Рет қаралды 144,929
@4meena | EP 37
สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ
การศึกษาพระสมเด็จ รวมถึงพระเครื่องยุคเก่าต่างๆ มีหลากบันทึก หลายตำรา หลายความเชื่อ ซึ่งแต่ละคนก็จะเลือกศึกษา เลือกอ่านและเลือกที่จะเชื่อแค่ในสิ่งที่อยากจะเชื่อ ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์เรา
สุดท้าย สิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า ก็คือธรรมชาติของวัตถุตามกาลเวลา
ที่จะบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เราได้ศึกษา เรียนรู้ตามความเป็นจริง
คลิปนี้เราจะดูกันว่าถ้าเป็นพระสมเด็จ เนื้อแห้ง แก่มวลสาร เราควรจะดูอย่างไร และเห็นอะไรบ้าง
สำหรับพระสมเด็จที่เนื้อมีความแห้งและกร่อน เราวิเคราะห์ตามหลักของธรรมชาติได้ว่ามีส่วนผสมของน้ำมันหรือน้ำว่านค่อนข้างน้อย ส่วนที่มีส่วนผสมของแร่ค่อนข้างมาก อาจจะเกิดจากที่หลายๆ คนเรียกว่า เป็นเนื้อที่อยู่ก้นครก จึงทำให้มีมวลสารที่เหลืออยู่ผสมอยู่มากกว่าเนื้อบนๆ
พระองค์นี้เป็นพระเคยใช้ จึงผ่านความร้อนและความชื้นมาค่อนข้างมาก ปกติถ้าเป็นพระผิวหิ้ง เนื้อจะค่อนข้างแห้ง มีคราบฝุ่นติดแน่น ถ้าเป็นพระใช้งานหนักก็จะมีความกร่อนและฉ่ำจากไอเหงื่อ และถ้าเป็นพระที่ผ่านการอบหรือความผ่านความร้อนสูง เนื้อพระจะดูแกร่งและดูมันเนื่องจากผิวปูนที่ถูกเผา หรือแร่ที่ถูกความร้อนจะออกมาเคลือบผิว เหมือนกับงานเซรามิค
สิ่งแรกที่เราต้องดู คือ พุทธศิลป์
พระองค์นี้ เป็นพิมพ์พระประธาน เกศจรดซุ้ม ประทับในซุ้มระฆัง บนฐาน ๓ ชั้น ด้านหลังเรียบ
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พระพิมพ์ของสมเด็จพุฒาจารย์โต
หลักการพิจารณาพระองค์นี้ เราจะเริ่มต้นจากเนื้อพระและมวลสารต้องมีอายุ ๑๕๐ ถึง ๑๖๐ ปีเป็นอย่างน้อย เนื้อพระไม่ผ่านการอบหรือความร้อนสูง เป็นการกดพิมพ์ แล้วปล่อยให้เนื้อพระแห้งตามธรรมชาติ
เนื้อปูนและก้อนมวลสารมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติให้ศึกษาได้
เนื้อพระ
พระองค์นี้อยู่ในโซนเนื้อขาว ซึ่งตรงกับการวิเคราะห์ว่ามีส่วนผสมของน้ำมันหรือน้ำว่านน้อย
เนื้อพระส่วนมากจึงออกเป็นสีขาว มีคราบน้ำมันให้เห็นอยู่ประปรายบนเนื้อพระ
เนื้อพระทั่วทั้งองค์มีการกร่อน และเนื้อดูช้ำในแทบทุกจุด มีสีเข้มอ่อนสลับกันไปมาทั่วทั้งองค์
มีการผสมเนื้อกับมวลสารค่อนข้างหยาบ เหมือนที่หลายๆ คนเรียกว่าเนื้อก้นครก ซึ่งพระเนื้อก้นครก หรือท้ายครก เนื้อพระอาจมีความแห้ง มวลสารค่อนข้างมากกว่าปกติได้
ตามร่องหรือขอบจะเห็นคราบไอเหงื่อปนกับคราบฝุ่นติดเป็นคราบแห้งๆ
จุดที่เป็นหลุม ขอบหลุมมักจะเป็นขอบคมๆ หลายๆ ครั้งจะพบหลุมที่ด้านในมีขนาดใหญ่กว่าปากหลุม
ก้นหลุมมักมีมวลสารเหี่ยวๆ คราบฝุ่นหรือน้ำมันแห้งๆ
เนื่องจากพระองค์นี้มีก้อนมวลสารค่อนข้างมาก จึงทำให้มีรอยแตกลายงาทั่วทั้งองค์ ซึ่งรอยแตกลายงาส่วนใหญ่ จะเกิดจากจุดเริ่มต้นรอบๆ ก้อนมวลสารเป็นรอยใหญ่ และแตกแขนงออกเป็นเส้นเล็กลง ทำให้เราเห็นว่ารอยแตกลายงามีรอยใหญ่และเล็กไม่เท่ากันทั้งองค์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ปกติการแตกลายงาในพระเนื้อผง เท่าที่ ๔ มีนาวิเคราะห์จากพระที่ได้พบ จะเกิดได้ ๒ แบบเป็นส่วนใหญ่
๑ คือเกิดจากการ แคร๊ก หรือ การที่เนื้อพระและก้อนมวลสารผ่านความชื้นและความร้อนทุกๆ วันเป็นร้อยๆ ปี จึงเกิดการขยายตัวและปริแยกออกจากกัน
ลักษณะรอยจะแตกเป็นกิ่งใหญ่ และแยกออกเป็นก้านเล็กๆ กระจายตัวออกมา
ซึ่งมักจะเกิดในพระองค์ที่เนื้อแห้ง มีน้ำว่านหรือน้ำมันเป็นส่วนผสมน้อย
และอีกรูปแบบหนึ่งคือ เกิดในพระผ่านความร้อนสูงหรืออบ ถ้าใกล้ไฟหรือถูกความร้อนมากกว่า ผิวจะเกิดการปริแยก พี่ๆ เพื่อนๆ ที่เคยผ่านงานอบหรืองานเผา รวมถึงอบขนมปังมา ก็น่าจะนึกภาพออกได้ทันที
สำหรับพระสมเด็จในกรณีที่ผ่านเวลามาเป็นร้อยๆ ปี รอยปริแยกต่างๆ มักจะมีการปิดรอยตัวเอง คือมีคราบน้ำปูน แคลไซต์ อราโกไนต์ รวมถึงคราบฝุ่นต่างๆ อยู่ในร่อง จุดนี้สำคัญนะครับ
มวลสารที่เราพบจะมี
ผงวิเศษ
ผงใบลาน
ก้อนแร่สีน้ำตาล
ก้อนมวลสารสีเหลือง แห้งๆ นวลๆ
แร่ซิลิก้า
เศษเปลือกหอย
เหล็กไหลไพลดำ
แร่ดอกมะขาม
ก้อนแร่สีฟ้า
ก้อนแร่สีเขียว
การดูความเก่า
อย่างที่ ๔ มีนาชอบพูดนะครับ หัวใจของพระเก่าทุกเนื้อคือความแห้ง ถึงเราจะพบความฉ่ำในเนื้อได้ แต่ผิวพระโดยรวมก็จะต้องดูแห้งนะครับ เนื้อพระมีหลายระดับ มีสีเข้มอ่อนสลับทั่วไล่กันไป มีความแตกต่างระหว่างผิวด้านบนและผิวในร่อง
ตามผิวพระเนื้อผงเก่า จะดูนวลตา เราควรเห็นแคลไซต์ของปูน ทำให้ผิวพระดูเหมือนมีเปลือกคลุมผิว
แคลไซต์และอราโกไนต์ เป็นลักษณะของการงอกของน้ำปูนจากด้านในเนื้อพระออกมาด้านนอก ยิ่งถ้าพระองค์ที่มีอราโกไนต์เป็นก้อนขึ้น ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันความเก่าของเนื้อพระได้อย่างดี
ความเก่าจุดอื่นๆ ในพระสมเด็จที่เราควรจะต้องพบเห็น เช่น
ตามรอยยุบหรือหลุมต่างๆ ขอบปากหลุมจะคมๆ เราอาจจะเห็นช่องว่างด้านใน ที่อาจจะกว้างกว่าขอบปากหลุม ที่เกิดจากการยุบตัวจากผิวพระเข้าไปด้านใน ไม่ใช่การผสมก้อนมวลสารติดหรือฝังเพิ่มในภายหลัง
ก้อนมวลสารมีความแห้ง เหี่ยว กร่อน มวลสารต่างๆ ที่เราเห็นจะมากหรือน้อย บางอย่างมี บางอย่างไม่มีได้ แต่ผงวิเศษของสมเด็จโตที่เป็นก้อนสีขาวขุ่นๆ นวลๆ ๔ มีนาคิดว่าเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องเห็น
พระสมเด็จมีการสร้างหลายเนื้อ หลายพิมพ์ หลายวาระ มวลสารและส่วนผสมค่อนข้างหลากหลาย ดังนั้นจนถึงปัจจุบัน เนื้อพระสมเด็จแต่ละองค์ก็แตกต่างกันไปได้หลากหลายรูปแบบ
แต่หลักการทั่วไปจะเหมือนกัน คือเนื้อ มวลสารและการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติตามอายุ
๔ มีนาหวังว่าพี่ๆ เพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์จากคลิปนี้
ฝากกดติดตาม ไลค์เป็นกำลังใจ กดแชร์ความรู้เป็นธรรมทาน
พระแท้อาจจะไม่ได้หายากเท่าพระแพง เรียนรู้และมีความสุขกับการศึกษาพระเครื่อง แล้วไว้พบกันใหม่ สุขกายสุขใจครับ