มันเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ผสม อุปทานครับ ส่วนตัวแล้ว ถูกทั้งคู่ แล้วแต่มุมที่มอง ถ้าของที่ต่างกันมากๆ แยกง่ายแน่นอน เช่นเอาMDFมาทำคอ เทียบกับ maple ส่วนของที่คุณภาพใกล้เคียงกัน แยกยาก เลยทำให้มี เกิดกลุ่มขัดแย้งขึ้นมา หลายกลุ่ม เช่น 1. แยกได้จริงๆ 2.แยกไม่ได้ 3.แยกได้ แต่ต้องเป็นผู้เล่น เพราะได้สัมผัส 4.แยกไม่ได้ แต่ทำเป็นแยกได้ เพราะใช้ตาเป็นตัวแยก ฯลฯ

เค้าทำคลิปออกมาเพื่อแนวทาง และให้ข้อคิดความรู้ครับ ซึ่งดีมาก ข้อมูลเยอะดี

กีต้าร์หรือเบส ขนาดรุ่นเดียวกัน เนื้อไม้เหมือนกัน อต่คนละตัวกัน เสียงยังต่างกันเลยครับ จะด้วยปัจจัยอะไรก็ไม่ทราบ รู้แค่ว่า ถ้าเล่นตัวนั้นแล้วชอบคือจบ

ในความรู้สึกของผม คิดว่าเสียงส่วนใหญ่มาจากปิ๊กอัพกีต้าร์ครับ แต่ความรู้สึกว่ากีต้าร์ผลิตจากไม้หรือประเทศนั้นให้ความรู้สึกทางจิตใจมากกว่า ไม้ดีผลิตจากusa จึงเป็นความรู้สึกว่ามันได้มาตรฐานและสุดท้ายเราเล่นแล้วมีความสุข เข้ามือ ชอบเสียงนั้น นั้นคือกีต้าร์ที่ดีของเราครับ

คลิปดี ขอบคุณมากครับ ข้อมูล เนื้อหาสาระ เยี่ยม 👍 ส่วนตัว - ผมก็ยังมีความเชื่อ Tone Wood มีผลกับเสียงกีตาร์ไฟฟ้าด้วย ยิ่งคลุกอยู่กับมันนานวัน ยิ่งเชื่อถือในทฤษฎีโบราณ

ประสพการไม่ได้มาจากตัวหนังสือ​ ต้องเล่น​ มาทั้งขีวิต​ จะเข้าใจเอง​ ต้องเล่นได้เก่งด้วย​ เข้าใจ​เสียง​ ตัวศิลปิน​ ระดับ​ตำบ​ล​กับ​ระดับโลก​ เหตุผล​เขาจะต่างกันสิ้นเชิง​เพราะเหตุใด​

เคยเอาไม้มะขามมาทำบอดี้ครับ เสียงออกเปรี้ยวๆ

ใช่ครับ ลองใช้ของที่มันต่างไปจากเดิมสิครับ ผมเห็นคนใช้แต่กีต้าร์ที่มีแต่tone ไกล้เคียงกะfender แต่ก็ไม่ใช่fender สักที ไม่ลองยี่ห้ออื่นดูบ้างครับ เอาที่มันแตกต่างน่ะ สมมุติว่าใช้สตรัท สิบตัวรุ่นเดียวกันทั้งหมด มันก็ ไม่ได้หมายความว่า เสียงมันจะเหมือนกันทั้งหมดนี่ครับ ลองใช้ของที่มันhigh end สิครับ หรือไม่ก็ สั่งcustom shop แล้วจะรู้ว่าtone wood มีผลอย่างไร อย่างเช่นลองเล่นแค่กีต้าร์เปล่าๆไม่ผ่านอะไรเลย ก็จะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ตั้งแต่ที่ headstock และ body ลองดีดแล้วเอาหูแนบข้างหลังbodyดูครับ เพราะความหนาแน่นของเนื้อไม้มันต่างกันครับ ส่วนเรื่องเอฟเฟ็ค / แอมป์ นั้นมันเป็นส่วนที่เข้ามาเพิ่มเติมมากกว่านะ ถ้าtone wood ไม่มีจริง เค้าก็คงไม่เอาไม้มาทำกีต้าร์ตั้งแต่แรกหรอกคับ ลองดูพวก semi hollow หรือ hollow body สิผมว่ามันชัดเจนนะ เพราะมันเป็นลูกผสมระหว่าง โปร่ง กับ ไฟฟ้า ใช้สำหรับเล่นแนวjazz แนว blues อีกอย่างนึงนักดนตรีแจ๊ส เรื่องของโทนเป็นอะไรทีซีเรียส มาก เพราะนอกจากการปรับที่ปุ่มtone แล้วไม้ที่นำมาทำbodyยังต้องให้โทนเสียงที่เค้าต้องการอีก ซึ่งเค้าคัดtoneกันแบบถึงพริกถึงขิงเลยก็ว่าได้ อย่างgibson les paul ก็มีซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ fender strat ก็มีซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ ยี่ห้อเดียวกันทรงเดียวกัน pick up รุ่นเดียวกัน แต่ไม้คนละชนิดแค่นี้โทนเสียงมันก็ต่างแล้วคับ ลองใช้กีต้าร์ ให้หลากหลายทรงครับ มันให้โทนเสียงของไม้ต่างกัน ไม่ควรยึดติดกับอะไรเดิมๆ อย่างเช่น ชอบ สตรัท ก็จะหาเฉพาะที่มันซาวแบบ สตรัท ซึ่งมันเป็นอะไรที่จำเจนะผมว่า จะมีกีต้าร์หลายตัวทั้งทีทำไมไม่หาคาแล๊คเตอร์ เสียงต่างๆกันออกไป หรือไม่ถ้ามาสาย สตรัท ทำไมไม่ ลองพวก ที่เป็นhigh endไปเลย ยกตัวอย่างbrand thai custom อย่าง nng /thanakorn /rangka ส่วน brand ต่างประเทศก็ /kiesel / mayones /fgn /fender customshop ประมานนี้ครับ จะได้เห็นถึงความต่างของtone wood ปล.จะtone wood หรือไม่ tone wood ฝีมือสำคัญที่สุดครับ

ในมุมของผมไม้มีผลต่อกีต้าร์ไฟฟ้าน้อยมากกกก เคยดูคลิปกีต้าร์เหล็กก็เสียงดีเหมือนกัน

ไม่ใช่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อแต่คือบางคนยังฟังไม่ออก คนฟังออกเขาไม่มาเสียเวลาถกเถียงดราม่ายืดยาว

ใครก็ตาม ที่จะบอกว่าเรื่องโทนวูดจริงหรือไม่จริง คุณต้องลองทดลองแบบ... แบบวิทยาศาสตร์นั่นแหละ ผมเรียนมาทางสายวิทยาศาสตร์มา พอเจอหัวข้อนี้ผมก็อึ้งนะ คือ คิดไม่ออกว่าจะจัดการทดลองยังไงไม่ให้มีข้อโต้แย้งได้ อย่างที่มีคลิปตัวอย่างหนึ่งของเขาบอกนั่นแหละว่ามันต้องทดลองที่ละเอียดมากๆ ในการพรูฟเรื่องนี้ ที่สำคัญคำว่ามีผลต่อซาวด์กีตาร์ต้องมีแรงค์ด้วย เช่น มีผล 0.1% ของเสียงกีตาร์ทั้งหมด เราจะนับว่ามีผลมั้ย ถ้ามีผลน้อยมาก เจออุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่น เอฟเฟกต์หรือแอมป์ เข้าไปมันก็หายไปแล้ว หรือถ้ามีผลมากมีมากระดับไหน... คำตอบที่เป็นวิทยาศาตร์ค่อนข้างจะยุ่งยากในการทดลองมากครับ ที่สำคัญเครื่องมืออาจจะวัดได้ แต่หูมนุษย์จะวัดได้หรือเปล่า แต่สุดท้ายแล้ว ผมว่าเราจบง่ายๆว่า เมื่อไหร่เราไปลองกีตาร์ แล้วเราชอบซาวด์ของมัน จบครับ ไม่ต้องถามด้วยซ้ำว่ามันเป็นไม้อะไร ก็เราชอบมันนี่ ไม้อะไรมันจะสำคัญอะไร นอกจากความหนักของมัน 555

หูไม่ถึงไง ย่านความถี่หูคนเราได้ยินการแยกแยะมันต่างกัน ถึงได้กากอยู่แลบนี้ไง

ไมค์อันเดียวกัน แต่คนละคนร้อง เสียงมันก็ต่างกัน เช่นเดียวกันกับปิ๊คอัพ และเนื้อไม้

ถ้าจะทดลองจริง น่าจะเอา oscilloscope มาต่อกับ output กีต้าร์นะครับ เราจะได้ sine wave มา (เคยลองต่อตอนทำ efeect กีต้าร์) แล้วเอามาแปลง fourier จะได้ spectum ของความถี่แต่ละย่านมา มันจะสามารถเห็นเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน มากกว่าจะให้แต่ละคนมานั่งฟัง แล้วบอกว่าเหมือนไม่เหมือนเนี่ย หูคนเรามันรับได้ไม่เท่ากันอยู่แล้วครับ ประสาทสัมผัสเราก็เสื่อมตามวัยด้วย แต่อย่างพี่เจ้าของคลิปบอก ไหนจะสาย effect ต่อตู้ ต่ออะไรต่อมิอะไร เล่นรวมวงกันอีก มันมีผลน้อยมากกกกกๆ คุณแยกความดังหรือความถี่เสียงของกีต้าร์คุณที่เล่นด้วยตัวคุณเอง ตู้อันเดียวกัน ปรับเหมือนกัน effect เหมือนกัน สายแจ๊คยี่ห้อเดียวกัน แต่อันนึงเป็น 3 เมตร อันนึง 6 เมตร ออกไหมละครับ ตัวนำที่ยาวกกว่าจะเกิด voltage drop ทำให้สัญญาณที่ได้มี amplitude น้อยกว่า แต่เอาเข้าจริงมันแยกไม่ออกหรอกครับ (มีทฤษฎีนะครับผมไม่ได้มโนเอง) ถ้าจะบอกว่า อันนี้มีผลอันโน้นมีผล มันก็มีผลทุกอย่างแหละครับ บัคกรีวงจรข้างใน ถ้าใช้ตะกั่วไม่เท่ากัน ก็เกิด voltage drop ไม่เท่ากันแล้วครับ resonance หรือ harmonic จากตัวไม้ น้ำหนักไม้ ความหนาแน่นไม้ ส่วนตัวผมก็เชื่อครับว่ามีผล แต่จะมีผลกี่ % เนี่ยสิ ถ้าเราหลับตาฟังแล้วแยกไม่ออก มันก็ไม่มีความหมายครับ อย่างคิดว่าลืมตาหรือฟลับตาฟังไม่มีผลนะครับ มนุษย์ใช้ประสาททั้งห้ารวมกัน ทำงานรวมกันครับ มีการ bias (ลำเอียง) ต่างๆนาๆมากมาย ทั้งความเชื่อ อารมณ์ ทัศนคติ หรือสภาพจิตใจ การลับตาลืมตาฟังก็ทำให้เกิดการ bias ได้ครับ เพราะงั้นถ้าวัดเป็นตัวเลข ความถี่ ความดัง ได้เลย ผมว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้มากที่สุดครับ (ถ้าควบคุมตัวแปรได้ทุกอย่างเปลื่ยนแค่ไม้อย่างที่พี่เค้าบอกแหละ 5555)

ผมมีข้อเสนอในการทดลองนะ (แต่น่าจะสำหรับคนมีกำลังพอจะสั่งทำหรือโรงงานทำกีต้าร์ทดลองนะ) คือฟิกซ์ชุดปิ๊กอัพของกีต้าร์รุ่นตลอดกาลอย่าง กิ๊บสันเลสพอล กับ เฟนเดอร์ สแตรทโตแคสเตอร์ ไว้ แล้วทำชุดไม้มาสลับลองดูคือ คือ ทำบอดี้เลสพอล แบบเป็นแอช(หรือแอลเดอร์)ปะหน้าเมเปิ้ล(สูตรแบบเลสพอล) เอามาเทียบเลสพอลเดิมๆกับชุดปิ๊กอัพเดียวกัน หรือ เอามะฮอกกานีมาทำเป็นบอดี้สแตรทแล้วก็ใช้ชุดปิ๊กอัพสแตรท น่าจะเห็นผลชัดขึ้นนะครับ ชอบประเด็นที่ตั้งนะครับดีมากๆเลย ส่วนตัวผมก็เคยสงสัยอะไรอย่างงี้เหมือนกันแหล่ะ แต่ก็ยังนิยม เสียง ความงามของกีต้าร์ในแบรนด์นู้นแบรนด์นี้ก็ไม่ได้อยากหาคำตอบอะไรนักหรอก แต่เรื่องชวนคิดนี่มันก็ชวนคิดจริงๆ เป็นกำลังใจให้ในการทำคลิปมีประโยชน์อย่างงี้ครับ

คลิปสุดท้ายชัดเจนครับ มีโทนเสียงนึงที่sustainหายไปหรือเบาลงอย่างชัดเจน ลองฟังดีดี

ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณครับ

ชอบครับ ได้ความรู้มากเลย

พี่มีเหตุมีผลดีมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม

เรื่องไม้มีผลอย่างชัดเจนครับ อีกหลายปัจจัยในเรื่องของไม้ ต้องลองทำกีต้าเองดูสักตัวจะเข้าใจครับ ว่าทำไมเพราะมันยาวมากและยุ่งยากมากกับเรื่องไม้

วัสดุที่ใช้ทำกีต้าร์ไฟฟ้าทุกชิ้นส่วนนั้นมีส่วนสำคัญน้อย กล่าวคือหากเปลี่ยนวัสดุแค่เพียงไม่กี่ชิ้น เอกลักษณ์ของเสียงก็จะไม่เปลี่ยนมาก แต่หากเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำมากๆเข้าจากส่วนที่สำคัญน้อยๆ ก็จะเด่นชัดขึ้นมา ทำผู้ผลิตเค้าดึงเอาศักยภาพเสียงของวัสดุแต่ละชนิดมารวมกันจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เสียงของตนเอง ประมาณว่าไอ้โน่นนิดไอ้นี่หน่อยนั่นแหล่ะ สมมุติว่า(สมมุติน๊ะสมมุติ) - ลำตัวมีผลนิดนึง - คอมีผลนิดนึง - นัทมีผลนิดนึง - บริดจ์มีผลนิดนึง - ความตึงสายมีผลนิดนึง - วงจรไฟฟ้ามีผลนิดนึง - ทรงของกีต้าร์นิดนึง(มีผลต่อองศาในการดีดและจุดที่สัมผัสกับลำตัวของผู้เล่น) - เอฟเฟคมีผลนิดนึง - แอมป์มีผลนิดนึง - ห้องที่ใช้เล่นมีผลนิดนึง - อื่นๆอีก (ยังคิดไม่ออก) ตัวแปลที่เค้าเอามาทดสอบกันส่วนใหญ่เป็นเนื้อไม้ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมยากที่สุด ส่งต่อคุณภาพเสียงน้อย แต่เป็นส่วนแรกที่ถูกนำมาพิจารณาสำหรับสร้าง ประมาณว่าเอาเนื้อไม้เป็นตัวตั้งแล้วเอาส่วนอื่นๆเป็นตัวเสริมเพื่อดึงเอาเอกลักษณ์ของเสียงออกมา

ผมเห็นด้วยครับเรื่องของเนื้อไม้มีผลกับการสั่นนิดหน่อยของแพงทำปราณีต สวย สัมผัสดี แค่นั้น ถ้าคุณลองพันปิ๊คอัพ จะรู้เลยว่าเสียงและสัญญานออกแรงหรือไม่แรงต่างกันเลย จะฟังโทนวูดต้องไม่เสียบแจ็คว่ามันทะแวง หรือก้องกังวานต่างกันแน่นอน

ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณมากเลยครับ

ผมว่าTonewood ในเครื่องดนตรีประเภทไฟฟ้าทั้งหลายมันมีแหละครับ แต่มันน้อยมากก็เท่านั้นเอง

ผมเคยเอาลำโพงเครื่องคิดเลข(เวลากดจะดัง ติ๊ดๆ) ที่เป็นแผ่นสังกะสีหรือทองแดงนี่แหละ ที่เป็นแผ่นกลมๆ ตรงกลางเหมือนจะเป็นคาบอนฉาบไว้เป็นขั้วบวก ตรงขอบ(แผ่นทองแดง)เป็นขั้วลบ ต่อเข้ากับแจ๊ค ตัวเมีย เอาแผ่นนั้นไปแปะเข้ากับกีต้าร์โปร่ง ให้มันแน่นๆ กับไม้ หรือจัดกาวตราช้างไปเลย ผลก็คือกีต้าโปร่งธรรมดา กลายเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าครับ แต่ก็ไม่เคยเอาไปลองกับกีต้าร์ไฟฟ้า

ชอบความคิดพี่นะครับ อย่างเช่น การเลือกกีต้าร์ไฟฟ้าเนื้อไม้เป็นสิ่งที่ตัวผมเองไม่ได้มองตั้งแต่เริ่มแรก มองในส่วนของความสวยงามของเนื้อไม้มากกว่า สิ่งที่สำคัญที่ตัวผมเองตัดสินใจคือทัชชิ่งง่าย ฮาร์ดแวร์โอเคมีความเป็นคุณภาพ เพราะเมื่อไหร่เราเรอ่มนำมาลงระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเอฟเฟคผ่านตู้แอมป์ร่วมกับเสียงรบกวนกลายเเป็นว่าถ้าโทนวู้ดมมีจริงก็เป็นส่วนที่น้อยมากๆที่ทำให้มีผลต่อเสียง กลับกลายเป็นว่ามองเรื่องความสวยงามของไม้และลักษณะของเนื้อไม้แทน

ถ้าไม้ไม่มีผลเเล้งทำมัยเสียงfender คอขาวกับคอดำ เสียงมันต่างกันครับผมได้มีโอกาสลองก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองหลายตัวคอขาวเเละดำ ผมดีดเเล้วมันเเตกต่างกันชัดเจน กีต้าร์ที่ผมลองคือรุ่น สเตลดาท เม็กสิโก สเป็กอย่างอื่นเหมือนกันหมดยกเเว้นว่าคอดำมีไม้โรสวู๊ดเปะน่าบนคอแผ่นบางๆทำมัยเสียงมันต่างกันขัดเจนถ้าไม้ไม่มีผลเเล้วทำมัยเสียงต่างกันข่วยตอบผมที ถ้าลองเเล้วไม่รู้สึกถึงความต่างผมเเนะนำเคะขี้หูบ้างครับ

ผมเชื่อว่าเสียงจากเนื้อไม้มีจริง ทดสอบง่ายๆเลยครับ 1-หาหูฟัง inear แบบเป็นจุก 2-เสีบหูฟังใส่เข้าหูเราทั้ง 2ข้าง 3-ให้นำสายหูฟังไปแนบหลังบอดี้กีต้า(ทำสายให้ตึงๆโดยให้สายหูฟังแนบดานหลังบอดี้ แล้วเราใช้หน้าอกหรือมือเรากดที่หูฟังไว้ 4-จากนั้นพอสายตึงได้ที่เราลองดีดโน๊ตต่างๆดูจะได้ยินเสียงกีต้าร์ผ่านการสั่นจากด้านหน้ามาถึงด้านหลังบอดี้ขึ้นมาถึงหูเรา(จะได้ยินเสียงดังกว่าดีดปกติ) 5-ขณะดีดสายไม่ต้องต่อแอมป์ใดๆทั้งสิ้น กีต้าดีๆ แพงๆ จะสัมผัสถึงเสียงที่สั่นเข้ามาด้านหลังบอดี้ชัด และกังวาล โดยเฉพาะพวก gibson ถ้าเสียงมันผ่านเนื้อไม้ไม่ได้ทำไมเราถึงได้ยินผ่านสายหูฟัง 6-เช็คเสียงโดยแนบสายหูฟังให้ตึงๆระหว่างบอดี้ และ คอกีต้าร์ ผมทดสอบกับกีต้า 3ตัวที่มี ดัง 6.1-gibson fended studio 2016 ไม้มะฮอกกะนี บอดี้ และคอ เสียงโทนที่ได้โปร่งๆ กังวาล ทั้งบอดี้และคอเป็นมะฮอกกะนีเหมือนกันโทนเสียงเหมือนกันที่ฟังออกมาทั้งคอและบอดี้โทนเดียวกัน 6.2-fender american standard telecaster 2012 คอ และ บอดี้ ใช้ไม้คนละชนิดกัน เสียงที่ออกมาบอดี้เป็นไม้ alder ได้โทนอุ่นๆนิดนึงโทนอุ่นกว่า gibson ก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไม gibson โทนแหลมมากกว่า fender ดีดสายเปล่านะไม่ได้ยุ่งกับเฟรท (ใช้สายเบอร์เดียวกัน 09 อิเล็กเซอร์ทั้งคู่ และพึ่งเปลี่ยนไปพร้อมๆกัน) ส่วนตรงคอเป็นไม้เมเปิ้ล โทนเสียงจะดังกังวาลกว่าบอดี้พอสมควร และ มีแรงสั่นไปจนถึงลูกบิดเสียงที่ออกมาก็ยังคงดังกังวาล และมีย่านแหลมใสดีกว่าตัวบอดี้ เสียงตรงคอดังกว่าตรงบอดี 40-50% (ดีดสายเปล่าๆ ใช้สายหูฟังแนบระหว่าบอดี้ และ คอกีต้าสลับกัน) 6.3-washburn wm24-v เนื้อไม้มะฮอกกะนี คอมะฮอกกะนี เสียงที่ได้ หนาๆ ทึบๆ ไม่เหมือน gibson ที่โปร่งกังวาลกว่า ที่ใช้ไม้มะฮอกกะนีเหมือนกัน จะว่าทึบกว่า alder ที่เป็นบอดี้ของ fender ก็ว่าได้ เสียงแน่นๆ ตึบๆ น่าจะอยู่ที่คุณภาพวัสดุ หรือคุณภาพไม้ หรือสีที่พ่นหนาไปอันนี้ไม่แน่ใจ แต่เสียงตรงคอ และ บอดี้เหมือนกัน ส่วนนี้ผมมองว่าเนื้อไม้มีผล อย่างเช่นตัว fender american standard telecaster ใช้ไม้ตรงคอ และ บอดี้ต่างกันโทนเสียงต่างกันในเรื่องความดัง เบา และเสียงตรงคอกีต้ามีความแหลมกว่าตัวบอดี้เมื่อตั้งใจฟังดีๆจะเห็นได้ชัดว่าเนื้อไม้สามารถรับแรงสั่นของสายกีต้าร์และเปลี่ยนโทนได้ตามเนื้อไม้จริงๆ แต่คงไม่เท่าการเปลี่ยนสายจาก 08 ไป10 ครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็พิสูจด้วยตัวเองแล้วว่าเสียงมันวิ่งผ่านเนื้อไม้ได้จริงๆ อยากรู้พิสูจเองไม่ต้องพึ่งฟิสิกใดๆ ได้ยินเอง และไม่ต้องไปค้นคว้าอะไรให้ยุ่งยาก ทุกคนล้วนมีความเชื่อที่ต่างกัน และการได้ยินเสียงของหูแต่ละคนต่างกัน และผมก็เชื่อแล้วว่าเนื้อไม้นำเสียงได้จริง ซึ่งก็พิสูจเองไปเลย เมื่อไม้มันนำเสียงได้เสียงวิ่งผ่านเนื้อไม้จากด้านหน้า มาด้านหลัง และส่งไปจนถึงไม้ตรงลูกบิด ก็ย่อมทำให้โทนเสียงเปลี่ยนไปตามสภาพพื้นผิวไม้ที่เสียงวิ่งผ่านเหมือนน้ำที่ไหลตามร่องโขดหิน

ผมคิดว่า tone wood มีผลต่อเนื้อไม้ครับ แต่ก็ไม่ทั้งหมดครับ ภาคไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญทุกอย่างมีส่วนสำคัญต่อเสียงครับมากน้อยตามลำดับครับ

ความคิดผมคือ ไม่ว่าจะไฟฟ้าหรือโปร่ง เกี่ยวที่ไม้หมดครับ เพราะถึงเราจะใช้ เสียงจำลองจากตัวเอฟเฟคก็จริง เเต่อย่าลืมว่าก่อนที่เสียงจำลองจะทำงาน ต้องผ่านเสียงจริงก่อนครับ เสียงจริง ก็มีปัจจัยที่ทำให้เกิด crt. ห้าอย่าง 1.ไม้ 2.สาย หรือ bodyของมัน 3. ปิ๊กการ์ด 4.รูเเจ็ค(มีผลเล็กน้อย) 5.เฟรตบอร์ด

basswood มันธรรมดาตรงไหน Tom anderson หรือ suhr , music man คงร้องไห้ที่ได้ยิน 555

ขอแสดงความเห็นนะครับ ผมน่าจะอยู่ฝั่งเชื่อว่า Tonewood ไม่มีผลกับกีต้าร์ไฟฟ้านะครับ แต่เชื่อว่ามีผลกับเครื่องดนตรี Acoustic ผมไม่เอาความรู้สึกของความต่างของเสียงมาตัดสินว่ามีจริงหรือไม่จริงเพราะแต่ละคนมีสัมผัสต่างกัน ซึ่งสำหรับผมแล้วไม่สามารถตัดสินได้ว่ามีจริงหรือไม่จริง ผมเอาการทำงานของ Pickup มาตัดสินนะครับ การทำงานของ Pickup คือการเหนี่ยวนำแม่เหล็ก ไม่ใช่ตัวรับเสียงจากสายนะครับ ขดลวดพันรอบแม่เหล็ก ไม่สามารถรับเสียงได้ แม้ว่าจะมีทฤษฎีเรื่อง Microphonic effect แต่การทำงานของ Pickup ไม่ได้ทำตัวเหมือน Microphnoe ครับที่มีแผ่นไดอะเฟรมเป็นหน้าที่รับเสียง เสียงจาก Pickup เกิดจากการการสั่นของสายที่ทำให้สนามแม่เหล็กที่เกิดรอบ Pickup เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นคลื่นแม่เหล็กที่มีค่าเท่ากับเสียง และส่งผ่านเป็นกระแสไฟฟ้าไปยังแอมป์ และแอมป์ก็รับสัญญาณไฟฟ้านี้แปลงเป็นเสียงอีกที สำหรับผมไม้ที่ตายแล้วไม่มีผลกับสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นรอบ Pickup ใดๆ Tonewood จากไม้จึงไม่มีผลใดๆกับ Pickup ครับ

Tonewood มันมีอยู่จริงครับไม่ใช่เรื่องความเชื่อแต่ตอย่างใด ไม่ต้องพิสูจน์ให้เสียเวลาไปหาเปปเปอร์งานวิจัยของพวกฝรั่งมาอ้างอิงเอาก็ได้ครับเพราะเขามีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มายืนยันเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เพราะมันก็แค่หลักการง่ายๆเสียงไหลผ่านวัตถุเกิดเป็น Resonance เพียงแต่ไอ Tonewood ที่ว่านี้มันจะมีผลสักกี่เปอร์เซ็นกันนั่นมันก็อีกเรื่อง เพราะสุดท้ายกีต้าร์แต่ละตัวมันออกแบบมาไม่เหมือนกัน

ไม้ ปัจจัยส่วนน้อยครับ สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้า ปิกอัพล้วนๆ

ร่างกายมนุษย์ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ทำไมบางคนเสียงเพราะ, เสียงดี มีเสน่ห์ ใช้เสียงเป็นเครื่องมือทำอาชีพ เช่น พิธีกร นักจัดรายการ

กีตาร์ไฟฟ้าผมให้ความสำคัญที่ pick up ไม่สนใจ เรื่องเนื้อไม้ แต่ถ้าเป็น อคูสติคกีตาร์จะให้ความสำคัญของไม้มากๆๆ

ผมขอถามแบบความรู้นะครับ กีต้าร์หลักพันกับหลักแสน เสียงต่างกันตรงไหนเพราะผมสายโปร่ง ผมยอมจ่ายกีต้าร์โปร่งแพงๆมากกว่า

ฟังดีๆครับ คลิปที่ Darell Braun ต่างกันชัดเจนครับ ผมฟังแล้วชัดเจนครับ ความ ใส ของเสียง ที่ไปใส่ ตัวเฟนเดอร ต่างกันชัดครับ

ยิ่งถ้าฟังเพื่อฟังโน้ต ยิ่งไม่ค่อยได้ยินความต่างของไม้เลย แต่ก็ชอบไม้แอซนะเพราะสวย

การใช้ไม้แพง ไม้แปะหลายชิ้น ไม้ลายสวย ไม้มีแผลจากโรค มันเป็นการเพิ่มต้นทุกการผลิด และเพิ่มมูลค่าสินค้าให้เพลงขึ้น ผมชอบฟังเมทัล ผมให้ความสำคัญกับเอฟเฟคและบิ๊กอัพมากว่า เพื่อเสียงแตกที่ดุและพุ่งแรง

ไม่เอาไม้ตะเคียนมาทำบ้าง เสียงจะเป็นไง หวานหรือโหยหวน

ส่วนตัวเชื่อว่า โทนวูดในกีต้ามีครับ เเต่ในกีต้าไฟฟ้า มันมีผลน้อย น้อยจนอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัณในการเลือกใช้ ผมยังไม่เห็นมีใครลองประเด็นหนึ่ง คือเอากีตาร์รุ่นเดียวกันไม้ตัวเดียวกันทุกอย่าง สัก 3-5 ตัวมาลอง เพราะสุดท้ายต่อให้ไม้พันธุ์เดียวกันเเต่คนละต้น คนละการเติบโต ก็ไม่มีทางจะได้มวลเนื้อเเละ ความเเเน่นเท่ากันเป๊ะได้ เพราะมันคือของที่เกิดจากธรรมชาติ ต้นนึง ตัดตอนอายุ 15ปี อีกต้น ตัดตอนอายุ 18 ปี (ถึงตัดตอน 15 ปีเท่ากันเเต่ละต้น ก็ไม่สามารถเติบโตเท่ากันเป็ะได้มวลเนื้อไม่มีทางจะเท่ากัน) ดังนั้นเมื่อกีตาร์เเต่ละตัว มันต่างกันเองอยู่เเล้ว พอไปเทียบคนละพันธุ์ไม้ คนก็ยิ่งไปเชื่อในความต่างกันเข้าไปอีก ทั้งๆที่จริง พันธุ์ไม้เดียวกัน เเต่คนละต้น เอามาทำกีตาร์เเต่ละตัว มันก็ต่างกันในตัวเองอยู่เเล้ว

ผมคิดว่ากีตาร์ไฟฟ้าก็เหมือนไมค์โครโฟน รับเสียงจากการสั่นของสาย เช่นกีตาร์กระป๋อง

ขอแจมด้วยคน เนื้อไม้ไม่ได้ข่วยให้เสียงกีต้าไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงจากการรับสัญญาณของ pickup ที่มาจากสายโลหะครับ แต่การเลือกเนื้อไม้ ผู้สร้างตั้งใจจะทำให้การครางของการดีดสายกีต้าไฟฟ้า ให้ครางให้ยาวนานขึ้นเท่านั้น(ลดความห้วน) มันเพราะตรงนี้เองครับ

เนื้อไม้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ทรงกีต้าร์ต่างกันชัดเจน

ผมโมกีตาร์มาค่อนข้างเยอะ โมแพงกว่าตัวกีตาร์อีก ถามว่าไม้มีผลไหม ผมว่า Tonewood กีตาร์ไฟฟ้ามีผลนะครับ เพียงแต่อาจจะไม่มากเท่ากีตาร์โปร่ง อาจจะไม่ถึง 50% และขึ้นอยู่กับปิ๊กอัพด้วย ถ้า Output ของ Pickup เยอะ เสียงเนื้อไม้ยิ่งหาย แต่ถ้า Output น้อย อย่างเช่นกีตาร์วินเทจ หรือกีตาร์ที่ราคาสูงๆหน่อย จะได้ยินคาแรคเตอร์จากความสั่นสะเทือนของไม้ด้วย ซึ่งผมได้ทดลองนำปิ๊กอัพฮัมบักกิ้งของผม ซึ่งใช้ไม้ Basswood ไปใส่ของเพื่องซึ่งใช้ กีตาร์ทรง Lespaul ไม้ Mahogany พบว่าเสียงต่างกันพอสมควรเลยครับ อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้เสียงไม่เหมือนกันคือ Action ด้วย ระยะห่างจาก Pickup กับสาย ระบบภาคไฟฟ้าทั้งหมด รวมทั้งบริดจ์ นัท ลูกบิด ก็มีผลกับเสียงครับ หากช่าง Set Up ดีเสียงกีตาร์ก็ดีได้เช่นกันแม้ราคาไม่สูง ยกตัวอย่างเช่น Master Builder ของ Fender ทำกีตาร์จากลังกระดาษ

ขอตั้งคำถามเพื่อสมมติฐานนะครับ ถ้ามีวัสดุแท่งยาวสามชนิด 1ไม้ 2พลาสติก 3เหล็ก นำมาขันสกรูแล้วขึงสายกีต้าร์ด้วยความตึงเท่ากันทำการดีดด้วยน้ำหนักที่เท่ากัน การสั่นของสายจะเหมือนกันหรือปล่าว ไม่สนใจเสียงที่ได้ยินนะครับ

ชอบการรีวิวแบบนี้มาก ไม่เกียวกับเรื่อง tone wood แต่มันมีตรรกะดีครับ เยี่ยมเลยครับ

ส่วนตัวผมทดลองโดยการเอาปิ๊กอัพเดียวกัน คาปาซิเตอร์เดียวกัน วงจรเดิมใช้กีตาร์หลายๆตัว. คนละทรง ไม้คนละชนิด คนละยี่ห้อ (ซีมัวดันแคน ปิ๊กอัพ) ผลคือ เสียงแตกต่างชัดเจนครับ. เสียงคลีนบางตัวหนาๆในทรงเลสพอล. เสียงสากๆแหลมในทรงSg ส่วนเสียงแตกชัดเจนมากครับต่างกันจริงๆ. อีกประการคุณพูดก็มีส่วนถูกในเรื่ององค์ประกอบอื่นๆที่มีผลต่อเสียงชัดเจน เช่น นัท หย่อง เฟรท ลูกบิด ชนิดปิ๊กอัพ. ก็ทำให้เสียงแตกต่างครับ. ถ้าให้มองเชิงลึกก็ดูเครื่องดนตรีชนิดอื่นด้วยครับเช่น กลองชนิดไม้ก็แตกต่าง เสียงก็แตกต่างชัดเจน. สุดท้ายต้องทดลองเองครับผมทำมาหลายครั้งอยู่ผมขอให้ฝั่ง โทนวู้ดแล้วกันครับ

ผมว่าโทนวูด มีผลแน่นอนครับ ตามกฏของคลื่นเสียงย่อมผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นสะท้อนไปกลับได้เร็วกว่าความหนานแน่นที่น้อยแน่นอนครับ และผมมีความเชื่อว่า ไม้ไทยน่าจะให้โทนเสียงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าไม้นอกแน่นอน แต่ไม่ค่อยมีใครยอมรับและทำการทดลองจริงจัง สุดท้าย หัวใจสำคัญของการเล่นดนตรีคือ การเล่นยังไงก็ได้ให้มีความสุข ผมว่าแค่นี้ก็ตอบโจทย์ได้แล้วครับ

ลองง่ายๆเลย ไม้มาฮอคคานี อิพิโฟน Vs กิบสัน มาเปรียบเทียบดู ไม่ต้องเสียบแอมป์นะ แล้วลองมาดีดดู ว่าการสั่นของคอกีตาร์ของบอดี้ ต่างกันไหม มือกีตาร์อาชีพน่าจะรู้ข้อนี้ดี

ผมเล่นไม่เก่งนะครับแต่ผมขอตอบว่าโทนวูดสำหรับผมมันจริงครับ เหตุผลคือ ผมเคยมีกิ๊ปสัน lp std แล้วเอาPuและชุดวงจรไปใส่ อีฟีโฟน เสียงที่ได้คือ เสียงชัดขึ้นครับ แต่ความหนาแน่นของเสียงไม่เท่ากันครับ อะไหล่ก็ใช้ของโกโตะแพงระดับนึงครับ แต่เสียงที่ได้กลับ ไม่หนาแน่น ถ้าบอกว่า ไม้ไม่มีผลนะครับ แต่ถ้าเอาไปเล่นเวที ที่มีตัวแปลมากๆผมก็ฟังไม่ออกครับ เพราะมันปรับได้ค่อนข้างมาก แอมตู้แอมหลอด เอฟเฟคมัลติ ก้อน EQ เข้าตรงมิกซ์ หรือ จ่อไมค์ มุมไมค์ที่จ่อ. สมมติหลับตาฟังครับ มุมนี้เสียงออกแหลม espแน่ๆ มุมนี้เสียงหนา gibsonแน่ๆ ลืมตามา กีต้าร์สั่งทำ (เหมือนของแสลช) ผมว่าไม้มันมีผลแหละครับ แต่ถ้าผ่านการปรับแต่งฟังไม่ออกครับ เหมือนเมทาลิก้า esp ตอนอัด เอ้าใช้กิ๊ปสัน สรุปมีผลน้อยครับ

ผมเคยดูคลิปทดสอบคลิปนึง เขาใช้กีต้าร์ที่มีบอดี้แค่ไม้ตรงกลางที่เอาไว้แค่ใส่ปิ้กอัพ แล้วเขาทดสอบด้วยการเอาบอดี้ชิ้นข้างที่มีชนิดไม้ต่างๆ มาสวมติดกัน แล้วใช้คอมพิวเตอร์อ่านเป็นกราฟทีละชนิดด้วยการดีดหลายๆน้ำหนักมือหลายรูปแบบ สรุป ไม้มีผลต่อเสียง ไม้ต่างชนิดกราฟก็ออกมาต่างกันครับ แต่ผมว่าทุกอย่าง ทุกอะไหล่ก็คงมีผลไปด้วยเหมือนกัน และถ้าเราปรุงแต่งอะไรมากๆสิ่งนั้นก็อาจจะฆ่าโทนวูดจนเราฟังไม่ออกและคิดว่ามันไม่มี หลายคนจึงเชื่อว่าไม่มี เพราะหูคนเรามันแยกได้แค่ในระดับนึงไม่สามารถแยกได้ละเอียดเหมือนคอมพิวเตอร์ และมารตฐานความรู้สึกของแต่ละคนไม่ใช่มารตฐานเดียวกัน

ผมคิดว่าเนื้อไม้มีผลกับเสียงแต่น้อยมาก ขนาด nut และ saddle ทำจากวัสดุที่ต่างกัน ก็ทำให้เสียงต่างกันแล้ว เพราะฉนั้น ลักษณะของเสียงไม่ได้เกิดจากสายกีต้าร์เพียงอย่างเดียว

เหมือนใน clubhouse คุณทิมจะเปิดประเด็นเรื่อง tonewood อยู่นะ ผมก็เข้าไปฟังอยู่ แต่รู้สึกผิดหวังนิดนึงครับ แขกในห้องที่พูดส่วนใหญ่จะไปในทิศทางเดียวกัน คือ เชื่อว่า tonewood มีจริง แต่แค่ไม่มีอะไรมายืนยันการมีของ tonewood ได้(อารมณ์เหมือนพิสูจน์ว่าผีมีจริงมั้ย) แอบหวังว่าจะมีใครสักคนที่เป็นหน่วยกล้าตาย โต้แย้งในห้อง ก็ไม่มีครับ T_T และแถมนอกประเด็นไปเรื่องอื่นมากกว่า อยากจะเสนอให้คุณทิม(ถ้ามีจัดอีกนะครับ) ควรจะ list ประเด็นที่สำคัญ อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับ tonewood มีตรงไหนที่พูดได้บ้าง ถ้าฟังแขกที่พูดแล้วรู้สึกหลงประเด็น หรือไม่เกี่ยวข้องกับ topic ของเรื่องในวันนั้น ก็ควรจะเบรกหรือข้ามไปครับ หรือจะเปิดโอกาสให้พูดหลังจากจบ topic เรื่องนั้นๆไปแล้ว หรือถ้าจะให้ดี ต้องมีแขกรับเชิญที่มีความเชื่อและไม่เชื่อ มาพูดโต้แย้งกันในประเด็นนั้นๆ ฟังเรื่อง Tonewood แต่ดันมีคนในห้องถามเรื่องสายกีตาร์แบบนี้ดีไหม บางคนก็ขิงกีตาร์ยี่ห้อนี้ดีกว่าอีกยี่ห้อนึง บางคนก็พูดเรื่องเอกเฟคกีตาร์ วงจรนู่นนี่ คือ เดี๋ยวนะ นี้ผมอยู่ในห้องที่คุยกันเรื่อง tonewood จริงๆใช่มั้ย 55

อุปกรณ์ และ อะไหล่ ทุกชิ้น มีผลต่อเสียงหมดครับ แต่จะมาก หรือ น้อย เท่านั้นเอง

เป็น drama ยาวนานฝั่งฝรั่ง ส่วนตัวผมเชื่อเรื่องวัสดุที่ใช้ทำ มีผล ไม่จำเป็นต้องเป็น ไม้ วัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมา ก็อาจจะดีกว่า การสั่นของไม้ เสียงคือการสั่นสะเทือน เดินทางผ่าน ผ่านของแข็ง ของเหลว และ แก๊ส ในกรณีกีต้าร์ไฟฟ้า เมื่อดีสาย แรงสั่น ลงตัวกีต้าร์ ตัวกีต้าร์สั่น แรงสั่นกีต้าร์ ส่งกลับสาย ด้วย เกิดการผสมแรงสั่นกัน Pickup จับแรงสั่น ของ เหล็ก ก็จะรับแรงสั่นที่ถูกผสมแล้ว

สำหรับผมคิดว่า โทนวู๊ด มีผลน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องโทนวู๊ด เช่นกันครับ

ผมเล่นบ่อยครับ ลองเอาลำโพงมือถือเปิดเพลงแล้วจ่อไปที่ปิ้คอัพ เสียงออกมาชัดมา มีทุกย่าน เพราะฉนั้นแล้ว แม่เหล็กที่เหนี่ยวนำสายกีตาร์ ก็เป็นแค่ส่วนนึงทำให้เสียงออกมา อธิบายง่ายๆคือมันมีเสียงจากเนื้อไม้ออกมาผ่านทางปิ้กอัพด้วย ลองทำเล่นกันดูครับ ลำโพงมือถือจ่อปิ้กอัพกีตาร์ จะได้เรียนรู้เป็นสัจธรรมเลยว่าเนื้อไม้โคตรมีผลต่อเสียง

มีผลครับทุกชิ้นในตัวกีต้าร มีผลต่อให้กำเนิดมีเสียง เราพูดถึงกีต้ารไฟฟ้านะ ก็ขึ้นอยู่กับ ปิกอั้ป ด้วยเพราะ เป็นตัวรับสญาณ จากการสั่นสะเทือน ให้เกิดเสียงรอบตัวของปิกอั้ป แต่ถ้าเป็น ปิกอัป ก็จะรับสญาณจากสาย กีต้ารอย่างเดียว แต่ไม้เป็นผลไม่มาก ไม่เหมือนกับปิกอั้บ ทุกชิ้นในตัวกีต้ารมีผลต่อเสียงจริงๆผมเชื่อ ของเนื้อไม้ เนื้อเรซิ้น ตัวเป็นกระป๋อง และไม้ที่คอ เฟรส นัส หย่องหลัง แต่ผมชอบเนื้อไม้อัด ที่เอาเนื้อไม้นั้นเนื้อไม้นี้มาอัด แต่ละชั้นให้เป็นแผ่น ได้โทนเสียงที่มีมิติครับ55))))สวัสดี

Density=ความหนาแน่นของวัสดุ วัดได้โดย นำไม้ต่างชนิดกัน ที่มีความหนาเท่ากัน นำมาถ่ายภาพโดยการ x-ray จะได้flim x-ray ออกมา และใช้ เครื่อง Densitometer วัด จะได้ค่า density ที่ต่างกัน ผมทดลองมาแล้ว โดยได้ตัวอย่างไม้มาจาก ช่างกีตาร์ custom บ้านเราชื่อ พี่ sumrauy ครับ mahog,alder,ash,pipe,afrigun mahog,basswood#### ค่า density ต่างกันหมดครับ Velosity=ความเร็วคลื่นเสียง เมื่อความหนาแน่นของวัสดุ ต่างกัน คลื่นเสียงที่วิ่งผ่านวัสดุ ย่อมต่างกัน ทดสอบโดยใช้เครื่อง Ultrasonic ปล.ผมเป็น NDT Inspector RT levell ll Ut level ll Pt leve ll ยืนยันว่ามันต่างกันครับแต่ไม่มากเท่าไหร่ เช่น Basswood density=2.2 Mahogani density=2.6 ส่วนมันจะให้เสียงต่างกันมากไหม ผมแยกไม่ออก ผมก็เป็นมือกีตาร์ สาเหตุที่ผมทำการทดลองแค่เพียงอยากจะรู้ว่า ไม้นอกที่เอามาทำกีตาร์ มี density เท่าไร มีไม้ไทยตัวไหนที่ พอจะมีค่า density ใกล้เคียงบ้าง จะได้เอามาทำกีตาร์ ที่มีราคาถูกลง ไม่ต้องนำเข้ามา แต่โปนเจคต้องจบลงเพราะ กีตาร์จาก จีน ตัวละ 2250 บาท ไม้ basswood ช่างแม่มเต้อะ 555 จบข่าว

เนื้อไม้มีผลแค่กีตาร์ hi end บางรุ่นที่ติดตั้ง เปียโซ่มาด้วย

กระทู้ดีครับ ได้ความรู้ ผมว่าลองดูนะครับ 1. ลองเอา Gibson LP มาใส่ Pickup ของกีตาร์โนเนม เทียบกันกับกีตาร์โนเนมเดิม ๆ 2. เอา Pickup Gibson ไปใส่กีตาร์โนเนม สลับกันดูบ้าง เสียงต่างแน่นอน ลองสัก 10 ตัวยังได้ 3. หาก Tone Wood เป็นเท็จ เสียงกีตาร์โนเนมที่ใส่ Pickup Gibson LP จะต้องเสียงดีมีคุณภาพเหมือน Gibson LP เดิม ๆ 4. หาก Tone Wood เป็นเท็จ เสียงกีตาร์ Gibson LP ที่ใส่ Pickup โนเนมจะต้องไม่ดีไปกว่ากีตาร์โนเนม เดิม ๆ 5. การทดลองพวกนี้ใช้ Osiloscope วัดย่านความถี่จากลำโพงของตู้แอมป์ได้ครับ จะเห็นภาพรูปคลื่นเสียงชัดเจน 6. จะทดลองเลือกกีตาร์ที่บอดี้มีขนาดเท่ากัน ทรงเดียวกันนะครับ 7. ถ้าใครสรุปข้อนี้ได้แบบมีเหตุผลทางฟิสิกส์และอิเล็กทรอนิกส์ ผมจะเชื่อว่า Tone Wood เป็นเท็จ 8. ผมกำลังมองหากีตาร์ที่ผลิตจากไม้พรีเมี่ยมไว้สักสองตัวครับ เนื่องจากเล่นกีตาร์ราคาถูกไม้เกรดต่ำมามากแล้วไม่ได้เสียงที่ถูกใจ แม้จะเปลี่ยน Pickup ใหม่รุ่นแพง ๆ ก็ตาม ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนกีตาร์ด้วยกัน

ผมว่ามันมีผลนะครับ แค่ดีดสายกีตาร์ก็มีการสั่นแล้วครับดั้งนั้นแสดงว่าเสียงมันก็ต้องออกมาจากไม้ด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ปิ๊กอัพ พี่ลองเล่นกีตาร์ไฟฟ้าแบบไม่เสียบแอมป์สักสัปดาห์ดูครับ

ผมมี gibson les paul standard 2 ตัว ปีเดียวกัน ทุกอย่างเหมือนกัน , pickup เหมือนกัน , setup เหมือนกัน แต่น้ำหนักตัวต่างกัน 4 ขีด สรุปเสียงหนาบางไม่เท่ากัน แต่ไปในทิศทางเดียวกัน

คลิปสุดท้ายนี่เพิ่งดูเมื่อวันก่อนเลย ที่เอากีตาร์มาเฉือน น่าสนใจมากด้วย

ฟังกันยังไง จึงได้เสียงไม้ไม่ต่างกัน แค่ fender start รุ่นเดียวกัน คอขาว กับคอดำ เสียงมันคนละเรื่องเลยนะ

มีผลแน่นอน เพราะ ความเน่นหรือ ความแข็ง ของเนื้อไม่สำคัญมาก การสั่นสะเทือน เป็นหลักด้วย ปิ๊กอัฟ ก็มีส่วนหลัก แต่ไม้ ก็สำคัญ ไมต่าง ดูได้จาก การ ใช้ไม้คนละอย่างดูได้ เช่น ใช้ไม้ขนุนไทยและ ไม้เนื้อแข็งที่เขาใช้อยู่ รับรองเลยว่า เสียงไม่เหมือนกัน สเน่ห์ ต่างกัน ครับ และ ทรงกีต้า ขนาด กีต้า เนื้อไม้กีต้า ปิ๊กอัฟ ย่อง สายที่ใช้ สายไฟต่อวงจร ทุกอย่าง สำคัญไปหมด ถ้าไม่สำคัญ คงไม่ต้องสั่งไม้นำเข้ามาหรอก ครับ งั่นเขาใช้ไม้ที่เรามี กันแล้ว

ถามว่ามีผลมั้ย มีผลครับ แต่ถามว่าสำคัญมั้ย ไม่สำคัญครับ เพราะระบบไฟฟ้ามันปรับแต่งได้อยู่แล้ว ไม่เหมือนอคูสติกที่ปรับแต่งอะไรไม่ได้ อยากได้เสียงดีไม่ดีภาคไฟฟ้าล้วน ๆ ครับ ปิ๊กอัพ มิกซ์ อยากได้ยังไงปรับเอาเลยครับ ที่เหลือก็อยู่ที่งานประกอบเนียบแค่ไหน สีไหนสวยถูกใจ ความทนทาน ทรงไหนดีอันนี้ความชอบส่วนบุคคล

คุณควรทำการบ้านเพิ่มอีกเยอะครับ คุณควรขลุกตัวสร้างมันสักตัว คุณจะทราบและเข้าใจมันมากขึ้น ถ้าโชคดีคุณพยายามศึกษามันมากพอคุณอาจจะได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง การแค่ศึกษาพอรับรู้ ความรู้ผิวเผินจะทำร้ายคุณ ไม่ใช่แค่เรื่องคลิปนี้ครับ มันจะรวมไปถึงอย่างอื่นทุกๆเรื่องที่คุณทำในชีวิตครับ จากอดีตช่างทำกีต้าร์ครับ

ผมมองในเรื่องการอนุรักษ์พันธุ์ไม้นะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้ามีอุตสาหกรรมไม้ป่าที่ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับป่าธรรมชาติหรือเปล่า ความเชื่อ(ทฎษฏีวิทยาศาสตร์แบบสมรู้ร่วมคิด)ที่เป็นบวกกับสิ่งแวดล้อมผมก็ยอมเห็นด้วยนะครับ มะฮอคกะนี อายุ10ปียังทำกีต้าร์ไม่ได้ซักตัวเลย ลองเอาไม้ยางมาทำดู แล้วลองเปลี่ยนความคิดที่รับความรู้สึกทางหู แต่ทั้งหมดนี้มันดูเล็กน้อยครับ (อยากทำกีต้าร์จากไม้มะค่า แล้วใส่ปิกอัพแพงๆ อะไหล่ดีๆ แล้วก็คงจะพอใจกับมัน )

ผมเชื่อว่า Tone wood มีอยู่จริงเพราะผมเคยลองเอา Gibson กับ Fender มาดีดแบบไม่ต่อแอมป์เสียงมันต่างมากเลยและเคยเล่นกีตาร์เก่าปี 60 กว่าๆ เสียงมันต่างกันมากๆครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นกำลังใจให้ทำคลิปดี ๆ ต่อไปครับ คหสต. ผมเลือกซื้อกีต้าร์จากหลายองค์ประกอบครับ เช่น story ของยี่ห้อนั้น ๆ ประเภทไม้ตามความเชื่อ อัลเดอร์ มะฮอกกานี สวอมแอส ฯลฯ รวมไปถึงจำนวนชิ้นไม้ที่นำมาต่อบอดี้ และคอ สุดท้ายคือความสวยงามความปราณีตในการผลิต ส่วนเรื่องเสียง ตามความเชื่อของผมเอง กีต้าร์ที่ถูกสร้างอย่างใส่ใจ จะให้เสียงที่เป็นคาแรคเตอร์ของยี่ห้อนั้น ๆ แบบที่มันควรจะเป็น เช่น เฟนเดอร์ ป๊อง ๆ แทวง ๆ ใส ๆ ส่วนกิบสัน ไอบาเนส ต้องก้าวร้าว ดุดัน ขอบคุณครับ

ขึ้นอยู่กับว่าเราฟังออกรึป่าวมากกว่าคับ แต่ถามว่ามีผลต่อโทนไหม มีแน่นอน อาจจะไม่มากเท่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อื่นๆที่สัมผัสกับสายกีต้าร์โดยตรง แซดเดิล บริจด์ ซัสเทนเนอร์บล๊อก ลูกบิดเองยังมีผลต่อเสียงเลย วัตถุดิบที่ใช้ ตะกั่ว เหล็ก ทองเหลือง กราไฟท์ สแตนเลส กระดูก หรือพลาสติก มีผลต่อเสียงหมด แต่โทนวูดที่รู้สึกได้ชัดที่สุดไม่ใช่เรื่องเสียงคับ แต่เปนคาแรคเตอร์ของเสียงคับ แต่ทั้งหมดจะค่อยๆหายไปตอนเลือกสายแจ๊ค ต่อเอฟเฟค เสียบแอม ออกลำโพง สุดท้าย ที่หน้าเวที กีต้าร์ตัวละแสนหรือตัวละหมื่นคนฟังไม่ออกหรอกคับ มีแค่คนเล่นเท่านั้นแหละที่รู้สึก

ส่วนตัวคิดว่า Tone wood มีผลเล็กน้อยมากครับ ถ้ายิ่งผ่าน Effect ผ่านแอมป์ยิ่งแยก Tone wood ไม่ออก ยิ่งมี EQ ปรับเสียงต่างๆแต่ล่ะเพลง ยิ่งฟังไม่ออก ส่วนที่เปลี่ยนแล้วจะเห็นเห็นผลชัดเจนสุดคือ Pickup รองๆลงมาก็พวกวัสดุที่ใช้ประกอบในตัวกีตาร์ตัวนั้น ความทนทานวัสดุ การทำสี ลายเนื้อไม้ ความปราณีตของงาน ที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น อันนี้สมเหตุสมผลที่ต้องจ่ายแพง แต่ถ้าราคาแพงด้วยด้วยเสียงไม้ที่ฟังไม่ชัดเจน คิดว่าไม่สมเหตุสมผลเท่าไร

Pick up และ แอมป์ มี ผลต่อ เสียง ครับ 555 กีต้าร์ไม้บันไดบ้านก็มีนะครับ

การ chamber อีก แต่ล่ะตัว รุ่น ไม้มีผลแค่รูปแบบนึง ไหนจะการผสมไม้อีก เอา ESP กับ Gibson มาใส่ 81 85 จะต่างกันแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่คนเล่นเท่านั้นเอง

เหตุผลทางด้านตลอดไม้ที่หายากหรือการลงทุนเรื่องไม้มันเป็นปัจใจของราคาที่แพง ถ้าใช้วัสดุไม้แพงมันก็มีผลต่อราคากีตาร์ด พอมันแพงทุกคนก็ต้องคิดว่ากีตาร์ดมันต้องดีเสียงดี แต่ทางด้านทิศดีเราก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าไม้อะไรมันจะดีกว่ากัน สําคัญอยู่ที่ฝีมือนักดนตรีจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่คนเล่นอยากจะให้เสียงเป็นไง เพราะแต่ละยี้ห้อก็ไม่เหมือนกัน ทุกคนก็มีความชอบของกีตาร์ดไม่เหมือนกัน ลองคิดดูถ้าไม้มันหมดไปเราจะเอาอะไรมาทดแทน

มีผลครับผมเคยเปลี่ยนบอดี้แต่ชุดปิคอัพเดิมเสียงต่างกันมากเลยครับbody ตัวเก่าเสียงออกแหลมแต่เปลี่ยนบอดี้ใหม่มีเสียงโทนเบจออกมาเนื้อไม้มีผลครับมันเป็นตัวสะท้อนให้กับปิคอัพ

ของบางอย่างซื้อเพราะมีคุณค่าทางจิตใจครับ ซาวด์ในหูแต่ละคนก็ต่างกัน ต่างคนต่างชอบ ผมยังเล่นกีตาร์สองพัน มือสองอยุ่เลย หาหูฟังดีๆ เอฟเฟคดีดี มันก็พอฟังได้ครับ สุดท้าย หมั่นฝึกฝนตนเองดีกว่าครับ ปล.ยังดูคลิปพี่ต่อไปนะครับ สาระดีมาก

เชื่อว่าส่งผล แต่น้อยมาก ๆ มากจนเปลี่ยนอย่างอื่นแล้วส่งผลมากกว่าอีก

แค่gibson lp custom vs gibson lp studio ใช้pickup490R 498Tเดียวกัน ลองถอดpuสลับ ยังไงcustomก้อกินขาด ส่วนfenderฟังไม่ออกไม่ถนัด ทุกวันนี้เล่นp90อยู่ หวานดี ไม่ค่อยสนใจไม้

* เท่าที่ไล่ดู คลิปต่างๆของฝรั่งฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแล้ว(ผมประสบการณ์ด้านดนตรีน้อยมากนะครับ ท่านอื่นๆก็อาจแตกต่างออกไป ลองอ่านทั่วๆครับ) โดยส่วนตัวคิดว่ามีผลครับ แต่ไม่มากนักเพราะยังไงก็ต้องใส่เอฟเฟคเวลาเล่นต้องปรับเสียงแน่นอนมันก็จะลดทอนกันไป ***แต่เท่าที่เห็นคือ มะฮอคกานี มีเบส กลาง แหลม ชัดทุกแบบ (ซึ่งบางคนชอบ บางคนก็ไม่ชอบนะ พอเสียงแหลม มันก็แหลมเกินไป แต่มันอยู่กับเอฟเฟคแล้ว มันก็เหมือนผัดกระเพาไฟลุกในกะทะเลย ) ****เมเปิ้ล เสียงก็กลางจริงๆ เสียงดี คือไม่มีไรโดดเด่น (เหมือนผู้หญิงสวยแต่ไร้ เสน่ห์ แต่ก็อีกนั่นแหละ เราก็จับแต่งตัวด้วยเอฟเฟคได้ดี เพราะผิวพรรณ หุ่นดีมาแล้ว) *****เอลเดอร์ซัสเทน ยาว หวาน (ถ้าสายร็อคอาจจะเรียกได้ว่าหวานจนเลี่ยน ถ้าเพลงสายเพราะๆ ซอร์ฟๆ โน้ตชัดๆช้าๆ หรือโน้ตหลอนๆ หรือเพลงป็อบก็เหมาะเลย) อย่างไรก็ตาม - ปิคอัพก็สำคัญไป 70% - เบอร์ของสายกีตาร์ 10% - การปรับแต่งเอฟเฟคตามแนวที่เล่น+สายแจ็ค+ อปกรณ์อื่น 10% - ไม้คอกีตาร์(ผมคิดว่าเกี่ยวแน่นอน)5% - ส่วนอีก 3%-8% อาจต้องยกให้เนื้อไม้เค้า(ไม้บางชนิดมันก็ผสมกับเอฟเฟคบางชนิด เพิ่มผลผลิตทางเสียงได้ดี) เพราะโดยส่วนตัวยังคิดว่าเกี่ยวข้องกับเสียงครับ * อาจด้วยความหนาแน่น ธาตุต่างๆของไม้ หรือสิ่งลี้ลับอะไรที่มองไม่เห็น 555 ก็ตามแต่ก็ยังคิดว่าเกี่ยวข้องครับ หรือคุณค่าทางใจเช่น การทานอาหาร เนื้อผัดฉ่าวางมาในจานศิลาดลเขียวไข่กาเผาไฟสูงลายเกร็ดน้ำฝน กับ เนื้อผัดฉ่าที่อร่อยเหมือนกันแต่ใส่มาให้ในจานเซรามิคราคาถูกไม่จัดจาน(แต่อาหารก็คุณภาพดีนะ) อันนี้มันก็แล้วแต่ทุนทรัพย์ ความสุขทางใจ และอะไรที่มองไม่เห็น เป็นความรู้สึกล้วนๆ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ ด้านความรู้สึกอยู่แล้ว ขอบคุณสกูฟนี้มากๆครับ และแชลแนลนี้ ดูทีไรก็ได้ความรู้ดีมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ

กฏฟิสิกส์ง่าย ๆ ความแข็งของวัตถุมีผลต่อการสั่นสะเทือน ซึ่งการสั่นของวัตถุไปกระทบกับอากาศเป็นต้นกำเหนิดของเสียง ไม้แข็ง-อ่อน เล็ก-ใหญ่ ความหนาแน่นน้อย-มาก ก็มีผลต่อการสั่นของสาย เมื่อสายสั่นต่างกัน เสียงย่อมต่างกัน ดังนั้นเสียงที่ไปกระทบ Pickup ก็ต้องต่างกันครับ

ผมมีความคิดเห็นที่ว่ามีการอ้างอิงเรื่อง เอาปากมาจ่อที่ปิกอัพแล้วตะโกนมันมีเสียงออกมาจากแอมป์จริง และ ฝั่งที่ไม่เชื่อเรื่อง tnoe woob มาโต้แย้งว่า มวลไม้มีเสียงอคูสติกที่เบากว่าจะมีผลได้อย่างไร ผมว่ามีผลแน่ๆ เรื่องนี้วิทยาศาสตร์ก็พิสุจได้คือ เวลาที่เราดีดละสายมันสั่น มันจะเกิดการสั่นสะเทือน ตั้งแต่บอดี้ยันลูกบิดและหัวของกีตาร์ ฉะนั้น ไอ้ตรงที่มันสั่ง เนื้อไม้จะมีผลต่อToneค่อนข้างชัดเจน และ ส่งเสียงให้กับปิกอัพ ดังนั้น มันจึงมีผล ละรวมถึงไม้แห้ง ไม้ไม่แห้งด้วย อันนี้คือความเห็นของผมนะครับ ถามว่าผมเคยลองมารึยัง แน่นอนครับ มันต่างมากๆ ฮาร์ทแวร์ที่มีความหนาบาง รวมทั้ง นัท ลูกบิด รวมทั้งการจูน เซ็ทอัพ ความสูงต่ำการเลเวรเฟรต โดยรวม ทุกอย่างคือมีผลทั้งหมดครับ

ฟังออกนะ ต่างกันชัดเจน โทนมันสว่าง กับ โทรอุ่น ๆ

คิดว่าเรื่อง Tone wood นั้นมีจริง แต่คงมีผลน้อยมากๆสำหรับเครื่องดนตรีไฟฟ้า ยิ่งกับกีตาร์ไฟฟ้ายุคปัจจุบันที่มีการปรับแต่งเสียงนู่นนี่นั่นมากมาย สิ่งสำคัญจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพการผลิต การปรับเซ็ตต่างๆบนตัวกีตาร์แล้วก็ฮาร์ดแวร์อย่างพวกบริจ์หรือปิ๊กอัพอะไรพวกนี้มากกว่า

ถ้าเป็นกีต้าร์โปร่ง Tone Wood มีผลแน่นอน แต่ กีต้าร์ไฟฟ้า มีผล แต น้อยมาก ขึ้นอยู่กับ ปิ๊กอัพ เกือบ 80-90%

สิ่งที่มีผลต่อเสียงมากที่สุดคือคนเล่นครับ...กีตาร์กากอยู่ในมือกีตาร์เทพเสียงยังออกมาดูแพงเลย

ไม้ มีผลต่อเสียงอยู่แล้วจ้า มีผลมาก มีผลน้อย นั่นก็อีกเรื่อง อีกอย่างนึงที่สำคัญมากๆ คือผู้เล่นจะฟังออกหรือเปล่าน่ะครับ เรื่องพวกนี้นอกจากใช้หูรับรู้แล้ว สัมผัสก็เป็นเรื่องสำคัญครับ มือที่จับดีด ความรู้สึกที่ได้รับต่อแรงสั่นสะเทือนนี่ก็มีผลต่อการรับรู้และตัดสินนะ ไหนจะนิยามคำว่า "เสียงไม้" ของแต่ละคน ที่ไม่เหมือนกันอีกครับ

ผมมีความเห็นว่า อะไรที่มันต่างกันแบบต้องมานั่งจับผิดถึงจะเห็นความต่าง อันนี้ไม่มีผล มันอาจจะต่างถ้าวัดด้วยเครื่องจักร แต่ถ้าหูมนุษย์อาจจะฟังความถี่ที่ละเอียดขนาดนั้นไม่ได้

Gibson les Paul standard 3 ตัวเสียงไม่เหมือนกันนิดหนึ่งซักตัว

เราว่าเนื้อไม้มีเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้เสียงเปลี่ยน น้อยกว่า pickup นะ เห็นด้วยกับเจ้าของ channel

ทฤษฎีที่ว่าบริษัทกีตาร์ใหญ่ๆเอาเรื่อง Tone wood มาปั่นราคา อันนี้ผมก็ว่าไม่น่าจะใช่นะครับ ยกตัวอย่างกีต้าร์ Suhr ที่ราคาแพงหูฉี่เนี่ยเขาก็เลือกใช้ไม้ที่ทุกคนคิดว่ามันเกรดต่ำเสียงบาง เสียงไม่ดี กีต้าร์ที่ใช้ไม้นี้จะต้องเน้นเสียงจากPuเป็นหลัก นั่นคือไม้Basswood แต่suhrกลับเลือกใช้ใน Modern series แพงยับ เสียงดีมีความเป็นอคูสติก ถ้าเล่นกีต้าร์ไฟฟ้ามานาน หรือผ่านกีต้าร์มาหลายตัว จะต้องรู้ว่าอคูสติกของกีต้าร์ไฟฟ้าจะสามารถบ่งบอกได้ว่ากีต้าร์ตัวนั้นๆดีหรือไม่ดี กีต้าร์ไฟฟ้าที่ดี ดีดเปล่าๆก็เพราะ เสียงดัง กังวาน ครับ ฉะนั้นการเอาเรื่องTone wood มาปั่นราคานี่ตัดไปได้เลยครับ

ส่วนตัวผม ผม ว่าเนื้อไม้มีผล ส่วนตัวผมอ้างอิงจากกีต้าร์ โปร่งครับ ผมเคยไปสยามกลการ จับยามาฮ่า ตัวที่ถูกที่สุดยันเเพงที่สุด เสียงตามราคา ตามเนื้อไม้ครับ ถูกผิดยังไงขออภัยครับ

เรื่องพวกนี้เขาลองกันมาเยอะ แค่ในเมืองไทยก็นับไม่ถ้วนแล้ว ผมจะเขียนตรงๆ ไม่อ้อมไปมา สิ่งที่ผมไม่เห็นในคลิปคือ 1 การที่คุณ ไม่มีการทดสอบด้วยตัวเอง ทุกอย่างอ้างอิงจากคนอื่น คุณจะอ้างเรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ได้ถ้ายังไม่ทดลองเอง เสียงที่คุณได้ยินใน KZfaq กับได้ยินจริงๆตรงหน้า มันต่างกันอย่างเทียบไม่ได้ คุณไปยืนดู Slash แสดงสดต่อหน้าจนเหงื่อมันกระเด็นใส่หัว กับนอนฟังแผ่นอยู่บ้าน เสียงมันต่างกันหลายร้อยเท่า เรื่องนี้ง่ายมาก บางคนได้ยินเสียง EFX ในคลิป มันดีมาก แต่พอไปฟังของจริง เลิกกันเลย องค์ประกอบต่างๆ ของที่ใช้มันแตกต่างกันมาก คุณไม่มีทางรู้ได้นอกจากลองเอง 2 ความย้อนแย้งในตัวคุณเอง ทั้งคลิปคุณพยายามโน้มน้าว โน้มเอียง ไปในทิศ ไม่ค่อยเชื่อในเสียงเนื้อไม้มากกว่า อธิบายการทดลองต่างๆของคนอื่น การหักล้างกันด้วยเหตุผลของหลายฝ่าย แต่ท้ายๆคลิป คุณตัดสินใจเรื่องกีตาร์ด้วยความชอบ ซึ่งเป็นเรื่องอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล คือเหมือนบอกว่าเรามาหาเหตุผลกันเถอะว่าจริงๆมันคืออะไรกันแน่ แต่สุดท้ายคือ ชอบอะไรก็ซื้อๆไปเหอะ 3 จุดยืนที่ยังไม่มีจุดยืน หลายๆคนเข้าใจชัดเจนตรงกันว่าคคลิปนี้โน้มเอียงไปทางไม่เชื่อเสียงเนื้อไม้ คุณก็สารภาพเองอยู่ แต่ท้ายๆคลิปคุณบอกเป็นกลาง พร้อมจะเชื่อถ้ามีใครทำให้เชื่อเสียงเนื้อไม้ อันนี้ไม่ใช่เป็นกลางหละ คุณมีสิทธิ์ที่จะเชื่อทางไหนก็ได้ไม่เห็นแปลก พูดชัดๆไปเลย แต่การแสดงออกที่ขัดแย้งกับคำพูด คุณได้เสียความน่าเชื่อถือกับคนที่มองออกไปหมดสิ้น 4 ผมมองว่าที่คุณกล่าวอ้างทั้งหมดไม่ใช่ประสพการณ์ คนที่มาเขียนความเห็นใต้คลิปหลายๆคนเขาได้บรรยายเรื่องที่เป็นประสพการณ์ แต่ของคุณคือเหมือนแค่เชิงอรรถ อ้างอิง ท้ายหนังสือ ยังไม่มีงานวิจัยจริงๆเกิดขึ้นเลย ถ้าหากว่าคุณยังไม่ใช่ผู้ที่มีความชำนาญอย่างลึกซึ้งแท้จริง แล้วคุณทำคลิปในลักษณะนี้ มันจะเป็นผลเสียอย่างมากต่อผู้หัดใหม่ หรือคนที่ยังขาดความรู้ในเรื่องนี้ เพราะคุณก็สารภาพเองว่าสองฝ่ายเถียงกันยังไม่จบ ยังไม่ตกผลึก . ความคิดคุณที่แสดงในคลิปเหมือนคุณไม่สนใจหรืออาจจะลืมไปว่า... ความรู้ที่สะสมลองผิดลองถูกมาเป็น 100 ปีในการผลิตกีตาร์ไฟฟ้า ของทั้ง Gibson Fender และอีก70-80ปีของ Ibanez มันดูเหมือนไม่มีอยู่จริง มันหายไปไหนเอ่ย คุณพูดในลักษณะเหมือนเป็นแค่การตลาดของฝ่ายอยากขายไม้ มันจะสรุปอะไรง่ายขนาดนั้น . ทำไมเอา PU Semour Duncan ไปติดตั้งในกีตาร์ไม้อัด ใช้คาปาอย่างดี สายไฟอย่างดี ส่วนประกอบทั้งหมดอย่างดี แล้วเสียงมันยังกระป๋อง ใครๆก็ร้องยี้ เอาขึ้นเวทีกับแอมป์อย่างดี แต่เสียงมันก็ยังไม่ไหว เหมือนว่า PRS ดั้นด้นหาไม้ชั้นดีมาสร้างกีตาร์ มันไม่มีผลต่อเสียง แค่อยากขายเฟอร์นิเจอร์ไม้สวยๆ จะได้อัพราคาแพงๆ คือเขากำลังหลอกขายของเพื่อเงิน เหมีอนคุณกำลังบอกว่า ไอ้พวกเชื่อเสียงจากไม้ทั่วโลกนับล้านๆมัน มโนหลอกตัวเองกันทั้งนั้น ทำไมดูคุณเชื่อมั่นในตนเองสูงขนาดนั้น คลิปคุณยังมีรูโหว่ทางความคิดอีกมาก แต่แค่นี้ผมก็พิมพ์ยาวเกินแล้ว . การทำคลิปใครๆก็ทำได้ แต่การทำคลิปสู่สาธารณะ แล้วมีคุณภาพ มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ ไม่เกิดผลเสียต่อเด็กๆหรือผู้หัดใหม่ หรือผู้ที่ยังรู้น้อย มีน้อยคนที่ทำได้ เป็นความจำเป็นที่ต้องท้วงคุณหนักๆ จริงจัง ไม่ใช่ท้วงเอาสนุก คุณจะพิจราณาหรือไม่ เป็นสิทะิ์ของคุณครับ

ผมชอบคลิปเนื้อหาแบบนี้มากเลยครับ ขอให้มีทำออกมาอีกนะครับ มันเป็นปัญาหาโลกแตกที่ต่อให้รุ่นลูกหลานก็จะพูดกันไม่จบครับ55. โดยส่วนตัวผมเองนั่นเชื่อว่า tone wood มีจริง ในกีตาร์ไฟฟ้า จากการที่เคยเสียเงินเสียเวลากับสิ่งพวกนี้และจากประสบการณ์คนใกล้ตัวด้วยครับ ย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เราต้องตัดเรื่องมวลความหนาแน่น และเรื่องไม้ปีใหม่ปีเก่าออกไปก่อน อะไหล่ทุกอย่างในตัวกีตาร์มีผลทั้งหมด ลูกบิด บริดจ์ แซดเดิล ปิกอัพ สาย มีผลที่ทำให้กีตาร์มีเสียงที่ดีหมด แต่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกในการที่ได้จับกีตาร์ตัวนั่นเล่น การเปลี่ยน tonewoodก็เช่นกัน ถ้ายกตัวอย่างเช่น fenderปีเดียวกันรุ่นเดียวกันบอดี้เดียวกันต่างกันแค่คอขาว กับดำ ถ้าให้คนฟังอาจฟังเฉยๆไม่ต่างกันมาก แต่คนเล่นจะรู้สึกได้เองว่ามันต่างจริงไหม แต่คนไม่เชื่อก็อาจจะพูดไปถึงเรื่องตัวแปรอื่นๆในกีตาร์ไฟฟ้าเพราะในความเป็นจริงกีตาร์ไฟฟ้าต้องเล่นผ่านแอม์ปเอฟเฟกอะไรอีกเยอะแยะจากกีตาร์จีนถูกๆเอาไปใส่เอฟเฟกboss gt100ก็สามารถทำให้เสียงดีมากๆขึ้นได้ แต่ทำให้เหมือนเอกลักษณ์ของแบนร์ดนั่นๆก็คงได้แค่คล้ายๆหรือใกล์เคียงสำหรับผมนะ สำหรับคนที่ไม่เชื่ออาจจะแย้งว่า อะไหล่กับปิ๊กอัพมีส่วนสำคัญไม่เกี่ยวไม้หรอก ถ้างั้นลองแค่ยกอะไหล่ทั้งหมดของGibson studio ที่เป็นไม้มอฮอกทั้งตั้ว ไปใส่ในเลสพอลจีนที่ไม้เป็นเบสวูส ดูสิครับ กีตาร์จะเสียงจะดีขึ้นจากเดิม แต่มวลของไม้จะไม่บาลานซ์กับปิกอัพหรอก เสียงอาจจะออกแหลม หรือกลางเยอะ หรือเบสบวม ถ้าบอกว่าไม้ไม่มีผล ลองซื้อปิ๊กอัพฮัม ซีมัว หรือดิมาซิโอ้ ตัวหลังก็ได้ที่ดีๆแพงๆ ที่บอกโทนการทำงานต่างๆไว้ ลองหาที่ค่าแบบไหนก็ได้ จะเบสกลางแหลมเยอะๆเกิด60% ก็ได้ แล้วลองใส่ ในเลสพอลที่ไม้เป็นเบสวูส กับ มาฮอกดู ว่าอันไหนออกมาเป็นยังไง และถ้ามีคนพูดอีกว่า ถ้าทำแบบนี้ 100%มันมาจากปิ๊กอัพ tonewoodมันไม่มีผลหรอก ถ้างั้นเราลองกับกีตาร์ไฟฟ้าไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นกีตาร์ไฟ้ฟ้าจะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่คนไม่เห็นด้วยอ้างถึง งั้นลองกีตาร์โปร่งก็ได้ครับ รุ่นเดียวกันที่เป็นtopsolid แล้วเอาปิ๊กอัพfishman รุ่นDuo แบบคาดที่ไม่มีอีคิวอะไรเลยแล้วต่อเข้าแอม์ปที่ไม่มีอีคิวดูว่าเสียงแต่ละเนื้อไม้มันต่างไหม ต้องทดลองดูครับสิ่งพวกนี้ไม่สามารถบอกให้ใครๆมาเชื่อได้ ที่พูดไปคือสิ่งที่ออกมาจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ คงไม่มีจะผิดจะถูก จะถูกจะแพงจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่ถูกใจและมีความสุขในการเล่นมันเนอะ ขอบคุณคลิปนี้มากครับ ที่ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ 😊

ถ้าไม้ไม่มีผลต่อเสียงจริงก็หมายความว่า ผมซื้อกีตาร์ราคาถูกๆหลักพันต้นแล้วไปหาปิ๊คอัพของตัวแพงมาใส่กีต้ารของผมจะได้เสียงหลักแสนเลยงั้นหรือ แล้วที่ว่ากีต้ารปีเก่าไม้ยิ่งแห้งเสียงยิ่งดีล่ะ อุปปาทานกันงั้นหรือ แล้วเค้าอบไม้กันทำไมล่ะ แล้วเรื่องซัสเทรนอีกล่ะ

ยินดีด้วยครับ แฟนคลับคุณเพียบเลย อย่างน้อยก็มีคนติดตามเยอะเลยนะครับ 555 ยังไงก็ขอชื่นชมครับ ขยันหาข้อมูลดีและกล้าที่จะพูดเรื่องนี้ ผมสายวิทยาศาสตร์เหมือนกัน และชอบอะไรที่พิสูจน์ได้จริงๆ เช่นกัน แต่ก็หลงไหลในความเป็น art มันเป็นสิ่งที่อยู่คนละขั้ว แต่ก็มาเจอกันและทำให้เกิดดราม่าได้มากมาย 555 (เวลามี blind test นี่ชอบมาก ทั้งเรื่องดนตรี กล้องถ่ายรูป และอื่นๆ ) ส่วนตัวเชื่อว่าไม้มีผลต่อ tonewood นะ อาจจะน้อยมากๆแต่ก็เป็นคาแรคเตอร์ของมัน ซึ่งก็พิสูจน์ยากมากๆ แต่ที่แน่ๆมีผลทางจิตใจแน่นอน สิ่งนี้ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะพิสูจน์ไม่ได้ ยังไงก็ขอให้ทำคลิปดีๆต่อไปครับ ติดตามครับ

ต้องเถี้ยงกันทำไมก็จับมาทดรองสิมันไม่เห็นจะเป็นเรืีองยากเลย...งง