การกำหนดดูลักษณะขันธ์๕ เกิด - ดับ ( ความยาว ๓๐ นาที )

No video

การกำหนดดูลักษณะขันธ์๕ เกิด - ดับ ( ความยาว ๓๐ นาที )

Рет қаралды 11,663

6 ай бұрын

การเกิด-ดับของขันธ์ 5
การเกิดของขันธ์จะเกิคร่วมกัน ไม่พรากจากกัน
และผู้โกรรหรือร่างกายที่แสคงออก
ถึงความโกรร เช่น หัวใจสั่น เต้นเร็ว ถี่ สั้น
ลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะของกาย จะเกิด
ร่วมกันทั้งหมด ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร
และวิญญาณ เกิคร่วมรับรู้ในอารมณ์
เดียวกัน และก็คับไปพร้อมกัน เมื่อคับไปแล้ว
รูปก็สงบ จิตเราเองก็สงบ การเต้นของ
หัวใจก็กลับมาเป็นปกติ ลมหายใจก็เดินปกติ
เวทนาที่เป็นทุกข์ก็หายไป ไม่จคจำเรื่องที่
โกรร ก็ไม่คิดเรื่องที่โกรร และ รับรู้อารมณ์ต่อไป
แล้วอารมณ์ต่อไปเป็นขันธ์ไหน เราก็
เรียนรู้กันในแบบนี้ จนกว่าการรู้การเกิค การดับมันเพียงพอต่อการที่อะไปทำลาย
อาสวกิเลสเมื่อไร เมื่อนั้นมันจะไปทำลายความเห็นผิคว่าเป็นตน สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิคว่ามีตัวตน) ก็ดูการละ
กระแสแรกแห่งพระนิพพานก็อะเกิคกับจิตด้วยกระบวนการและวิธีการอย่างนี้ จิตต้องดำเนินไปตามหลักการนี้
เราจะต้องเห็นการเกิด -คับ เกิด-คับ ติดต่อเนื่องกัน การเห็นการเกิค-ดับนี้ จะไปกระเทือนต่อสัจรรรมในระบบทางธรรมชาติ จะเผยตัวออกไป อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้ะเห็น ก็ยังเห็นผ่านความคิด แต่ยังไม่ได้เห็นตัวแท้
เราจะเห็นตัวอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้ ก็ด้วยเห็นการเกิค การคับ เพราะอะไร
เพราะเมื่อมันเที่ยงแล้ว มันจะเกิด-คับไหม ถ้ามันคงที่แล้ว มันจะเกิด-คับไหม นี่คือสัจจะ
นี่คือความจริง การเห็นการเกิด-ดับ จึงเป็นการเห็นไตรลักษณ์ การเห็นไตรลักษณ์นี่
แหละ จะกระเทือนไตรลักษณ์* ในระบบธรรมชาติ
*ไตรลักษณ์ เป็นธรรมะที่ทำให้เป็นพระอริยะ (อริยกธรรม) แปลว่า
ลักษณะ 3 ประการ หมายถึงสามัญลักษณะ คือ กฎธรรมคาของสรรพสิ่งทั้งปวง อันได้แก่
- อนิจจลักษณะ ลักษณะไม่เที่ยง มีการแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
- ทุกขลักษณะ ลักษณะทนอยู่ตลอดไปไม่ได้ ถูกบีบคั้นด้วยอำนาจของธรรมชาติ
ทำให้ทุกสิ่งไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป
- อนัตตลักษณะ ลักษณะไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามต้องการได้
ไตรลักษณ์ คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ คับไป ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนแล้วอยู่ในกฎไตรลักษณ์
#พระอาจารย์ต้น #ขันธ์5 #ขันธ์ห้า #ธรรมนาวา #พิจารณาธรรม #อริยสัจ

Пікірлер: 25

@ThaiFoodTamada 5 ай бұрын

ขอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เราเป้นคนที่ฟังอะไรไม่เข้าใจในครั้งสองครั้ง พอได้ฟังแล้วฟังอีกถึงเข้าใจ ขอบคุณที่ทำคลิบแบบนี้นะคะ 💙💙💙💙💙

@PanchanokUbonphuean-sl6uz 3 ай бұрын

ขออนโมทนาสาธุคะ🙏🙏🙏

@jokehigth3510 6 ай бұрын

ขออนุโมทนากับคุณปรางด้วยครับ เป็นประโยชน์กับผู้เริ่มปฏิบัติอย่างผมมาก ขอบคุณมากครับ

@user-dn9rw3xx3m 2 ай бұрын

สาธุค่ะ สาธุ.สาธุ.สาธุ

@amonamon7937 6 ай бұрын

อนุโมทนาสาธุค่ะ

@gikfu64245 Ай бұрын

สาธุครับ

@Nuang6395 2 ай бұрын

สาธุค่ะ

@MutitaYawan-vq4tn 3 ай бұрын

อนุโมทนาสาธุ ค่ะฟังยาวๆขณะต้องทำงานบ้าน ทำให้มีช่วงเวลาทำให้เข้าใจและจำได้ค่ะ

@poraminchangto9949 27 күн бұрын

ขันธ์ 5 เราไม่สามารถบังคับดับได้ เพียงได้แต่เก็บข่มเอาไว้ ถ้าดับได้มันจะไม่สามารถเกิดขึ้นอีก ที่ว่าขันธ์ 5เป็นตัวทุกข์อันนี้จริง แต่ถ้าทุกข์ แล้วจะต้องดับเสียให้สิ้นนั้น เหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายเมื่อบรรลุธรรมแล้ว ทำไมถึงยังอยู่กับขันธ์ต่อไป ต้องอยู่จนธาตุขันธ์(กาย)อยู่ต่อไปไม่ได้ ทำไม...แม้แตพุทธองค์ก็ต้องมีเหตุแห่งการละขันธ์ต้องรับของบริโภคฉันจาก นาย จุณทะ เสียก่อน จริงแล้วถ้าพิจารณาได้...ในทุกๆวัน ขณะที่เริ่มนอนหลับไปนั้น...อารมณ์หรือตัวอุปาทาน..ในขันธ์ 5 อยู่ที่ไหน มีใครรับรู้ ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ได้บ้าง...ช่วงเวลานี้มันหายหมด...จะเกิดขึ้นก็เมื่อเริ่มต้นความฝัน และเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา...ดังนั้นขันธ์ 5 มันจากเราไปทุกวัน แต่เรายังกลับมาหามันใหม่เพราะยึดเอาว่านี่คือ ตัวกูของกู...

@chounpa1 2 ай бұрын

ຂໍອະນຸໂມທນາ ສາທຸ ສາທຸ ສາທຸ

@sakornb.9250 2 ай бұрын

❤

@pranompandech6055 4 ай бұрын

9:32 ขอบคุณมากๆค่ะ

@srisagnasummart8941 4 ай бұрын

🙏🙏🙏❤

@user-xv1db3uo2c 4 ай бұрын

อยู่ไกลค่ะทอ่งพระรัตนตรัยแล้วทอ่งธาตต่อเลยได้มั้ยค่ะ

@user-gb3hb2md9c 6 ай бұрын

อนุโมทนาสาธค่ะ

@phayungsotawong9486 4 ай бұрын

ขอบคุณมากค่ะสาธุ

@meesookkongsuebchat159 5 ай бұрын

อนุโมทนานะคะ มีประโยชน์มากค่ะ

@user-bf4dl6em8r 2 ай бұрын

มีหนังสือไหมคะ

@user-jg4sy9kr8n 6 ай бұрын

❤❤❤

@user-pw9wv3vp9o 3 ай бұрын

การแสดงการเกิดดับของขันธ์ ๕ ดังนี้นั้น พระศาสดาแสดงพระสูตรการเห็นการเกิดดับดังนี้ไว้ในพระสูตรใดหนอ เพราะเบื้องต้นนี้ ท่านยกตัวอย่างคือเกิดความโกรธขึ้น ท่านก็ให้เฝ้าดูโดยไม่ต้องทำอะไรเพียงเห็นและดูความโกรธนั้นดับไป ถือว่าเห็นความโกรธแล้ว และเมื่อความโกรธดับไปลงไปเอง ก็คือเห็นความดับแล้ว เพราะการเห็นความโกรธเกิดขึ้น และเฝ้าดูความโกรธจนอ่อนกำลังลงและหรือจนดับไปเอง โดยไม่ต้องอะไรเลย ดังนี้ ถ้าเห็นดังนี้ก็คงอุปมาได้ว่า เมื่อเห็นไฟไหม้บ้านตนเองอยู่ ท่านก็เฝ้าดูไฟไหม้บ้านไปโดยไม่ต้องทำอะไรกับไฟที่ไหม้บ้านเลย แต่เฝ้าดูจนไฟไหม้บ้านจนหมดทั้งหลังไป นั่นเอง พระศาสดาแสดงธรรมอย่างนี้ไว้ที่ไหนหนอ ที่พระสูตรใดหนอ ?