ผมเป็นเกย์ที่เห็นด้วยกับเจเคมากๆ ทั้งการที่ควรแยกเพศโดยโครโมโซมกับความชอบออกจากกัน และเรื่องที่การเพิ่มสิทธิของ LGBT มันไม่ควรไปริดรอนสิทธิของใคร ความกระหายในการที่อยากจะเป็นอะไรก็ตามของชาวเรา เพียงแค่ได้เป็นและถูกมองว่าเป็นเหมือนมนุษย์คนอื่นก็พอแล้ว

JK พูดถูกแล้ว เอกสารราชการ ที่เขาให้ระบุได้แค่2เพศ เพราะ มันอันตรายมาก ถ้าไม่ระบุ หรือระบุเป็น X เช่น การหนีคดี ปลอมแปลงใบหน้า และ แปลงเพศสภาพ ถูกต้องแล้ว ที่ต้องแบ่งได้แค่2แบบ ส่วนชาว LGBT จะไปแสดงความเป็นตัวเองข้างนอก ยังไงก็ได้ แล้วแต่เลย ไม่มีใครห้าม บางทีก็เยอะไป ราชการเขาทำงานลำบาก

เราก็เป็น LGBt นะทอมเลยแหละ แต่เข้าใจคิดเหมือน JK ให้คนอื่นเคารพในตัวเราที่เราเป็น และตัวเราเองก็เคารพในเพศสภาพกำเนิดของเราเองด้วย

JK ก็พูดถูกนะมันควรจะแบ่งตามชีววิทยา การเข้าห้องน้ำ การเข้ารักษาทางการแพทย์ การแข่งขันกีฬา มันต้องว่าตามชีววิทยา จริงๆ

หลายปีก่อนเราเคยทวิตว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาไปห้องน้ำแล้วมี lgbt ที่ยังคงมีเพศสภาพเป็นผู้ชายเข้าห้องน้ำผู้หญิง ปรากฏว่าโดนด่าฉ่ำ ตอนนั้นเรื่อง JK กำลังดัง หลายคนที่เข้ามาด่าเราก็พาดพิงถึง JK ด้วย สำหรับเราแล้วเราเห็นด้วยกับ JK ตั้งแต่ต้นมาจนถึงตอนนี้ค่ะ

เราไม่เคยเหยียดเพศ เรามีเพื่อนเป็นLGBTQเยอะด้วย และสนับสนุนให้ทุกเพศมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่เราเข้าใจสิ่งที่เจเคจะสื่อและเราเห็นด้วยกับนางนะ อย่างเช่นการเข้าห้องน้ำ เราไม่สบายใจเวลาใช้ห้องน้ำร่วมกับสาวสองโดยเฉพาะคนที่ยังไม่แปลงเพศ คือตามสรีระยังไงก้อยังเป็นผช.อยู่อ่ะ แต่ถ้ามีคนเข้าห้องน้ำพร้อมกันเยอะๆก้อโอเคหน่อย เรื่องการแข่งกีฬาเราก้อว่ามันไม่แฟร์กับผญ.แท้ เพราะพละกำลังสรีระคุณยังไงก้อคือแรงผช. ยังไงก้อชนะอยุ่แล้ว คือยังไงมันก้อไม่แฟร์จิงๆ

เราก็เป็นเกย์ ได้ยินข่าวเจเคเหยียดlgbtมานาน จนมาดูเองแล้วเเบบ เอ้า เจเคเหยียดตรงไหน ส่วนตัวเห็นด้วยกับเจเคมากๆ เพศกำเนิดก็คือเพศกำเนิด ไม่ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง แต่คือเพศกำเนิดนะเว้ยยยย ถ้าจะมีเพศกำเนิดอื่นคือต้องเป็นแบบ เกิดมาเป็นผู้ชายท้องได้ ผู้ชายมีนม ผู้หญิงมีจู๋ แบบนี้คือเพศใหม่ แต่lgbtคือ "รสนิยม!!!!" ไม่ใช่เพศ!!!! คือต้องเข้าใจก่อนว่าเพศที่เกิดมากับเพศที่อยากเป็นมันไม่เหมือนกันเว้ย คำว่าเพศที่สามก็เหมือนกัน มันเป็นอค่รสนิยมที่ ผู้ชายอยากเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ ผู้ชายเป็นผู้หญิง เข้าใจไหม!!!

เราเคยไปเข้าห้องน้ำ แล้วเจอกลุ่มสาวสองแต่งตัวไม่เรียบร้อย แต่งหน้า แล้วเดินไปมาคุยกันในห้องน้ำ คือมัน...โตงเตงอ่ะ แล้วด้วยสภาพทางกายภาพเค้า ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกคุกคาม และห้องน้ำหญิงนี้ไม่ปลอดภัยค่ะ🥺🥺

เจเคเขาก็ชัดเจนนะว่าไม่ได้เหยียด กว่าผู้หญิงจะเรียกร้องสิทธิสตรีได้ก็ใช้เวลานานอยู่ เพราะงั้นเจเคถึงเข้าใจการเรียกร้องสิทธ์หรืออยากได้รับการยอมรับทางเพศ แต่เรื่อวบางเรื่องใช่ว่ามันจะให้สิทธิกันง่ายๆมันมีช่องโหว่ให้พวกฉวยโอกาสทำเรื่องผิด บางเรื่องมันก็ไม่มีวันเท่าเทียมได้อย่างเช่น ที่เค้ายกตัวอย่างเรื่องแข่งกีฬา เรื่องยามันก็มีผลกระทบเป็นวงกว้าง อย่าหลับหูหลับตาเรียกร้องสิทธิจนเบียดเบียนคนอื่นครับ เรียกร้องอย่างมีเหตุมีผลครับ เจเคก็บอกอยู่ถ้าเกิดความไม่เป็นธรรมกับทรานแกก็พร้อมช่วยเรียกความเป็นธรรม

มันจะน่ากลัวมากน่ะ ถ้าเราคบผู้หญิงคนนึ่งหวังจะได้เป็นแม่ของลูกหรือภรรยา แต่ถ้าเราไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนนั่น คือ ผู้หญิงแท้จริงหรือป่าว หรือ เป็นผู้ชายที่เเปล่งเพศมา “เพราะ ไม่ว่าใครก็สามารถระบุเพศที่ตัวเองต้องการได้ ” แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า เพศสภาพเเรกเกิด ของคนๆคือเพศอะไรกันแน่ และอาจเป็นช่องโหว่ของการ หลอกล่วง หรือ หาผลประโยชน์ เฉพาะฝ่ายก็ได้ ไม่ใช้ผู้ชายทุกคนจะรับได้น่ะ ถ้าวันนึ่งมารู้ที่หลังว่าผู้หญิงที่รับคบเป็นภรรยา (ไม่ใช่หญิงแท้) มันจะหน้ากลัวมาก

เจเคมองปัญหาอย่างเข้าใจสาเหตุและผลลัพธ์อะ ไม่ได้มองแค่ไม่ถูกใจก็เปลี่ยนเลย มันต้องทำความเข้าใจอีกหลากหลายเคสที่ไม่เป็นไปตามที่โว๊คคิดด้วย เพราะงั้นการคัดค้าน หรือไม่เห็นด้วยของเจเคก็ถูกต้องแล้ว เป็นผู้ใหญ่ที่มีสติและวิจารณญาณที่ดีมาก

คำพูดที่ว่า​ "มันเป็นอะไรที่ล้าสมัย" ในทุกๆ​ เรื่อง​ เป็นคำพูดของคนที่ไร้เหตุผลมากๆ​ ควรที่จะพูดกันด้วยเหตุและผล​ การระบุเพศสภาพในเอกสารราชการมีเหตุผลความจำเป็นอะไร​ การปกปิดตัวตนของมิจฉาชีพ​ การให้การรักษาอย่างฉุกเฉิน​ การระบุเพศสภาพในเอกสารราชการตามโครโมโซมไม่ใช่เรื่องน่าอาย​ แต่ถ้าในวงสังคมจะเป็นอะไรก็เป็นไป

คือที่ JK บอกประมาณว่า เพศ (Gender) มีแค่ 2 เพศเท่านั้น ส่วนรสนิยมทางเพศ (Sex) นั้นแล้วแต่ตัวบุคคล ในมุมมองผมมองว่ามันก็ถูกนะ เพราะว่าผช มันต่างจาก ผญ อาจจะมีการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น อย่างเช่น มีผู้ชายข้ามเพศ (ชายแต่บอกเป็นหญิง) ไปติดคุกผู้หญิง แล้วก็ทำผู้หญิงท้องในคุกจนโดนส่งไปขังเดี่ยว และอีกอันคือผู้ชายข้ามเพศ( ชายบอกเป็นหญิง) ไปลงแข่งว่ายน้ำกับผู้หญิงแล้วก็ชนะรัวๆ ก็นะ ร่างกายผู้ชายกับผู้หญิงมันต่างกัน

เป็นเกย์ที่เห็นด้วยกับความคิดว่า "เพศตั้งต้นมี 2 เพศ จะผสมกันด้วยอัตราส่วนเท่าไหร่ ออกมาเป็นเพศอะไร มันก็ตั้งต้นจาก 2 เพศ" ผมเป็นเกย์(รับ)คนนึงที่แฮปปี้ดีกับการแทนตัวด้วยเพศชายแหละ ใช่ มันแค่แนวความคิดผม แล้วก็ไม่เห็นด้วยว่าการระบุเพศสภาพตามกำเนิดเป็นการเหยียดเพศ เพราะมันมีความซับซ้อนเชิงระบุตัวตนมากกว่าจะตามใจทุกๆคนได้นะผมว่า แล้วเพศทางเลือกสมัยนี้มีคำเฉพาะเยอะมากกกกก ถ้าจะระบุเอาตามใจตัวเอง มันก็เกินไป มันต้องมีจุดที่สบายใจทุกฝ่าย ไม่ใช่เอาแต่ตัวเองสิ

แกยังเขียนบทให้ ดัมเบิ้ลดอ เป็นเกย์ เลย แสดงว่า แกไม่ได้รังเกียจคนข้ามเพศ แค่ต้องการให้ระบุเพศในเอกสารราชการตามเพศสภาพตอนเกิดเพื่อประโยชน์ด้านชีววิทยา การรักษา ความปลอภัย ความเท่าเทียมทางสรีระ ให้เป็นไปตามธรรมชาติกำหนด

ผมเห็นด้วยกับJ.K. เพศมีแค่ชาย-หญิงเท่านั้นส่วน LGBTQ+คือรสนิยม

ผมเชื่อว่าคนที่มีอายุสักหน่อย อย่าง gen y, gen x, baby boomer ส่วนใหญ่น่าจะคิดเหมือนเจเค เพราะถ้าเกิดทุกคนเลือกที่จะเป็นเพศอะไรก็ได้มันคงวุ่นวายน่าดู กลุ่มคนที่มีอายุตามที่ผมว่าอย่างน้อยเขาคงมีประสบการณ์และวิเคราะห์ได้ว่าถ้าปล่อยให้มันเสรีเกินไปอีกหน่อยคงจะวุ่นวายน่าดู

JK เขาบอกว่าควรแยก sex กัย gender คือ มีคำอธิบายเพศทั้งปัจจุบันและตอนกำเนิดครับ ไม่ใช่บอกว่ามีแค่สองเพศแล้วมีมิติเดียว ถ้าพูดว่า JK ยอมรับแค่หญิงกับชาย น่าจะหมายถึงเพศตอนกำเนิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขทางร่างกายนะครับ

นึกถึงข้อโต้เถียงฝ่ายนึงที่มักอ้างว่า "นักแสดงนำเค้าเลือกฝั่งนั้นกันหมด ทำไมถึง .... บลา ๆ" เอาจริง ๆ ทุกคนควรระลึกรู้อยู่ในใจเสมอว่า การเป็นคนดัง ไม่ได้แปลว่าเป็นคนที่ฉลาดรอบรู้กว่าคนอื่น ๆ ในสังคม และสิ่งที่คนดังพูด มันมีข้อได้เปรียบแค่เสียงดัง ไม่ได้แปลว่าเป็นคำพูดที่ถูกต้องหรือจำเป็นต้องเห็นด้วย

ด้วยพลังแห่ง โวค สามารถแปลงทุกคำพูดเป็นแบบที่ตัวเองอยากจะได้ยินได้ตลอด สรุป โวคฟังทุกความคิดเห็น ยกเว้นความคิดเป็นคนอื่น🤣🤣🤣

ผมเห็นด้วยกับเจเคครับ ผมเชื่อว่า “สิทธิ” มันต้องมาพร้อมความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมด้วย คุณมีสิทธิ บุคคลอื่นก่มีสิทธิเช่นกัน การแต่งตัว การแสดงออก ความชอบด้านจิตใจ ร่างกายก็เรื่องหนึ่ง แต่เอกสารหรือข้อมูลทางราชการมันก่อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ามันควรเป็นแบบที่เคยเป็นนั้นแหละ ระบุคำนำหน้าชื่อแค่ในบัตร เองมันไม่กระทบการใช้ชีวิตของท่านเลยจริงๆ ครับ ผมสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ผมสนับสนุนสมรสเท่าเทียบ สิทธิในการใช้ชีวิตของเพื่อนๆ LGBTQ เต็มที่ครับ แต่บางเรื่องผมว่ามันก่จำเป็นต้องมีขอบเขตของมันบ้างครับ

เห็นด้วยกับเจเคค่ะฝรั่งปากบอกฟรีสปีชแต่มายาแค่แสดงความเห็นของตัวเองไม่ได้ไปคดโกงใครไม่ได้ฆ่าหรือทำร้ายใครแล้วคำพูดก็ไม่ได้ไล่คนไปตายไม่ได้ชี้นำใครคนทำร้ายกันไม่ได้ทำผิดจริยธรรมในการทำงานแต่กลับต้องตกงานเพราะแสดงความคิดเห็น อีกฝั่งอยากพูดอะไรก็ได้ไม่ผิดไม่มีใครไปว่าอะไรแต่อีกฝั่งพอแสดงจุดยืนปุ๊ปแค่หายใจก็ผิดแล้วมันฟรีสปีชประเภทไหนกัน

ผมเป็นผู้ชาย แล้วผมรู้เลยว่า ผมพร้อมเป็นคนชั่วได้ไม่ยากเลย และตลอดเวลาที่มีโอกาศด้วย ผู้ชายสำหรับผม เป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดในโลก แต่ผมไม่ได้หมายถึงผู้ชายทุกคนนะครับ แต่โอกาสที่ผู้ชายจะไปให้ถึงจุดนั้นได้ มีสูงมากๆ เมื่อเทียบกับผู้หญิง ฉะนั้น แนวคิดใดๆที่เป็นการป้องกันผู้หญิง ผมก็คิดว่า เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะ เราวางใจไม่ได้ ว่าจะไม่มีใครฉวยโอกาสจากเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาก เราจะพบว่า ตำรวจไม่เคยทันโจรเลย นั่นหมายถึง การฉวยโอกาสเป็นเรื่องธรรมชาติ และการไม่ประมาทเป็นธรรมะสูงสุด ทรชน ปุถุชน กัลยณมิตร อริยชน ประเภทคน 4ระดับนี้ ผู้ชายมีโอกาสที่จะเริ่มต้นที่ทรชนสูงมาก ในขณะที่ผู้หญิงมักจะเริ้มต้นที่ปุถุชน ผมว่า เรื่องนี้มันก็แค่การสื่อสารที่เข้าใจกันผิดมากกว่า เป็นภาษาที่วิบัติ เพราะ เอาจริงๆ ต่างก็ออกมาแสดงจุดยื่นเพื่อคนอื่นด้วยกันทั้งสองฝ่ายเลย จริงๆก็แค่ต้องมาคุยกัน มาปรับความเข้าใจกัน ก็แค่ยอมรับฟังเหตุผลของอีกฝ่าย อย่ามีอีโก้ เพียงเพราะ กระแสปั่น ผมเชื่อว่า ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลที่ดีทั้งคู่ เพียงแต่ต้องคุยกันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานความคิดดังกล่าวอย่างมีประสิทธิผลสูงสุดให้ได้ เพื่อเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่าไปเล่นตามเกมส์ อย่าปล่อยให้พวกมันฉวยโอกาสจากการไม่เข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย เพราะ สุดท้ายความเสียหายมันจะลงที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆของเราเองนี่แหละ #ฝากให้คิส

ร่างกายคุณ สิทธิ์คุณอันนี้ถูกต้องครับ แต่กรณีของการระบุว่าเป็น ชายหรือหญิง ในเอกสารที่สำคัญ เช่น เอกสารทางการแพทย์เนี่ย ยังไงก็ยังจำเป็นครับ เพราะมันมียาหรือสารบางตัวที่ใช้สำหรับเพศนั้นๆอยู่ ถ้าเกิดคุณระบุว่าเป็นเพศ... แล้วทางหมอจ่ายยาให้ไปแล้วเกิดว่ามีปัญหาขึ้นมาเนี่ยคนที่ซวยมันจะไม่ใช่แค่คุณเองแต่ทั้งหมอและคนที่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบไปด้วย เรื่องนี้อยากให้ทางฝั่งคนในคอมมูมองเรื่องผลกระทบด้านต่างๆที่จะตามมาด้วย🙏

อยู่ทีมJKนะ คือป้ามีเหตุผลรองรับครบถ้วน แจงว่าทำไมควรเป็นงี้ๆๆ ส่วนพวกwokeเวล1 ย้ำ เฉพาะพวกเวล1 พวกนั้นคือ จะใส่อย่างเดียว ไม่สนเหตุผลอะไรทั้งสิ้น ละพวกนี้ดันมีเยอะสะด้วย ส่วนผมก็คิดแนวเดียวกับJK เพศแบ่งทางวิทยาศาสตร์ก็มีแค่2หลักๆ ส่วนอื่นๆ เอาเป็นแยกเป็นอีกหัวข้อก็ได้ เป็นpesonalityหรืออะไรพวกนั้น คิดคำใหม่มาเลยก็ได้ แต่ไม่ใช่เอาไปยัดใส่กับ sex/gender

เห็นด้วยกับเจเคค่ะ เราลองคิดว่าถ้าเกิดคดีอะไรขึ้น เช่น การข่มขืนแล้วผู้ต้องสงสัยถูกระบุเป็นผู้ชาย แต่เจ้าตัวดันไปกำหนดในใบพาสปอร์ตว่าเป็น x เพศไรก็ได้ เพราะกะจะหนีจากการตรวจสมมุติ งี้คนๆนี้ก็หลุดจากการสงสัยไปง่ายๆงี้หรอ ได้จริงนี่โลกวุ่นวายมากๆแน่เลยนะเราคิด 😂

เห็นด้วยกับเจเคครับ ตามกฏหมายก็มีแค่ชายหญิง แต่การใช้ชีวิต รสนิยม ก็คืออิสระในการเลือกของบุคคลครับ

ในฐานะที่เป็นเพศในกลุ่ม LGBTQ+ เรามองว่าเพศทางเอกสารมันควรจะตรงตามเพศกำเนิดเพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์และอื่น ๆ ครับ และเห็นด้วยเรื่องการแปลงเพศในเด็กไม่ควรเกิดขึ้นเพราะวัยเด็กมันเป็นวัยที่ชักจูงได้ง่าย สับสนได้ง่าย ควรจะไปเลือกโดยผ่านวุฒิภาวะของตนเองมากกว่าและควรได้รับคำแนะนำทางการแพทย์ด้วย เพราะถ้ามันเปลี่ยนมันคือทั้งชีวิตของคุณสุดท้ายมันจะกลายเป็นเสียใจทีหลังมันคงไม่ดี

เห็นด้วยกับ เจ เค มาตลอดนะ เราก็ LGBT 😁 ส่วนเรื่องยา เราก็เป็นคนนึงที่ต่อต้านอย่างรุนแรงนะ ส่วนอิพวกที่คิดว่าป้าแกเกลียดทรานส์ ส่วนมากคือออกตัวแรง แล้วลงหลังเสือไม่ได้

การยอมให้ใช้เพศตามที่ต้องการโดยไม่ควบคุมเลย อันตรายมากๆมากกว่าที่เรามองเห็นเยอะ เรื่องของยานี่รู้สึกเลยว่าเป็นความอำมหิตของนายทุนมากกว่าความเห็นใจคนข้ามเพศ

เคยดูคลิปที่พ่อเล่าว่าลูกมาขอแปลงเพศชาย พ่อไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่พ่ออยากรู้ว่าลูกแน่ใจแล้วจริงๆใช่ไหม คนเป็นพ่อแม่นะ แต่นี่สนับสนุนจ่ายยาเด็กอายุ12 อะไรจะฟรีสไตล์ขนาดนั้น

เข้าใจทั้งสองฝ่ายจริงๆ แต่ประเด็นเรื่องยานี่แอบมองว่า ไม่น่าสนับสนุนเท่าไหร่เลยตั้งแต่แรกนโยบายการให้ยาก็ง่ายเกินดูอันตรายมากเลย

พออ่านคอมเม้นท์แล้ว รู้สึกดีใจที่คนไทยยังมีสติ ไม่ด่ามั่วโวยวายไปตามกระแส รู้จักใช้ความคิดกว่าฝรั่งหลาย ๆ คนอีก

เอกสารราชการควรระบุเพศโดยกำเนิดครับ ถ้าเป็นเอกสารเสริมต่าง ๆ จะระบุอะไรก็ตามสบายเหอะ แต่มันควรมีออริจินอลหนึ่งอย่างที่สืบกลับไปได้เผื่อฉุกเฉินไม่ว่าจะด้วยเหตุทางการแพทย์หรือเหตุทางกฎหมายต่าง ๆ นี่ก็เป็น LGBT แล้วก็เป็นบุคลาการทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมองว่าการรักษาทางการแพทย์บางอย่างมีการแยกร่างกายชายหญิงชัดเจน เช่นปริมาณการให้ยาหรืออื่น ๆ เพราะฉะนั้นควรมีเอกสารทางราชการที่ระบุได้แม่นยำ 100 % ไม่คลุมเครือครับ ในเคสฉุกเฉินบางเคสคนไข้อาจไม่ได้มีสติมานั่งตอบว่าตัวเองกำเนิดเป็นอะไร เพราะฉะนั้นการดูบัตรที่ราชการออกมันไวกว่ามากครับ

ไม่เคยมองว่า J.K. เหยียดนะ เพราะ เข้าใจตั้งแต่แรกแล้วว่า ที่พูดมาหมายความว่าอะไร ไม่ได้เหยียดเลย แต่ให้แยกเพศสภาพจริงๆ เพราะ ยังไงพละกำลังก็ต่างกันอยู่ดี ตัวอย่างนะ

ส่วนตัวผมไม่ได้มีอคติกับ lgbt แต่อะไรที่เป็นทางการ ควรจะใช้เพศสภาพของตัวเองตั้งแต่เกิด ไม่ว่าคุณจะตัดจะแต่งจะเสริมอะไรตรงไหน ถ้าเป็นอะไรที่เป็นทางการก็ควรจะใช้เพศสภาพของตัวเอง

เห็นด้วยกับjkนะอายุยังน้อยประสบการยังน้อยจะมาเปลี่ยนเพศแหละควรเอาเรื่องที่จะเปลี่ยนแปลงเพศควรเอาไปคิดเรื่องอนาคตมากกว่าเรื่องนี้😊

ถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่มีสติ ไม่มีญาติ แล้วเอกสารระบุตัวตนระบุเพศ :X ก็ปวดหัวอยู่นะ ไม่รู้ว่าทรานส์หรือแค่ไม่ระบุเพศ

ผมก็เป็นbisexualและก็มีเพื่อนเป็นlgpt แต่ขอเข้าข้างเจเค ทุกคนมีสิทธ์ที่จะชอบอะไรก็ได้แต่ในเอกสารควรเป็นชายและหญิงเพราะมันอาจจะวุ่นวายกว่าเดิม ยิ่งเรื่องยา ยิ่งเข้าข้างฝั่งเจเคเลย

พอมาขยาย JK ก็ไม่ได้แอนตี้เรื่องทรานนะ แต่ JK บอกว่าสิทธิของทรานกับผู้หญิงแท้ๆ สมัยยุคเธอผู้หญิงกว่าจะมีสิทธิ์มีเสียงได้ทุกวันนี้มันยากลำบาก JK ก็ให้้หตุผมในมุมของผู้หญิง ส่วนเรื่องสิทธิก็ทรานเราก็ต้องค่อยๆปรับปรุงกันไปครับ

ผมมองว่าตราบใดที่วิทยาการของเรายังไม่สามารถแปลงเพศได้สมบูรณ์ 100% จริง ๆ มันก็จะมีบั๊กมีคำถามให้กับจุดยืนของทรานส์เรื่อย ๆ ครับ แน่นอนว่ามันไม่ใช่คำถามที่ตั้งขึ้นมาดูถูก แต่เป็นคำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาหาจุดลงตัวที่สุดว่าพอมีทรานส์เข้ามาในมาตรฐานใหม่ การวางตัวของแต่ละเพศจะต้องทำยังไงถึงจะดีที่สุด ยิ่งพอเจเคเขาทำเกี่ยวกับสิทธิสตรีมาเยอะ แถมเป็นนักเขียนด้วย เขาเลยอาจจะเห็นบั๊กเห็นช่องว่างเห็น Plot hole ของการเรียกร้องของทรานส์ การจะออกมาตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ในตอนที่ทั้งโลกกำลังไฮป์กับการ Woke มันเลยเป็นเหมือนการสวนกระแสแล้วตกเป็นเป้าไปแบบไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไหร่ 😢

หนังสือราชการ ควรระบุเพศ จริงๆ เพราะมันตรวจสอบได้ ถ้าเกิดมีเหตุปัญหา

เห็นด้วยกับ JK อีกอย่างโลกจะวุ่นวาย กับการ tracking คน และปัญหาเรื่องอาชญากรรม เป็นช่องทางให้คนร้ายแปลงตัวหนีคดีง่ายมาก

ทีมโว๊คก็เวอร์ไปนะ ใช้คำว่าเหยียดเปลืองไปแล้วตอนนี้ เจเคก็พูดด้วยเหตุและผล แต่ไปบอกว่าเหยียดอย่างเดียวเนี่ยมันบ่ใช่ สำหรับเราโครโมโซมเพศ กับ ความรู้สึกชอบใคร่ทางเพศ ควรแยกออกจากกันดีแล้ว

เรื่องการใช้ยาเราเห็นด้วยกับเจเคนะ เพราะขึ้นชื่อว่ายาเราไม่รู้หรอกว่ามันจะมีผลข้างเคียงอะไรในภายหลังบ้าง โดยเฉพาะเมื่อมันไม่มีการทดลองในคน และเมื่อมันถูกใช้กับเด็กยิ่งต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เจเคก็เป็นแม่คนหนึ่งเขาย่อมต้องมีความเป็นห่วงเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอและถูกชักจูงได้ง่ายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากเยาวชนเหล่านี้ตัดสินใจผิดพลาดแล้วมันย้อนกลับไม่ได้อ่ะ อีกเรื่องเราก็คิดว่าความเท่าเทียมควรมีให้กับทุกคน ทั้งกลุ่มคนข้ามเพศ และชายหญิงทั่วไป ทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและจุดยืนของตัวเอง

Jk Rowling เค้าอยู่มาจนแก่แล้ว ต้องมาโดนเด็กเห่อหมอยด่า นี่ใครจะไปยอม😅

JK ไม่สน ถึงเธอจะโฟเบีย ก็เรื่องของเธอน่ะนะ แต่เรื่องที่คนดังไปสนับสนุนยาที่ส่งผลต่อชีวิตเด็กไปตลอดชีวิตนั่นก็ไม่โอเคล่ะ นักเขียนกับนักแสดงมันก็จบไปหลายปีละ ช่างเหอะ

โดยส่วนตัวผมหลงรักตัวละครในหนังสือมากกว่าตัวนักแสดงที่เป็นคน เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ใช่ แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ หรือ รอน ในวันที่เขาเหล่านั้นไปแสดงเป็นตัวละครหนังเรื่องอื่น ส่วนประเด็นการเหยียดหรือไม่เหยียดผมก็ไม่รู้กับเขาด้วยหรอก ผมก็เป็น Bisexual ผมก็ไม่เห็นว่าชีวิตมันจะมีอะไรมากมาย ตื่นเช้า ทำงาน กิน กลับบ้าน นอน มีเซ็กส์ แค่นี้ชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านไปก็ดีอยู่แล้ว

ซัพพอร์ทความคิดของ JK มาตั้งแต่แรกๆเลย และชื่นชมเธอว่าหนักแน่นดีมากๆ เพราะเธอไม่ได้พูดผิดเลยแม้แต่น้อย

เห็นด้วยกับ เจ.เค. นะ แบบว่า จะทำให้มันยุ่งยากทำไม คุณจะเป็นแบบไหนก็เรื่องของคุณ

เรื่องการเข้าห้องน้ำ/การแข่งขันกีฬา ต้องแยกตามเพศสภาพยิ่งห้องน้ำหรือพื้นที่ส่วนตัวอันนี้สำคัญมาก แต่อย่างอื่นฟรีได้เลย

เราเป็น LGBTQ+ ตอนอายุ 12 ยังแอบชอบเพื่อนทั้งเพศ ช และ ญ อยู่เลยค่ะ กว่าจะรู้ตัวเองว่าชอบเพศ ญ จริงๆ ก็ตอน ม.ปลายแล้ว เลยเห็นด้วยกับความคิดของ JK สุดๆ ไม่ควรให้เด็กอายุ 12 ทานยาอันตรายขนาดนั้น มารู้ตัวทีหลังอาจทำให้เสียใจตลอดชีวิต ส่วนที่เป็นเอกสารทางการ + การแพทย์ เห็นด้วยมากๆ ที่ให้เขียนเป็นเพศโดยกำเนิด สมมติไปรักษาโรค อาจมียาบางตัวที่ ช และ ญ กินในปริมาณที่ต่างกันค่ะ ส่วนการแข่งขันคือโกงมากค่ะ ร่างกายเป็นชายขนาดนั้น ใครจะสู้ไหว บางครั้งเห็นคนปลอมเป็น ญ ลงแข่งก็มี ตรงนั้นยังตุงอยู่เลย 😅

เหมือนกับการที่ถกเถียงกันว่าเด็กควรแสดงความเห็นทางการเมืองหรือเปล่า วุฒิภาวะพร้อมหรือเปล่า พร้อมรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำหรือเปล่า เพราะทุกเหตุการณ์แบบนี้ มันมีคนเบื้องหลังที่ปั่นข้อมูลเอย หลบหลังเด็กเอยนั่นแหล

ได้รายละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณแอดมาก …”การยอมรับความเห็นต่าง“ ดูจะเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ ไม่ว่าในสังคมไหนเนาะ แต่มันควรต้องยอมรับกันให้ได้ ไม่งั้นจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติได้อย่างไร

เห็นด้วยกับเจเค บางทีก็เกินไป ไม่มีใครห้ามไม่ให้เป็น ไม่มีใครดูถูก เขาแค่แสดงความเห็นว่าการจำแนกตามแนวทางวิทยาศาสตร์คือเหมาะสมที่สุด ไม่ไช่จำแนกด้วยความรู้สึก วุ่นตายชัก อันตรายตายชัก รับความเห็นต่างบ้างก็น่าจะคุยกันได้ ไม่ไช่ใครเห็นต่างก็ไล่ล่าเขาอย่างกะคอมมิวนิส...

แอดสรุปได้เป็นกลางมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่มาสรุปให้ฟังนะคะ คือคิดว่า มันคงต้องแยกกัน ระหว่างเพศทางชีววิทยา(sex), กับเพศสภาพ(gender) คือในแง่ชีววิทยา การเข้าห้องน้ำ การแข่งกีฬา การเข้ารพ. มันควรจะยึดตามชีววิทยามากกว่า เพราะมันไม่เหมือนกันจริงๆค่ะ แต่ในแง่เพศสภาพซึ่งเอาจริงๆก็มีการไปแยกในรายละเอียดอีกมากมาย มันมี gender fluidity อีก มันก็ควรจะเป็นสิทธิ์ของคนๆนั้นและทุกๆคนมีสิทธิ์เท่ากัน ทั้งtrans ทั้ง straightง่ะ ส่วนเรื่องยา คือคิดว่ามันเป็นยาที่มีประโยชน์ค่ะ แต่ต้องใช้ให้ถูก ควรมีการกำกับดูแล โดยแพทย์ผู้เชียวชาญ บริษัทไม่ควรมาขายเองค่ะ

บางทีคนกลุ่มก็เอาแต่ใจตัวเองเกิน โดยเฉพาะเรื่องกีฬา คิดได้ไงร่างกายคนล่ะเรื่องเลย

อืม.... ยากให้ยอมรับแต่ตัวเองไม่ยอมรับความเห็น มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอ ที่เราจะชอบหรือเห็นไม่ตรงกัน

เราเป็นเลสเบี้ยน แต่ทรงเหมือนทอมมาก ๆ แล้วมันมีบางความคิดอยากจะข้ามเพศเป็นชายเพราะชอบร่างกายแบบชายเฉย ๆ แต่ยังไงเราก็เชื่อว่ามันคือรสนิยม เพศกำเนิดของเราเป็นหญิง มีจิ๋ม ตรงนี้ไม่มีทางเปลี่ยนได้ แต่ให้สภาพเราเป็นอะไร โครโมโซมเพศเราก็ไม่มีทางเปลี่ยน เหมือนเป็นการบอกเพศกำเนิดเฉย ๆ เราเลยค่อนข้างเห็นด้วยมาก ๆ กับ J.K. ค่ะ

ขอบคุณนะคะ

ถ้าผู้ที่เป็นเพศสภาพชาย แต่จิตใจเป็นผู้หญิง ขอเข้าไปขอตรวจการแท้งบุตรหรือตั้งครรภ์ คงจะวุ่นวายน่าดู

ชายหญิงเป็นหลักก็เข้าใจได้นะ แต่ที่ดูๆผลลัพธ์การWokeมีข้อดีหลักๆคือลดจำนวนประชากรโลก และ ลดจำนวนด้วยซ้ำ นายทุนโลกคือกำลังหาทาง ไม่ให้โลกแน่นจนเกินไป รวมถึงสงครามที่พร้อมก่อขึ้นได้ทุกมีทั่วโลก

ดำรงเผ่าพันธุ์ตามเพศสภาพการเกิด ดำรงชีวิตตามสภาพความชอบและความเท่าเทียม นั่นหมายถึงว่าบางเรื่องเท่าเทียมกันด้วยบริบทของความเป็นมนุษย์ เช่น การให้เกียรติกัน การได้รับโอกาสทางสังคม etc. ในขณะที่บางเรื่อง นอกจากความเป็นมนุษย์เหมือนกันแล้ว ต้องใช้บริบทของเพศสภาพการเกิดมาหลักเกณฑ์ เพื่อสร้างความเท่าเทียมด้วย เช่น การแข่งกีฬา การทำหน้าที่บางอย่าง etc. ไม่อย่างนั้นโลกก็วุ่นวายกันไปหมด ถ้าในอนาคตมีปัจจัยใหม่ๆที่เสถียรแล้วมาปรับเปลี่ยนความเท่าเทียมแต่ละเรื่องให้แตกต่างไปจากอดีต ก็ค่อยว่ากันตามนั้นก็ได้หนิ

เห็นด้วยกับเจเคด้านปัญหาที่เกิดขึ้นนะ ถ้าทางการกำหนดให้ชัดเจน มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน น่าจะช่วยลดช่องว่างไม่ให้เกิดการก่ออาชญากรรมได้ ถ้าจะให้ยกเลิกหรือเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอ่ะ

เราเองก็เข้าใจเจเคนะ แต่ก็เข้าใจฝั่งนักแสดงเช่นกัน เรารู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกันอีกมาก จะบอกให้กลุ่มLGBT Q ว่าคุณเป็นเภทที่คุณเกิดเท่านั้น มันก็ดูไม่เครพสิทธิส่วนบุคคลสักเท่าไร แต่เมื่อเขาได้เป็นเภทที่เขาต้องการจริงๆแล้ว การกีฬาหรือการแข่งขันต่างๆต้องมีการตรวจสอบและข้อกำหนดออกมาเพิ่มอีก แต่ก็อีกนั้นแหละ มันก็จะมีคำว่าสิทธิส่วนตัวเข้ามาอีก

ชีวิตใคร ชีวิตมันคะ ใครจะคิดอะไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคน ๆ นั้น ไม่ก้าวก่าย กัน เอาเป็นว่า ไม่ไป เดือดร้อนคนอื่น พอ

การเอายาให้เด็กไม่ว่ามองมุมไหนมันก็ผิด

เอาจริงนะคะ ถ้าชายข้ามเพศเดินมาเข้าห้องน้ำหญิง เราคงไม่ค่อยสบายใจ

ความคิดเห็นส่วนบุคคลไม่มีถูกผิด ไม่จำเป็นต้องมาขอโทษ

ผมเป็นนะ เเต่เห็นด้วยกับทาง jk อะไรก็ตามมันไม่ควรมากไปครับ เราเอาชนะธรรมชาติไม่ได้ เพศกำเนิดคือตัวกำหนด

ฉันเป็นสาวสอง แต่เห็นด้วยกับเจเคอย่างแรงค่ะ

ผมในฐานะที่เป็นชายแท้ แต่ออกตัวว่าไม่ได้เหยียดเพศที่ 3 หรือทางเลือกเลย แต่เรื่องที่ JK พูดมา มันมีเหตุผลที่สุด

สมัยนี้มีการแสดงความคิดเห็นกันมากมายกว่าแต่ก่อน อาจเพราะมีช่องทางและมีความสะดวกต่อการแสดงความเห็นมากมายและหลากหลาย แต่หลายครั้งที่คนนำอารมณ์มาอ้างว่าเป็นเหตุผลหรือมองแต่ด้านเดียว พอมีคนพูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ก็มองว่าเป็นศัตรูทางความคิด

ผมเห็นด้วยกับเจเคนะครับ ต้องแยกเพศตั้งแต่กำเนิดกับรสนิยมทางเพศ ถ้าเขารักเราจริง เขาไม่สนหรอกว่าคุณจะเพศอะไร ปัญหาคือเรื่องห้องน้ำสาธารณะจริงๆนั้นแหละ ผมว่าถ้าเทคฮอร์โมนจนเพศสภาพเหมือนฝั่งใดก็เข้าห้องน้ำฝั่งนั้น ยังไงผู้หญิงก็เข้าห้องน้ำส่วนตัว ไม่เหมือนผู้ชายที่ต้องไปยืนตรงโถฉี่

เห็นด้วยกับ J.K. กฎธรรมชาติกำหนดมาเเล้วบางอย่างมันก็ฝืนเเหกออกมาไม่ได้

มันแค่กระแส เหมือนเรื่องอื่นๆ นั่นแหล่ะ พอได้ แต่ไม่รู้ถึงขอบเขตที่ควรเป็น

เราเป็นสาวสองเราก็เห็นด้วยกับ Jk ทุกประการ ธรรมชาติมันก็มีแค่ชายหญิงจริง ๆ แต่ LGBTQ มันคือรสนิยมหรือความต้องการส่วนตัวล้วน ๆ

บางที การเรียกร้องสิทธิ ควรเริ่มต้นที่การเคารพสิทธิของผู้อื่นก่อนเสมอ สิทธิทางความคิด สิทธิการแสดงความคิดเห็น ผมว่าหลายๆคนลืมเรื่องสำคัญนี้ไปและเอาแต่จะเรียกร้องสิทธิให้ตัวเองมากเกินไป ผมเข้าใจเจตนาของ JK. นะ และเท่าที่ติดตามข่าวมาผมว่าเขาก็ไม่มีเจตนาเหยียดคนข้ามเพศด้วย แต่อย่างที่แอดบอกว่าเรื่องแบบนี้มันเปราะบางมากๆ การที่เป็นคนมีชื่อเสียงแล้วออกมาเคลื่อนไหวไม่ว่าจะแสดงเจตนาไปทางใดก็ตาม มันย่อมสร้างแรงกระเพื่อมวงกว้าง และต้องเกิดความขัดแย้งทางความคิดขึ้นแน่นอน มนุษย์เราใช้เวลาวิวัฒนาการมายาวนาน กว่าจะเกิดเป็นสังคมมนุษย์และมีกฎเกณฑ์ข้อบังคับข้อกฏหมายอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นการจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ควรใช้เวลาในการพินิจพิเคราะห์ให้รอบคอบรอบด้านที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือ หากเราอยากให้ผู้อื่นเคารพสิทธิเรา ก็อย่าลืมเคารพสิทธิของผู้อื่นก่อนเสมอ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีใครผิดใครถูกแบบ100%หรอก ไม่มีสักฝ่าย ดังนั้นถกเถียงกันแบบใจเย็นๆแบบมีเหตุผลเถอะ

คิดๆแล้วเห็นด้วยกับเจเค ราชการต้องระบุว่าเป็นชายหรือหญิงตามเพศสภาพ คือต้องระบุแต่ไม่ได้ไปเหยียด ไม่ได้ไปดูถูกดูหมิ่น และเห็นด้วยที่พูดมีพวกแอบแฝงไปก่อเหตุไม่อีกอีก ยาก็ด้วย ขาดหลักฐานที่ดีพอ อีกประเด็นคือกีฬา ใจเป็นหญิงแต่ร่างกายเป็นชาย ถ้าแข็งแรงเท่ากัน แข่งได้ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากเกินไปเขาแบ่งเป็นผู้ชายชายแข่งกับผู้ชาย ผู้หญิงแข่งกับผู้หญิงไปทำไม

ไม่เข้าใจว่า มันผิดยังไง คนที่มองว่าต้องแบ่งเพศตามเพศที่เกิด ก็เป็นสิทธิที่คนจะแสดงความเห็น ส่วนตัวเห็นด้วยว่าควรจะให้โอกาสผู้ที่อยากเปลี่ยนไปใช้เพศตรงข้ามจากเพศสภาพที่เกิด แต่ควรระบุเพศสภาพที่เกิดในข้อมูล เช่น บัตรประชาชน ฐานข้อมูลประชาชน เป็นต้น เพราะเพศสภาพอาจกระทบการใช้ชีวิต เบ่น การรักษาโรค บางโรคก็ต้องดูเพศประกอบการรักษา การแข่งขันกีฬา ควรแบ่งตามเพศสภาพที่เกิด เพราะมันจะเอาเปรียบเพศหญิง ถ้าพวกแปลงเพศอยากแข่งขัน อาจเปิดกีฬาเฉพาะทางไปเลย เป็นต้น

ผมเห็นด้วยกับ JK นะ เพราะผมเคยเจอ ทราน ที่ไม่ใช่ ทรานจริงๆ แค่จะเข้าไปแฝง เพื่อประโยชน์ส่วนตัวบางอย่าง ถ้าใครเคยเจออย่างที่ผมเคยเจอ คุณจะรู้ ว่าคนไม่ดี จะมีแผนทำให้เกิดความเสียหาย ได้มากกว่าที่คุณคิด อย่างน้อย ให้ควบคุมให้พอเหมาะพอดี จะดีกว่าปล่อยให้ทุกอย่างอิสระครับ เพราะการป้องกัน มันง่ายกว่าการแก้ไข เราไม่รู้หรอก ว่าเราต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น ยากขนาดไหน

ขอบคุณมากค่ะที่มาช่วยสรุป เพราะดราม่าเรื่องนี้เกร่อมาก ทุกคนพูดถึง ทุกคนออกมาด่ากันไปมาจนน่ารำคาญ บางเพจพูดซ้ำๆจนนึกว่าเป็นเพจองค์รักษ์ปกป้อง JK ไปเลย ซึ่งมันไม่จบไม่สิ้นซะที แล้วสุดท้ายก็หาข้อสรุปจริงๆไม่ค่อยได้ คือมันน่ารำคาญจริงๆนะ

ผมก็สนับหนุนว่ามีควรแค่ 2 เพศ ตามเอกสารราชการ และเพิ่มสิทธิ์ของทางราชการเพิ่มเข้ามาในเรื่องสิทธิ์การรักษาพยาบาล มรดกต่างๆที่เราดูแลคู่สมรสของเราได้

ก็พอรู้จักเพศทางเลือกบ้าง หนึ่งในนั้นคือน้องผมเอง เกิดเป็นชาย ใจเป็นหญิง แต่ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นหญิง แต่บอกว่าเขาเป็นผู้ชาย แต่ตุ๊ด,เกย์ ฯ คือภูมิใจที่เกิดเป็นชาย ไม่โกหกตัวเองว่าเป็นหญิง ผมก็เคารพนะ เรื่องพวกนี้ผมคงเป็นพวกเหยียบเรือสองแคมอ่ะ คือก็ตามใจอยากเป็นอะไรก็เป็น แต่ในอีกทางก็คิดว่าถ้าทำเรื่องนี้ให้อิสระมากไปมันก็จะวุ่นวาย แต่ในความวุ่นวายนั้น เมื่อวุ่นวายสับสนมากขึ้นเรื่อยๆมันก็เข้าที่ของมันเอง การเปลี่ยนเพศแล้วไปแข่งกีฬา ผมเห็นข่าวก็ตะงิดๆว่ะ ก็เขาทำถูกต้องระ แต่มันก็......หื้มมมม ไม่ใช่อ่ะ😅

จริงค่ะ เราก็คิดว่า เอกสารทางการต่างๆ ควรระบุเพศตามกำเนิด และอาจจะมีวงเล็บต่อท้าย ว่าเป็น LGBT หรืออะไรก็ได้ตามที่คนๆนั้นมีความชอบ และอยากเป็น มันดีกว่าระบุ สั้นๆ ว่า x ซึ่งมันทำให้สับสน จะเป็นชาย/หญิง หรือ LGBT เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ เขาจะได้ให้บริการ ให้คำแนะนำได้ถูกต้องค่ะ มันก็เพื่อความสะดวกของชาว LGBT เองทั้งนั้นนะ เราว่านะ

เป็นคลิปที่ทำให้เราเข้าใจเจเคมากขึ้นและถูกต้องกว่าที่ไปฟังคนอื่นมาพูดแค่ว่าเจเคเหยียดเพศ แต่แนวคิดแบบสมัยก่อนก็ทำให้สังคมมันอยู่ง่ายกว่าตอนนี้จริงๆ รู้สึกตอนนี้อ่อนไหวเกินไป ทุกคนเรียกร้องสิทธิกันจนลืมว่าจะต้องอยู่ร่วทกันอย่างสันตินะ 😢 เราเข้าใจทุกฝ่ายแต่ไม่ชอบความเรียกร้องที่ดูยัดเยียดแบบทุกวันนี้เลย 🙏

อยากเป็นอะไรก็เป็น เค้าไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้เป็น แต่คำระบุเพศในเอกสารราชการมันต้องกำหนดตามเพศที่ถือกำเนิดมา ส่วนเพศ X นั้นต้องระบุให้แก่คนที่เกิดมามีอวัยวะทั้งสองเพศในคนเดียว เอกสารทางราชการมันต้องเอามาใช้ในกฎหมาย เพราะถ้าคุณไปทำผิดกฎหมาย เช่น ผู้ชายแปลงเพศไปทำร้ายผู้หญิง ความร้ายแรงของการทำผิดกฎหมายมันก็ขึ้นอยู่กับเพศด้วย ในเคสนี้ถือว่า ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง โทษมันต้องรุนแรงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย...เค้าไม่ได้ห้ามให้คุณเป็นเพศทางเลือก แต่ เค้าแค่ต้องการให้ระบุเพศที่ถูกต้องเพื่อมีผลกับกฎหมายเท่านั้น

พวกคุณดารา ก็ฟังไม่ได้ศัพท์ เอาไปขยายความผิดๆ

แอดสรุปได้ดี สั้นๆ แต่ได้ใจความดีมากครับ

มีเพื่อนที่เป็นทรานส์ นางอยากใช้คำนำหน้าชื่อว่านางสาว เพราะจะได้ไปหาแฟนอย่างอิสระเสรี (นางไม่อยากเฉลยในตอนท้ายว่านางเป็นหญิงแปลงเพศ) นางมีแฟนฝรั่ง ที่นางไม่เคยให้ดูเอกสารของนาง ปัญหาเกิดเพราะแฟนนางอยากพานางไปเที่ยวบ้านเขา นางก็ไปไม่ได้เพราะในพาสปอร์ตย่อมระบุว่าเป็น Mr. และนางก็ใช้วิธีโกหกไปเรื่อยๆ คบกันมา 3 ปี ผู้ชายอยากแต่งงานและบอกว่าอยากมีลูก….. สุดท้ายก็ต้องเลิกกันอย่างเจ็บปวดทั้งคู่

ต้องมองที่เจตนาเป็นหลัก ไม่มีใครผิดใครถูกหรอก แต่ทั้ง2ฝ่ายมองเจตนาต่างฝ่ายผิดไปแค่นั้นเอง

คือว่า LGB ไม่ได้มีปัญหา เท่า TQ น่ะ

ตอนเด็กมีใครบ้างไม่เคยหลงทาง เป็นวัยแห่งการลองผิดลองถูก แต่มันจะเลวร้ายมาก ถ้าหากการพลั้งถล่ำลึกลงไปกับเรื่องใดที่เราเพียงอินกับมันในเวลานั้น ในวันที่ความคิดเรายังไม่ได้ตกตะกอนอย่างจริงจังและรอบด้าน ที่จะส่งผลต่ออนาคตอย่างถาวร อย่างที่จะย้อนกลับไม่ได้อีก ชีวิตที่เหลือคงจะน่าเวทนาไม่น้อย ..

รสนิยมไม่ใช่เพศ บางกลุ่มไม่เข้าใจแล้วตีความว่าเหยียด เราต้องรับความจริงส่วนนี้ไห้ได้ เรามีอิสระในรสนิยม เรามองว่า กลุ่มทรานเริ่มล้ำเส้นแล้วรุกล้ำเสรีภาพของผู้อื่น เพราะบางครั้งการระบุเพศไห้ชัดเจนมันจำเป็นจริงๆ ไม่ว่าการรักษาทางการแพทย์ หรือการใช้ห้องน้ำสาธารณะ

เรื่องนี้เราขอเข้าข้างนักแสดงค่ะ ในส่วนที่ว่าควรสนับสนุนสิทธิของทรานส์ คือ เรื่องเทคฮอร์โมนนี่มันยังพอเข้าใจว่าอายุต้องถึงเกณฑ์แล้วค่อยทำ และด้วยความที่ตัวยายังดูค่อนข้างใหม่ด้วย ตอนนี้ไม่รู้มีการทดลองที่เห็นผลชัดเจนกี่เคสแล้วบ้าง อันนี้ก็ถูกครึ่งนึงของป้าแก แต่ที่ไม่เข้าใจคือ แล้วทำไมแกต้องไปมีปัญหาอะไรกับคำนำหน้าในหนังสือเดินทาง บัตรพนักงาน อะไรแบบนี้ด้วย บัตรสุขภาพมั้ยก็ไม่ สูติบัตรรึก็ไม่ใช่อีก

เราไม่ใช่ LGBTQ+ นะ แต่ในเคสเรื่องยากดฮอร์โมนนี่เราเองก็ไม่เห็นด้วยในแง่ความปลอดภัย แต่ในมุมมองของการเลือกใช้เพศสภาพ มันมีหลายอย่างที่ต้องพิจารณามาก ๆ และยังต้องแบ่งเป็น Case by Case ในแต่ละกรณีเลยด้วย น่าจะเอามาใช้เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมมันก็ยาก ในเรื่องการแข่งกีฬา ที่มีปัจจัยทางกายภาพมาเกี่ยวข้องในบางประเภท ยังไงก็ยังจำเป็นต้องแบ่งตาม ช/ญ อยู่ดี ส่วนเรื่องการใช้ในเอกสารราชการ มันน่าจะใช้ได้อยู่ แต่ก็อาจจะสุ่มเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัย และประวัติอาชญากรรมไปอีก มันมีหลายประเด็นที่ต้องระวังมากกว่าความละเอียดอ่อนทางความรู้สึก หรือการขับเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชน โดยทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นพวก Transphobia แต่อย่างใด เพราะเราก็ปฎิบัติต่อเพื่อนของเราตามเพศสภาพที่เจ้าตัวต้องการจะเป็น และสนับสนุน LGBTQ+ มาตลอด

ขอแสดงมุมมองจากประสบการณ์จริง เรามีเพื่อนเป็น LGBT แต่งหญิงแต่ภายนอกยังมีกายภาพบ่งบอกความเป็นชาย เพื่อนไม่ยอมเข้าห้องน้ำชายบอกกลัวผู้ชายมองว่าแต่งหญิงแต่หน้าชาย กลัวผู้ชายหัวเราะ แต่วันนั้นเราก็รู้สึกว่าเค้าแคร์ผู้ชายในห้องน้ำชาย แต่ไม่แคร์ผู้หญิงในห้องน้ำหญิงจะรู้สึกยังไง ในวันนั้นผู้หญิงในห้องน้ำอีกคนก็มองแสดงออกท่าทีที่ตกใจที่เค้าเข้าไปในห้องน้ำหญิง บางครั้งผู้หญิงเค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย

มันมีแค่ชาย กับหญิง ที่งอกมาคือความนิยมชมชอบต่างหาก

ส่วนตัวเห็นด้วยแบบครึ่งๆทั้งสองฝ่ายนะ ของเจเคคือกะเห็นด้วยว่าเอกสารทางการควรจะมีแค่ช.ญ.ตามลักษณะทางชีวะ เพื่อป้องกันจ้อได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละเพศและ อาจชญากรรม และเห็นด้วยกับนักแสดงที่เพศในจิตใจของเราจะเป็นอะไรกะได้ (มันน่าจะมีช่องแบบเพศกำเนิด, เพศปัจจุบัน แบบนี้ดีมั้ย)

เราเป็นไบที่ไม่เห็ยด้วยเรื่องการใช้ยา มันน่ากลัวและอันตราย การตัดสินใจจะแปลงเพศในอายุน้อยๆ 12-14 มันยังถือว่าเด็กเกินไป