ในการผสมหรือหลอมทองคำแบบโบราณนั้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการทางกายภาพ เช่น การหลอมด้วยไฟ การตีทุบ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันมีการนำสารเคมีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตและแยกทองคำด้วย ซึ่งมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงกว่า บางตัวอย่างของสารเคมีที่ใช้ในการแยกทองคำสมัยใหม่ ได้แก่: 1. กรดไนตริกและกรดไฮโดรคลอริก (Aqua Regia) - ใช้ละลายทองคำ 2. ไซยาไนด์ - ใช้สกัดทองคำจากแร่ 3. กรดคลอริก - ใช้แยกทองคำจากโลหะอื่นๆ 4. โบรมัยด์ - ใช้เป็นสารออกซิไดซ์ในการแยกทองคำ 5. ปรอทหรือเมอร์คิวรี - ใช้รวมตัวกับทองคำ (อมาลกัม) สารเคมีเหล่านี้ช่วยให้การแยกและทำให้ทองคำบริสุทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่าวิธีแบบโบราณ อย่างไรก็ตามต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้งานเนื่องจากเป็นสารเคมีที่มีพิษและอันตราย การนำสารเคมีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากระบวนการผลิตและแปรรูปทองคำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในสมัยโบราณก่อนที่จะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ กระบวนการสกัดและหลอมทองนั้นมีขั้นตอนและวิธีการที่แตกต่างจากปัจจุบัน มีการใช้วัสดุธรรมชาติและเครื่องมือพื้นฐาน ดังนี้: 1. การสกัด - ใช้เครื่องมือทำจากหิน แร่ หรือไม้ในการขุดและบดแร่ทองให้เป็นผง - นำแร่ทองผงไปล้างด้วยน้ำเพื่อแยกออกจากตะกอนดิน เนื่องจากทองมีน้ำหนักมาก 2. การหลอมละลาย - ใช้เตาถลุงทำจากดินเหนียวที่มีการอุ่นไฟด้านล่าง - เผาที่อุณหภูมิสูงด้วยเชื้อเพลิงจากธรรมชาติ เช่น ฟืน ถ่านหิน - ใช้สารหลอมละลาย เช่น ดาง สารประกอบตะกั่ว เพื่อช่วยละลายทองจากแร่ 3. การกรองและบริสุทธิ์ - เททองหลอมละลายผ่านวัสดุกรอง เช่น ถ่านไม้ กระดูกสัตว์ เพื่อกรองสิ่งเจือปน - ใช้วิธีการดูดซับและระเหยสารเคมีเพื่อทำให้ทองบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น โดยทั่วไป กระบวนการเหล่านี้ต้องอาศัยแรงงานมากและให้ผลผลิตค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่นับเป็นพื้นฐานสำคัญที่มนุษย์ใช้ในการแปรรูปทองมานานก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ถลุงไปทำไมค่ะ

เป็นเหมือนกันมีตะกอนสีขาวปนอยู่ แต่เบากว่าจะกอนทอง

ใช้ปรอทจับทองครับ