สนใจคอร์สเรียนสร้างอาชีพ EV และโซล่าร์ : lin.ee/7f6O66K สนใจแฟรนไชน์ร้านมอไซค์ไฟฟ้า lin.ee/7f6O66K line openchat : bit.ly/3ScqFYT 📍กลุ่มสำหรับ คนรักรถ และชอบแต่งรถ Tesla กดเข้าเลย 👉🏻 bit.ly/3YG41fE Website: www.evguarantee.net

ชอบแนวคิดนี้มาก รถไม่ต้องแบกแบตเตอรีที่ทั้งหนักและแพง เอาแค่ให้วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 200 โล ก็พอ วันไหนไปต่างจังหวัด เราก็มีเครื่องปั่นไฟไปเอง จะเข้าป่าหลายๆวันก็ไม่ต้องห่วงที่ชาร์จ

มีข้อดีอีกหนึ่งข้อครับ คือ เมื่อเครื่องยนต์ปั้นไฟอย่างเดียว เมื่อปั่นแล้วรอบนิ่งภาระโหลดมีน้อย ไม่กระชากมาก เหมือนรถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน หรือจังหวะเร่งแซง จึงทำให้ เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนาน สึกหรอน้อยมาก เมื่อเทียบเท่ารถยนต์น้ำมันล้วน และ แบบ phev

เหมาะกับการใช้งานมากครับ เพราะการเดินทางไกลก็ไม่ต้องกังวลกับแบตหมด ถ้าวิ่งระยะใกล้ในเมืองก็ชาร์จที่บ้านทุกวัน ไม่ต้องใช้น้ำมัน ใข้เฉพาะเดินทางไกลเผื่อถ้าหาที่ชาร์จไม่สะดวก แต่แบตต้องใช้ได้สองร้อยถึงสามร้อยกิโล น่าจะดีครับ

ในค่ายญี่ปุ่น นิสสันทำได้ทันที แค่เพิ่มแบตเตอรี่ใน Kicks

สรุปสั้น ๆ คือ REEV คือไฮบริด Hybrid แปลว่า 2 อย่างรวมกัน LPG+เบนซิน ก็คือ ไฮบริดนะ Epower ให้เครื่องทำหน้าที่ปั่นไฟ แบบหัวจักร แต่ถ้าหัวจักรมีแบต และชาร์จไฟจากภายนอกได้ ก็คือ REEV เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้า Epower ขยายแบตเตอรี่และเสียบชาร์จจากภายนอกได้จะกลายร่างเป็น REEV อ้าวถ้างั้นมันก็สามารถวิ่งน้ำมันเพียว ๆ ก็ได้ดิงั้นอะ แต่ข้อเสียงของมันก็ยังคงเป็น ต้องดูแล 2 ระบบเหมือนกับ PHEV แต่ถ้า PHEV ปรับตัวเองให้กลายเป็น REEV ก็น่าจะได้นะครับเป็นโหมด 4 Engine Only Engine หลัก มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมกำลัง มอเตอร์หลัก Engine ปั่นไฟ แหง๊ก ๆ แต่ Generator มีตัวเดียว แต่ถ้าใช้มอเตอร์ล้อหลังก็น่าจะทำงานได้ ไฟฟ้าล้วน น่าคิด ๆ

คอมเม้นท์ที่ไปบูลลี่คนอื่นนั้น คิดอีกสักนิดนะ คนเราความรู้ไม่เท่ากันถ้าคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นก็ให้ความรู้กับคนอื่นที่เขามีความรู้น้อยกว่าจะดีมั้ย😊

พูดให้เข้าใจใน 2 วินาที มันก็คือ Nissan E-Power ที่แบตใหญ่ขึ้น และ เสียบปลั๊กได้ สำหรับผม RE-EV ก็แค่การเล่นคำของผู้ผลิต เพื่อหลอกคนใช้ให้รู้สึกว่ามันเป็นรถ EV ทั้งๆที่จริงๆ มันก็คือ รถสันดาปแบบไฮบริดที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนแค่นั้นเอง เพราะ สุดท้าย เราไม่สามารถปล่อยให้น้ำมันค้างในถังนานๆ มันจะทำให้ระบบปั่นไฟมีปัญหา คุณจะถูกบังคับให้ต้องใช้น้ำมัน กับ ไฟฟ้าสลับกันไปมาอยู่เรื่อยๆ ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าแบบเพียวๆได้ตลอดครับ ข้อดี คือ รวมข้อดีของทั้งรถน้ำมัน และ รถ EV ไว้ในคันเดียวกัน ข้อเสีย คือ รวมข้อเสียของทั้งรถน้ำมัน และ รถ EV ไว้ในคันเดียวกัน เช่นกัน หักลบ กลบหนี้แล้ว ผมมองว่าเสียมากกว่าได้ สำหรับรถกระบะ ถ้าเทคโนโลยีแบต กับ ความเร็วในการชาร์จยังไม่มากพอ ทนใช้สันดาปไปก่อน อีก 2-3 ปี ก็ไม่เสียหายครับ การต้องคอยมาดูแล 2 ระบบไปพร้อมกัน และต้องแบกน้ำหนักมหาศาลไปกับรถด้วย ต่อให้เป็นแบตแค่ลูกกลางๆแต่ก็ต้องแบกเครื่องยนต์สำหรับปั่นไฟที่หนักไม่ใช่เล่นไปด้วย มันจะเหลือน้ำหนักบรรทุกอีกสักเท่าไหร่กันเชียว สำหรับคนที่ใช้รถกระบะเพื่อการบรรทุกจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆครับ ยกเว้นเป็นพวกกระบะแต่งซิ่ง ที่ไม่เคยบรรทุกอะไรเลย นั่นก็อีกเรื่องนึง

สรุป REEV คือ PHEV ลดสเปค REEV วิ่งได้ 2 แบบคือ 1.มอเตอร์ใช้ไฟจากแบต 2.มอเตอร์ใช้ไฟจากเครื่อง ข้อดี ไม่มีเกียร์หรือมีก็ single speed เกียร์สึกหรอช้า ประหยัดต้นทุนในการผลิต รถถูกลงคนเข้าถึงได้ง่ายกว่า ระบบไม่ซับซ้อนดูแลง่ายดว่า ข้อเสีย ช่วงความเร็วสูงกินแบตเหมือน EV PHEV วิ่งได้ 4 แบบ 1.มอเตอร์ใช้ไฟจากแบต 2.มอเตอร์ใช้ไฟจากเครื่อง 3.เครื่อง+มอเตอร์ 4.เครื่องยนต์ล้วน ข้อดี มีเกียร์และเครื่องช่วยในช่วงความเร็วสูงประหยัดกว่า ทำได้ทุกอย่างที่ REEV ทำได้ ทำได้มากกว่าด้วย ข้อเสีย เพิ่มการดูแลเกียร์ไปด้วย ราคาแพงกว่าแน่นอน ดูแลเกือบเต็ม 2 ระบบ

เครื่องยนต์ใน REEV น่าจะเรียกเครื่องปั่นไฟมากกว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนที่เข้าใจแบบเดิมๆ เครื่องน่าจะเน้นประสิทธิภาพการปั่นไฟให้ได้มากที่สุดต่ออัตราการกินน้ำมันต่อลิตร ไม่ใช่เน้นแรงม้า ดังนั้นน่าจะซับซ้อนน้อยกว่าเครื่องยนต์กำลัง

ผมก็เข้าใจมาตลอดว่า Kick E-Power คือ Re-ev กับ Hr-V ตัวใหม่ แต่ฟังค์ชั่นนี้อยากให้เข้ารถกระบะมากเลย แรงมายิ่งกว่าเดิมอีก

เป็นไปได้มั้ยคับว่าในอนาคตอันใกล้ค่ายรถในไทยจะใช้ระบบนี้กับรถกะบะปิคอัพในไทย แต่ผมก็มีข้อสังเกตุอยู่ว่าแรงฉุดลากจะมีพอกับการบรรทุกที่คนไทยทั่วไปมักจะดัดแปลงให้บรรทุกน้ำหนักระดับ 4-5 ตันได้ ซึ่งมากเกินกว่าที่ค่ายรถออกแบบมา ถ้าได้ถือว่าตอบโจทย์คอปิคอัพบรรทุกแน่นอน

ชอบครับ ณ ฮ้วงเวลานี้สำหรับต่างจังหวัด รถไฟฟ้าที่ปั่นไฟได้ (erev) เป็นรถที่เหมาะสมที่สุด ต่างจังหวัดที่เป็นชนบทถ้าไม่เข้าตัวเมืองคงไม่มีสถานีชาร์จ หากใช้erevคงแก้ส่วนนี้ได้ลงตัว ขอให้เขาทำรุ่นเล็กให้คนชนบทได้ใช้บางนะครับ หรือทำมอร์เตอร์ไซแบบerevด้วยแล้วจะเป็นการควักเงินจากกระเป๋าคนทั่วประเทศแน่นอนครับ จะรอคนที่เข้าใจคนชอบรถสร้างมันขึ้นมาครับ 😂

กว่าระบบไฟฟ้าจะพัฒนาจนวิ่งได้ 1000 Km. โดยการชาร์เพี่ยงครั้งเดี่ยว ยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีดนาน ฉะนั้น รถระบบไฮบริด PH-EV. RE-EV จึงเป็นรถที่น่าสนใจในตอนนี้ ใช้น้ำมันน้อยแต่ได้ระยะทางกับประสิถิภาพมากชึ้น ตอบโจทการใช้งานที่สุดแล้ว

ขึ้นกับอัตราสิ้นเปลือง ถ้าประหยัดกว่ารถน้ำมัน ก็น่าใช้ จะได้สัมผัสรสชาติการขับแบบรถไฟฟ้า ขับในเมืองก็ใช้ไฟฟ้า ขับทางไกลก็ต่อด้วยน้ำมัน

อยากรู้จังเลย เป็นไปได้ไหม เอาเครื่องเท่า เวฟ มาปั่นไฟ อาจจะใส่อัตราทดเพิ่ม เพื่อให้มันประหยัดกว่าเดิม หลักการผมว่าน่าจะหลายๆ รถไฟ เครื่องมันใหญ่ๆ มันไม่ได้ขับเคลื่อนโดยตรง มันปั่นไฟให้มอเตอร์ มอเตอร์มันติดล้อเลย

ผมเข้าใจถูกมั๊ย สรุปสั้นๆคือ PHEV พลังงานหลักคือ เครื่องยนตร์ พลังงานเสริมคือ แบต REEV พลังงานหลักคือ แบต พลังงานเสริมคือ เครื่องยนต์

ขอบคุณครับจะรอ RE-EV ครับครอบครัวผมอยู่ชนบท,และก็เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ให้คนชนบทได้ดีกว่านะครับ ❤❤❤❤

ตอบโจทย์ดีครับ​ ปัจจุบัน​ถ้าขับในเมืองก็ใช้รถไฟฟ้าแต่ถ้าไปเที่ยวตจว.ก็กลับไปใช้รถน้ำมัน​เหมือนเดิม​ ถ้าได้แบบนี้ก็มีรถแค่คันเดียวได้เลย

มันคือรถไฟฟ้าแหละครับแต่มีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วย เมื่อปี 2549-50 ผมเคยเสนอโปรเจค ป.ตรี เป็นรถเมล์ไฟฟ้ากทม.-ศาลายา โดยสลับแบตที่ศาลายา และมีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วยในกรณีที่รถติดมากจนแบตหมดโดยทำความเร็วได้สัก 40-60กม./ชม.ตอนนั้นโซล่าร์เซลล์ยังแพงมากจึงไม่ได้คิดจะเอามาจ่ายแอร์ แต่ท่านอาจารย์ผมบอกว่ารอท่านเป็นนายกก่อนถึงจะทำได้ และหลังจากนั้นก็มีเชฟโวล์ตออกมา สุดท้ายต้องทำ fomula student แทนแต่เสร็จไม่ทันแข่งครับ

ถ้าเราแบ่งแบตารี่เป็นสองเฟรต เหมือนรถใช้ก๊าซกับน้ำมัน หรือเฟรตเดียวเลย เฟรตแรกใช้แบตในการวิ่ง อีกเฟรตรอการใช้งานโดยการชาร์ตไฟฟ้า แต่ทีนี้ขอเสนอการชาร์ตไฟด้วยกังหันลมในขณะที่วิ่งด้วย แล้วไปชาร์ตมอร์เตอร์ปั่นไฟไปทีแบตเฟรตสอง ตัวใบพัดลมนี้ก็อยู่ด้านหน้า โดยใช้อัตราความเร็วของรถในการวิ่งไปพัดใบพัดให้ไปปั่นมอร์เตอร์ เช่นรถยนตร์วิ่งความเร็ว100 กมต่อชั่วโมง จนกว่าจะเต็ม อาจใจใช้มอเตอร์สองลูกกับพัดลมสองอันในการปั่น จนกว่าจะเต็มแบตตในเฟรตสอง

ผมอยากเสนอวิธีนึงคือเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟให้ cc น้อยที่สุดเท่าที่จะปั่นไฟได้700cc น่าจะพอแล้วล้อทั้ง 4 ติดแม่เหล็กกับทองแดงหมุนปั่นไฟกลางอากาศโดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม

จุดประสงค์ของรถไฟฟ้า ? - ลดชิ้นส่วนที่ต้องดูแลรักษา - ค่าน้ำมันในไทยแพงมาก ขับครบ 5-8 ปี ค่าน้ำมันซื้อรถคันไหม่ได้เลย (เว้นคนมีรายได้เยอะไม่สนข้อนี้อยู่แล้ว) - แก้ปัญหาสภาพอากาศในเมืองที่รถเยอะๆ

E-power คือ เครื่องปั่นไฟเข้าแบตอย่างเดียว มอเตอร์ขับเคลื่อน อย่างเดียว reevคือ Epower แต่ที่ชาร์จไฟด้านนอกได้ fcev คือ epower ที่ใช้ ไฮโดรเจน ปั่นไฟ ไม่ได้ใช้น้ำมัน hybrid (แรกๆ)คือ เครื่องยนต์ปั่นไฟได้ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนได้ มีมอเตอร์ช่วยขับด้วย phev คือ hybrid ที่ชาร์จไฟจากด้านนอกได้ ผมว่าผมเข้าใจแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าถูกไหม

เครื่องแบบนี้ดีครับ แต่คงจะเป็นรถสนามแข่งส่วนใหญ่ เพราะ ราคาน่าจะสูงอยู่แรกๆ เพราะที่จริง รถต้องเป็นแบบนี้ละครับ ไม่ไฟฟ้าอย่างเดียว หรือ น้ำมันอย่างเดียว 2 ใช้ มอเตอร์แทนเครื่องยนต์แบบ ไฮบริด ที่ของเสียเยอะมาก แบบใหม่นี้จะดีกว่า แล้วจะจบปัญหาทุกอย่างได้เลย

nissan kick version แบตใหญ่ขึ้น

ขอบคุณที่อธิบาย ความต่างกับ PHEV กับ Nissan kick ให้ด้วยครับ ชอบเลยครับ ปีหน้าเจอกันแน่

E-Power ชัดๆ แต่ชาร์จไฟได้

การจัดกลุ่มน่าจะดูเกณฑ์จาก emission ถ้าไม่ zero emission น่าจะถูกผลักไปอยู่กลุ่มไฮบริดอยู่ดี

ชอบแบบนี้คับ เหมาะกับรถกะบะวิ่งได้ไกลขึ้นไม่ต้องใช้แบตลูกใหญ่ที่มีราคาแพง

ตามอีกท่านว่าเลย ทำเครื่องใหญ่ทำไม 600-700cc พอแล้ว แค่ปั่นไฟเข้าแบต และควรออกแบบแค่ 2สูบพอ ชิ้นส่วนน้อยไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงแพง เฉพาะแบตวื่งได้ 200กม.พอแล้ว รวมระยะเครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟ 400-500กม.พอแล้ว ถังน้ำมันไม่ต้องใหญ่ ยังไงเดินทางไกลต้องแวะปั้มเพื่อพักคนก็เติมน้ำมันด้วยเลย ง่ายๆว่าระยะ 200กม.ถ้าใช้งานในเมือง ไม่ใช้เครื่องยนต์เลยวิ่งได้หลายวันอยู่ เครื่องไม่ค่อยใช้ก็ไม่ค่อยสึกหรอ ออกต.จ.ว.นู๊นแหละค่อยใช้เครื่องยนต์

ถ้าเป็นแบตเกลือ+reev คงดีน่าจะถูกลงอีก

ผมว่าถ้าแบตยังแพงอยู่ ก็ไม่ต้องไปทำแบตใหญ่ให้มันแพง แต่ไปพัฒนาการชาร์จให้มันเร็วขึ้น เช่นจากครึ่ง ชม. เป็น 10-20 นาที แบบนี้น่าจะดีกว่า

ติดแก๊สน่าจะได้นะครับ .... ประหยัดเข้าไปอีก โข สะดวกสะบายด้วย ตอบโจทย์ เลยครับ

ดีครับ เพราะน้ำมันเบนซินราคาเกือบ 40 บาทในเขตปริมณฑล ต่างจังหวัดคงราคา 40 บาท มันช่วยได้มากกว่า รถใช้น้ำมัน ที่ชาร์ทยังมีไม่พอ

น่าสนใจมาก ณ เวลานี้ เป็นเทคโนโลยี​ที่มาบรรจบกันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องระยะทาง

ต้องกลับไปใช้2จังหวะอีกรอบครับ เพราะoutput/น้ำหนักเครื่องยนต์เยอะกว่า ทำให้น้ำหนักรถเบาขึ้น รถโหลดน้อยลงประหยัดกว่าเอาเครื่อง4จังหวะมาปั่นไฟพอสมควร แถมเครื่อง2จังหวะดูแลง่ายชิ้นส่วนไม่ซับซ้อนเหมือน4จังหวะด้วย

อาจเสริม เป็น Solar+ev ถ้ารถมีพื้นที่หลังคามากพอ ในการยืดระยะ

ต้องดูการกินน้ำมัน+กินไฟฟ้า รวมแล้วจะประหยัดกว่ารถน้ำมันขนาดเดียวกันกี่% ราคาจะแพงกว่ากี่%

ฟังจบความรู้เรื่องรถไฟฟ้าชัดเจนมากขึ้น กระจ่างเลยชอบREEV0จ้า ดีที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ5555กำลังอยู่ในช่วงพีคของใจพอดี รอแป๊บ!!!!!!

แล้วต้องเติมน้ำมันเท่าไหร่ เพื่อให้วิ่งได้เท่าไหร่นะคับ

เวลาแบตเต็ม น่าจะมีระบบดับเครื่องยนต์ ถ้าแบตลดลง50% เครื่องจะติด

ถ้านิสสันเอา ePower ใส่แบตใหญ่ ใส่หัวชาร์จไฟบ้านได้ ก็จบ ไม่ยอมทำเสร็จจีนแน่เพราะจรนทำแบ้ว

เยี่ยมมากๆๆ รับรองถ้าผลิด ออกมา ได้ขาย เยอะ กว่า อีวี ธรรมดา

เครื่องยนต์มีไว้แค่ปั่นไฟ ถ้างั้นทำแค่ 2สูบ1,000CC น่าจะเพียงพอหรึอไม่พอ

แล้วน้ำหนักละ ถังน้ำมัน หรือถังแก๊ส(ยิ่งถังhidrogenยิ่งหนัก) แล้วชุดสันดาบ ชุดgen ท่อ ระบบหล่อเย็น ฯลฯ รวมๆแล้ว น้ำหนักคงไม่น้อยไปกว่าbattที่เราอยากเอามาเพิ่ม

ถ้าเอารถเก่ามาดัดแปลงเป็นRE จะคุ้มกว่าเอาไปทำไฟฟ้า100%ไหมครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวสารดีๆ

แนะนำให้ทำการติดตั้ง Hub Gen ให้ครบทุกล้อแล้วต่ออนุกรมก็จะช่วยปั่นไฟเข้าแบตเพิ่มได้อีกครับ

ถ้าเอามาใช้ในปิ๊กอัพ เหมาะเป็นรถบ้าน รถแคมปิ่ง รถ food truck หรือรถ สำหรับการเกษตรบินโดรน สบายๆ เลย

Reev คือ ไฟฟ้านำ Phev คือ เครื่องยนต์นำ สรุปคือมันตรงข้ามกันใช่มั๊ย 2ตัวนี้

ถ้ามี REEV ในมอไซมลพิษ จะลดลงมากๆแน่ และราคาสิ่งต่างๆจากต้นทุนขนส่งก็ถูกลง ไม่รู้จะมีอายุถึงวันนั้นมั้ย

ก็ยังไม่เป็น zero emission แต่ก็ทำระยะทางได้ดี บวกกับ เครื่องยนต์ปรับแต่งอะไรไม่ได้เลย ไม่มีใครเอามาพ่นหมีกได้แน่นอน น่าสนใจทีเดียว

รถยนต์ระบอบ RE EV.ตอบสนอง คาวม ต้องการ ได้ดี มากๆๆๆ ต่อไป..น้ำมัน จะล้นโลก โลก จะได้โสภา จาก อากาศ ที่ดี สุขภาพ.สี่งมีชีวิต ก็จะสดชื่น ยืนยาว น่าจะทำมาตั้งนาน

e-power แบตเตอรี่ใหญ่เสียไฟชาร์จได้

พลังงานเข้า = พลังงานออก ไม่ว่าเป็นไฟฟ้า หรือน้ำมัน หรือทั้ง 2 ระบบ เพิ่มความซับซ้อนโดยใช่เหตุ ยิ่งอุปกรณ์เยอะ จุดอ่อนเยอะครับ ไม่น่าไปได้ในด้านการตลาดครับ

อันที่จริง ขณะขับรถ เราสามารถผลิตไฟฟ้าได้น่ะ ทำไมเราไม่คิดเทคโนโลยี ที่สามารถปั่นไฟเก็บไฟใว้ใช้ ใว้ขาย ได้ล่ะ เช่น มีที่เก็บไฟฟ้า พอปั่นจนเต็ม ก็ไฟฟ้าที่ได้ ไปใช้ไปขาย เเบบนี้น่าจะดีน่ะ

ใช่เลย รถเพื่อการพาณิชย์ควรใช้แบบนี้เลย บ้านเรา

อยากให้มีในไทยกับรถปิคอัพ

ดีเลยครับ ประหยัดน้ำมันได้เกือบ100%

e-power น่าจะคุ้มทุนกว่า เพราะแบตใหญ่กว่า hybrid ญี่ปุ่น นิดเดียว Reev ต้นทุนสูงกว่าแน่ๆ

Reev ก็จะมีปัญหากับอายุแบตอีก เนื่องจากการชาร์ต และปล่อยพลังงานบ่อย อายุแบตก็สั่นลงเร็วอย่างมาก

ผมอย่กได้รถไฟฟ้ามาก แต่เมื่อวานฝนตกหนักมาก ผมเห็นรถไฟฟ้าจอดสนิทข้างทาง สรุปมันลุยน้ำฝนใน กทม ที่มีน้ำขังได้ไหมเนี้ย คือโคตรลังเล

E-power แบบเสียบปลั๊กได้

Mazda กำลังทำขุมพลัง โรตาลี่EVไฮบริด ใช้ในรถรุ่นใหม่ ของค่ายทุกๆรุ่น

เรื่องเบรคและยางรถ ต้องเปลี่ยนมั้ยครับ

ทำไมไม่มีใครคิดเอา EV เข้าไปบวกกับรถที่เป็นเครื่องยนต์น้ำมันที่เรามีใช้กันอยู่แล้วบ้างล่ะ เพราะผลของมันก็เท่ากับ RE-EV เหมือนกันแถมประหยัดด้วยน๊ะแล้วก็ไม่ต้องไปซื้อรถ EV ซึ่งเป็นรถใหม่ให้เปลืองสตังค์อีก น่าจะมีคนคิดนะครับ หากทำได้ละก็คนทำจะรวยแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยหล่ะครับ

คล้ายๆๆ ระบบอีเพาร์เวอ เลยครับ อืม Re Ev. น่าสนใจมากครับ

สวัสดีครับผมอยากถามครับว่า ระบบทำช้ำ หรือ หมุนเวียนสามารถจดสิทธิบัตรได้มั้ยครับ เหมือนกับเขื่อนผลิตไฟฟ้า เอาน้ำมาปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดูดน้ำขึ้นไปแล้วปล่อยลงมาหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต่อ ทำช้ำไปร่อยๆ ไม่มีวันหยุดแล้วทำไมไม่เอาแบบนี้มาขับเคลื่อนรถครับ รับรองรถวิ่งได้ตลอดแหน่นอน

อยู่ในกลุ่ม รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แบบเติมน้ำมัน ถ้าสามารถเสียบปลั๊กได้ด้วย ก็จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบเติมน้ำมัน + plug in 😀

ตอบโจทย์ของไทยจริงๆ

สรุปมันคืิอ e power ของ nissan

รถเก๋งEV และ micro suv ของทาทา บอกว่าจะมีเครื่อง ยนต์1-2 สูบ ด้วย น่าจะเป็น REEV ด้วยไหมครับ?

เปรียบเทียบ เครื่องยนต์ปั่นไฟระหว่าง4สูบกับโรตารี่ หนักเบาต่างกันแค่ไหนครับ

E power มีลิขสิทธิ์ หรือเปล่า เหมือนอันนี้จพยามยามหลีกเลี่ยง ที่จะใช้ Epower

เห็นด้วยกับ Well, ครับ

, เอาเป็นว่ามันจะเหมือนนิสสันคิก แต่ Nissan คิก มันจะสั่งเปิดเครื่องปั่นไฟเองไม่ได้ Nissanคิก ก็ชาร์จไม่ได้ จุดบอดของ Nissan kick

เหมาะมาก

ลดการใช้มือลงให้มาก ชมแล้วเวียนหัว

นำหลักการเดียวกันไปใช้กับไฟบ้าน และอื่นๆที่ใช้ไฟฟ้าน่าจะเวิคนะครับ

เเล้วการสิ้นเปลื้องน้ำมันเท่าไหร่?

สองเครื่องยนต์ ค่าบำรุงรักษาสองเด้ง ยุ่งยาก เครื่องยนต์เดียวเก่ามาก็ปวดหัวอยู่แล้ว

REEVค่าสิ้นเปลือง กม.ละกี่บาท ไม่กล่าวถึง

แล้วแบตจะอยู่ได้นานไหม เพราะชาร์ทตลอดเวลาในระหว่างขับรถ

re-evต่างจาก ปลั๊กอินมั้ยครับ

กดติดตามครับ RE EV ควรอยู่ในหมวดไฟฟ้า รอใช้รถกระบะพลังงานทางเลือก ให้ขายไวๆ😊

เครื่องใช้ปั่นไฟอย่างเดียวอย่างนี้ก็ใช้เครื่องรถไถนาสูบเดียวดีเซล​ก็ได้ซิใช้น้ำมันพืชเหลือใช้ยังเติมใด้เลย

ผมชอบอีวี100%ไปเลยตัดปัญหายบำรุงรักษาครับ

ดีครับ ถ้าเอารถเก่าไปทำระบบนี้ใช้แบต_น้อย ราคาดัดแปลงจะได้ถูกลง

ข้อมูลนิดเดียว พูดวนไปมา ซ้ำไปมา ขยายความเปล่า๐ ที่สำคัญไม่มีพูดเลยคือ REEVวิ่งกิโลเตรละกี่บาท ซึ่งเทียบค่าตัวรถ ถ้าคุ้ม ขายดี ขายได้ แน่ๆ ขอข้อมูลครับถ้ามีจริงในจีนอย่างที่ว่าครับ

รอรถแบบนี้อยู่ครับ ขนาด ฟอร์จูนเนอร์

ผมมุ่งที่ความประหยัด แค่อยากให้บอกว่า1,000กิโลมันกินนำ้มันกี่ลิตร

Nissan Kick e-Power ที่เสียบชาร์จได้ + แบตใหญ่ขึ้น

Re-ev มีแบบที่มีไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิงเป่าคับ

ผมว่าแบบนี้ดีครับ😊

เยี่ยมครับเวล

มันคือเทคโนโลยี E-Power ของ Nissan ครับ

ผมแนะนำ ใช้ใบพัด ติดบนหลังคา เพื่อปั่นไฟ เวลารถวิ่ง ใบพัดลมก็ปั่นไฟไปในตัวครับ ไอเดียขำๆ นะ มันเป็นไปไม่ได้ครับ

จริงๆมันเป็นระบบอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีนะ แต่ผมว่าที่นิสสันคิ้ก มันไม่ปัง เพราะว่ามันไม่ว๊าว นี่แหละ มันไม่มีอะไรว๊าวซักอย่างเลย หน้าตาก็ไม่ว๊าว ขนาดก็ไม่ว๊าว ความแรงก็ยังไม่ว๊าว ไม่รู้จุดเด่นคืออะไร ถ้าแรงแบบเทสล่าแล้วแบตใหญ่หน่อยวิ่งได้เป็นพันกิโล จอดนอนเปิดแอร์ได้ทั้งคืน หน้าตาหล่อๆ ราคาล้านกลางๆ มันจะขายไม่ได้เลยเหรอ คหสต นะ

เหมือน nissan กิ๊ก เอ๊ย คิก kick น่ะสิคับ