การจะได้สิ่งใดมา 99% = การลงมือทำ 1% = ความเชื่อ, ความฝัน แต่ 1% สำคัญที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ 99% เกิดขึ้น เพราะฉนั้น เราต้องรักษา 1% ให้เท่าเดิมให้ได้ตลอดรอดฝั่ง จนกว่าเราจะทำมันสำเร็จ

เริ่มลอง manifest จากสิ่งใกล้ๆตัวที่พอจะเป็นไปได้ นึกถึงความรู้สึกว่าถ้าเราได้สิ่งที่ต้องการเราจะรู้สึกยังไง และให้ขอบคุณความรู้สึกนั้น แล้วมันได้จริงๆมันอาจจะไม่ได้มา 100% แต่มันก็ใกล้เคียง

ส่วนตัวใช้ได้ผล แต่ได้เพียง80% ตามกฎแล้ว เราจะได้ในสิ่งที่เราคู่ควร ไม่ใช่ทุกอย่างที่อยากได้ ความอยากได้คืออุปสรรค การปล่อยวางคือหนทางที่พาสถานการณ์ๆเข้ามา แต่เราต้องรู้ให้ได้ว่านี่อาจจะเป็นบันได เพราะฉะนั้นเล่นไปตาม flow ที่เข้ามา และสุดท้าย เราจะได้สิ่งที่เคยคิดแบบไม่รู้ตัว

มันเกี่ยวข้องกับ vibration พลังงานของเราด้วยค่ะ ถ้าอยู่ในความรู้สึกที่เรา"ต้องการ" จักรวาลก็จะทำให้เรารู้สึกต้องการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าสิ่งนั้นคือของๆเรา จักรวาลจะส่งมาให้เร็วขึ้นค่ะ เราลองใช้แล้วมันได้ผลเลยค่ะ สัปดาห์ก่อนเรามีเรื่องกังวลใจมากๆ แต่เราคิดว่าจักรวาลไม่ส่งปัญหาที่เราแก้ไม่ได้มาทดสอบเราหรอก เราก็เลยเชื่อใจจักรวาล ว่าเราจะผ่านมันไปได้ พอเราหยุดกังวลและพลังงานของเรายกระดับขึ้นไปสูงกว่าความกังวลแล้ว เราก็แก้ปัญหาไปได้ด้วยดี แบบง่ายๆเลยค่ะ 😊 (ทางศาสนาเรียกว่าสติ) อีกอย่าง เมื่อต้นปี เรา Manifest ว่าตัวเราได้ไปทะเล บรรยากาศของทะเลมันสดชื่น แดดร้อน แต่เราก็มีความสุข จนถึงวันนี้ที่เขียนคอมเม้นต์ไปมา 3 ทะเลแล้วค่ะ มันได้ผลจริงๆนะ แต่เราไม่ได้ขอหวย เพราะเราชอบทำงานมากกว่า แต่ขอเป็นการทำงานที่สนุกในทุกๆวันค่ะ😊

เราทำ manifestation มา 4 ปี ตอนนี้ 60-70% เกิดขึ้นแล้วจริง ได้ใช้ชีวิตที่อยากใช้ ทั้งการเรียน การงาน ความรัก สิ่งที่สำคัญและ powerful ที่สุดในการ manifestation คือไม่ใช่แค่คิด แต่คือการทำ visualization และ การเขียน journal และการทำ meditation

ขอบคุณค่ะ ขอแลกเปลี่ยนปสก ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเอง.... ส่วนตัวคิดว่า การตั้งเป้าหมาย หรือ การจะทำ Manifest ขอให้เราคิด และเชื่อมั่นไปเลยว่าเราจะได้รับ (ตามกฎแรงดึงดูด) อย่าคิดว่ามันเป็นความกดดันค่ะ เราต้องเชื่อว่าเราจะได้รับ ได้เป็นสิ่งนั้นจริงๆ อย่าสงสัยแม้แต่นิดว่าเราคงจะไม่ได้ ส่วนตัวเคยตั้งมั่น อธิษฐาน ตั้งเป้า อย่างจริงจัง ทุกครั้งหลังสวดมนต์ ว่าขอเจอใครสักคนที่รักเราจริง มีเราเพียงคนเดียว แล้วก็ได้เจอ ได้อยู่ด้วยกันจริงๆค่ะ ในเวลาไม่กี่เดือน เพราะตอนนั้นเพื่อนมีแฟน แต่งงานกันหมดแล้ว . มันเป็นเรื่องจริง แม้เราจะตั้งสเป็คไว้หลายข้อ แต่ความปรารถนาแรงกล้า ในเรื่องหลักๆ จะนำพาคนนั้นมาหาเรา . 😊

อันความเชื่อ เมื่อใช้ กันได้ถูก ย่อมจะผูก ไม่หลุด จากจุดหมาย ดั่งปมเชือก มัดไว้ อย่างไม่คลาย จนถึงปลาย ทางฝัน ที่มั่นคง

ตอนเด็กชอบไปดูบ้านสวยๆ ในสวน หลังใหญ่ๆ เวลาอ่านหนังสือก็จะชอบดูที่เขาพาชมบ้านดารา แต่ตัวเองอยู่บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน จนวันนึงผ่านมา 10 กว่าปี ได้อยู่บ้านหลัง 20 กว่าล้าน เกินฝันมากๆๆ

ตั้งจิตแล้วปล่อยวาง ระหว่างทางทำในสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายนั้นอย่างสนุกและสม่ำเสมอ ไม่นานเป้าที่เราตั้งไว้ก็เกิดขึ้นให้เห็นตรงหน้า ขออย่างเดียว อย่าเครียด ที่พูดได้แบบนี้เพราะฝึกตั้งจิตมาตลอด 3 ปี และได้ตามเป้าหมายทุกครั้ง เร็วบ้างช้าบ้างไม่ซีเรียส 😊

เรานึกออกแล้ว เหมือนเวลาเราคิดถึงเรื่องใดเดิมๆซ้ำ เราก็อยากจะทำสิ่งนั้น เลือกสิ่งนั้น หมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้น และสุดท้าย เราจึงได้รับสิ่งนั้น

ฉันคิดว่าฉันเป็นลูกรักเทพเจ้าที่รอดรถ😅 ตั้งแต่ขับรถเป็น จะไปที่ไหน ที่จอดแน่แค่ไหน มันจะมีที่จอดให้ฉันเสมอ ไม่ต้องวนหา ความคิดและความเชื่อของตัวเรามันสุดเลย

Manifestation จะเกิดขึ้นจริงได้ ผมมองว่า ... เกิดจากจินตนาการที่เสมือนจริง เสมือนแบบที่เราได้มาแล้ว (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มาเต็ม !!) และที่สำคัญ ถ้าได้สิ่งนั้นมา ... คุณจะทำอย่างไรกับมัน และเพื่ออะไร ยิ่งเป็น เหตุผลที่ดีงาม และมีอำนาจของ "True Love" ในนั้น มันสัมผัสได้ "Vibration" มันรุนแรงมาก

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะครับ❤❤❤❤❤

ขอบคุณมาก...ครับ

อิสระครับ.!!คือความปารถนาที่แรงกล้าที่สุด

ep.ต่อไปขอเรื่องvision boardหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะคะ พูดเพลินมาก

เรื่องแฟน คือได้ตามที่เชื่อจริงๆ ว่าอยากได้แบบไหน ทั้งหน้าตา ความคิด การใช้ชีวิต สายอาชีพ แม้แต่ชื่อเล่นเขา 🥰 ได้ครบทักข้อจริงๆ

สิ่งไหนที่พุ่งเป้า ตั้งมั่น เพื่อจะทำให้มันเกิดขึ้นได้ มันคือการสร้างอัตตา ใน อุปาทาน 4 ของหลักธรรม สุดท้ายผู้ที่ยึดอัตตา ย่อมทุกข์กาย ทุกข์ใจ ในท้ายที่สุด การตั้งจิต เป้าหมายใดๆ ล้วนต้องใช้สติ และมองทุกความเป็นไปได้ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยปัญญา ถ้าเราตัดโอกาสทางเลือกต่างๆเพราะอัตตาที่สูง ชีวิตมันจะดำเนินไปด้วยความตึง ฝืนธรรมชาติ และสุดท้ายผลลัพธ์จะแลกมากับสิ่งที่เราไม่ต้องการ Manifest มันดีกับคนที่ขาดสิ่งยึดเหนี่ยวในใจ ไร้หลัก ไร้ที่พึ่งพาและขาดจุดหมายในชีวิตให้ตั้งหลักได้ อาจจะไม่เหมาะกับคนปกติทั่วไปสักหน่อย

ใช้ได้จริงค่ะ หลีกเลี่ยงคำพูดว่าอยากจะ, ต้องการ, คำว่าไม่ ให้เขียนใส่กระดาษว่า ฉันมีฉันได้มันมาแล้ว เคยทำmanifest เมื่อ 3 ปีที่แล้วตามคำแนะนำของใครคนนึงใน KZfaq ช่วงนั้นกำลังตกงานแล้วก็ไม่เห็นว่าชีวิตจะไปในทิศทางไหน หนึ่งในlistนั้นคือ ฉันได้รับ กิจการหรือธุรกิจที่ฉันไม่ต้องลงทุนเองเลยสักบาท อยู่มาวันหนึ่งฉันก็ได้คบแฟนและ 2 ปีหลังจากนั้นฉันก็ได้ บริหารกิจการต่อจากพ่อของเขา โดยที่ฉันไม่ต้องลงทุนสักบาท❤ Listไว้10ข้อ ได้จริงๆ8ข้อ

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

เราโปรแกรมและอธิบายลักษณะของแฟนในอนาคต ในทุกๆอย่าง หน้ากระจกในทุกเช้า บอกว่าเค้ารู้ว่าฉันอยูที่นี่ และเค้าจะมาหาเราในไม่ช้า เราใช้เวลา 7 เดือนค่ะ แฟนเป็นคนอเมริกัน ตอนนี้ได้เจอแล้ว และได้ตามที่ขอทุกอย่าง ต้องเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไขค่ะ ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เราคู่ควรกับความรักที่ดีที่สุดที่จักรวาลส่งมาให้ฉัน ขอบคุณจักรวาลและสิ่งศักดิ์ที่นำสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ฉัน ขอบคุณๆๆ 😊

สิ่งสำคัญที่สุด เวลาทำ Manifest คือ การต้องมีอารมณ์ ความรู้สึกร่วมอยู่ในนั้น ต้องมี Why? เบื้องหลังสิ่งๆ นั้นที่อยากได้ชัดเจน มีความหมายมากพอสำหรับชีวิต ไม่ใช่ แค่ภาพต่างๆ หลายๆ คน เอาภาพบ้าน รถ อื่นๆ มาตัดแปะใส่บอร์ด แต่ทำไมไม่สำเร็จ เพราะ มีแค่ถาพ แต่ไม่มีความรู้สึก อารมณ์ อยู่ในภาพนั้นๆ ยิ่งคิดภาพแล้วเรารู้สึกยังไงกับตรงนั้น เหมือนได้มันมาแล้ว.....

เรียกอีกอย่างว่า life strategy ก็ว่าได้คะ เราตั้งไว้ว่า ไม่ต้องการสามีเป็นคนไทยเพราะประสบการณ์เก่าแย่ๆ อยากมีลูกกี่คน ชายหรือหญิง อยากทำงานแบบไหน อยากมีสามีอย่างไหน แล้วทุกอย่างก็มา เป็นจริงหมด ใช่คะอย่างที่คุณกล่าว คือในหัวเราจะ scan ไว้แล้ว ว่าเราต้องการแบบไหนจริงๆ อยู่ที่ว่าอย่ายอมแพ้ มันใช้เวลานานเหมือนกันกว่า all stars align.

เราmanifest เรื่องแฟนนต่างชาติตามคุณแบงค์เลยค่ะ เมื่อ1ปีที่แล้ว แล้วเราก็ได้คบกับหนุ่มต่างชาติจริงค่ะ เขาบินมาหา แต่บางอย่างมันก็ทำให้ผิดหวังไม่ใช่สิ่งที่เราหวังไว้สุดท้ายเรา ก็เลิกกันเพราะมันยังไม่ใช่ และเราก็ปล่อยวางก่อนทำใจให้โล่ง และเริ่มmanifest ใหม่อีกครั้ง ตอนนี้เจอคนที่ตามที่เราmanifest ไว้ค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ 100% สำหรับเราว่ามันไกล้เคียงกับที่เราmanifest ไว้ค่ะ การคิดบวกสำคัญที่สุดค่ะ

ความเสียใจมาก

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ชอบตรงที่พูดถึงเรื่องปัจจัยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะไม่พูดถึงเลย ❤❤😊

Alljit แอปพลิเคชันเพื่อหัวใจ 💓 พร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคุณ พูดคุยระบาย เรียนรู้วิธีฮีลตัวเอง กับ Alljit ฟรี ดาวน์โหลดของ iOS apps.apple.com/th/app/alljit/id1549529345?l=th ดาวน์โหลดของ Android play.google.com/store/apps/details?id=com.alljit

ขอบมาก ๆ นะคะ

มันเป้นตัวช่วย..ไม่ใช่ตัวหลัก...ความสำเร็จ..ต้องมีนิสัยที่ใช้ด้วย.

Manifest = ทฤษฎี ลงมือทำ = ปฏิบัติ ต้องมี Manifest ที่เเรงกล้ามากๆ กว่าจะถึงจุดที่ลงมือทำ เเล้วสำเร็จได้

เชื่อ-ขอ-วางใจว่าได้รับอย่างแน่นอน เชื่อว่าตัวเองจะได้ขับรถรุ่นนั้นนั้นที่ตัวเองอยากได้ ผ่านไปไม่นานแฟนเราได้รับมรดกเป็นรถรุ่นนั้นเลยจากน้องชายที่เสียไปอย่างกระทันหัน

รู้เรื่องราว❤

ถ้าทุกคนทำได้จริงโลกนี้คงวุ่นวายน่าดู

Determination 08:12

มันแปลว่า เสก ถ้าเข้าใจมันถึงจะทำได้ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ได้

เอาจริงๆนะ พี่เนี่ย ฟังมาเยอะจากช่องต่างๆ หลากหลายคำแนะนำ เราพยายามคิดบวก เราพยายามโฟกัสไปในสิ่งที่เราอยากให้มันเกิด แต่พอคิดบวกทีไร มันจะมีเรื่องให้เสียตังค์โดยไม่คาดคิดเสมอ😅😅 เหมือนที่เราคิดว่าเราอยากลดความอ้วน แค่คิดเราก็อยากกินนู่นนี่นั่นทันที😅😅 แต่มันก็แปลกนะเพราะบางครั้งที่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น

อาจจะดูเก่านะคะ แต่"เจริญสติ ฝึกสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน"

เราต้องเชื่อ100% ลงมือทำ100% แต่ที่แน่ๆชนะกับคนที่ใม่manifestแน่นอน

ต่อให้ manifest ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง แบบที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ ยังเกิดขึ้นจริงหลายครั้งเลย สำหรับเรา มันไม่ใช่แค่กุศโลบายหรือการตั้งเป้าหมายแล้วเชื่อในตัวเอง มันเหลือเชื่อกว่านั้น เหลือเชื่อจนเราเองยังทึ่งเลย

การขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใช่ไหม

มันต้องทั้งเชื่อและต้องลงมือทำด้วย

ชอบคนวัน0107❤

ขออนุญาตแนะนำหนังสือ Conversations with God โดย Neale Donald Walsch (เห็นชื่อหนังสือแบบนี้ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนาครับ) ที่แนะนำเรื่อง manifestation และการ gratitude สิ่งที่เราต้องการ ไว้อย่างน่าสนใจครับ

😊❤

ภาษาไทย คือ ด้วยแรงอธิฐาน

อยากทราบความเห็นจากผู้ที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษครับ ปกติผมได้ยินคำว่า manifest มาตั้งแต่ช่วงเรียนแล้วจากพวกหนังต่าง ๆและตอนนั้นตามที่เข้าใจตามคำแปลคือมันคือการแสดงตัวออกมา เหมือนนักมายากลปรากฏตัว / ทำให้ชัดเจน กระจ่างแจ้ง / สำแดง แสดง อะไรพวกนี้ แต่พอปัจจุบันที่มีคนรอบข้างเอาคำนี้มาใช้ในบริบทกฎแรงดึงดูดอะไรสักอย่างตอนแรกเราก็งงว่า manifest ของเราใช่อันเดียวกันไหม 5555 คือบริบทนี้หมายถึงเอาคำว่า manifest มาดัดแปลงโดยที่่ไม่ได้ตรงกับความหมายเดิมถูกหรือเปล่าครับ

😊

ชีวิตไม่ง่ายขนาดนั้นค่ะ เคยได้ยินบ่อยมากว่าตัวเองมโนภาพตัวเองแต่งงานมีความสุขยังไง แฮปปี้จริงๆ แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิด ฝันเห็นตัวเองเก็บเงินประสบความสำเร็จอย่างนี้ๆ เจอโควิดเข้าไปฝันสลายหมด คือมันมีสิ่งที่เหนือการควบคุมที่เราคาดไม่ถึงอยู่ด้วย ให้โครตพลังบวกยังไงหากมันไม่เกิดมันก็ไม่เกิดอะค่ะ ได้เผื่อใจตรงนี้ไว้บ้างไหมว่าถ้ามันไม่เกิดแล้วจะยังไงต่อ

แต่มันคือ pseusoscience นะคะ😅

❤❤❤❤🎉🎉

ขอรางวัลที่ 1 จักรวาลว่าขอมากไป เลยเปลี่ยนใจ ขอเลขท้าย 2 ตัวแม่นๆ รอเลย

😁😁😁

😂 หราาา

ในฐานะเทรดเดอร์เต็มเวลา ขอเห็นแย้งเรื่อง "ความคิดในแง่ดี จะดึงดูดผลลัพธ์ที่ดี" "ความคิดในแง่ร้ายก็จะดึงดูดผลลัพธ์ร้ายๆ" อันนี้ไม่จริงเลยนะครับ ถ้าเราคิดแต่แง่ดี ไม่ประเมินความเสี่ยง สิ่งร้ายๆจะเกิดกับคนที่มองด้านเดียวครับ

เชื่อว่าจะถูกรางวัลที่1 สักวันต้องถูก

21:36 จริงง ชอบมากก แอดพูดดีมากๆๆๆ ไม่ชอบเลยเฟดๆตัวออก

ไปพูดเรื่อง manifest กับชาวคริสต์มันบอกว่านอกรีต เค้า pray กัน 🙃

เชื่อว่าจริง เวลาเราอ่านหนังสือสอบ คิดว่าต้องติดแน่ๆ มีความชอบและสนใจ แล้วเริ่มลงมืออ่านหนังสืออย่างจริงจัง ก็ติด

โฆษณาเยอะเกินนนน

เสียงเพราะ แต่การเล่าเรื่อง ไม่สนุก ใช้คำไม่น่าดึงดูดให้ฟัง อ่านๆๆๆ ไม่ได้มีน้ำเสียงเล่าที่สนุก แล้วเว้ยๆ เปล่าวะ คำพวกนี้ ไม่น่าฟัง

แต่ก็ต้องเชื่อในธรรมชาติด้วยนะครับ

เชื่อค่ะ กับ ความหมาย Manifest เพราะเรามุ่งมั่นและตั้งใจแรงกล้าทำทุกอย่างให้ได้มา อารมณ์จะคล้ายๆแม่เหล็กจะดึงเป้าหมายเข้าใกล้ตลอดเวลา/ได้ผลกับตัวเองค่ะ😮

ขอ เชื่อ รับ รู้สึกว่าได้มันมาแล้ว เราอ่านหนังสือตอนเรียนมหาวิทยาลัยนานมากแล้ว 10 ปีได้แล้ว เพิ่งมาใหม่ๆ วัยรุ่นต้องมาเข้าใจเมื่อไม่นาน ส่วนใครจากที่เคยทำเมื่ออายุ ต้นๆ 20 นิดๆ เราอ่านของรอนดา เบิร์น ตอนแรกเราซื้อภาษาไทยมาก่อน เราบอกเราอยากได้ทุกเล่ม เราได้ทุกเล่มจริงๆ ตอนเล่นกับการขอครั้งแรกๆ ขอสิ่งเล็กๆ มาก่อน เราก็ได้เรื่อยๆ นะ ได้แบบพอใจ ขอบคุณทุกวันในใจ แล้วค่อยใหญ่ขึ้น ข้อดีคือ ทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ดีในทุกๆเรื่องเจอมากขึ้น ข้อเสียเราว่าไม่เหมาะกับคนที่เขียน ขอไว้แล้ว แต่ไม่ทำอะไร สรุป คือการตั้งเป้าในสิ่งที่เราต้องการในชีวิตและพาเราไปตรงนั่นให้ได้ ส่วนใหญ่เราได้เรื่องอะไรรอบด้านด้วยเองที่ดี เราชอบเดินทาง เราก็ไปมาหลายๆประเทศ เราโชคดีตลอด ไม่ค่อยเจออะไรไม่ค่อยดีในชีวิต ที่มันเด่นสุดเลย เรื่องการขอ เราอายุ 30 บวกแล้ว หน้าเราเด็กมากๆ เพราะเราขอจักวาลตลอด 😆 เรื่องนี้ก็มีส่วนอย่างมากๆเลย แค่เชื่อ ขอรับ และรู้สึกได้ว่าเราได้รับมันมาแล้ว รู้สึกสัมผัสถึงแล้วจริงๆ ใครทำได้ ชีวิตกับการมองโลกที่มาแค่นี้ชั่วคราวมันจะสนุกมากๆ เลย ❤ เป็นกำลังใจสำหรับคนเพิ่งรู้และเริ่มต้นนะคะ ใครที่ยังไม่ได้ดังมี่ขอ หาจุดบอด และหาจุดดีและเดินทางกับเส้นทางเราให้สนุกทุกวัน วินาทีนะคะ 🙃

ที่ไม่ได้สิ่งคิดไว้เพราะว่าความรู้ที่เราได้รับรู้จากโค้ชทั้งหรือผู้มาให้ความรู้ก็เพราะมันเป็นแค่องค์กรขายหนังสือ.ขายของมงคลต่างๆ

ขอบคุณค่ะ