ต้องบอกก่อนนะครับว่ามันไม่สามารถรวมเข้าไปกับ DNA ของเราได้เนื่องจากว่ามันขาดเอนไซม์บางชนิดทำให้ DNA ของตัวไวรัสไม่สามารถรวมเข้าไปกับ DNA ของคนได้นะครับ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น รวมทั้งมันไม่ได้มีรายงานที่เกี่ยวข้องกับตัววัคซีนตัวนี้ว่ามันทำให้เกิดมะเร็งอย่างที่บางคนเข้าใจนะครับ จะสังเกตว่ามันมีขั้นตอนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าวัคซีน mRNA หนึ่งขั้นตอนก็คือมันต้องเข้าไปในนิวเคลียสซึ่งแตกต่างออกจากวัคซีน mRNA นะครับ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของมะเร็งนี้เดี๋ยวผมจะได้ออกมาเล่าอีกครั้งนึงนะครับเพราะว่ามีคนที่เอามาอ้างงานวิจัยจากญี่ปุ่นว่าญี่ปุ่นออกมาบอกว่ามันทำให้มีการเกิดมะเร็งได้ในวัคซีน mRNA อันนั้นผมจะเอามาให้ดูอีกรอบนึงนะครับว่าเหตุใดมันจึงสรุปแบบนั้นไม่ได้ แล้วเหตุใดคนที่สรุปแบบนั้นถึงแปลว่าเขาอาจจะอ่านงานวิจัยไม่ละเอียดเพียงพอนะครับ แต่วันนี้เราเอาเรื่องนี้ก่อน วัคซีนอีกชนิดหนึ่งซึ่งทำงานเหมือน AstraZeneca ก็คือวัคซีนของ Johnson &. Johnson (J&J) ที่อเมริกานะครับ

3️⃣ ทีนี้พอเราบอกว่าบริษัท AstraZeneca ออกมายอมรับเป็นครั้งแรก อันนี้ต้องบอกว่าไม่ถูกต้องครับ เรื่องของผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในร่างกายพร้อมกับเกล็ดเลือดต่ำนี้เรารู้มาตั้งนานแล้วครับ ปี 2021 เรามีการเตือนเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็ผมเคยทำคลิปไปแล้วด้วยผมก็จะทิ้งลิงค์ของวีดีโอนั้นเป็นหลักฐานว่าผมเคยออกมาพูดเรื่องนี้ไปแล้วว่ามันมีได้แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไรแต่อย่างใดนะครับ ภาวะที่มีเกล็ดเลือดต่ำร่วมกับการที่มีลิ่มเลือดในร่างกายเราจะเรียกมันว่า VITT นะครับ หรือ Vaccine-induced immune thrombotic thrombocytopenia อาจจะมีชื่ออื่นอีก เช่น TTS หรือที่เราเรียกว่า Thrombocytopenia Syndrome อีกคำหนึ่งก็อาจจะมีคนใช้คำว่า VIPIT ย่อมาจาก Vaccine-induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia 3 อย่างนี้คือโรคเดียวกันนะครับ มันจะเกิดเมื่อไหร่? ➡️จากงานวิจัยตอนแรกเราพบว่ามันเกิดหลังจากฉีดวัคซีนเข้าไป 4-28 วัน แต่ก็ในบางรายงานก็ขยายให้มันเป็น 42 วันนะครับ หมายความว่าถ้าคุณฉีดมาแล้วคุณเกิน 42 วันแล้วและคุณเกิดโรคอะไรขึ้นมาไม่ใช่เพราะวัคซีนตัวนี้ครับ ไม่ใช่ลิ่มเลือดจากวัคซีนนะครับ และมันต้องเจอลิ่มเลือดพร้อมกับเกล็ดเลือดต่ำซึ่งเราเจอในคนที่อายุน้อยเป็นหลักนะครับ ถ้าอายุเยอะเราจะไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำในตอนที่มันมีโควิดระบาดออกมามากๆแล้วเรารู้ถึงภาวะนี้ว่าเราควรจะเลือกฉีด AstraZeneca ให้กับคนที่อายุเยอะนะครับ โดยทั่วๆไปเราก็บอกว่าเกิน 40 ปีนะครับหรือบางทีก็เอาเกิน 50 ปีให้ไปฉีด AstraZeneca ส่วนอายุน้อยกว่านั้นก็ให้เลือกฉีดวัคซีนชนิดอื่นแทนนะครับ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเรารู้กันมาตั้งนาน เราไม่ได้พึ่งมารู้เหมือนที่บางคนพยายามจะสร้างข่าวนะครับ แล้วภาวะนี้ตอนนี้เราก็ไม่เจอแล้วนะครับเพราะว่าวัคซีน AstraZeneca ไม่มีแล้วนะครับ มีคนที่บอกว่าตอนนี้ยังฉีดวัคซีน AstraZeneca กันอยู่เลย ก็ต้องบอกว่าไม่มีเหลือแล้วครับในประเทศไทย ในประเทศอื่นก็ไม่มีแล้วเช่นกัน อย่างตอนแรกที่มีการค้นพบภาวะนี้ก็ค้นพบจะระบบการรายงานของทางยุโรปว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันดังนั้นพอมันมีความเกี่ยวข้องกันปุ๊บเรายังไม่สรุปนะครับ ไม่เหมือนกลุ่มที่เขาไม่เห็นด้วยกับวัคซีนหลายๆครั้งที่บอกพอเห็นรายงานอันนี้ที่อเมริกาก็ออกมาบอกว่านี่ไงมันมีความเกี่ยวข้องกัน เปล่าครับ ถ้าเราไปเห็นความเกี่ยวข้องกันปุ๊บแล้วเราสรุปเลยเราก็เป็นคนที่ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ในตัว ดังนั้นทางยุโรปพอเขาเห็นว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันเขาศึกษาเพิ่มครับ เขาไปดูข้อมูลเพิ่มแล้วพอดูข้อมูลเพิ่มพบว่ามันเกี่ยวข้องกันจริงๆแล้วมันทำให้เกิดได้จริงๆจึงมีการออกมาเตือนภาวะนี้ครับ แล้วตอนนั้นก็เลยทำให้ประเทศทางแถบยุโรปบางประเทศไม่ฉีดวัคซีนชนิดนี้หันไปฉีดวัคซีน mRNA แล้วปัญหานี้ก็หายไปนะครับนี่คือเรื่องราวเบื้องหลังที่หลายๆคนอาจจะหลงลืมไปแล้วนะครับแต่ว่าก็มีคนพยายามจะเอาเรื่องนี้กลับมาตีใหม่นะครับทำให้คนเขาสับสนกันไปหมดนะครับ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

4️⃣ ตอนนี้ภาวะนี้มันหายไปแล้ว ไม่มี AstraZeneca ใช้แล้ว Johnson & Johnson ก็ไม่มีใช้แล้วนะครับ ไม่มี Adenovirus Vector Vaccines วใช้ในกรณีของโควิดในตอนนี้ไม่มีแล้วนะครับ เราก็ไปใช้ mRNA Vaccine หรือวัคซีนชนิดอื่น แต่ตอนนี้แนวโน้มของโลกก็คือไปใช้กลุ่ม mRNA Vaccine หรือมิฉะนั้นก็เป็น Protein Subunit เช่น Novavax นะครับ ทางจีนเองก็หันไปพัฒนาวัคซีน mRNA ของโควิดแล้วก็มีออกมาใช้อย่างที่ผมเคยเล่าไปแล้วนะครับตั้งแต่ปีก่อนโน้นนะครับ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรน่าตกใจนะครับ ขอเล่าลงไปลึกอีกนิดนึงแล้วกัน ภาวะที่เกิดเรื่องของวัคซีนแล้วทำให้มีการเกิดลิ่มเลือดในร่างกายและเกล็ดเลือดต่ำจากการฉีด AstraZeneca หรือ Johnson & Johnson ถ้าในคนอายุน้อยจะประมาณ 1 ต่อ 100,000 คนนะครับ ในคนอายุเยอะ 1 ต่อ 1,000,000 นะครับ ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ แต่ยังไงก็ตามบางคนก็บอก 1 ต่อ 100,000 มันเยอะ ดังนั้นก็เลยเป็นคำแนะนำที่ออกมาบอกว่าให้เราเอาไปฉีดในคนอายุเยอะซึ่งมันโอกาสเกิดน้อยกว่านะครับ นี่คือเป็นความคิดตอนนั้นนะครับ รวมทั้งมันมีวิธีรักษามีวิธีตรวจครับ เพราะว่าโรคโรคนี้มันไปคล้ายกับโรคโรคหนึ่งก็คือโรคที่ภาษาทางการแพทย์เราเรียกว่า HIT นะครับ Heparin-induced thrombocytopenia แต่มันมีความเกี่ยวข้องกันมากเลยคือตัว AstraZeneca หรือ Johnson & Johnson มันไปทำให้เราสร้าง Antibody ตัวหนึ่งต่อโมเลกุลบนเกล็ดเลือดที่เราเรียกว่า Platelet Factor 4 (PF4) นะครับ แล้วถ้าเป็นภาวะนี้เราสามารถตรวจหาได้ ตอนนั้นเราก็จะตรวจ Platelet Factor 4 Antibody ถ้าเราเจอ PF4 Positive เราก็บอกว่าคนไข้เป็นภาวะนี้ ถ้าคนไข้ได้รับวัคซีนมาภายใน 4-28 หรือบางรายงานบอกว่า 4-42 วัน ถ้าเกินนี้ไม่ใช่ภาวะนี้ แน่นอน ถ้าตอนนี้ไปตรวจเจอก็บอกได้เลยครับว่าคุณไม่ใช่ภาวะนี้ 100% ยิ่งมากกว่า 100% อาจจะเป็นหมื่นเป็นล้านเปอร์เซ็นต์เลยก็ได้นะครับ แล้วปัจจุบันก็ไม่มีใช้แหละนะครับ

5️⃣ มีวิธีรักษาพิเศษนะครับคือเราจะไม่สามารถให้ยาเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดแบบธรรมดาได้คือยากลุ่ม Heparin หรือยากลุ่ม Low Molecular Weight Heparins (LMWHs) เราต้องให้ยากลุ่มอื่น เช่น Apixaban Edoxaban หรือเราอาจจะให้ยากลุ่มที่เราเรียกว่าเป็น Argatroban ชื่อแปลกๆพวกนี้นะครับร่วมไปกับการใช้ยากลุ่มที่เราเรียกว่า Intravenous Immunoglobulin (IVIG) พวกนี้ก็เป็นวิธีในการรักษานะครับ หรือในบางกรณีเราอาจจะต้องทำการเอาพวก Antibody ที่มันสร้างผิดปกติออกโดยการทำ Plasmapheresis หรือ Plasma Exchange นะครับ ซึ่งตรงนั้นก็ลึกเกินไปสำหรับคนทั่วไปแต่ว่ามันมีวิธีรักษาแล้วเรารู้ว่ามันต้องทำยังไงด้วยนะครับ ดังนั้นภาวะ VITT หรือเกร็ดเลือดต่ำร่วมกับการมีลิ่มเลือดในร่างกายจากการฉีดวัคซีนโควิด AstraZeneca หรือ Johnson & Johnson นั้นปัจจุบันไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้นเพราะว่ามันไม่มีวัคซีนพวกนี้ให้ฉีดแล้วและท่านที่เคยฉีดไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลอีกเช่นกันเพราะว่ามันจะเกิดขึ้นภายใน 42 วันหลังจากฉีดเป็นอย่างมาก ถ้าท่านเลยนั้นมาแล้วมันก็ไม่มีปัญหาแล้วยิ่งตอนนี้ไม่มีวัคซีนให้ฉีดท่านก็ไม่มีทางจะเป็นภาวะนี้ได้อีกต่อไปครับ และที่สำคัญคือนี่คือวัคซีน AstraZeneca กับ Johnson & Johnson ไม่ต้องเหมารวมวัคซีน mRNA นะครับเพราะว่าวัคซีน mRNA ไม่ทำให้เกิดภาวะนี้ครับ ไม่มีรายงานใดๆทั้งสิ้นด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้แล้วก็อย่าตื่นตกใจไปกับหัวข้อข่าวที่มีคนพยายามจะเอามาเป็นประเด็นนะครับ

อ๊อ คนนี้เองเหรอคะ เข้าใจละ เราเชื่อหมอแทนนี่ คนเดียวค่ะ

เชื่อหมอและฟังหมอส่วนใหญ่ แต่ถ้ารู้หมอคนใดที่ชอบไปยุ่งการเมือง จะไม่ฟัง เพราะหมอพวกนี้ชอบปั่น พูดเรื่องยาทีไร มักไม่มีเหตุมีผล ข้อมูลมาอ้างอิง ขอบคุณหมอทุกท่านที่ให้ความรู้แท้จริง❤

กระจ่างเลย โล่งอก เพราะฉีดไป 2 เข็ม ขอบคุณค่ะ แล้วก็ไม่สบายหนักเสียด้วยค่ะ ซมอยู่3-4 วัน แต่ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ

​@@tanaporn-um6qnเหมือนกันเลยค่ะช่วงนี้ป่วยตั้งแต่20เมษายัน07/05/67ยาวนานมาก..โล่งอกค่ะ.

เป็น Pfizer ตัวล่าสุด สายพันธุ์ XBB ค่ะ

@@FragranzaTrippa ใช่ค่ะ ถูกกว่า วัคซีนงูสวัด กับ มะเร็งปากมดลูกอีก แต่ 1990 + โน่นนี่ คง 4000+ ค่ะ บาดทะยัก ค่าวัคซีน 190... รวมค่าฉีด ค่าหมอ ทุกอย่าง 1000-2000 แฮ่ งง เบย

ใช่เลยค่ะ พอฟังข่าว ก็คิดเลยว่าจะรอฟังจากอาจารย์ก่อน