ขอบคุณมาก ๆ ครับ 🥹🙏

ขอบพระคุณครับ เสียงคุณภิญโญน่าฟังน่านับถือมากครับ จะนำไปเป็นแบบอย่างเพื่อพัฒนาตนเองต่อไปครับ

น่าสนใจครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ 🙏🥹😊

ขอบคุณมากครับ

หลัก ๆ ดูที่ Load ทั้งหมดของเราครับว่ารวมแล้วกี่วัตต์ จากนั้นก็ใช้ Power Supply Unit (PSU) ที่จ่ายได้มากกว่าที่เราคำนวณไว้ก็โอเคแล้วครับ เช่น (1) Pre-amp และมักจะมี EQ เสริมมาด้วย อาจจะกินไฟไม่มากนัก ไม่กี่ mA ครับ อย่างมากอาจจะไม่ถึง 5W (2) วิทยุ หรือภาคขยายเสียง อันนี้ปกติจะมีบอกด้านหลังครับ ว่าขับลำโพงกี่Ohm กี่Watt กี่ตัว กินไฟรวมกันทั้งหมดเท่าไหร่ โดยทั่วไปอาจจะซัก 10-15 A ก็ราว ๆ 120W-180W (ถ้ามี Sub Woofer ก็ต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีก) ดังนั้นถ้าคำนวณคร่าว ๆ Load ทั้งสองข้อรวมกันก็ประมาณ 200 วัตต์ ครับ ควรใช้ PSU อย่างน้อยซัก 20A 12V ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ Load ของท่านว่ามีอะไรบ้าง และต้องการกระแสเท่าไหร่ ซึ่งใช้วิธีประมาณการเดียวกันเลยครับ เหลือได้ แต่ห้ามขาด ไม่งั้น PSU จะร้อนและไหม้ได้ และอาจจะเป็นต้นเพลิงไหม้ลุกลามเสียหายต่อไป อันนี้ต้องแม่นยำและรอบคอบมาก ๆ เลยครับ

12V 20A ผมว่าเยอะมากเลยนะครับ ถ้าเป็นผมคงไล่เช็คแต่ละจุดเลยว่าตรงไหนที่ดึงกระแสเยอะกว่าปกติ หรือเช็คตรง PSU เลยว่ามันตกตรงต้นขั้วเลยจริง ๆ ไหม ถ้าใช่ ผมว่าอาจจะต้องเพิ่ม A ขึ้นไปอีก หรือเพิ่ม PSU อีกตัว แต่ถ้าจะให้แนะนำจริง ๆ ผมว่าใช้ PSU ของ PC ไปเลยครับ เอาแบบวัตต์สูง ๆ ไปเลยครับ

ที่แล็บก็ทำหุ่นยนต์ ส่วนใหญ่ใช้ PSU ของ PC ครับ ไฟนิ่ง เสถียร และวัตต์ตรงดีครับ ใช้งานง่ายด้วย มีหลายโหมด สั่งงานง่ายสะดวกสบายด้วยครับ

@@geeksloth ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เคยคุยกับอาจารย์ท่านหนึ่งของ รร ผม เขาบอกว่า สวิตซิ่งช่วงเเรกกระเเสจะสูงเเละนิ่ง หลังจากนั้นจะตกครับ 👀 ว่าเเต่มีรุ่น ยี่ห้อ เเนะนำไหมครับ เเล้วถ้าใช้พวก DC supply นี่จะเเก้จุดนี้ได้ไหมครับ

ปกติก็จะค้นหาด้วยคำว่า voltage adjustable damping switching ครับ ข้อดีคือมันปรับความต่างศักย์ได้ตามต้องการ แต่ข้อเสียคือกำลังมันมักจะน้อย และไม่ค่อยเสถียรครับ ตัวอย่างที่พอหาได้ก็ประมาณนี้ครับ th.shp.ee/RarSTZk

ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจคำถามหรือไม่นะครับ หากตอบไม่ตรงก็ขออภัย การจะเลือกใช้ Adapter สักอันนั้นจริง ๆ เราพิจารณาเบื้องต้นแค่ 3 ตัวแปรครับ ถ้าตอบโจทย์ครบทั้ง 3 นี้ก็ใช้ได้เลย ได้แก่ 1. ความต่างศักย์ที่ต้องการ ควรพอดีกับที่จะใช้เป๊ะ ๆ ครับ เช่น 5V, 9V, 12V, และยิบย่อยอื่น ๆ ตามที่ Load ของเราต้องการ 2. ปริมาณกระแสที่มันจ่ายได้ ว่าเพียงพอต่อ Load ของเราหรือไม่ ดูว่ามันจ่ายได้กี่แอมแปร์ จะมีหน่วยเป็น mA, หรือ A ไปเลยก็ได้ หรือบางครั้งเขาอาจจะเขียนในรูปของกำลังไฟฟ้าแทน เช่น สามารถใช้กับ Load สูงสุดกี่วัตต์ (W) เป็นต้น หรือจะเทียบเองก็ได้ครับตามความสัมพันธ์ I = VA เช่น 5V*1A = 10W เป็นต้น 3. ตัวแปรอื่น ๆ เช่นความนิ่งของกระแส ความเสถียร ความทนทาน ความร้อน อัตราการสูญเสียพลังงาน ฯลฯ ดังนั้นหากจะตอบคำถามว่า "ควรใช้สเปคไหน" อาจต้องพิจารณาในบริบทที่มีข้อมูลอย่างเพียงพอและจำเพาะเป็นรายกรณีไป แต่โดยทั่วไปนั้นผมมักจะพิจารณาตาม 3 ข้อข้างต้นครับ

ต้องดูว่ากล้องแต่ละตัวต้องการกระแสเท่าไหร่ครับ เช่น ถ้าต้องการตัวละ 1,000mA ก็ใช้ได้ 8 ตัว (เหลือเผื่อไว้สัก 20%) ถ้ากล้องแต่ละตัวต้องการกระแสมากกว่านั้น ก็เพิ่ม PSU ครับ แยกเป็นชุด ๆ

@@geeksloth ขอบคุณมากครับ

ใช้อะแดปเตอร์ตัวไหนหรือครับ

ขอบคุณที่ให้เกียรติแวะมาเยี่ยมเยือนครับ

ก็คงต้องหา Adapter ที่เป็น 7.9VDC กระแสก็ตามที่ Load ต้องการครับ แต่ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ อาจต้องดัดแปลงเอา โดยใช้ DC-to-DC Step down มาดัดแปลงใช้แทนครับ มีทั้งแบบที่วัดพร้อมแสดงความต่างศักย์ได้ในตัว หรือถ้าไม่มีก็ใช้ Volt meter วัดเอาขณะจูนตัว Potentiometer ครับ

ส่วนแจ๊คหรือพอร์ตที่เชื่อมต่อกับกล้องนั้นก็ใช้ให้ถูกรูปแบบและขนาด รวมถึงตำแหน่งของไฟบวก-ลบ ให้ถูกต้องด้วยนะครับ ไม่งั้นกล้องจะพังเอา หากยังไม่แน่ใจไม่แนะนำให้ดัดแปลงเองครับ

ผมไม่มีข้อมูลประเด็นนี้เลยครับ อาจต้องรอท่านอื่น ๆ มาให้ข้อมูลครับ

ไม่มีย้อนครับนอกจากต่อบากลบผิด

ไม่ควรทำนะครับ ถ้าจะใช้งานจริงจังควรใช้ LED Driver เป็นตัวขับหลอดโดยเฉพาะ ส่วนภาคจ่ายไฟก็ใช้ Adapter ตามสเปคที่ต้องการครับ

เพราะโดยธรรมชาติของ LED แล้วจะมีความต้านทานที่ไม่สม่ำเสมอ แปรผันตามตัวแปรอื่น ๆ เช่น ความร้อน เมื่อความร้อนเปลี่ยนความต้านทานก็จะเปลี่ยน กระแสที่ไหลก็จะเปลี่ยนตาม ความร้อนก็จะเปลี่ยนตามวน ๆ ไป จนในที่สุดหลอดก็จะพัง จริง ๆ มีตัวแปรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกนะครับ ซึ่งต้องว่ากันยาว ลองดูหลักการทำงานเชิงลึกของ LED และวงจรขับ LED ก็ได้ครับ มันมีรายละเอียดที่ควรทราบเยอะอยู่

แต่ถ้าจะใช้พอแก้ขัดหรือชั่วคราวก็พอได้ครับ หลัก ๆ ก็ดูปริมาณกระแสแต่ละหลอดว่าเท่าไหร่ คูณด้วยจำนวนหลอด ก็จะได้ปริมาณกระแสที่เราต้องจ่ายให้ทั้งหมดครับ

พี่ครับถามหน่อยครับอแดปเตอร์นำมาใช้กับวิทยุรถยนตร์ได้มั้ยครับจะไว้ฟังในบ้านครับ ขอบคุณครับผม

​@@user-rp2dz1ei1yถ้าความต่างศักย์ (V) ตรงกัน และกระแส (A) เพียงพอ ก็คิดว่าน่าจะใช้ได้เลยนะครับ

เรื่องนี้ผมอาจจะมีข้อมูลไม่เท่าท่าน โปรดกรุณาแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นเพื่อผมจะได้ศึกษาและเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สังคมด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ 🙏

ส่วนตัวแล้วคิดว่าแบบตรงกลางเหมาะสุดด้วยประการทั้งปวงครับ อันที่เป็นโครงโลหะ มีรู ระบายความร้อนได้ดีและเสถียรดีครับ

@@geeksloth ขอบคุณครับ

ภายนอกอาจจะแยกยากอยู่นะครับ ส่วนใหญ่มักจะต้องเทสว่าจ่ายไฟได้ตามที่บอกไหม ไฟนิ่งแค่ไหน ประมาณนั้นครับ แต่คงต้องมีเครื่องมือ เช่น ออสซิลโลสโคป แอมป์มิเตอร์ หรือเครื่องเทสโดยเฉพาะก็ได้เช่นกันครับ

ของผมตรงอยู่นะครับ นิ่งดีครับ แต่อุ่น ๆ

ขึ้นอยูกับกระแสไฟAC.ที่บ้านเราด้วยครับทางที่ดีควรจับมัลติมิเตอร์แล้วปรับโวล

ขอบคุณคร้าบ ซื้อมาใช้นานละครับ ค่าไม่เปะเท่าไหร่ แถมระยะปรับค่า ชิดกันมาก เลื่อนนิดเดียวไปเป็นโวลต์ๆเลย แต่ยังดีครับที่เขามีมาให้ใช้ ซึ่งมันสะดวกดี เวลาเราจะใช้งานที่แตกต่าง หลากหลาย ดีครับ ถือว่าดี แต่ต้องระวังให้มากนั่นแหละ ส่วนเจ้าสวิทชิ่ง ผมก็ซื้อมา 5a ใช้ปั่นมอเตอร์ไดอะแฟรม ใช้ล้างรถครับ สะดวกดี ดูดน้ำในตุ่ม ติดตั้งโดยใช้กับเบรคเกอร์เปิดปิด ใช้ดีมากครับ ถูกมาก คุ้มมากกก(ลาซาด้า)

ส่วนใหญ่วงจร pre-amplifier มักจะใช้ไฟไม่มาก แต่ต้องกระแสนิ่ง ๆ เรียบ ๆ เอาตัวเล็ก ๆ ก็ได้นะครับ แต่อาจจะต้องใส่ C กรอง noise เพิ่มนิดหน่อย อาจจะเซรามิก 104 สักตัวก็ได้ครับ

จากประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมาไม่เคยพบปัญหาครับ อาจจะด้วยเพราะพิจารณาค่อนข้างละเอียดก่อนซื้อมาใช้ และด้วยคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน มอก. ของไทยด้วย เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าแทบจะทั้งหมด (ยกเว้นส่วนที่ลักลอบ) ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อจัดจำหน่ายในไทยนั้นต้องผ่านการตรวจสอบและเสียภาษี ปัจจุบันนี้จึงมั่นใจได้ในด้านของคุณภาพครับ ในด้านของการใช้งานนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละอุปกรณ์และลักษณะการนำไปใช้งานให้เหมาะสมกับงานด้วยครับ ซึ่งมีรายละเอียดต้องว่ากันอีกพอสมควร อย่างไรก็ดีผมเห็นด้วยกับท่านที่การมีสายดินจะมีประโยชน์อย่างมาก ทั้งในด้านความปลอดภัยจากกรณีไฟรั่ว และด้านการจัดการสัญญาณรบกวน แต่อุปกรณ์บางชิ้นก็อาจทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีสายดินก็ได้ครับ เพราะในด้านการออกแบบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์มีการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้พอสมควร บางอุปกรณ์จึงไม่จำเป็นต้องมีสายดินก็ได้ครับ ทำนองเดียวกันกับที่เราใช้งานอะแดปเตอร์ชาร์จมือถือ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ทั่วไปหรือยอดนิยม มักจะไม่มีสายดินเช่นกัน เพราะแรงดันมันต่ำและภายในมีการออกแบบเพื่อป้องกันอันตรายลักษณะนี่ไว้อยู่แล้วครับ เพียงแต่อุปกรณ์ในคลิปนี้มันทำงานเหมือนกันแต่อยู่ในคนละรูปลักษณ์เท่านั้นเองครับ

ถ้าจะเอาให้ถูกต้องจริง ๆ ต้อง Volt ครับ เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาไทยไม่มีอักษรใดที่แทนตัว V ได้โดยตรง มันเป็นเสียงที่คล้ายการผสมกันระหว่าง ว.แหวน กับ ฟ.ฟัน ตามราชบัณฑิตยสถานเข้าใจว่ายังไม่มีคำทับศัพท์คำนี้ (จาก dictionary.orst.go.th/ ) คนใทยเลยอ่านตามคำอ่านคำว่า "โวลต์" ซึ่งเทียบตามอักขระตรง ๆ ของ Volt แต่ด้วยธรรมชาติของภาษาที่ต่างกัน ภาษาไทยไม่ได้มีการเน้นเสียงท้าย (Suffix sound) เหมือนของภาษาอังกฤษ จึงทำให้คำนี้คนไทยออกเสียงได้ลำบาก ซึ่งมันต้องออกเสียงท้ายของพยัญชนะหลัง (นั่นคือ lt) ด้วย อีกทั้งภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์ (tones) เหมือนภาษาไทย จึงไม่มีไม้เอก โท ตรี จัตวา สามัญ ซึ่งจะออกเสียงโทนใดก็สื่อความหมายถึงคำ ๆ เดียวกัน แต่จะให้อารมณ์และความรู้สึกต่างกัน อยู่ที่บริบทด้วยครับ ดังนั้น ถ้าจะให้ออกเสียงด้วยภาษาเขียนภาษาไทยให้ใกล้เคียงกับคำว่า Volt มากที่สุดคงได้แก่ โฟว้วลตึ (ฟ. ออกเสียงเหมือนผึ้งบินในลำคอ ขณะที่ริมฝีปากล่างแตะกับฟันบน, ล. ห่อม้วนลิ้นขึ้นชิดเพดานปาก, ตึ. ไม่ออกเสียงจากกล่องเสียง แต่ออกเฉพาะตรงปลายลิ้นและเพดานปาก) แต่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคย เลยอ่านง่าย ๆ คล้าย ๆ เสียง โว้ว หรือ โว้น ซึ่งก็สื่อความหมายได้แต่ไม่ถูกต้องตามเสียง Native Speaker ในสำเนียง American English ครับ เพราะคำว่า โว้ว มันจะใกล้กับคำว่า Wow Woaw มากกว่า และ โว้น ก็จะใกล้กับ Won't Woan Won ซะมากกว่าครับ

เจอเข้าไปสิ จำใส่สมองไว้เยอะๆ อะไรที่มันพอรู้เรื่องก็ไม่ต้องอยากให้เป็นประเด็น

*พิมพ์ผิดคำว่า “คนไทย” ในพารากราฟแรก เพิ่งเห็น ขออภัยครับ

อยู่ที่ว่าเราจะใช้ขั้วด้านในของแจ๊ค DC เป็นขั้วอะไรครับ อันทางขวาไว้สลับ vcc กับ gnd ระหว่างสายไฟสีดำและสีขาวเฉย ๆ ครับ สมมติว่า ถ้าเป็นแจ๊ค DC เดิม ๆ ที่มากับอะแดปเตอร์ โดยส่วนใหญ่ขั้วด้านในจะเป็น vcc ส่วนปลอกด้านนอกจะเป็น gnd แบบนี้ปุ่มทางขวานั้นก็จะชี้ไปที่ + ครับ สรุปก็คืออยู่ที่ว่าเราต้องการให้ขั้วด้านในของแจ๊ค DC นั้นเป็น vcc หรือ gnd เราก็หมุนปุ่มทางขวาไปชี้ตรงที่เราต้องการนั่นเองครับ ปล. ผมไม่แน่ใจว่าตอบตรงประเด็นไหม หากไม่ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ

@@geeksloth ❤ขอบคุณมากครับผม

ด้วยความยินดีครับ

เรื่องนี้ผมอาจจะมีข้อมูลไม่เท่าท่าน โปรดกรุณาแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นเพื่อผมจะได้ศึกษาและเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สังคมด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ 🙏