ต้นธาตุ ต้นธรรม คืออะไร? พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ. แต่ทรงบอกด้วยหลักปฏิจจสมุปบาท ว่า เพราะสิ่งนี้มี จึงมีสิ่งนี้. ผสมหมุนวนเวียนไปอย่างนี้. ตอนแรกผมก็สงสัยว่าทำไมไม่ทรงบอก. ต่อมาศึกษาธรรมะมากเข้าจึงได้เข้าใจว่า เพราะทุกสิ่งย่อมมีเหตุปัจจัย. หากสมมุติว่า พระพุทธเจ้าบอกว่า ต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง มาจากเจ้าลูกกลมๆ อย่างหนึ่ง แล้วต่อมาก็กลายเป็นจักรวาลและสรรพสัตว์. เดี๋ยวเราก็จะสงสัยต่อว่า แล้วก่อนจะมีเจ้าลูกกลมๆ เนี่ย มันมีอะไร? ใช่ไหมล่ะ. ความสงสัยมันก็จะไม่มีที่สิ้นสุดหรอก. แบบศาสนาคริสต์เขาบอกว่าพระเจ้าสร้างโลกและสรรพสิ่ง ก็จึงทำให้มีคนสงสัยว่า แล้วใครล่ะสร้างพระเจ้า? ก่อนจะมีพระเจ้า มีใครมาก่อน? ใช่ไหม? // ผมจึงว่าดีแล้วที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงบอกถึงต้นธาตุต้นธรรม. // ขอแนะนำให้ทุกท่านไปลองฟังคลิปของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล เรื่อง "จิตคือพุทธะ" แล้วจะพอเข้าใจเรื่องนี้ชัดขึ้นมาบ้าง.ฟังแล้วอัศจรรย์ใจมากๆเลยครับ. ท่านบอกถึงจุดกำเนิดของรูป-นาม และการจะเข้าถึงจุดจบ(ดับ)ของรูป-นาม เอาไว้ด้วย. // ขออธิบายเพิ่มสำหรับคนไม่รู้ความหมาย. คือคำว่า "รูป" หมายถึง วัตถุ สสาร พลังงาน แก๊ส แสง คลื่น และสิ่งที่มีมวลทั้งหลายแหล่แหละครับ. รูปนั้นมีทั้งรูปหยาบที่ตามนุษย์มองเห็น และรูปละเอียดที่ตามองไม่เห็น. (ร่างกายของผี เทวดา ก็เป็นรูปละเอียดชนิดหนึ่งนะ) แต่รูปทั้งหลายนั้นมันไม่มีอารมณ์ ไม่ใช่จิตใจ ไม่รับรู้อะไร รับรู้อะไรไม่ได้. ส่วนคำว่า "นาม" หมายถึง สิ่งๆ หนึ่งที่มันมีคุณลักษณะสามารถรับรู้ได้ มันมีความรู้สึกได้ มีอารมณ์รู้สึกได้ด้วยตัวของมันเอง และมันพัฒนาไปจนถึงการมีความรู้สึก ชอบ-ไม่ชอบ. รัก-เกลียด ได้ด้วย. ที่เราเรียกกันว่า "จิต" หรือ วิญญาณ นั่นเอง. // รูปทั้งหลายนั้นสามารถจับพิสูจน์ได้ทางเครื่องมือวิทยาศาสตร์แล้ว.แต่นามนั้นเอาเครื่องมือจับพิสูจน์ไม่ได้เลย เพราะมันไม่มีรูปร่าง แต่มันก็มีอยู่ด้วยสถานะของมันเอง. มองก็ไม่เห็น. แต่คนตาทิพย์อาจเห็น "พลังงาน" ของมันได้. ดังนั้นการจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของ "นาม" จึงต้องใช้นามเหมือนกันไปจับไปรู้.

ในการอธิบาย เรื่อง จิต มโน วิญญาณ หากใครได้อ่าน ในพระไตรปิฎก จะพบว่ามันคือการอธิบาย ของนิวเครียส และอิเล็คตรอนของธาตุ ซึ่งพระองค์ เปรียบ เทียบโดยใช้การอธิบายเรื่องแสงและฉากแบบเดียวกับ แบบจำลองอะตอม ของรัทเทอร์ฟอร์ท พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า วิญญาณเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายถึง การเกิดอิเล็คตรอนแบบกลุ่มหมอก ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดตรงจุดไหน ซึ่งพระพุทธเจ้า อธิบายว่าไม่สามารถคาดเดาได้ เปรียบประดุจ ฟองน้ำที่ผุดขึ้นมาจากผืนน้ำ ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งมันก็คือ ความไม่แน่นอนของไฮน์เซนต์เบิร์ดนั่นเอง เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว แสดงว่า จิตของเรา จะเป็นไปตามหลักของฟิสิกส์ควอนตัม คือ เกิดทวิภาคคลื่น แบบเดียวกับอะตอม ของธาตุ ต่าง ๆ ดังนั้นถ้าเรานำจิต ไปทดลอง double split experiment โดยยิง จิต เข้าไปในช่อง 2 ช่อง จิตของเราก็จะเกิดการแทรกสอดของคลื่น โดยจิต จะมีที่ตั้ง 4 ตำแหน่ง หรือ สติปัฐาน 4 ฉะนั้น จิต = 2 คูนกับ ตำแหน่งที่ตั้งของจิต = 4 จะได้ 8 และเมื่อจิตที่เป็นเป็นคลื่น เกิดการแทรกสอดกับ ก็จะมีแบบเสริมกัน เท่ากับ 1,2,3,4,5,6,7,8 และแบบหักล้างกัน เท่ากับ -1,-2,-3,-4,-5,-6,-7,-8 ดั้งนั้นจิตของเราจะ มีที่ไปอยู่ 16 ตำแหน่ง ซึ่งมันคือ กามภูมิ 16 ชั้น ได้แก่ สวรรค์ 6 ชั้น มนุษย์ และ เดรัจฉาน 1 ชั้น เปรตและอสูรกาย 1 ชั้น นรก 8 ชั้น รวมเป็น 16 ตำแหน่งที่จิตเราจะเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง หากใครเข้าใจตรงจุดนี้ จะรู้ได้เลยว่า พระพุทธเจ้า เป็นผู้รู้แจ้งอย่างแท้จริง ในจณะที่ศาสนาอื่น ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ได้ แล้วถ้าเข้าใจระบบวิธีการเจริญ อาณาปานสติ แบบที่พระพุทธเต้าสอนอย่างถูกต้อง จะเข้าใจเรื่อง ทศพลญาณ จองพระเจ้าที่มันเป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น การเหาะของพระอรหันต์ เมื่อเข้าฌานสมาบัติ จนเกิดจิตว่าง แล้ว จิตจะมีกำลังมาก เปรียบเหมือนกับระบไฮโดรลิกซ์ ที่นำอากาศออก จนเกิดระบบ สูญญากาศ หรือ แวคคิวอัม แฟรคเตชัน แรงนี้จะมีกำลังมหาศาล ที่จะดัน ของที่มีน้ำหนักมากให้เลื่อนหรือลอยขึ้นได้ เมื่อจิตเราว่าง จิตก็จะเกิดระบบ แวคคิวอัม แฟคเตชัน แฉกเช่นเดียวกับ ระบบไฮโดรลิกซ์นั่นเอง ดังนั้น ธรรมะ จากพระโอษฐ์ ของตถาคต จึงสามารถเคลมได้ ว่าเป็นอกาลิโก เพราะมันก็คือหลักการณ์วิทยาศาสตร์นั่นเองครับ

ที่คุณหมออธิบายเรื่องความยากในการเกิด (ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้) กับความยากที่อสุจินับล้าน รอดไปผสมใข่เพื่ิอเกิดเป็นคนได้เพียงหนึ่งนั้นช่างสอดคล้องกันอย่างยิ่ง พระพุทธองค์ทรงอธิบายได้ชัดเจนมาก ท่านทรงเป็นสัพพัญญู จริงแท้ ขออธิษฐานขอเกิดมาพานพบพระพุทธศาสนาตลอดไปจนกว่าจะบรรลุถึงพระนิพพาน ครับ

ผมชอบใจคำสอนของพระพุทธเจ้าหลายอย่าง. อย่างหนึ่งนั้นคือ สอนว่า "ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม" (ความดีย่อมชนะความเลว). ตอนแรกผมก็สงสัยว่า ก็มีคนเลวมันชนะคนดีออกจะบ่อยไป. แต่ทำไมจึงทรงบอกแบบนั้น. ต่อมาได้ศึกษาธรรมะมากเข้า จึงได้เข้าใจและรู้วา ที่สุดของที่สุดแล้ว ธรรมะย่อมจะชนะเสมอ. เพราะว่า "ธรรมะ เกิดก่อน อธรรม" หากสืบผลของกรรมไปให้ถึงที่สุด สุดสาย เราก็จะรู้ว่าในที่สุดแล้ว ธรรมะ(ความดี)ก็จะต้องชนะอธรรม(ความชั่ว)เสมอ อย่างแน่นอน. // เพราะต้นกำเนิดของสรรพสิ่งคือความดี ความไม่ขัดแย้งใดๆ. ส่วนความเลวความชั่วมันมาเกิดภายหลัง. พูดง่ายๆก็คือมนุษย์ทุกคนเคยเป็นคนดี มีจิตใจดี มาก่อนแต่แรกเริ่ม. แต่มาคิดเกิดความโลภ เกิดตัณหารุนแรงขึ้นภายหลัง จึงได้สร้างความชั่วขึ้น.

การเวียนว่ายตายเกิดคือธรรมชาติ แต่ธรรมะขั้นหลุดพ้นทำให้หลุดไปจากการเวียนว่ายตายเกิด พ้นไปจากวงจรของธรรมชาติครับ

พระสัพพัญญุตาญานของพระพุทธเจ้านั้นล้ำเลิศ มหัศจรรย์ที่สุด 🙏🙏🙏

เคยให้ โจทย์ เรื่องเต่าตาบอด กับ Chat gpt คำนวณได้ว่า ใช้เวลาอย่างน้อย '' 2.887 *10 ยกกำลัง 18 เท่ากับ 2,887,000,000,000,000,000 หรือ 2.887 ล้านล้านล้านปี '' ถึงจะมีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ 1 ครั้ง โดยกำหนดให้หวงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 15cm ครับ และ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหัวเต่า 5 cm เวลายิ่งนาน probability ที่จะเกิดมากขึ้นก็ตามมาครับ เห็นเลยว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมากๆครับ

หมอมาถูกทางแล้วครับ ขอแนวนี้เยอะๆครับ

ผมชอบฟัง พระไตรปิฎก และ ชอบวิทยาศาสตร์ การแพทย์ แผนปัจจุบัน จักรวาล ดวงดาว อวกาศ ทุกครั้งที่ฟัง พระไตรปิฎก เห็นภาพตาม เป็นฉากๆ ที่แรกก็ไม่เข้าใจ มีความย้อนแย้ง แต่ฟังบ่อยๆ เฮ้ย มันจริง อ่ะ

พระพุทธเจ้าท่านเป็นสัพพัญญูค่ะ จิตท่านทรงพลานุภาพมากๆ ทุกอย่างคือวิทยาศาสตร์หมด

เคยฟังครับ พระพุทธเจ้าทรงเป็ยสัพพัญญู รู้ทุกสิ่ง พึงใช้ชีวิตอยู่ในทางไม่ประมาท

พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู รู้แจ้งโลก

เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ได้เกิดในพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง สาธุค่ะ❤

การอธิบายของพระพุทธองค์ให้บุคคลสมัยนั้นฟังย่อมไม่สามารถใช้คำพูดแบบวิทยาศาสตร์สมัยนี้ จึงเป็นแบบเปรียบเทียบ ให้สามารถเข้าใจได้ เช่นกันการอธิบายของเราในปัจจุบันย่อมอาจดูตลกสำหรับคนอีก 100 ปีข้างหน้าที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากๆ

ช่วงนี้จิตใจไม่ค่อยสงบ รู้สึกว่าถูกดึงไปแต่เรื่องสนุกสนานมากเกินไป จนรู้สึกว่าความสงบที่เคยมีมันห่างไกลมากขึ้น แต่ได้มาฟังคลิปคุณหมอเกมส์แล้วรู้สึกว่าต้องการหาความสงบให้กับจิตใจมากขึ้น อยากบอกว่าการทำช่องยูทูปของคุณหมอดีมากเลยนะคะ อนุโมทนาด้วยค่ะ

อายุ มากขึ้น เราจะเข้าใจโลก มากขึน และเข้าใจ ธรรมะ มากขึ้น

พระพุทธเจ้าเก่งจริงๆค่ะ นับถือพุทธแต่เพียงคำสอนศาสดาไม่อินกับระบบวรรณะบุญในไทยแต่อย่างใดทพิธีทำได้ให้สบายใจแต่ใจไม่เชื่อเท่าคำสอนท่าน ของแบบนี้มันต้องรู้ต้องเห็นจริงๆถึงมาเล่าได้ อุปมาให้คนที่ไม่รู้ได้รู้วิชาเหล่านี้ปัญญาญาณท่านสุดยอดจริงๆค่ะจึงนับถือคนเก่งแบบนี้เป็นศาสดาประจำใจ

🙏🙏🙏💕เชื่อในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สุด ยึดเป็นที่ตั้งของจิต พอช่วยบรรเทาสำหรับคนทุกข์ คนยากแบบเราได้ค่ะ🙏🙏🙏

เรื่องนี้ ประกอบไปด้วย โลก 3 1.โอกาสโลก= เหตุปัจจัยลงตัวจนเป็นดาวหรือชมพูทวีป รวมธาตุทั้ง 4 ระบบสุริยะ ระบบจักรวาล โอกาสจะกำเนิดโลกขึ้นมา เปรียบดัง เต่าตาบอดขึ้นมาหายใจ ในห่วงยาง 2.สัตว์โลก= มี 4 คือ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา องค์ประกอบเวียนวายตายเกิดในภพภูมิ ยกเว้นเกิดเป็นพรหมชั้นที่สูงว่าอาภัสราพรหมสามารถสำเร็จออกไปได้ 3.เทวโลก= นับตั้งแต่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาไปถึงอาภัสราพรหม (สัตว์ประเสริฐ)ยังมีสิทธิ์หมดบุญได้ลงมาเกิดอีก

ใครที่ได้ฌานที่ 4 เป็นภาวะดวงจิต กับร่างกายแยกออกจากกัน ฟังเรื่องนี้แล้วจะเข้าใจ

จักรวาลในศาสนาน่าจะหมายถึงกาแล็คซี่ ถ้านับทั้งหมดเอกภพน่าจะคือโลกธาตุ แต่ประเด็นคือพระพุทธเจ้าจะสื่อว่าแม้สิ่งที่ใหญ่อย่างจักรวาลยังเป็นอนิจจังมีวันแตกสลาย ..ส่วนเรื่องเต่านี่คิดเหมือนกันเลยครับ

คุณหมอเหมาะกับงานทางธรรมมากค่ะ. งาน สว. ไม่ใช่ทางของคุณหมอแน่นอนเลยค่ะ

ชอบรายการของคุณหมอเกมส์มากๆ เป็น FC ที่ติดตามทุกเรื่อง มีสาระดีๆ มาให้อยู่เสมอ ครั้งนี้มาแนวใหม่.... อ้างอิงถึงคำสอนส่วนหนึ่งในพระพุทธศาสนา สอดแทรกคติธรรม การปฏิบัติตนในเบื้องต้น ว่าถ้าต้องการไปดี ต้องปฏิบัติตนอย่างไร ขอบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย อำนวยพรให้คุณหมอเกมส์ เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป นะคะ

วันนี้วันพระ มองไปข้างนอกเห็นพระจันทร์กลมโต สว่างไสวเป็นพิเศษ ฟังคุณหมอเกมส์แล้ว ระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้สึกเกิดความปิติ อิ่มใจเป็นอย่างมาก เป็นกุศลของคุณหมอโดยแท้ค่ะ

พุทธเจ้าเข้าถึงความจริงแท้สูงสุด

ส่วนตัวนะครับ คำสอนของพระพุทธองค์เหมือนเทียนส่องใจให้ประพฤติดี มีความร่มเย็นทางจิตใจ หากพระพุทธเจ้ามีความต้องการแสดงทุกอย่าง คงสอนเรื่องการเหาะเหินบนอากาศ ข้ามมิติเวลา แต่พระองค์ไม่ ส่วนวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งต่างๆโดยการเรียนรู้ การทดลอง ทีละขั้นตอน ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถข้ามขั้นตอนได้ เปรียบเหมือนสร้างเครื่องบินต้องอาศัยวิทยาการหลายด้านทางวิทยาศาสตร์ สังเกตไหมว่าฝรั่งที่มาบวช มักบวชในวัดป่าเพื่อความสงบทางจิตใจ ไม่ต้องการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เขาอาจมีมากอยู่แล้ว

เชื่อพระพุทธเจ้าและปฎิบัติตาม ขอแนวนี้มาก ๆ ค่ะคุณหมอฟังเพลินเลย

ชอบมากที่คุณหมอนำเรื่องราว วิทย์กับพุทธ ความเชื่อมาเล่าให้ฟัง คุณหมอเล่าสนุก เข้าใจง่าย และก็อีกหลายๆเรื่องที่เล่าให้ฟังมันช่างเข้าใจง่าย สนุกมีสาระ😊ชอบคะ

คลิปนี้มีประโยชน์มากทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะกราบขอบพระคุณคุณหมอที่ให้ความรู้ค่ะ ขอได้พบพระพทธศาสนาทุกภพทุกชาติเพื่อได้เข้าถึงพุทธภูมิ 🙏❤

พอผมฟังพระสูตรเต่าตาบอดแล้วนี่ ผมกลัวบาปมากๆ ไม่กล้าผิดศีล5 เบื้องต้นเลย ไม่อยากทำกรรมไม่ดีที่เป็นกรรมใหม่ๆเพิ่มเลย ..😢

ขอบคุณมากครับ อธิบายได้ชัดเจน เปรียบเทียบได้แจ่มแจ้ง คลิปนี้ได้ความรู้ที่หลากหลายมาก ช่องคุณภาพจริง ๆ ❤❤❤👍👍👍

คุณหมอสามารถผูกเรื่องราวของพุทธศาสตร์เปรียบเทียบกับวิทยาศาสตร์ได้ดีมากๆเลยครับ ทำให้มองเห็นภาพความคล้ายคลึงกัน

อัศจรรย์มากที่หมอวิเคราะห์ได้ลงตัว มีเหตุ ผลนะ ขอบคุนๆหมอได้ให้ทานความ้ข้าใจขึ้นค่ะ(พระพุทธเจ้าท่านอาจไม่มีคำที่เหมาะจะพูด สื่อให้เข้าใจเปนได้จึงเปรียบ เต่าตาบอด)👍👍💚🧡💚🙏

คุณหมอเก่งจังเลย แต่ในประเด็นเดียวกัน ผมเองค่อนข้างจะเชื่อพระพุทธเจ้า มากกว่าวิทยาศาสตร์

ผมมองว่าไม่น่าจะขึ้นยานพาหนะไปดาวอื่น จิตที่ว่องไว ทิ้งกายไว้บนโลกใบเก่า โปร่งใสลอยได้ไม่หิว เทียบเคียงเรื่องเต่าอย่างงามเลยครับ🎉🎉🎉

เพราะท่านรู้เพราะว่าทิพจักขุญาณ คือเพราะความรู้สึกเห็นหมดคล้ายตาทิพย์กำหนดจิตไปทางไหนก็เห็นได้ทันที

ผมเห็นด้วยกับคุณหมอ เป็นอย่างยิ่ง ถูกใจมากคุณหมอ เคยไปเล่าถึงความเชื่อมโยงพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ เพื่อนๆบอกเพ้อเจ้อครับคุณหมอ 5555 ผมเริ่มรู้สึกว่ามันมีเป็นเรื่องเดียวกันตอนอ่าน พระพุทธเจ้าพบ ไอน์สไตล์เห็น ของดร.สม ครับ

คุณหมอครับ มีเหตุผลมากครับ.... ดวงดาวอื่นคือชั้นพรหมนั่นเอง ผมยังคิดว่ามนุษย์เคยอยู่ดาวศุกร์ แล้วส่งมนุษย์มาโลก เหมือนเราจะมนุษย์ไปดาวอังคาร....

พุทธศาสนา คือ วิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยเหตุและผล....ว่าอะไรเกิดจากเหตุอะไร อะไรที่ทำให้ตั้งอยู่ได้ อะไรเป็นเหตุให้ดับไป.... บางเรื่องอาจจะฟังดูเป็นนิยาย...แต่ถ้าวิทยาศาสตร์ปัจจุบันสามรถพิสูจน์ความละเอียดของมิติได้มากขึ้น..คิดว่าจะได้คำตอบของพระพุทธองค์มากขึ้น ความละเอียดเหล่านั้น...ถ้าจะให้อธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย...มันก้เป็นเรื่องที่ยาก เหมือน..การบอกสีให้คนตาบอด บอกรสชาติให้คนไม่มีลิ้น แต่ต้องสัมผัสเอาเอง พระองค์เลยบอกให้เข้าใจได้ง่ายๆคือ...โลก เป็นธาตุตามธรรมชาติ ที่อาศัยธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม อาศัยกันและกันในการเกิดขึ้น....มีสภาวะไม่คงที่ (เกิดดับ) นี่แค่เรื่อง..กามภพ ยังมีเรื่องรูปภพ อรูปภพ อีก ที่วิทยศาสตร์ปัจจุบันยังไม่ละเอียดมากพอที่จะพิสูจน์ได้... ผมคิดว่า.....พระพุทธเจ้าท่านรู้ในมิติที่ละเอียดกว่ามาก....และเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากครับ

ศาสนาพุทธ..ในมุมมองจาก วิทยาศาสตร์..น่าสนใจมาก ❤❤❤❤❤

กฏปฏิจจสมุปบาท คือเหตุของทุกสรรพสิ่ง

ขอบคุณ คุณหมอมากครับ เคยคิดมานานมากว่าจะมาพูดเรื่องการกำเนิด ที่พระพุทธเจ้าทรงบอกไว้ กว่า2,500 กว่าปี ก่อนที่จะมีเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนี้

ได้ทั้งความรู้สุขภาพ ได้ทั้งธรรมะ สุดยอดค่ะคุณหมอ👍

ขอบคุณคุณหมอมาก ๆๆๆๆๆๆ ค่ะ ได้ความรู้และความเข้าใจในพระพุทธองค์มากยิ่งขึ้นค่ะ

เป็นศาสนาเดียวที่ไม่ได้อ้างใคร เกิดขึ้นมาพราะมีเหตุต้องเกิด ดับลงเพราะมีเหตุต้องดับ ความว่างปล่าวไม่มีอยู่จริงๆ สุดยอดมาก

❤❤คนมีศีลมีธรรม พูด,ฟัง นิดเดียวก็เข้าใจ❤❤สวัสดีค่ะ ขอบคุณความรู้ดีๆจากคุณหมอค่ะ

ขอให้ได้มรรคผลนิพพานกันทกคนครับ สาธุ สาธุ สาธุึรับ

อนุโมทนาสาธุกับอาจารย์ด้วยนะคะ ศึกษาเรื่องการเกิดจักรวาล และมนุษย์จากข้อมูลในพระไตรปิฎกเช่นกันค่ะยังคิดว่าอยากเทียบเคียงกับวิทยาศาตร์ แต่ไม่มีองค์ความรู้มากพอ วันนี้อาจารย์มาเทียบเคียงให้เห็นชัดขึ้น ยิ่งทำให้ศรัทธาในองค์ตถาคต ผู้เป็นสัพพัญญู มากยิ่งๆขึ้นไปอีก ทุกวันนี้เราเดินตามมรรคที่พระองค์ชี้ทางให้ มีนิพพานเป็นที่ตั้งเพื่อออกจากสังสารวัฏนี้ค่ะ สาธุค่ะอาจารย์ เจริญทั้งทางธรรมและทางโลกค่ะ

เราโชคดีมีบุญแล้วใช่ไหม ที่เกิดมาเป็นมนุษย์❤ สวัสดีคะคุณหมอเกมส์ FC…UK

บางศาสนา สอนให้ มนุษย์หลุดพ้น เพราะสอนเกี่ยวกับความจริงของโลก และ ปัจจุบัน บางศาสนา สอนให้คน งมงาย ห้ามถาม ห้ามเถึยง ห้ามสงสัย ห้ามโต้แย้ง ให้เชื่อฟังอย่างเดียว น่าสงสารมากๆ

ต้นกำเนิดมนุษย์พระพุทธเจ้าก็มีบันทึกค้ะและอยากให้เข้าใจเพิ่มก็ไปดูหนังแขกกำเนิดเจ้าแม่กาลีค่ะที่พอจะนำมาเชื่อมกันได้อย่างน่าทึ่ง..แต่เราอย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่ผู้สร้างโลกพระองค์รู้ความลับหรือวิธีนำเราออกจากเกมของธรรมชาติเหมือนเป็นผู้ชนะเกมแล้วนำมาบอกกับเราอธิบายให้เราๆเข้าใจง่ายค่ะมีศาตร์หลายอย่างรวมลงมาที่เดียวกันอย่างล่ะนิดในนิทานตำนานหรือเรื่องเล่ามีความจริงปะปนกันอยู่..พระองค์คงจะอธิบายเช่นคุณหมออธิบาย...แค่ท่านใช้คำที่จะทำให้คนยุคนั้นเข้าใจ

สาธุ สาธุ ครับ

ตรงกันมากค่ะ พระพุทธเจ้าเห็นเหมือนกล้องจุลทรรศน์ เกี่ยวกับที่ฝึกจนได้ญานหรือเปล่าคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอติดตามค่ะ

เป็นศาสนาที่ให้อิสระทางความคิด

ชอบฟังมากค่ะ

🙏🏻✨ ขอบคุณครับคุณหมอ

ผมก็พึ่งรู้ สิ่งที่พอพระพุทธเจ้าตรัสไว้ มันตรงกับความจิงขนาดนี้ 😮

สาธุครับ

บิ๊กแบงค์ ไม่ใช่กำเนิดของชีวิต เป็นเรื่องของวัตถุล้วนๆ ชีวิตในระดับความรุ้ของวิทยาศาสตร์สมัยนี้ เขานิยามว่า การเกิดชีวิต คือ การเกิดของร่างกาย ซึ่งมีความคิดความรู้สึกติดมาพร้อมกับร่างกาย แต่ในความเป็นจริง วัตถุในร่างกาย มีสารเคมี หรือมีธาตู หรือวัตถุใดๆ ทั้งหมด ล้วนเป้นธาตุที่ไม่มีความรุ้สึกอะไรใดๆทั้งสิ้น ครับ

ชอบมากครับ

ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ

ผมเห็นด้วยทุกเรื่อง เพราะไม่เกินวิสัยของวิปัสสนา ผมเห็นต่างคุณหมอเรื่องเดียว คือ อาภัสสราพรหม ไม่น่าจะใช่โลก 3 มิติแบบที่เราอยู่ แต่มันคงซ้อนกันไปนี่แหละ มันถึงติดต่อ connect กันได้ ถ้าสร้างพลังงานให้อยู่ในระดับเดียวกัน ก็กลับมาที่สมถะสมาธิอีกนั่นแหละ

สาธุ สาธุ สวัสดีค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณหมอ❤

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณความรู้ใหม่ๆค่ะ คุณหมอ

ขอบคุณค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻

การก้าวกระโดด คือ มนุษย์ ไป กีน เห็ด แห่ง จิต วิญญาณ ครับ ถ้า ท่านหมอ เข้าใจ จิต ตนเอง แล้ว จะเข้าใจ ทุกๆอย่าง

สุดยอดครับผมชอบๆครับ ❤

ดีงาม

คุณอธิบายไดละเอียดมากค่ะ น่าสนใจสุด ๆ 😊😂มองเห็นภาพ เลยค่ะ Replay ฟังหลายรอบค่ะสนุกมากค่ะ😊ขอบคุณมากเลยค่ะ😊❤

ขอบคุณค่ะคุณหมอ...🙏

สุดยอดมากเลยค่ะ❤

แจ๋ว🎉🎉🎉

อนุโมทนาสาธุค่ะทาน ศีล ภาวนา🙏🙏🙏

ขอบคุณมากครับ แจ่มแจ้ง ชัดเจน🎉❤

fc คุณหมอค่ะ

สนุกมากครับพี่หมอ🙏😀

ขอบคุณมากครับคุณหมอเกม ติดตามฟังตลอดเลยครับ

เก่ง จริง ขอ นอบ น้อมพระ พุทธ เจ้า

สวัสดีค่ะ คุณหมอ❤

ขอบคุณค่ะหมอเกมส์🙏

ผมว่ามันเป็นสิ่งที่หักล้างกับทฤษฎีวิวัฒนาการของ ชาร์ล ดาร์วิน ที่เขาอ้างว่ามนุษย์วิฒนาการมาจากลิง ป่านนี้เราคงได้กราบลิงเป็นบรรพบุรุษแล้วมั่ง ถือว่าเป็นทฤษฎีลวงโลกเอามากๆ โชคดีมากที่มีพระสูตรกำเนิดโลกเอาไว้😅

ขอบคุณค่ะคุณหมอ😊❤

ขอบคุณมากครับคุณหมอที่ทำคลิปนี้ 🥰

ที่มาของคำว่าผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน 🙏

🙏🙏🙏

สาธุยิ่งค่ะ 😊

สามยุคของคำอธิบายเรื่องโลกและจักรวาล 1.ยุคเทววิทยา(theological stage) เป็นคำสอนของ ศาสนาเทวนิยมที่เน้นว่าพระเจ้าสร้างโลก 2.ยุคอภิปรัชญา(metaphysical stage) เป็นยุค ของปรัชญาที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของมนุษย์ 3.ยุควิทยาศาสตร์(scientific stage) เป็นยุคที่อ้าง ข้อมูลแบบรูปธรรมที่ได้มาจากการสังเกตและ พิสูจน์ทดลองไว้อย่างเป็นระบบ

ชอบ ชอบ ชอบ 😊

เป็น FC หมอเกมส์ค่ะ เล่าเรื่องได้สนุกน่าสนใจและมีประโยชน์ จะติดตามหมอเกมส์ไปเรื่อยๆค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ กะคุณหมอด้วยคร้า ฟังแล้วได้ทั้งธรรมะด้วยเลย

หมอ อธิบาย ดีมากๆๆๆๆๆกราบ

ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ

ถ้าอยากรู้ความจริงทั้งหมด ให้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเถิด จะรู้เอง ซึ่งปัจจุบันแต่ละสำนัก ก็ตีความคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกมาไม่เหมือนกัน ก็ต้องใช้ปัญญาของตนในการพิสูจน์ คำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ดีแล้วพระอรหันต์ประเภทขีนาสพ ได้ตรวจสอบแล้วว่า มีคลาดเคลื่อนเพียง 3% แต่ไม่มีนัยสำคัญอะไร

คำสอนน่ะ เชื่อพระพุทธเจ้ามากกว่าวิทยาศาสตร์พาให้หลงทางวัตถุถ้าไม่ใช้สติควบคุมกำกับ

ขอบคุณธรรมะทาน คับคุณหมอ

ท่าจะจริง สาธุ👋

สุดยอดคุณหมอ